30 ตุลาคม 2545 17:19 น.

จงเผาใจอันชั่วร้าย

ส่องหล้า

เพลิงเผาผลาญปะทุท่วมวิถีกเฬวราก...............มันทำและพลัดพราก
วิชา
หัวใจผองยุวชนหทัยวิริยะกล้า....................ขามขลาดมิโสภา
 วิมุติ 
มันก่อการและกระทำฉะเช่นสวะมนุษย์......ลอบเข้าและจู่จุด
พระเพลิง
หัวใจชนระอุอานสะท้านมนกระเจิง.............เคืองขัดกระจัดเปิง
กระจาย
มาหักหาญอริรานวิถียุวมลาย.....................ในซากพระเพลิงพ่าย
พิชิต
ความเคืองแค้นอุระแน่นกระโน้นมิผละจริต............ยากนักจะจางจิต
มิจำ
มันเป็นพวกทุรชาติขบถทุรกระทำ...............เหี้ยมโหดและโฉดล้ำ
อบาย
เพลิงจงผลาญปะทุหาญอรินทร์อุระมลาย.....เผาผลาญประหารหาย
ละชั่ว				
28 ตุลาคม 2545 22:42 น.

ยิ้มทั้งน้ำตา

ส่องหล้า


ยิ้มเธอเศร้าเหงาเหงาแม้เจ้ายิ้ม................วงพักตร์พริ้มดูแววตาเธอว่าเหงา
คาบน้ำตาแห้งเหือดยังเหลือเงา..................เป็นรอยเศร้าฝังแฝงแห่งรอยริน
ร่องรอยลึกน้ำตาที่ทาทาบ...........................ฝังรอยอาบบาดใจให้ถวิล
โหยหารอยร่องรักที่หยาดริน......................โหยหาถิ่นจริงใจอยากได้ชม
เจ็บลึกรักบาดล้วงหน่วงใจลึก.....................นอนสะอึกสะอื้นหนักเมื่อรักขม
ห่วงแต่ชื่นลืมช้ำลืมตรอมตรม....................ยินแต่ชมลืมแช่งแสร้งในใจ

ประหนึ่งสาวเจ้าบริสุทธิ์นัก.........................ประหนึ่งรักเธอบริสุทธิ์ใส
ประหนึ่งหวังเธอกว้างไกลกว่าไกล..............ประหนึ่งใจเธอมั่นนิรันดร

ยามเวลาหัวใจหมายมุ่งหวัง........................แรงกำลังจำรัสประภัสสร
ยามเวลาหมดเยื้อใยไม่อาวรณ์...................เป็นร้าวรอนอ้างว้างไม่จางใจ
สองแก้มน้อยร่องรอยแห่งความเหงา.........	หวังเพียงเงาสู่ทางสว่างใส
เช็ดน้ำตาจากสองตาและหัวใจ...................ก้าวต่อไปลืมเหงาลืมเศร้าตรม
เอาความเจ็บทั้งปวงที่หน่วงหนัก................มาทอทักสานใยได้เพาะบ่ม
รัก-สุข-ทุกข์-เหงา-เศร้าเจ็บระทม................เปิดตากลมใสแจ๋วให้แวววาว
ยิ้มแล้วสู้ให้โลกรู้ว่าเจ้ายิ้ม.........................พวงแก้มอิ่มสดใสใจหวังก้าว
ยิ้มเผชิญน้ำตาที่พรั่งพราว.........................ทิ้งเรื่องร้าวเศร้าร้างให้จางไป
ยิ้มละมุนอบอุ่นกรุ่นด้วยยิ้ม........................วงพักตร์พริ้มดูจากตาเธอว่าใส
บริสุทธิ์สะอาดยิ่งและจริงใจ.......................	สู้ต่อไปนะเจ้าโอ้สาวเอย
				
22 ตุลาคม 2545 14:31 น.

ภาพฝันบ้านเก่า

ส่องหล้า

ภาพฝันบ้านเก่าเมื่อเยาว์วัย
ล้อมรั้วด้วยน้ำใจอันอบอุ่น
ชมดาวเดือนที่นอกชานหวานละมุน
ตักแม่ที่แนบหนุนช่างร่มเย็น
พ่อนั่งเล่าตำนานที่ผ่านพ้น
บอกถึงสุขล้นที่เคยเห็น
แม้เหนื่อยกายแต่ใจไม่ลำเค็ญ
ผ่านหนาวร้อนร่มเย็นกับมารดา
จากตำนานวันเก่าเคยเล่าขาน
มาถึงกาลขันแข่งแสวงหา
บ้านหลังเก่าทรุดโทรมตามเวลา
เหลือซากแห่งน้ำตาให้อาลัย
เกิด-แตกดับสลับทั้งสุข-ทุกข์
เข้าสู้ยุคลูกหลานทันสมัย
ทิ้งบ้านเก่ารกร้างแสนห่างไกล
มาสู่เมืองยุคใหม่วิไลตา
อยู่ห้องแคบห้องเช่าเก่ามอซอ
แค่เพียงพอซุกหัวชั่วอาษา
ทำงานขายแรงแลกเงินตรา
แสวงหาวัตถุทำนุตน....
ฝันมีบ้านสักหลังเมือนครั้งเก่า
หวังเทียมเท่าอบอุ่นละมุนหน
ได้สงบหลบวุ่นวายในมนทล
แม้คับแคบให้เกลื่อนก่นด้วยรักจริง				
14 ตุลาคม 2545 18:46 น.

ตุลาธาร

ส่องหล้า

ฉันมิใช่ร่างตุลาคม
ฉันคือสายลมพฤษภาฯ
พัดสำนึกผ่านกาลเวลา
ชุ่มโชกน้ำตาและเลือดริน
ฉันมิใช่วีรชน
เห็นเพียงภาพคนละชีพดิ้น
ได้เรียนได้รู้ได้ยิน
หัวใจจินต์ตั้งมั่นศรัทธา
กราบคารวะผู้พลีชีพ
อมนุษย์บีบป่นก่นฆ่า
วีรชนคล้องมือถือชัยมา
ให้ลูกหลานเบื้องหน้าสุขสบาย
โซ่ตรวนรอยต่อข้อมนุษย์
ตรึงติดเผลอผุดแผ่ขยาย
เผด็จการซ่อนเร้นมิเห็นกาย
แฝงฝากลากไส้ทรมาน
หวังเป็นหยดน้ำเสรีภาพ
ละอองหนึ่งกำซาบใจหาญ
หลั่งเลือดมาจากตุลาธาร
จงเข้มข้นแดงฉานในใจชน				
12 ตุลาคม 2545 16:23 น.

ฤดูกาล

ส่องหล้า


อ้อมอกฤดูโอ้...
เราเติบโตเราได้เห็น
อ้อมกอดเช้ายันเย็น
ตะวันฉายสายสีทอง
อุ่นกอดฤดูกาล
ที่ผันผ่านยังใสผ่อง
ฤดูกาลที่หมายปอง
หนาว-ร้อนก่นสายฝนริน
อ้อมอกฤดูผัน
เปลี่ยนคืนวันให้ถวิล
เปลี่ยนรอบมิรู้สิ้น
ผ่านมนุษย์ไม่รู้ใคร				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟส่องหล้า
Lovings  ส่องหล้า เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟส่องหล้า
Lovings  ส่องหล้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟส่องหล้า
Lovings  ส่องหล้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงส่องหล้า