24 มีนาคม 2552 11:07 น.

เอาชนะ...ให้ชนะ

อัศมาวดี

ตอนเป็นเด็ก...เราทุกคนคงต้องเคยอยากเอาชนะใครสักคน
เอาชนะ ที่ว่านี้หมายถึง
เอาชนะแบบหนามยอกเอาหนามบ่ง
แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
แบบที่สู้ยิบตา เพื่อที่จะชนะเพียงอย่างเดียว
แล้วสุดท้าย...ก็จะได้เห็นภาพของตัวเองที่ชนะบ้าง พ่ายแพ้บ้าง
ภาพแห่งความสูญเสีย บาดเจ็บ ภาพของศัตรูรอบข้าง
อยู่กับหัวใจที่หวาดระแวงและไม่เคยสงบสุข 

เมื่อโตขึ้นเราอาจต้องปรับเปลี่ยนความคิดกันใหม่
เพราะชีวิตนี้ยังมีการเอาชนะอยู่หลายแบบ
แบบไม่ต้องสู้ แบบประนีประนอม
ถ้าในทางการรบเขาเรียกว่า รบแบบไม่เสียเลือดเนื้อ
เป็นการเอาชนะที่ชนะ ไม่มีแพ้ 

แต่จะเป็นเรื่องที่ดีแค่ไหน...หากนอกเหนือจากชัยชนะที่เราได้มานั้น
คือรอยยิ้มจากคนทุกฝ่าย
คือความสุข สงบ ที่ทำให้จิตใจของเราไม่พะวง
และหวาดระแวงอีกต่อไป
ชัยชนะที่ได้มาจากการรู้จักต่อสู้เอาชนะศัตรู ด้วยความเป็นมิตร
เหมือนที่เรามักได้ยินมากกว่า 

เอาชนะคนตระหนี่...ด้วยการ...ให้
เอาชนะคนพาล...ด้วยการ...ยอม
เอาชนะคนหน้าบึ้ง...ด้วย...ความยิ้มแย้ม
เอาชนะคนเห็นแก่ตัว...ด้วย...ความเสียสละ
เอาชนะความแค้น...ด้วย..การให้อภัย
และ..เอาชนะความเกลียด...ด้วย...ความรัก 

ดูเหมือนเป็นเรื่องยาก
แต่จริงๆ แล้วเราทุกคนสามารถทำได้
เริ่มต้นจากการคิด...คิดดีกับคนทุกคน
วางใจไว้ในที่ที่สงบ ที่ซึ่งไม่มีการรบรา ฆ่าฟัน หรือแก่งแย่งแข่งขัน
วางดวงตาไว้ ในที่ที่เป็นสามัญ
มองเห็นสิ่งใดก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของโลก
วางความรู้สึกไว้ในที่ที่สามารถยืดหยุ่น และไม่ยึดติดกับอะไร
ใจอย่างนั้น ดวงตาอย่างนั้น และความรู้สึกอย่างนั้น
จะทำให้เราเห็นวิธีการเอาชนะคนทุกคนในทุกรูปแบบ
และคนสำคัญที่สุดที่เราจะชนะก็คือ "ตัวของเราเอง "				
14 มีนาคม 2552 16:52 น.

ความเหงาของฉัน..อยากให้เธอได้สัมผัส

อัศมาวดี

ความเหงาของฉัน . . . อยากให้เธอได้สัมผัส
เผื่อเธอจะได้รู้ชัด . . . ว่าฉันเจ็บแค่ไหน
ต้องทนนอนคนเดียว ในคืนหนาวที่เหงาจับหัวใจ
ในขณะที่เธอมีความสุขอยู่กับใคร . . .
แต่ฉันต้องนอนเดียวดายจมน้ำตา


วามเศร้าของฉัน . . . อยากให้เธอรับรู้
หาเศษเวลามาเหลียวดู . . . ความหดหู่ของคนตรงหน้า
เจ็บลึกจนยากที่จะเอ่ยปาก . . . ปวดร้าวจนยากที่จะเยียวยา
อยู่ก็เหมือนตาย . . . หายใจช้า
ชีวิตหม่นพร่า . . . เพราะเธอ				
13 มีนาคม 2552 14:06 น.

ผูกพัน หรือ คุ้นเคย...

อัศมาวดี

ใครที่ ผูกนาฬิกาบ่อยๆ จนติด 
คงจะรู้สึกได้ . . . ในวันที่นาฬิกาหายไปจากข้อมือ 

ฉันเอง . . . ก็เป็นคนที่ผูกนาฬิกามาตลอด . . . 
หากวันไหนลืมจะรู้สึกว่า . . . บางอย่างมันหายไป 
มันว่างๆ และขัดเขินทุก ครั้ง . . . ที่ยกข้อมือที่ว่างเปล่าขึ้นมาดู 

เมื่อราวสอง ปีก่อน . . . ที่นาฬิกาเรือนโปรดของฉันพัง 
ด้วยความไม่มีสติ . . . ฉันเอา ข้อมือไปทุบผนังห้องน้ำเล่นๆ 
โชคร้าย . . . ที่มือไม่เป็นอะไร 
นาฬิกา ต่างหากที่พินาศ . . . กระจกร้าว 

ฉันถอด มันออกวางไว้ . . . ไม่ยอมเอาไปซ่อม 
ด้วยว่า . . . รู้สึกถึงภาพเก่า และวัน เวลาที่เก็บอยู่ในนั้น 
ฉัน . . . เลิกใส่นาฬิกา และพบว่าตัวเองมีอาการยกข้อ มือเก้อ 
เก้อ . . . อยู่เป็นเวลานานพอดู 

ความ เคยชินของคนเรา เกิดขึ้น . . . 
เมื่อเราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นประจำ . . . ในระยะเวลานานพอควร 
และยังคงความเคยชินอยู่ 
เมื่อสิ่งหนึ่ง สิ่งนั้นหายไปในระยะแรกๆ 

จนเวลาผ่านไปนาน . . . 
ฉันจึงเริ่ม ชิน . . . กับการแอบมองเข็มนาฬิกาบนข้อมือคนอื่น 
เวลาผ่านไป พร้อมกับบาดแผล ที่เริ่มเลือนหาย 
ฉันคิดโง่ๆ ว่า . . . 
ภาพเหล่านั้นจะตายไปพร้อม นาฬิกา แต่มันไม่ใช่ 

ฉันตัดสินใจซ่อมนาฬิกา 
เมื่อมัน กลับมาวันแรกๆ ฉันรู้สึกไม่คุ้น 
จนถึงตอนนี้ . . . ก็ยังไม่คุ้น 
ฉันยัง แอบมอง . . . นาฬิกาบนข้อมือคนอื่น อยู่เหมือนเดิม 
ฉันรู้สึกเขินแกมขำทุก ครั้ง . . . ที่แอบมองข้อมือคนอื่น 
ทั้งๆ ที่มีนาฬิกาอยู่บนข้อมือของตัว เอง 

ฉันนึกถึงใครบางคน . . . ที่ มักจะปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้มเสมอๆ 
ในบางช่วง ที่เขาหายหน้าหายเสียง ไป . . . 
ฉันรู้สึกขาดๆ แต่ก็เพียงชั่วเวลาสั้นๆ 
ในบางครั้ง . . . ฉัน พอใจที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ 
ในวันที่ไม่แข็ง แรง . . . 

แต่ . . . ในบางครั้งฉันกลับรู้สึกพอ ใจ 
กับการได้เดินคนเดียว . . . เดี่ยวๆ ในวันว่าง 
เป็นความผูกพัน หรือเป็นเพียงความเคยชิน 
หัวใจฉัน . . . ยังตอบคำถามได้ไม่กระจ่างชัด นัก 
"คนเราจะรู้ค่าก็ต่อเมื่อ . . . สูญเสียสิ่งนั้นไป" 
ฉันมักได้ยินใครๆ พูด 
แต่ . . . ฉันกลับคิดว่า หาก ฉันยังมองไม่เห็น 
ฉันน่าจะยอมเสียไปดีกว่า . . . เพื่อให้ซึ้งถึงคุณค่า นั้น 
ฉัน . . . ไม่อยากเอาเปรียบเขา 
หากจะรั้งเขาไว้ด้วยความ คุ้นเคย ที่ไม่ใช่ความผูกพัน 
ฉัน . . . ไม่อยากโกหกตัวเอง 
หากจะรั้งเขา ไว้ . . . ด้วยความไม่แน่ชัด 

ฉันมีคำถาม . . . ที่ ยังขบไม่แตกกับคำว่า . . . 
ผูกพัน หรือว่าจะเป็นแค่คุ้นเคย 
บางที . . . มันอาจจะเป็นการดี 
หากฉันจะอยู่ห่างๆ หรือตัดขาด 
เพื่อให้ รู้จัก . . . หัวใจของตัวเองมากขึ้น 
กับใครบางคน . . . ที่ขาดหายไปจาก ชีวิต 

อาจเป็นเหมือน . . . นาฬิกาที่ขาดสาย 
อาจรู้สึกแปลบๆ และมองหากับการหายไปในช่วงแรก 
แต่ไม่ นาน . . . คงจะชิน

เราต้องอยู่ได้ด้วยตัวเราเอง				
12 มีนาคม 2552 15:16 น.

ความรักกับเข็มนาฬิกา...

อัศมาวดี

บ่อยครั้งที่ ความรัก ทำให้เราลืมไปในหลายๆ สิ่ง 

ลืมว่า... 

เราเคยกินข้าวคนเดียว. . . โดยไม่รู้สึกเหงา 
เราถือกระเป๋าเองได้. . . โดยไม่รู้สึกหนัก 
เคยเดินกลับบ้านคนเดียว. . . โดยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก 

ยิ่งกับความรัก ที่คบกันเนิ่นนาน 
ยิ่งเนิ่นนาน ความผูกพันก็ยิ่งมาก 
เมื่อความผูกพันเริ่มมาก ชีวิตเราก็มีแต่ความเคยชิน 

เคยชินที่จะกินข้าวกับเขา ดูหนังกับเขา 
เดินกลับบ้านกับเขา โดยมีเขาเอื้อมมือมาถือกระเป๋าให้ 
ความรัก ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงอ่อนแอลงหรอก 
แต่ความรัก มักทำให้ผู้หญิงลืมการใช้ชีวิตคนเดียว 

ไม่ต่างจากนาฬิกาแขวนผนัง ที่เดินบอกเวลาไปเรื่อยๆ 
โดยลืมไปว่าที่นาฬิกาเดินได้นั้น เพราะมีถ่านให้พลังงานอยู่ 
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าถ่านจะหมด 
เป็นไปได้...พอๆ กับความรักที่เคยมีมาจะหมดลง 

 ซึ่งถ้าวันที่ถ่านหมดมาถึงจริงๆ 
ถึงแม้สองเข็มนาฬิกาจะหยุดเดิน แต่เชื่อไหมว่า...เวลายังเคลื่อนไป 
เวลาบนโลกนี้ไม่ได้หยุดเหมือนสองเข็มนาฬิกา 
ความรักที่หมดลงแล้วนั้น ก็เช่นกัน 

ความรักหมด แต่ไม่ได้หมายความว่า "ชีวิต" จะหมด 
ชีวิตของเรา ยังก้าวเดินต่อไปได้เสมอ 

อาจเหงาบ้าง ที่ต้องกลับมากินข้าวคนเดียว เดินคนเดียว 
อาจเจ็บปวดบ้าง ที่เบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคยไม่ปรากฏบนหน้าจอบ่อยๆ อีกแล้ว 
แต่เชื่อไหมว่า ก่อนหน้าที่ไม่มีเขา เราก็ยังอยู่อย่างมีความสุขได้ 

หากชีวิตคือนาฬิกา และ เข็มสองเข็มคือความรัก 
มันก็ยังมีโอกาสที่จะใส่ถ่านความรักก้อนใหม่อยู่ทุกเวลา 
และเข็มสองเข็มก็ยังมีโอกาสเริ่ม
เดินต่อไปอีกครั้งหนึ่ง. . .				
11 มีนาคม 2552 10:55 น.

ในวันที่..รักออกแบบไม่ได้

อัศมาวดี

ความรักไม่อาจกำหนดได้
อย่างที่เค้าพูดกันว่า  ความรักออกแบบไม่ได้
ฉันเห็นจริงกับประโยคนี้
  
อย่างที่บอก  ความรักมิอาจกำหนดได้
มิอาจสั่งหัวใจได้ว่า  ให้รักใคร ไม่รักใคร
เพราะหัวใจ   ของเราเป็นอวัยวะเพียงอย่างเดียว  ที่อยู่นอกเหนือคำสั่งของสมอง
เพราะถ้าเมื่อหัวใจเรารักแล้ว  คงเป็นการยากที่จะสั่งให้หัวใจเลิกรัก
  
คงไม่เป็นไร....
ถ้าเกิดว่าหัวใจของเราเกิดรักใครขึ้นมาสักคน และเขาคนนั้นมีหัวใจที่ตรงกับเรา
คงไม่เป็นไร.....
ถ้าเกิดว่าหัวใจของเราเกิดรักใครขึ้นมาสักคน และเขาคนนั้นไม่เจ้าของหัวใจ
คงไม่เป็นไร......
ถ้าเกิดว่าหัวใจของเราเกิดรักใครขึ้นมาสักคน   และเราไม่มีใครอยู่ในหัวใจก่อนแล้ว
เราก็คงสุขสมหวังกับความรักที่เกิดขึ้น
  
แต่ในทางกลับกัน  
ถ้าว่า...เขาคนนั้น......มีหัวใจไม่ตรงกับเรา
ถ้าว่า...เขาคนนั้น.....มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว
ถ้าว่า...เรานั้น.....ก็มีใครอีกคนอยู่แล้วในหัวใจ..
  
ถ้าเป็นเช่นนี้...
มันคงเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวด ไม่น้อย
ถ้าเลือกได้  ทุกคนคงจะเลือกแต่รักที่สุข  สมหวังเท่านั้น
แต่ก็อย่างที่บอก ความรักออกแบบไม่ได้
ถ้าเลือกได้   คงไม่มีใครอยากเลือกที่จะเจ็บปวด   คุณว่าจริงมั้ย ?
    
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัศมาวดี
Lovings  อัศมาวดี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัศมาวดี
Lovings  อัศมาวดี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัศมาวดี
Lovings  อัศมาวดี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัศมาวดี