27 มีนาคม 2552 02:48 น.

ขอบคุณที่เธอเข้ามาอยู่ในความทรงจำ (หมอกจาง)

อินทรีน้อย

ในคืนที่นาฬิกาหมุนช้าเชื่อง
จันทร์เรื่อเรืองทอประกายปลายแดนฝัน
ในทรงจำจึงเรื่องเราเคล้าแสงจันทร์
มีเธอ,ฉัน ท่ามคืนวันที่สวยงาม

รอยบาดแผลระหว่างเราไม่มีจริง
ทุกทุกสิ่งสะเทือนใจเพราะไหวหวาม
ที่เจ็บปวดก็เพราะรักเกินนิยาม
ไม่ใช่ความเกลียดชังแต่อย่างใด

เราปิดตาเดินทางไปด้วยไม่รู้
ในลมลู่พลิ้วพัดผ่านเพียงวูบไหว
สิ่งต่าง ๆ ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป
โปรดรู้ไว้คิดถึงเธอเสมอเลย

ฉันเฝ้ามองหาเธอ ณ ท่ามทาง
แต่เคว้งคว้างในใจไม่อาจเอ่ย
ทุกทางแยกที่เฝ้ามอง แต่ไม่เคย-
ได้พบเธอที่ไหนเลย คนเคยคุ้น

หลับตาลงยิ้มให้เธอในทรงจำ
ทุกถ้อยคำ ในเคลื่อนไหวและไออุ่น
ความรู้สึกยังวิบไหวละไมละมุน
นาฬิกาก็คล้ายหมุนช้าช้าไป

ทุกเรื่องราวระหว่างเราเหมือนย้อนกลับ
ในความเงียบทุกสิ่งสรรพคล้ายหลับใหล
แต่ "ความรัก" หรือให้เรียกว่าอะไร
ยังหมุนทวนในห้วงใจไม่เลือนลาง

นาฬิกาดูหมุนช้ากว่าเคยหมุน
ฉันขอบคุณในทุกสิ่งในทุกอย่าง
ที่นำเรามาพบกันท่ามฝันจาง
ให้ฉันได้มีเธอข้างความทรงจำ				
11 มีนาคม 2552 12:24 น.

จะผกโผบินดั่งหนึ่งนก

อินทรีน้อย

หากจะผกโผบินดั่งหนึ่งนก
หากเหาะเหินดั่งวิหกสู่ห้วงหาว
สูงลิบลิ่วไปเทียมจันทร์ตะวันดาว
คงเหน็บหนาวน่าดูอยู่สูงนัก

เคยลองแหงนหน้ามองบนยอดไม้
สูงขึ้นไปสิบวาตาประจักษ์
ก็ลองป่ายปีนปลายแทบตายชัก
ได้สักพักแลลงมาแทบบ้าตาย

ปีนขึ้นต่อก็ไม่ไหวใจมันสั่น
หนักกว่านั้นมองลงมามันใจหาย
มันหวิวหวิวว้าวุ่นกระวนกระวาย
เหงื่อเม็ดโป้งโซมกายแทบไร้แรง

ค่อยค่อยไต่ลงมากว่าจะถึง
ตอนอยากขึ้นปีนประหนึ่งความเร็วแสง
แต่ตอนลงสิลำบากอยากตะแบง
เพราะเรี่ยวแรงมีเท่าไหร่ก็ไร้ร้าง

แต่หากสูงระดับนกโบกโบยบิน
คงได้กลิ่นหวาดผวามาห่างห่าง
เพราะทั้งสูงทั้งเยียบเย็นเป็นเคว้งคว้าง
คงไม่ต่างปีนต้นไม้เท่าใดนัก

เดินแล้วล้มท่ามกงล้อก็ดีอยู่
ได้ฝึกรู้วิธีลุกไม่ทุกข์หนัก
แต่หากบินแล้วหล่นมาน่ากลัวนัก
แข้งขาหักมากกว่านั้นก็ไม่รู้				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอินทรีน้อย