23 สิงหาคม 2550 08:05 น.

พอกันที

เก็จถะหวา

      
พอกันที  โดย  เก็จถะหวา

รัตน์บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมคนที่ใจคอมั่นคงอย่างที่เพื่อน ๆ  เคย
ล้อเธอว่า  ใจแกร่งดังเหล็กเพชร   ถึงได้ตกหลุมรักเขาเข้าได้  แถมยัง
รักชนิดที่ว่าถอนตัวไม่ขึ้นเสียด้วย  เฮ้อ!  คิดมากไปทำไมให้ป่วยการมัน
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ไม่ใช่หรือรัตน์เองก็ไม่ได้อยู่เหนือกฏเกณฑ์
อย่างนั้นด้วยนี่นา  เพราะก็ยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง   

หวนคิดคำนึงไปถึงวันที่พบรู้จักกับอนุตรครั้งแรกแล้วรัตน์ก็คงยัง
จำได้แจ่มแจ๋วในสมองเลย  ก็วันนั้นไง   วันเกิดของสารินีเพื่อนคู่หู  วันนั้นรัตน์
หมกหมุ่นอยู่ก้นครัว เพราะสารินีขอร้องในฐานะที่ทำอาหารถูกปาก
เจ้าของงานเข้า   เลยต้องรับภาระเป็นแม่ครัวเอก  ขณะที่เธอสาละวน
กะตะหลิวและกะทะอยู่นั่นเอง   เขาก็โผล่เข้ามาทางประตูห้องครัวพร้อม
กับจานเปล่าในมือ

           แม่ครัวครับ  ขอผักบุ้งผัดอีกสักจานเถอะครับ
           อะไรกันหมดอีกแล้วเหรอ  ตะกละกันจริง ๆ นะ  รัตน์บ่นโดย
             ไม่ได้หันกลับไปมองว่าเขาเป็นใคร
          เปล่าตะกละนะครับ    ก็คุณอยากทำอร่อยเองนี่ครับ
          อ๋อสรุปแล้วก็ฉันเองที่ผิด  ขอโทษนะคะที่ทำอาหารอร่อยเกินไป
         แล้วแม่ครัวทานอะไรหรือยังครับ  เดี๋ยวจะเป็นลมเสียก่อนนะครับ
         ชิมจนอิ่มแล้วค่ะ   เอ้า! นี่ได้ละค่ะ ผัดผักบุ้งของคุณ  

รัตน์พูดจบก็กลับหลังหันส่งจานผัดผักบุ้งร้อน ๆ ให้เขา  โดยหารู้ไม่ว่าเขายืนอยู่ข้าง ๆ  จานผักบุ้งจึงหกและราดถูกตัวเขาเข้าพอดี

            โอ๊ย! ช่วยด้วยไฟไหม้ !  

เพื่อน ๆ  ที่มาในงานพากันวิ่งกรูเข้ามาในครัวรัตน์ตกใจกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรมากเพราะเป็นความผิดของเธอที่ซุ่มซ่าม  จึงรีบปฐมพยาบาลให้แต่โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก  แต่ที่เป็นเอามากกลับเป็นตัวของรัตน์เองเพราะตื่นเต้นมากไปเลยไม่ทันระวังตัว ระวังใจ โดยแอบปิ๊งเขาเข้าไปแล้ว  ก็ยังดีที่ตาต่อตามาประสบพบพานประสานเป็นสายใยรักถักทอขึ้นมาเองรัตน์กับอนุตรเลยกลายเป็นคู่รักคู่รสกันจนได้ในที่สุด  และเป็นที่ทราบกันดีในหมู่เพื่อนฝูงว่าทั้งสองต่างรักใคร่กันดี  มีทั้งความรัก  ความเข้าใจ ซึ่งทั้งสองคนน่าจะไปกันด้วยดี   เพราะเหมาะสมกันทั้งหน้าที่ การงาน  ฐานะ การศึกษาก็พอ ๆ กันทุกอย่าง  เรื่องก็เกือบจะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ผัดผักบุ้งไฟแดงแล้ว  ถ้าหากไม่มีเหตุการณ์ในวันนั้น
        
   รัตน์  รัตน์  อยู่หรือเปล่า?
 ใครมาหรือจ๊ะ  รัตน์ไม่อยู่หรอกจ้ะ  ไปตลาดจ้ะ  อ้อ! หนูเล็กนั่นเอง  มีธุระ
อะไรกับรัตน์หรือจ้ะ ดูท่าทางชอบกล  บอกแม่ได้ไหม?

 เอ้อ.........จริง ๆ หนูก็ไม่อยากพูดหรอกค่ะ  แต่เป็นห่วงรัตน์เขากลัวตัดสินใจ
ผิดพลาด  หนูกับรัตน์สนิทกันมานานไม่อยากเห็นเพื่อนผิดหวังค่ะ อย่างไรก็กัน
ไว้ดีกว่าแก้นะคะ

มีอะไรไม่ค่อยดีหรือ   เกี่ยวกับพ่ออนุตรใช่ไหม  แม่คงเดาไม่ผิดเพราะได้ข่าวมาเหมือนกันว่าเคยมีอะไรๆ กับแม่ยุพินนักร้องหรือสาวเสริฟห้องอาหารดาวประดับฟ้าอะไรนี่แหละ  แม่ก็เคยถามเขาอยู่เหมือนกัน  เขาก็ดีนะยอมรับความจริง แต่เขาบอกว่ามิได้คิดจริงจังอะไร  และตอนนี้ก็เลิกยุ่งแล้ว  แม่เลยมิได้ติดใจสงสัยอะไร  แม่คิดว่ามันก็ยังไง ยังไงอยู่นะน๊า  คนของเราก็รักเขาจน
ตาบอด  เขาพูดอะไรก็เชื่อหมด  อ๊า!นั่นมาพอดี  หนูช่วยไขความจริงให้เขากระจ่างแจ้งหน่อยสิ  เผื่อจะได้ตาสว่างขึ้น

แล้วผู้หวังดีก็ร่ายยาวเรื่องของอนุตรให้รัตน์ฟัง  ตอนแรกรัตน์ไม่คิดว่าเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรเพราะรัตน์ถือเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่จะต้องมีการท่องเที่ยวประสาหนุ่มโสด  แต่ที่หนูเล็กบอกว่าเขามีเด็กด้วยนี่สิ  ทำไมรัตน์ถึงโง่เง่าไม่รู้เรื่องเลย  เขาก็เหลือเกินไม่เคยแย้มพรายปริปากบอกรัตน์ แม้แต่น้อย ทำไมต้องมีความลับต่อกัน  ฮึ! คงคิดจะปิดกันละสิ! ไม่ได้การต้องลุยถึงที่ให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย    ว่าแล้วรัตน์ก็ซ้อมบทบาทไว้ในใจอย่างดีคอยดูนะถ้าเจออย่างหนูเล็กบอกจริง ๆ  ฉันกับคุณต้องพอกันที................................

หนูเล็กพารัตน์ตรงแน่วไปที่บ้านของอนุตร  พอไปถึงก็จับได้คาหนังคาเขาพอดี  เขากำลังนั่งไกลเปลเห่กล่อมลูกน้อยอยู่พอดี  ซึ่งทุกครั้งที่รัตน์เคยมาก็ไม่เคยพบเคยเห็นเลย  นี่สงสัยคงจะรอกะว่าถ้าได้แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวแล้วถึงจะยอมเผยความจริงละสิ  พอถ้าถึงขนาดนั้นรัตน์ก็คงจะไม่กล้าโวยวาย  จำต้องปล่อยเลยตามเลยและยอมรับสภาพการณ์โดยปริยาย  ฮึ! ผู้ชายนะผู้ชาย  คงคิดว่าฉันโง่เง่า   หลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้น   รัตน์คิดในใจ  แล้วบุกเข้าไปทันที

              อ้าว! รัตน์มาได้ยังไงเนี่ย  เย็นนี้ผมว่าจะไปปรึกษาเรื่อง
                 แต่งงานของเราพอดีเลย"
               ฮึ! พอกันทีคนหลอกลวง  เห็นอยู่กับตายังจะมาพูดเรื่องแต่งงม
                 แต่งงานอีกเหรอไม่ต่งไม่แต่งแล้ว  คุณเห็นฉันเป็น
                ยังไงหือ  คิดว่าความรักจะทำให้ฉันตาบอดได้ละสิ   
                 จนป่านนี้แล้วคุณยังจะโกหกฉันไปถึงไหน  พยานก็เห็นอยู่โท่นโท่
                 นี่อะไร?

รัตน์พูดไปได้แค่นั้นก็ปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ   รัตน์ผิดหวังสุดขีดเมื่อชายที่เธอรักและคิดว่าเข้าใจเขาทุกอย่าง   กลายเป็นผู้ทรยศอย่างเลือดเย็นที่สุด

               อะไรกันรัตน์   ฟังผมบ้างสิ   มาถึงก็ไม่ถามไม่ไถ่ใส่ผมเป็นชุด ๆ 
             เล่นตลกอะไรกันหรือเปล่า   นี่นะหลานผมเองนะ  พอดีพี่นวล
             พี่สาวของ ผมเขาเอามาฝากเลี้ยงเพราะเขาต้องไปอบรมที่
             พัทยา  ๗  วัน  ไม่มีคน ดูแลให้   พอดีผมว่างช่วงบ่าย ๆ  
              ก็เลยอาสาแม่ไกวเปลให้เพื่อแม่ จะได้พักผ่อนบ้างก็เท่านั้นแหละ

โธ่! รัตน์หนอรัตน์ไม่น่าหูเบาเล้ยเลยต้องหน้าแตกหมอไม่รับเย็บกันก็คราวนี้แหละ  ดีนะที่อนุตรเขาเข้าใจไม่ถือสาอารมณ์ ที่วู่วามเพราะความรักของรัตน์  เพียงแต่เขาได้ทีเลยถือโอกาสสั่งสอนรัตน์ว่า  คุณธรรมของผู้ครองเรือนหรือมีครอบครัวนั้นจะต้องมีฆราวาสธรรมสี่ประการ คือ   สัจจะ  คือความซื่อสัตย์  ทมะ  คือความข่มใจ   ขันติ  คือ ความอดทน  และจาคะ คือ ความเสียสละ  รัตน์เลยยิ้มไม่ออกบอกไม่ถูกไปเลย ...................................











				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเก็จถะหวา
Lovings  เก็จถะหวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเก็จถะหวา
Lovings  เก็จถะหวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเก็จถะหวา
Lovings  เก็จถะหวา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเก็จถะหวา