30 เมษายน 2554 19:32 น.

* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน ท่องกุ้ยหลินปี'49 * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



เหตุการณ์ ณ วันเดินทาง

17 ก.พ. 49

วันนี้แล้วสินะ วันเดินทาง ดูจากโปรแกรมนัดกันบ่ายสองโมงที่สนามบินดอนเมือง

หนูหิ่ง ฯ กะคุณแม่กลัวรถติด ไปถึงตั้งกะสิบเอ็ดโมง แฮ่.... ไม่เห่อเลยเนอะ ^_^

เราสองคนแม่ลูกร้องเพลงรอ ร้อ รอ.... รอเพื่อนร่วมชะตาเดียวกัน 

จนกระทั่งต่างคนต่างทะยอยกันมารวมถึงพี่สาวของหนูหิ่ง ฯ 

เพื่อน (โอ) และแฟนของเพื่อน (พี่อ้อ) มาถึงบ่ายโมง

ส่วนเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์มาถึงบ่ายสองโมงตรงเด๊ะ แหม อะไรจะรักษาเวลาขนาดน้าน ! 

กลุ่มนี้แบ่งลูกทัวร์ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยใช้ริบบิ้นเป็นสัญญลักษณ์ผูกกระเป๋าสัมภาระเดินทาง

เพื่อความสะดวกในการจำ หนูหิ่ง ฯ อยู่ในกลุ่ม BUS 3 ริบบิ้นสีฟ้า (สีฟ้า น่ารัก ^_^)

แฮ่.... อย่างกะรู้เลยว่าหนูหิ่ง ฯ ชอบสีฟ้า เมี้ยว ๆ ๆ แถมยังได้รับแจกกระเป๋าสีฟ้าจากบริษัททัวร์อีกคนละ 1 ใบ

หนูหิ่ง ฯ เคยเจอพี่บอย ไกด์ที่น่ารักหลายครั้งแล้ว ก็ค่อนข้างสนิทกัน เห็นริบบิ้นมีเยอะ ก็นึกขึ้นได้ 

หนูหิ่ง ฯ " พี่บอย หนูขอริบบิ้นอีก 2 เส้นได้หรือเปล่าคะ "

พี่บอย " ได้สิ แล้วน้องจะเอาไปทำอะไรล่ะ "

หนูหิ่ง ฯ " ครือว้า.... จาเอาไปผูกผมค่ะ จาได้ไม่หายไงคะ ^_^ "

พี่บอย " ? ? ? ? "




พี่บอย " เอามาเซ็นต์รับกระเป๋าให้พี่ด้วยนะ "

หนูหิ่ง ฯ " ดั้ยค่ะ ^_^ ...... อ้าว !!!! พี่บอย ไหงงี้ล่ะคะ ? "

พี่บอย " อะไรน้อง ? "

หนูหิ่ง ฯ " ก็นี่ไง หมายเลข 25 หนูหิ่ง ฯ ไม่มีที่พัก แล้วนู๋จะทำไงล่ะ ? "

พี่บอย " เฮ้ย ! เป็นไปได้ไง ไหนดูสิ .... นี่เขาอ่านว่าไม่มีคู่พักตะหากล่ะ "

หนูหิ่ง ฯ " อ้าวหรอ แหะ ๆ ๆ ขออภัย นู๋อ่านผิดอ่ะ เมี้ยว ๆ ๆ "

โอ " เฮ้ย ไอ้หนูหิ่ง ฯ ทัวร์กรุ๊ปนี้ไปกันตั้ง 158 คน ไหงแกคนเดียวไม่มีคู่พักฟะ ? "

พี่อ้อ " นั่นสิ ตัวจริงก็ไม่มีคู่อยู่แล้ว นี่ขนาดไปเที่ยวยังไม่มีคู่อีกหรือเนี่ย ^_^ "

คณะทัวร์ " ฮา.... เจ๋งจริง เจ้าหน้าที่ทัวร์จัดห้องพักเหมือนรู้เลย ^_^ " 

หนูหิ่ง ฯ " แง้ ๆ ๆ อย่าพูดเรื่องจริงดิ เศร้าอ่ะ *_~ " 

' ฮึ่ม ! ฝากไว้ก่อนนะเจ้าโอ 

				
20 เมษายน 2554 21:31 น.

* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน สองคำ.... แสลงใจ.... * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ

 

ปรกติแล้ว  เมื่อไหร่ที่หนูหิ่ง ฯ มีเพื่อนสนิท  หรือคนที่สนิท  หนูหิ่ง ฯ จะบอกก่อนเสมอว่า....

ในอนาคตจะดุ.... จะด่า.... จะว่า.... อะไรก็ได้

แต่.... หนูหิ่ง ฯ ขอว่าอย่าพูด 2 คำนี้กับหนูหิ่ง ฯ เลย....

หนึ่งคือ  * รำคาญ *  อีกหนึ่งคือ  * เบื่อ *

สาเหตุเพราะว่า  เมื่ออดีตกาลนานมาแล้ว  ตั้งแต่ตอนที่หนูหิ่ง ฯ ยังเล็กเป็นเด็กน้อย

พี่ชายหนูหิ่ง ฯ 3 คน  พี่สาวอีก 3 คน  ต่างก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว

และก็ตามประสาวัยรุ่น  ชอบเที่ยว  ชอบไปยิงนกตกปลา  จนทำให้กลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ

บางทีก็กลับเกือบสว่างแล้วตอนเช้าก็ขี้เกียจตื่น   พ่อก็จะดุ  แล้วพูดว่า

กลางคืนเป็นนกฮูก  กลางวันเป็นผี  อะไรประมาณนี้

พี่ ๆ เขาก็จะบ่นว่า.... รำคาญบ้าง  เบื่อบ้าง

พ่อก็จะทำหน้างง ๆ เพราะว่าพ่อไม่รู้ภาษาไทย  แต่พ่อก็คงรู้ได้โดยสันชาตญาณว่าพี่ ๆ ของหนูหิ่ง ฯ บ่นรำคาญและเบื่อ

หนูหิ่ง ฯ รับรู้ได้ว่าพ่อเสียใจ....  

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา....

หนูหิ่ง ฯ ก็จะคอยปรามพี่ ๆ เสมอว่าอย่าพูดคำสองคำนี้ให้พ่อได้ยินอีก  

เพราะเมื่อไหร่ที่พ่อได้ยิน  หนูหิ่ง ฯ รับรู้ได้ว่าพ่อรู้สึกเสียใจมาก  หนูหิ่ง ฯ ก็เสียใจด้วยเช่นกัน

ดังนั้น  เมื่อหนูหิ่ง ฯ สนิทกับใคร  คบกับใคร  หนูหิ่ง ฯ จอขอเสมอว่า....  

อย่าพูดคำ 2 คำนี้กับหนูหิ่ง ฯ เลย....  

เพราะเป็นคำที่หนูหิ่ง ฯ ไม่อยากได้ยิน

เพราะเป็นคำที่แสลงใจหนูหิ่ง ฯ มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย

คำสองคำนี้หากพูดในเวลาที่หนูหิ่ง ฯ อารมย์ปรกติ  ก็ดีไป  แต่ถ้าเจอเวลาหนูหิ่ง ฯ สติแตก  ก็ซวยไป

หลาย ๆ คนอาจมีหลาย ๆ คำที่ไม่ชอบ  ต่างคนต่างจิตต่างใจ

หนูหิ่ง ฯ แค่อยากบอกให้รู้ว่าคำสองคำธรรมดา ๆ นี่แหละที่หนูหิ่ง ฯ ไม่ชอบมากที่สุด





				
9 เมษายน 2554 00:14 น.

* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน สุภาพบุรุษคนหนึ่ง พูดถึง....อดีตคนเคยรัก *__~ * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



จากการออนเอ็มของคนสองคน พูดถึงนางร้ายหนึ่งคน

เสมือนฟ้า.... ที่ไร้ดาว  VS   เรื่องของความหลอกลวง



เดี๋ยวนี้ในบ้านกลอนมีพวกแปลกอย่างที่ว่า

สาว ๆ คนนึงเห็นพรีเซนต์ตัวเองจัง

ลงรูปตัวเอง  เชื้อเชิญ  ชวนเชิญจริง ๆ

ไม่รู้ว่าคิดยังไง  คิดอะไร  เหมือนเข้ามาหา...

เพื่อน ๆ ในบ้านกลอนหมั่นใส้กันเยอะ

เห็นว่าบ้านกลอนเป็นเฟสบุคละมั้ง

เพื่อนผู้หญิงในบ้านกลอนเธอบ่นให้ผมฟัง

ยังพูดกันเล่น ๆ กับผมเลยว่าให้ผมไปช่วยสงเคราะห์

ไม่ไหวหรอกครับ

ผมก็บอกเพื่อนผมอย่าไปว่ากัน

ถึงผมไม่หล่อ  ไม่รวย  ผมก็เลือกน่ะ

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem139728.html

โอกาสสมหวังแบบกลอนที่เขียนมีสูง

น่าสงสารน่ะผมว่าคนแบบนี้

ผมสงสารเธอมากกว่า

ดูไม่มีทางไป  ยังไงไม่รู้

มีคนที่หมั่นใส้เธอเยอะ  ขอไม่เอ่ยชื่อดีกว่า

ไม่หรอก  ไม่ใช่ไม่มีทางไป

แต่ยังไม่เลือกที่จะไปต่างหากล่ะผมว่า

หน้าก็โอเค  รูปร่างก็ดี  ไม่น่าทำแบบนี้

ผมไม่ชอบแบบนี้  ไม่ได้ว่าหรือดูถูกอะไรน่ะครับโลกทุกวันนี้การมีคู่นอนหน้าใหม่
ไม่ใช่ของแปลกแล้ว

หญิง ชายพบกันแค่คืนนึง  อะไรก็เกิดขึ้นครับ

นี่ถ้าเอาลิงค์ไปแปะในเวป freesex เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง

หรือพวกสลับคู่นอน  อะไรแบบนี้

น่าสงสารไม่คิดถึงผลที่จะตามมา






หนูหิ่ง ฯ อยากรู้....  ว่า....  

ผู้ชายคนหนึ่ง  สามารถพูดถึงผู้หญิงที่รักตัวเองได้ขนาดนี้เลยหรือ

ผู้ชายคนหนึ่ง  เคยบอกรัก  พอเลิกกัน  พูดถึงกันในแง่ดีไม่ได้เลยหรือ






หนูหิ่ง ฯ อยากรู้.... ว่า....

ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยให้กัน  ไม่มีค่าเลยหรือ.... ?

ความหวังดีที่เคยให้กัน  ไม่เหลือเลยหรือ.... ?





หนูหิ่ง ฯ อยากรู้.... ว่า....

หนูหิ่ง ฯ มีสิทธิ์ที่จะได้รับคำขอโทษไหม.... ?

หนูหิ่ง ฯ มีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ถึงคำว่าเสียใจไหม.... ?




หนูหิ่ง ฯ รู้สึก  เศร้ามาก !

หนูหิ่ง ฯ รู้สึก  เสียใจมาก !

หนูหิ่ง ฯ รู้สึก  เสียความรู้สึกมาก !

หนูหิ่ง ฯ รู้สึก  คิดไม่ถึง !  

หนูหิ่ง ฯ รู้สึก  ฯลฯ....


				
4 เมษายน 2554 06:41 น.

* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน คิดถึงเหลือเกิน *__~ * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



ฉันรู้จักกับเธอก่อนงานแข่งขันกีฬาระหว่างหมู่บ้าน 

เธอไม่ใช่คนในหมู่บ้านของฉัน แต่เป็นนักศึกษาภาควิชาการเกษตรของมหาวิทยาลัยในเมือง 

ส่วนฉันยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งในหมู่บ้านที่เธอมาฝึกงาน 

ฉันได้รับเลือกให้เล่นกีฬาวอลเล่บอล รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี

พวกเราได้ไปฝึกซ้อมที่สนามกีฬาของโรงเรียนในตอนเย็นของทุกวัน 

ส่วนเธอก็ได้เล่นกีฬาตะกร้อ เพราะนักกีฬามีไม่พอ 

เธอและเพื่อน ๆ ก็เลยขอลงเล่นแทน 

เธอเป็นคนหน้าตาดีมาก มีสาว ๆ ในหมู่บ้านชอบเธอกันหลายคน 

รวมถึงสาวแก่แม่หม้ายด้วยนะ ในตอนนั้นเรายังไม่เคยคุยกันเลย 

ฉันไม่รู้จักชื่อเธอด้วยซ้ำไป อีกอย่างฉันต้องรีบกลับไปช่วยแม่ขายของที่บ้าน 

ก่อนการแข่งขัน 2 อาทิตย์ เธอและเพื่อน ๆ 

ได้มาช่วยซ้อมให้แก่ทีมวอลเล่บอลหญิง 

เธอรู้ไหมว่าฉันโกรธเธอมาก เพราะว่าเธอชอบตีบอลมาที่ฉัน 

แรงเธอเยอะมากด้วย ฉันรับทีไรเจ็บมือทุกที ฉันต้องไปให้แม่นวดแขนให้ทุกวัน

ฉันคิดว่าเธอต้องเกลียดฉันแน่ ๆ เลย   เธอถึงได้แกล้งฉันเจ็บ ๆ ทุกวัน


แรกเริ่ม เดิมที ที่พบ
ประสบ กับเธอ วันนั้น
รู้สึก เฉย เฉย ทุกวัน
ไม่หวั่น ไม่ไหว ในใจ

เคยโกรธ เธอบ้าง บางครั้ง
ที่พลั้ง ทำเจ็บ รู้ไหม
ไม่รู้ ว่าเพราะ อะไร
แต่ไม่ ค่อยกล้า ถามเธอ


* * * * * * * 


ก่อนการแข่งขัน 1 วัน เรานัดซ้อมกันตอนเช้า 

เพราะจะได้มีเวลาพักผ่อนในตอนเย็น 

ฉันไปถึงสนามกีฬาก่อนใคร 

ฉันรอเพื่อน ๆ ไม่นานนัก ฉันก็เห็นเธอเดินเข้ามาในสนาม

พร้อมดอกกุหลาบสีแดงในมือ 1 ดอก 

เธอเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับยื่นให้ 

เธอรู้ไหมว่าฉันเอื้อมมือไปรับด้วยความมึนงง 

แต่ก็ไม่กล้าถามเธอ ว่าเธอให้ฉันทำไม 

เธอก็แปลกนะยื่นดอกไม้ให้ แล้วก็ไม่พูดอะไรสักคำ 

จนกระทั่งเพื่อน ๆ ของเธอมาถึง 

เราก็เลยซ้อมเสริฟลูกไปพลาง ๆ ฉันกะว่าจะถามเธอหลังซ้อมเสร็จ 

ว่าเธอต้องการจะฝากกุหลาบไปให้ใครหรือเปล่า 

แต่ไม่ยักกะได้ถามแฮะ 

เพราะว่าพอซ้อมเสร็จเธอก็ถูกเพื่อนเธอลากไปในตัวเมือง

ส่วนฉันก็กลับบ้านพร้อมกุหลาบแดง 1 ดอกของเธอ

เออ.......... จะทิ้งไปทำไมล่ะ ของสวย ๆ งาม ๆ 

แถมยังหอมอีกด้วย 

ฉันเอาไปใส่แจกันไว้ในห้องนอน

ตอนกลางคืนสบาย..............ฝันดี............... 

กุหลาบสีแดง 1 ดอกของเธอส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทั้งคืน....

ตื่นเช้า รีบไป ฝึกซ้อม
ต้องยอม เนื่องด้วย หน้าที่
อยากเป็น นักกีฬา ที่ดี
จึงรี่ เร่งไป ก่อนใคร

พบเธอ ส่งกุ- หลาบมา
ทำหน้า งง งง สงสัย
ส่วนเธอ ไม่พูด อะไร
ยังไง กันนี่ งง งง

หลับซาบาย......... ทั้งคืน.............



