28 สิงหาคม 2549 14:33 น.

The E-mail (3)

เทพดารา

หวนคืนอดีต (ตอนที่ 2)

     	มันเป็นความจริงที่จะเอาอะไรแน่นอนกับผู้หญิงในเน็ตไม่ได้เลย เพราะล่วงเลยมาสอง สามเดือน ผมก็เริ่มเบื่อ เพราะตอบเมล์ไป  มา ก็วกวนอยู่ไม่กี่เรื่อง จึงเลิกติดต่อกับสาวๆ เหล่านั้น แต่เหลือคนหนึ่ง ที่ผมยังคงติดต่ออยู่

      เธอมีอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่เวอร์ ไม่หวาน ตรงไปตรงมา คำไหนคำนั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ผมยังคงคบกับเธออยู่ เราเจอกันในเว็บแห่งหนึ่ง (www.thaipoem.com มั้งนะ) ซึ่งเป็นเว็บที่รวมพลคนชอบเขียนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบทกลอน เรื่องสั้น นิยาย ความเรียง และอีกมากมายแล้วแต่จะเขียน

      เธอชอบเขียนนิยายมาลงในเว็บนี้บ่อยๆ โดยใช้นามปากกาว่า น้ำค้าง ส่วนผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเขียน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นบทกวีซะมากกว่า และใช้นามปากกาว่า ต้นกล้า ดูไปเหมือนว่าเราจะไปคนละแนว แต่ในความแตกต่างกลับมีอะไรที่เหมือนกันอยู่ นั่นคือนิยายและบทกวีของเราผสานเป็นเรื่องเดียวกันได้ ผมแต่งบทกวีเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวละครของเธอ ส่วนเธอก็เอาบทกวีของผมไปใส่ไว้ในเรื่องสั้นของเธอ
				
25 สิงหาคม 2549 16:36 น.

The E-mail (ตอน2)

เทพดารา

	จริงซินะ ตั้งแต่ผมได้มาทำงาน ก็รู้สึกว่าผมจะลืมเรื่องราวในอดีตไปเสียทั้งหมด ผมยังอยู่แต่กับปัจจุบัน และอนาคต อีเมล์ฉบับนี้อาจจะมาคอยย้ำเตือนถึงเมื่อครั้งในอดีตอันหวานชื่น ถึงแม้ว่ามันจะส่งมาจากไหนก็ตาม แต่ผมก็ยังมีความรู้สึกดีเสมอ

	หลังจากที่ผมได้รับอีเมล์นั้น ผมก็ตอบไป และหวังว่ามันคงจะมีตอบกลับมาเช่นกันในวันพรุ่งนี้ ผมกลับมาบ้านล้มตัวลงนอนไม่อยากอาบน้ำ ตาก็เหมอลอยมองดาวดวงน้อย ระยิบระยับประดับฟ้าในยามราตรี ผ่านช่องหน้าต่างที่แสนจะเดียวดาย

	นึกถึงอดีตเมื่อสามปีที่แล้ว ขณะนั้นเรียนอยู่ปี 3 ในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านเมืองหลวง หลายคนอาจจะเคยเล่นเน็ตในห้องสมุดประจำเหมือนกับผม ในขณะนั้นผมจะเป็นขาประจำของห้องสมุดเลย จนอาจารย์บางท่านตั้งฉายาว่า ไอ้หนอน ไม่ใช่นอนหนังสือหรอกนะครับ แต่เป็น หนอนเน่า เพราะผมมักจะไปตอบอีเมล์ จีบสาวๆ เป็นประจำในห้องสมุด

	หรือไม่บางครั้งก็จะแอบดูน้องหนู นุ่งน้อย ห่มน้อยบ้าง ในช่วงที่ไม่ค่อยมีใครพลุกพล่านนัก แต่ก็มีบางครั้งที่กำลังดูภาพอย่างว่า กำลังโหลดได้แค่ครึ่งตัว หันไปข้างหลังเจอบรรณารักษ์กำลังยืนตาถลน ราวกับว่าโกรธแค้นมาแต่ชาติปางก่อน เลยโดนยึดใบห้องสมุดไปซะตั้งหลายวัน ก็แหม...คนมันกำลังอยากรู้อยากเห็น มีเน็ตไว้ให้ศึกษาหาความรู้ ก็อนุโลมกันบ้างเถอะ.....โธ่

	เฮ้ย...นี่ไอ้หนอน...ถามจริงๆ เถอะวะ แกจะเอาจริงจังกับพวกในเน็ตไปถึงไหนกันวะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีพวกนั้นมันแหลจะตาย
	ไอ้ต๋อง หนึ่งในกลุ่มของเพื่อนผม พูดขึ้นมาระหว่างนั่งพักระหว่างคาบเรียนในกลุ่ม ทำให้เกิดประเด็นกล่าวหาผมเป็นการใหญ่

