6 มกราคม 2551 01:53 น.
อินทรีน้อย
หนาวน้ำค้างพลางยินเพลงพิณแผ่ว
ท่ามถิ่นแถวทุ่งร้างกลางคืนเหงา
ผู้ใดเล่าร่ายเพลงพิณแผ่วเบา
สื่อเสียงหม่นปนเศร้าหรือสุขใด
รอบกายเงียบสงบอยู่อย่างนั้น
ไร้แสงจันทร์ดาวเด่นจึงสุกใส
ยลกลอนคล้ายได้ยินเสียงพิณไกว
เห่กล่อมใครนะเจ้า "พิณเศร้า" ,,,เพลง...
5 มกราคม 2551 19:07 น.
อินทรีน้อย
แค่ได้ยินเพียงคำว่าคิดถึง
ก็โชยกลิ่นหอมตราตรึงมิแหนงหน่าย
แค่นิดหน่อยนะไม่ต้องมีมากมาย
อยู่กลางใจ.......แล้วเลือนหาย ไม่รู้แล้ว
แค่ทุ่มเทกับสิ่งใดมากไปนิด
ลมชีวิตที่คุโชนก็เพียงแผ่ว
ฝากคิดถึงเจ้าดวงดาวที่พราวแพรว
ที่วับแววในตางามเจ้าคู่นั้น
แค่ดวงหน้าไม่เลือนหายรอยยิ้มชื่น
ก็ประดับวันและคืนให้สุขสันต์
ช่างฟ้าเถิด ช่างดาวเถิด ช่างพระจันทร์
กี่ร้อยพันแสงสุริยาก็พร่าพราง
5 มกราคม 2551 19:03 น.
อินทรีน้อย
เห็นเรียวรุ้งพริ้งพรายท่ามสายหมอก
ที่โปรยปรายลงหยอกยอดทิวสน
สะท้อนแสงแดดเช้าเจ้าสุริยนต์
แม้เจือจางก็ชวนยลยามรุ้งพราย
จึงเดินฝ่าแพรม่านหมอกอรุณ
สัมผัสไอน้ำละมุนมิขาดสาย
สบผีเสื้อโบยบินมาทักทาย
สัมผัสไออุ่นความหมายปลายปีกบาง
จึงหยุดการเยื้องย่างอย่างเงียบเงียบ
ให้ผีเสื้อบินเลาะเลียบไม่ไกลห่าง
เพื่อซึมซับมิตรภาพมิจืดจาง
ท่ามแพรหมอกจางจางก่อนร้างไร้