* * * * * * * 


วันนี้แล้วสินะ เป็นวันแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้าน 

สำหรับวอลเล่บอลหญิงมีแค่ 5 ทีมเท่านั้น 

จึงใช้ระบบพบกันทุกทีม ชนะ 2 ใน 3 เซ็ท 

ปรากฎว่าทีมของฉันแพ้ในรอบชนะเลิศ ได้อันดับที่ 2 มาครอง

หลังจากนั้นฉันกับเพื่อน ๆ ก็ไปเชียร์กีฬาชนิดอื่น ๆ 

พอช่วงพักกลางวันฉันกับเพื่อน ๆ ก็ไปที่ร้านอาหาร 

ฉันเห็นเธอกับเพื่อน ๆ นั่งทานขนมอยู่ในร้าน 

ฉันเลือกที่นั่งที่หันหลังให้เธอ 

เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเธอ แต่.......

เธอกลับสกิดแขนฉันพร้อมทั้งยื่นซองขนมมาให้ 

แล้วพูดว่ารางวัลปลอบใจที่ไม่ได้ถ้วยชนะเลิศ เพื่อน ๆ ของเธอ ฮาตรึม 

พร้อมทั้งแซวว่าน้องมีตั้งหลายคนทำไมเธอเจาะจงส่งขนมให้ฉัน 

เธอรู้ไหมว่าตอนนั้นฉันอายมาก ไม่กล้าพูดกับเธอเลย

เพื่อน ๆ ของฉันก็แซวว่าส่งสัยเธอจะชอบฉันแน่ ๆ เลย 

ไม่ได้เกลียดฉันอย่างที่ฉันเข้าใจ เพียงแต่เธออาจจะขี้อาย

ไม่กล้าแสดงออก หรือไม่เธอก็อาจจะเห็นว่าฉันยังเด็กเกินไป

ช่วงบ่าย ฉันและเพื่อน ๆ ได้ไปเชียร์ทีมตะกร้อชาย 

เป็นการตอบแทนที่พวกเธออุตสาห์มาฝึกซ้อมให้

ช่วงก่อนการแข่งขัน ฉันกับเพื่อนยืนเชียร์อยู่ขอบสนาม 

เธอมักจะมองมาทางเราบ่อย ๆ พวกเราเชียร์อย่างสนุกสนาน 

เพราะทั้งทีมของเธอ และคู่แข่งฝีมือสูสีกันมาก 

แต่สุดท้ายทีมของเธอก็แพ้ไปอย่างเฉียดฉิว 

แต่เธอก็ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส ฉันคิดว่าเธอคงจะมีน้ำใจนักกีฬาพอสมควรนะ 

และแล้วฉันก็ต้องรีบกลับบ้านไม่ได้อยู่จนถึงพิธีปิดการแข่งขัน 

ในตอนเย็นของวันนั้นมีสาวคนหนึ่ง (ฉันรู้สึกว่าเขาจะชอบเธอนะ) 

ได้เลี้ยงฉลองรองชนะเลิศสำหรับทีมตะกร้อชาย

เพื่อนของฉันก็ไปด้วย แต่ฉันไม่ได้ไปเพราะต้องช่วยแม่ขายของ 

เพื่อนฉันเล่าให้ฟังว่าเธอถามหาฉันใหญ่เลย 

ฉันก็เลยบอกเพื่อนว่า ถามหาทำไมล่ะ แน่จริงก็มาหาที่บ้านเลยสิ 

สงสัยเธอจะกลัวพี่ชายฉันมั้ง ก็เลยไม่กล้ามาหา

ฉันมีพี่ชายตั้ง 3 คน แต่ละคนตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย

และแล้ว ก็ถึง วันแข่ง
ต้องแย่ง ชิงชัย ในสอง
ทีมฉัน ได้รับ ครอบครอง
เป็นรอง แชมป์ใน ครั้งนั้น

ทีมเธอ ก็รับ ที่สอง
เราต้อง พ่ายแพ้ แข่งขัน
น้ำใจ นักกีฬา มีกัน
แบ่งปัน ความสุข  สู่ชุมชน


* * * * * * * 


เช้าวันหนึ่ง ฉันกำลังทำงานบ้านอยู่ 

ก็มีรถกระบะคนหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้าน 

และเห็นเธอกระโดดลงจากรถ

เธอเดินมาหาฉันในบ้าน เธอบอกว่าฝึกงานเสร็จแล้วนะ 

และกำลังจะกลับบ้าน มีเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านไปส่งกันหลายคน 

เธอชวนฉันให้ไปส่งเธอที่ในเมือง 

แต่ฉันไม่กล้าขออนุญาตแม่ ทั้ง ๆ ที่ใจฉันก็อยากเข้าไปในเมืองเหมือนกัน

แต่.... ถึงยังไงแม่ก็คงไม่อนุญาตอยู่ดี เธอก็เลยทำหน้าเศร้ากลับไป 

ฉันได้แต่มองตามเธอและเพื่อน ๆ ของเธอที่โบกมือลาฉันจนรถลับสายตา

หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้ข่าวคราวของเธอเป็นเวลานาน.........

จนกระทั่งวันหนึ่งฉันกลับจากไปเยี่ยมบ้าน

เพราะใกล้จะเปิดเทอม ๆ สุดท้ายของชีวิตนักเรียนมัธยมแล้ว 

เพื่อนฉันมาบอกว่าช่วงที่ฉันไม่อยู่ เธอและเพื่อน ๆ กลุ่มเดิม 

ได้มาที่หมู่บ้าน เธอได้ถามหาฉันด้วย 

เพื่อนฉันบอกว่าดูท่าทางเธอจะเสียใจที่ไม่เจอฉัน 

เธอได้ฝากที่อยู่ของเธอให้ฉัน เธอบอกเพื่อนฉันว่า

ถ้าฉันไม่ได้เกลียดเธอ ก็ให้ฉันเขียนจดหมายไปหาเธอบ้าง

ที่อยู่ของเธอฉันก็เก็บไว้เหมือนกันแหละ แต่สงสัยว่าจะเก็บไว้ดีเกินไปมั้ง

เก็บดีจนหาไม่เจอเลยไงล่ะ ^_^

หลังจากจบมัธยม 3 ฉันได้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ฯ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน 

บางครั้งตอนปิดเทอมฉันก็ทำงานพิเศษ 

พอฉันกลับบ้านเพื่อนฉันบอกว่าช่วงปิดเทอมเธอมาที่หมู่บ้านของฉัน 

เธอมักจะถามถึงฉันทุกครั้ง เพื่อนฉันบอกให้ฉันเขียนจดหมายถึงเธอ 

แต่ฉันก็ไม่ได้เขียนเพราะว่าฉันทำที่อยู่ของเธอหายไปเสียแล้ว 

เพื่อนฉันบอกว่าสงสารเธอนะ มาตั้งหลายครั้งแล้ว

แต่ไม่เคยเจอฉันเลยสักครั้งเดียว 

ดูท่าทางเธอต้องชอบฉันแน่ ๆ เลย 

เพื่อนฉันถามฉันว่าฉันคิดยังไงกับเธอ เกลียดเธอหรือเปล่า ฉันก็ตอบไม่ได้ 

ก็ฉันไม่รู้จริง ๆ นี่นา

แต่ที่แน่ ๆ ฉันน่ะไม่ได้เกลียดเธอหรอกนะ

และแล้ว ก็ถึง วันลา
เดินหน้า ไปสู่ เมืองหลวง
ไม่มี คำสัญ - ญาลวง
เพียงดวง ตาบอก ความนัย

เนื่องด้วย ยังเล็ก เด็กนัก
มิรู้จัก ความรัก เป็นไฉน
ไม่เคย คิดและ สนใจ
เก็บไว้ เพียงความ ทรงจำ


* * * * * * * 


เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนกระทั่งฉันเรียนจบปวช. 

เพื่อน ๆ ของฉันต่างก็แต่งงานกันไป มีลูกมีหลานกันเกือบหมดแล้ว 

เพราะว่าในหมู่บ้านของฉันส่วนใหญ่จะแต่งงานเร็ว 

แต่ฉันกลับไม่มีแฟนเลย อาจจะเป็นเพราะว่าฉัน

เรียนแต่โรงเรียนสตรีมาโดยตลอดหรือเปล่า 

จึงไม่ค่อยรู้จักผู้ชาย เพื่อนของฉันมักจะถามฉันว่ามีแฟนหรือยัง 

หรือว่าฉันรอเธออยู่ ฉันเองก็ตอบว่าเปล่า 

แต่ลึก ๆ ในใจนั้น ฉันยังคงคิดถึงเธอเสมอ 

ฉันก็ยังคงตอบคำถามของเพื่อนฉันไม่ได้ว่าฉันคิดยังไงกับเธอ 

อาจจะเป็นเพราะว่า ขณะนั้นฉันยังเด็กเกินไป 

ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง 

คงจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วมั้ง

ฉันก็ได้แต่หวังว่าเธอคงจะมีครอบครัวที่ดี 

มีความสุขกับครอบครัว

ถ้าเธอยังพอจำได้ว่าเคยรู้จักเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ 

หน้ากลม ๆ ตาโต ๆ ไว้ผมม้า 

สมัยที่เธอฝึกงาน ณ หมู่บ้านบนดอย

ขอให้เธอรู้ไว้ด้วยนะ ว่า

เด็กหญิงคนนั้นในตอนนี้เป็นสาวแล้วนะ 

แม้จะยังซนอยู่ก็ตาม ^_^ 

และก็ไม่ได้ไว้ผมม้าแล้วด้วย แต่

เปลี่ยนเป็นไว้ผมยาว     ยาวมากเลยหละ    

และแล้วก็กลับคืนมาเป็นผมสั้น  และไว้ผมม้า  เหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ อีกครั้ง

แต่ก็ยังคงความน่ารักใว้เหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ นะ  จริง ๆ ^^"

ถ้าเจอกันอีกครั้งหนึ่งเธอต้องจำไม่ได้แน่ ๆ ฉันมั่นใจ


ปล. 

อยากจะบอกเธอว่า  หลาย ๆ เวลาที่คิดถึงยามยังเยาว์

เธอเป็นคนหนึ่งที่ฉันคิดถึงมาก  คิดถึงมากจริง ๆ นะ  *__~



				
28 มีนาคม 2554 16:17 น.

* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน.... เหตุเกิดที่โรงแรม * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



ปรกติแล้วหนูหิ่ง ฯ จะให้รางวัลตัวเองเป็นการเดินทางท่องเที่ยวปีละ 1 ครั้ง

ไม่จำกัดสถานที่.... ในประเทศก็ได้ ต่างประเทศก็ดี ขอให้ฟรีไว้ก่อน คิก ๆ ๆ ๆ

เหตุผลที่ได้ไปฟรีเนื่องจากทำยอดตามเกณฑ์ที่บริษัท ฯ กำหนดให้มีการแข่งขันแต่ในละครั้ง

การเดินทางส่วนใหญ่จะไปกับกรุ๊ฟทัวร์ที่บริษัท ฯ จัดให้ ส่วนใหญ่จะเป็นกังวาลทัวร์

ในแต่ละครั้งก็มีคนทำเฟอะฟะ หน้าแตกเกี่ยวกับสถานที่พัก (โรงแรม 5 ดาว) เนื่องจากความไม่รู้


เมื่อเดือนกุมภาพันธ์   หนูหิ่ง ฯ ได้ไปเที่ยวสิมิลัน - พังงา - ภูเก็ต

ทริปนี้ตัวแทนติดคุณวุฒิทั่วประเทศ 300 ที่ หนูหิ่ง ฯ ติด 2 ที่ ก็เลยพาคุณแม่ไปด้วย

คณะทัวร์ทั้งหมดเข้าพักที่โรงแรม 5 ดาวในภูเก็ต



แค่คืนแรกก็ได้เรื่อง....

เช็คอินเข้าที่พักเที่ยงคืนเศษ ๆ ต่างคนต่างเพลีย ต่างคนต่างง่วง เมื่อรับการ์ดแล้วก็ลากข้าวของไปห้องใครห้องมัน

หนูหิ่ง ฯ กับคุณแม่พักห้องที่อยู่ติดลิฟท์ ก็เลยถึงห้องก่อนใครเพื่อน

จัดแจงเสียบการ์ด เสียบ ๆ ๆ ๆ หลายรอบแล้ว ก็หมุนลูกบิดไม่ได้

ห้องหนูหิ่ง ฯ เปิดม่ายล่าย แง้ ๆ ๆ ๆ พี่ ๆ หลายคนมาช่วยเสียบ ๆ ๆ ๆ สอด ๆ ๆ ๆ ก็ยังเปิดไม่ได้ ท้ายสุดจำต้องเอาการ์ดไปเปลี่ยน

พอเปลี่ยนมาแล้วก็ยังเปิดไม่ได้อีก โหย.... โค - ตะ - ระ - เศร้า เลยค่ะ เพราะว่าง่วงสุด ๆ และเพลียสุด ๆ

กว่าจะเปิดห้องได้เปลี่ยนการ์ดไป 4 ใบ รอบแรกได้มา 2 ใบ ใช้ไม่ได้ทั้งคู่ ฮึ่ม ๆ แง่ง ๆ




เช้ามาได้อีกเรื่อง แฮ่.... อันนี้เฟอะฟะมาก อายเป็นที่สุด

กางเกงยีนส์ขาสั้น ! ซักแล้วก็กลัวจะไม่แห้ง พรุ่งนี้จะไม่มีใส่เล่นน้ำ

มองไปมองมาอ๊ะ ! มีเตารีด แต่ไม่ดี ๆ เพราะผ้ายังเปียก ๆ อยู่

ใส่เข้าไปในไอ้นี่ดีกว่า ด้วยความเข้าใจว่าเป็นเตาอบ ^_^ เรียบร้อย พรุ่งนี้ก็แห้ง

ชะ ! ตื่นเช้ามาจะเอากางเกงเพื่อเตรียมตัวไปเล่นน้ำต๊ะเล ที่ไหนได้....

เปิดตู้ม่ายล่าย ! ต้องโทร.ไปบอกโอปะเรเตอร์ตามช่างมาเปิดให้


ก๊อก ๆ ๆ ก๊อก ๆ ๆ

หนูหิ่ง ฯ ก็เดินไปเปิดประตู แล้วก็เดินเข้ามา.... อ้าว ! ไหงช่างไม่ตามเข้ามา จำต้องเดินไปชะโงกดู

หนูหิ่ง ฯ : แฮ่.... เชิญค่ะ ครือว้า.... เปิดตู้ไม่ได้ค่ะ ช่วยเปิดหน่อยนะคะ

ช่าง : เอ็กคิวส์มี....

หนูหิ่ง ฯ : ฮ่อ ๆ ๆ ไม่ได้เป็นคนไทย สเน็ก ๆ ฟิช ๆ ฟุทฟิตฟอไฟ

แง้ ๆ ๆ ๆ ดั่งนรกชัง ฤาสวรรค์....แกล้ง ภาษาอังกฤษยิ่งเก่ง ๆ อยู่

ช่าง : จิ้มนั่น จิ้มนี่ ฟุท ๆ ฟิช ๆ สอน ๆ ๆ ๆ ๆ

หนูหิ่ง ฯ : ฮ่อ ๆ ๆ เปิดแล้วก็ไป ๆ ซะทีซิเฟ้ย ตูข้า ฯ อับอายขายหน้าจะแย่แล้ว

และแล้วหนูหิ่ง ฯ ก็ถึงบางอ้อ !

เจ้าตู้ที่เปิดนั้นหรือครือ.... ตู้เซฟ จ๊าก ! เฟอะเป็นที่สุด

มารู้ที่หลังว่าช่าง (หนุ่มหล่อ) คนนั้นหรือคือชาวอินโดนีเซีย

ทราบมาว่าโรงแรมในเมืองไทยมักจะจ้างชาวอินโดนีเซียหรือชาวฟิลิปปินส์ เนื่องจากค่าแรงถูกกว่าของเราเยอะ (เขาว่างั้นอ่ะค่ะ)






ส่วนเรื่องนี้ได้จากในรถ

สงสัยว่าลูกทัวร์ผู้ชายคงจะไปสุมหัวกันอยู่ที่ห้องใดห้องหนึ่ง สละห้องให้เด็ก ๆ นอนกับผู้หญิง

ปรากฎว่า.... ถึงเวลาอาบน้ำ....

คนที่อาบอยู่ในห้องน้ำก็อาบไป คนที่อยู่ในห้องนอน....นอกห้องน้ำมีอยู่ 3 คน

สองคนดูทีวี อีกคนเตรียมตัวอาบเป็นคนต่อไป เอ๊ะ ! นี่ตู้อะไร ? ? ?

สงสัยแล้วก็เลยลองเปิดดู.... ไอ้หยา ! ชีเปลือย !

ปรากฎว่าเป็นประตูห้องน้ำอีกหนึ่งประตู อย่างในรูปนี้ แง้ว ๆ ๆ ๆ

งานนี้ไม่ใช่แค่กุ้งยิง พี่เขาหาน้ำยามาล้างตาใหญ่ กลัวเป็นฉลามยิง

อ่ะจึ๊ย ! ทำไมไม่กินยาแก้อักเสบด้วยล่ะเพ่






เรื่องสุดท้าย เด็ดสุด !

ตอนเช็คเอ้าท์ ห้องหนูหิ่ง ฯ ไม่มีอะไร เช็คตามปรกติ

ดื่มเพียงน้ำเปล่าที่เขาให้ ขนม - นม - เครื่องดื่มต่าง ๆ ไม่แตะ

เพราะรู้ว่าขืนแตะ จ่ายบานแน่ ราคาเป็นหลายเท่าของข้างนอก

ข้าวของที่หยิบได้ทุกวัน.... คือ

1. ของที่ระลึกที่เขาวางไว้ให้บนเตียงนอน (ถ้ามี)

2. กระดาษ + ซองจดหมาย ปากกา หรือดินสอ (อันนี้หนูหิ่ง ฯ หยิบทุกครั้ง เอาไว้จดบันทึกเรื่องเล่าการเดินทางค่ะ)

3. กาแฟ ชา น้ำตาลเป็นซอง ๆ ที่เขาวางไว้ให้ รวมถึงไม้ขีด

4. สบู่ แชมพู และรองเท้าผ้าสำหรับใส่ในห้อง

นอกจากนี้ห้ามหยิบโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นท่านจะถูกชาร์ทตอนเช็คเอ้าท์

เช่น เครื่องดื่ม ในตู้เย็น ขนมขบเคี้ยว เหล้า แก้วน้ำ ตลอดจนผ้าขนหนู

หมายเหตุ : ซื้อมาคืนก็ไม่ได้ เนื่องจากเขาเช็คของในห้องวันต่อวัน ซื้อมาคืนก็ไร้บอยจ้า


ที่ประเทศญี่ปุ่นเด็ดสุด ๆ ครือว้า....

ข้าวของทุกอย่างในตู้เย็น ห้ามเคลื่อนที่โดยเด็ดขาด เพราะเขาใช้ระบบอินฟาเรดติดไว้ที่ตู้เย็น

หากท่านหยิบผ่านอินฟาเรดออกมาก็ถือว่าท่านต้องจ่ายตังค์โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีสิทธิ์แก้ตัวสักกะจี๊ดเดียว


ทีนี้มาเข้าเรื่องของโรงแรมนี้ต่อ....

น้องผู้ชายห้องอื่น ๆ ซนมาก ซนจนได้เรื่อง ซนจนต้องยืมตังค์เพื่อนมาจ่าย เพราะช็อปปิ้งไปหมดแล้ว อีกทั้งไม่คิดว่าจะมีค่าใช้จ่ายใด ๆ อีก

ตอนเช็คเอ้าท์ ต่างคนต่างได้รับบิลเรียกเก็บค่าดูทีวีช่องพิเศษ (ไม่ใช่ช่องปรกติ)

เวลาจะดูต้องเข้าไปที่เมนู แล้วกดนั่น กดนี่ กดนู่น กดโน่น

โชคดีที่หนูหิ่ง ฯ โลเท็กซ์ ลองกดดูแล้วเพราะมาม้าอยากดูทีวี แต่หนูหิ่ง ฯ ดันกดไม่เป็น มาม้าก็เลยอดดู ^_^

น้องคนหนึ่งดูหนังผู้ใหญ่จนจบเรื่อง จ่าย 700 ดูสองคนก็หาร 2

น้องอีกนึง กดไปเจอซูเปอร์แมนรีเทิร์น พอขึ้นไตเติลก็กดเปลี่ยนช่อง เพราะเคยดูแล้ว

แล้วก็ดันกดไปเจอซูเปอร์แมนรีเทิร์นอีกรอบ แล้วก็เปลี่ยนช่อง

ปรากฎว้า.... น้องคนนี้จ่ายไป 1,200 บาท โค - ตะ - ระ - ซวยเลย ดูก็ไม่ได้ดู

เสียตังค์ฟรีซะงั้น !

อันนี้น่าจะไปเก็บกะไกด์เนอะ ดันไม่บอกลูกทัวร์ก่อน รู้ทั้งรู้ว่า Bus นี้เป็นกระเหรี่ยงตกดอยกันทั้ง Bus

หนูหิ่ง ฯ ก็เกือบไปแล้วไหมล่ะ !


เนื่องจากหนูหิ่ง ฯ พกโน้ตบุ๊คไปด้วย แลมองเห็นในโรงแรมก็มีสายแลนต่อเน็ท

หนูหิ่ง ฯ ก็นึกดีใจว่าจะได้ท่องเน็ทฟรี.... ที่ไหนได้.... พอเสียบสายเข้าไป ข้อความก็ขึ้นมาดังนี้....

ชั่วโมงละ 300 บาท โอ้ ! จ๊อด ราคายอดมาก อย่าเล่นมันเลย *_~

ดีนะที่ข้าพเจ้าอ่านภาษาปะกิตออกบ้าง ไม่งั้นมีหวังโดนอานแหงม ๆ






ข้อควรระวังเรื่องน้ำร้อน - น้ำเย็น มิฉะนั้นท่านอาจจะกลายเป็นหมูถูกน้ำร้อนลวกก็ได้

สอบถามให้แน่ใจว่าสีไหนเป็นน้ำร้อน สีไหนเป็นน้ำเย็น หรือไม่ก็ลองเปิดเบา ๆ ทีละสี

แล้วก็เปิดน้ำเย็นก่อน ค่อย ๆ เปิดน้ำร้อนตามหลังให้อุ่นพอดีกับที่ต้องการ

เพราะน้ำร้อนในโรงแรมส่วนใหญ่จะร้อนแบบลวกมาม่ากะไข่กินได้เลยอ่ะค่ะ

เพราะงั้นเวลาไปเที่ยว ตปท.แบบเซฟ ๆ ควรอย่างยิ่งที่จะพกมาม่าไปเยอะ ๆ พร้อมกับชามและตะเกียบ

เพราะน้ำประปาที่ ตปท.เขากินได้จ้า ^_^







น้ำดื่ม !

มึนตึบ ! ซื้อน้ำมาขวดเบ้อเร่มเติ่ม พอเปิดขวดแล้วกินไม่ได้ เอ๊ะ ! น้ำอะไรฟระ

หนอยดันไปซื้อน้ำอัดแก๊สมา ไม่ดูตาม้าตราขวด ดื่มม่ายล่าย ต้องเปิดฝาทิ้งไว้ทั้งคืนให้แก๊สระเหยไปก่อน

บางประเทศเขาดื่มน้ำอัดแก๊ส : วอเตอร์วิสแก๊ส บางประเทศดื่มเบียร์แทนน้ำ โอ้.... ข้าพเจ้าแย่เลย

เจ้านายบอกว่า....

เวลาซื้อให้เบิ่งดูตราขวด : เรียลวอเตอร์ จึงจะได้น้ำเปล่าแบบบ้านเรา เซ็งเหมียวเลยกว่าจะได้ดื่มน้ำ




อีกอย่าง....

อย่าริไปดื่มน้ำมะพร้าวเลยทีเดียวเชียวววววววว เพราะคุณจะได้ดื่มมะพร้าวห้าวปั่นผสมน้ำเปล่า

ประมาณหางกะทิแต่มีกากด้วย แถมยังไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่เกลืออิ๊กต่างหาก ^_^






ภาษามือ....

เวลาไปร้านอาหารโปรดระวัง

ทางบ้านเราเวลาเรียกเก็บตังค์ จะใช้ภาษามือชี้มือที่โต๊ะแล้ววนเป็นวงกลม คือ.... เก็บตังค์ หรือเช็คบิล

แต่.... บางประเทศนั้น ท่านจะได้อาหารเหมือนเดิมทุกประการมาอีกหนึ่งชุด

อาจทำให้ท่านกระเป๋าฉีก หรือท้องแตกได้



ที่ประเทศญี่ปุ่น เด็กเสริฟพูดอังกฤษไม่ได้ (หรือพูดได้ แต่มานม่ายยอมพูด) เมนูอาหารก็ไม่มีภาษาอังกฤษ

แถมอาหารก็โค - ตะ - ระ แพงเลย เมื่อทุกท่านนั่งลงบนโต๊ะ ก็ถึงเวลาที่ต้องสั่งอาหาร

จงตกลงกันให้ดี ๆ สั่งอย่าให้เหมือนกัน แล้วก็มารับประทานรวม ๆ กัน

หากท่านชี้มั่ว ๆ ด้วยการดูจากราคา โดยพยายามชี้ที่ราคาถูกที่สุดในเมนู....

ท่านก็จะได้.... สารพัดซุป ไม่ว่าจะเป็น ซุปผัก ซุปเห็ด ซุปข้าวโพด ซุปเต้าเจี้ยว ฯลฯ

แล้วก็นั่งมองหน้ากันตาปริบ ๆ ๆ เมี้ยววววววววว เวง - กำ นี่แหละไม่ยอมจ้างไกด์ ไม่ยอมเสียตังค์

ประเภทเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย (ใช่ไหมเนี่ย)

ดังนั้นก่อนเดินทาง ควรศึกษารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มิฉะนั้น.... อาจถึงคราวอับจน (ปัญญา) เช่นนี้





จบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

ท่านใดมีประสบประการณ์เกิน เกี่ยวกับการท่องเที่ยว มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

จะได้เก็บไว้เป็นบทเรียนในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งต่อ ๆ ไปค่ะ


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงหิ่งห้อยน้อยใจ