	โธ่เอ้ย....ข้าไม่ได้จริงจังกับพวกนั้นหรอกโว้ย มันเป็นการลับคารมย์ คมคาย เอาไว้เผื่อเจอของจริง จะได้งัดมาใช้ได้ทันการณ์ว้อย....เอ็งนี่ ไม่รู้อะไร
	ผมสวนไปทันควัน เพื่อไม่ให้เสียเชิง 

แต่ก็มีเสียงผะอืดผะอมตามมา
	อ้วก....ยุคนี้ มัวแต่เปิดตำรา งัดวิชามาใช้ ไม่ทันกินหรอกวะ ดูอย่างข้าซิ ไม่เห็นต้องใช้คารมย์อะไรมากมาย สาวๆ ก็มอบใจให้เป็นพรวน จริงมั๊ยจ๊ะน้องสาว...
	ไอ้แหลม เพื่อนจอมหลี่ประจำกลุ่ม คุยโวทับ พร้อมกับหันหน้าไปแซวสาวโต๊ะข้างๆ ตามสไตล์

	โอ้ย...ไอ้คุณแหลม...คารมย์อย่างแก่ ต้องคาตีนแม่นี่...
	ยายหมูอ้วน ในกลุ่มสาวๆ โต๊ะข้างๆ โวยมาแต่ไกล ทำเอาไอ้แหลมหน้าจ๋อยไปเลย เรียกเสียงฮาจากคนทั้งห้องอาหาร รวมถึงกลุ่มเราด้วย
-------------------				
25 สิงหาคม 2549 15:56 น.

The E-mail (ตอน 1)

เทพดารา

	ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2547 วันนั้น ถึงแม้จะเป็นวันที่ผมรอคอยมาโดยตลอด แต่เมื่อผ่านวันนั้นมาแล้ว ผมไม่อยากให้มันมาถึงอีกเลย ผมไม่อยากให้มีวันนั้น เพราะมันได้พรากสิ่งที่ผมรักและหวงแหนที่สุดของผมไป หญิงสาวที่ผมให้ความรัก ความผูกพันมาเป็นเวลาแรมปี ต้องจากไปไม่หวนคืน เธอต้องมาจบชีวิตด้วยวัยเพียง 21 ปี ซึ่งเป็นวัยที่กำลังรุ่งเรือง เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างวัยเรียนและวัยทำงาน

	เวลาผ่านไป 2 ปีแล้ว เร็วเหลือเกินในความรู้สึกของผม ป่านนี้เธอคงจะไปสู่สุคติ หรือไปเกิดใหม่แล้วล่ะ ผมหันหลังให้กับภาพในอดีต แล้วพูดกับตัวเองว่า อดีตไม่หวนคืน แต่จุดยืนยังเหมือนเดิม แล้วเดินหนีไป ทิ้งไว้แต่จุดยืนเอาไว้ให้ระลึกถึงอดีตเมื่อมาเยือนอีกครั้ง
-----------------------
	พี่ต้น วันนี้มีนักเขียนส่งต้นฉบับมาให้พิจารณา 2 คนครับ 
	วิชิต ซึ่งเป็นผู้ช่วยของผมเอาต้นฉบับของนักเขียนหน้าใหม่มาให้พิจารณา วางไว้นั้นแหละ เดี๋ยวพี่เขียนเรื่องนี้เสร็จก่อน ผมสั่ง
	อันที่จริงหน้าที่บรรณาธิการบริหารนิตยสารเล็กๆ ฉบับหนึ่ง มันก็ไม่วุ่นวายอะไรนักหรอก แต่ผมขี้เกียจอ่านในตอนนี้

	ในสำนักพิมพ์ของเรา มีนิตยสารอยู่หลายหัว แต่ของผมเป็นนิตยสารเกี่ยวกับวรรณกรรม เรื่องสั้น และนวนิยาย จึงไม่ค่อยจะมีเรื่องสดให้หนักใจสักเท่าไร ที่น่าหนักใจก็คือการที่ต้องมานั่งอ่านเนื้อหาที่จะนำมาลง เพราะมันเยอะมาก วันหนึ่งๆ อยู่แต่กับตัวหนังสือ นั่งอยู่แต่หน้าจอคอมฯ จนทุกคนต้องยืมของตามาช่วยอีกแรง นั่นคือแว่นตา... หลายคนอาจจะคิดว่าพวกเราชอบอ่านหนังสือมาก แต่ขอโทษ ที่ทำลงไปนะ มันเป็นหน้าที่ สิ่งที่เราชอบมากก็คือการได้นั่งคิดและเขียนเรื่องเองซะมากกว่า


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพดารา
Lovings  เทพดารา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพดารา
Lovings  เทพดารา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพดารา
Lovings  เทพดารา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเทพดารา