28 พฤษภาคม 2549 22:53 น.

ผมเป็นมะเร็ง Just I'm mareng ( Cancer )

เพลงกลางป่า

ผมเป็นคนรักแม่มาก ผมก็รักพ่อเช่นเดียวกับแม่ แต่ท่านไม่อยู่แล้วตอนที่
ผมอายุเพียง 3 ขวบ ด้วยอุบัติเหตุ พ่อผมขับรถขนส่งผักเข้ากรุงเทพ และใน
 คืนวันที่ 14 มิถุนายน 2515 เป็นคืนที่ผมไม่ได้เห็นหน้าพ่ออีกเลย รถบรรทุก
สิบล้ออยู่ในอาการเมาสุราขับชนพ่อด้วยความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทำให้กระดูกแขนของพ่อผมหมุนไปได้รอบ และตอนนั้นท่านไม่มีวิญญาณใน
ร่างแล้ว เท่าที่ผมรู้จักพ่อมาตลอดก็คือ รูปถ่าย ของพ่อนั่นเอง นอกไปจากนี้
แล้ว แม้กระทั่งเสียงของพ่อ คำดุด่าว่ากล่าวสั่งสอนของพ่อ ผมไม่เคยสัมผัสเหมือนใครอื่นเลย เพียงเพราะชายเมาสุราที่ถึงแม้เขาจะเสียชีวิตพร้อมกับ
พ่อของผม แต่มันก็ไม่คุ้มค่ากันเลย กับสิ่งที่ผมได้รับไป

   ผมเป็นเด็กบ้านนอก หลังจากที่พ่อผมเสียชีวิต ด้วยวัยของผมเพียง 3 ขวบ
จากที่แม่เคยเป็นแม่บ้านเคยดูแลน้องของผมอีก 1 คนแล้ว แม่ก็เริ่มต้นด้วย
อาชีพรับจ้าง แม่รับจ้างทุกอย่าง รับจ้างล้างจาน ตามงานเลี้ยงได้ค่าแรงครั้งละ
70 - 80  บาท รับจ้างซักผ้าส่งตามบ้าน พอประทังชีวิตทั้ง 3  ชีวิต แม่ลูกไปได้
แม่ผมลำบากตรากตรำมาก แต่สิ่งที่ผมได้รับมันตรงข้ามจากแม่มาก ผมอยาก
จะช่วยแม่ทำงาน แต่ทว่า ผมไม่เคยได้รับคำชมจากแม่เลย แต่แม่กลับไล่ให้
ผมไปอ่านหนังสือ มันทำให้ผมรู้สึกแย่ ถึงแม้ว่าแม่อยากจะส่งให้ผมเรียน แต่
แม่ก็น่าจะให้ผมช่วยงานแม่บ้าง แม่ไม่ยอมให้ผมลำบากเลยจริงๆ มันเป็นสิ่ง
ที่น่าอัศจรรย์สำหรับคำว่า .. แม่ ..

   ผมเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่หก ที่โรงเรียนใกล้บ้าน ผมไปเรียนต่อใน
ตัวเมือง ความจริงแล้วผมอยากจะเรียนโรงเรียนใกล้บ้านมากกว่า เพราะค่า
เทอมไม่แพงมากนัก และที่สำคัญผมไม่อยากให้แม่ต้องลำบากมากขึ้นเรื่อง
ค่าเดินทาง แต่แม่ปฎิเสธ แม่ให้ผมเรียนโรงเรียนในเมือง ซึ่งไกลจากบ้าน
ผมราวๆ 10 - 12 กิโลเมตรโดยประมาณ ผมขึ้นรถประจำทางไปโรงเรียนทุกวัน
แม่ผมยอมลำบากมา 6 ปี ผมสอบโควต้าได้ทุนเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่ง
หนึ่ง สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ที่ผมเลือกคณะนี้เพราะชอบวิชาคณิตศาสตร์มาก
ผมชอบวิชาฟิสิกส์ โดยเฉพาะยูคลิด และเรขาคณิต
   
    หลังจากที่ผมเรียนจบแล้ว ผมทำงานชดใช้บุญคุณของรัฐบาลอยู่ 7 ปี จากนั้น
ผมลาออก เพราะผมเบื่อจากอาชีพนี้มาก และผมต้องทำงานอยู่แต่กรุงเทพ มัน
ไกลจากบ้านผมมาก หลังจากที่ผมลาออกได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ผมกลับมาอยู่ที่
บ้าน ผมเก็บรวบรวมเงินที่เหลือสร้างบ้านให้แม่อยู่ และช่วยส่งน้องเรียน สำ-
หรับชีวิตตัวผมไม่มีอะไรมากมายนัก ไม่มีซีดีฟังเพลงในห้องนอน ไม่มีที่นอน
นุ่มๆ ไม่มีไวน์ราคาเป็นแสนที่นักการเมืองบางคนชอบดื่มกัน ไม่มีรถหรูหรู
ขี่สำหรับรับแฟนสาวไปเที่ยว ผมใช้ชีวิตตามลำพังที่มีเพียงแม่และน้อง ผมมี
ความฝันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า จะได้ตอบแทนคุณแม่ และช่วยเหลือน้องมาเสมอ
ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว และทำร้านขายของเล็กๆหน้าร้าน เพราะผม
ติดแม่มาก มันจะมีความหมายอะไรถ้าผมทำงานด้วยเงินเดือนหลักหมื่นแต่ขาด
คนที่รักอยู่ใกล้ๆ มันจะมีความสุขอะไรกับโลกแสงสี แต่ไม่มีแม้ใครสักคนที่จริง
ใจกับเราเท่าแม่และน้อง

    ชีวิตที่แสนสบายมาจากจิตใจของเราทั้งนั้น คนเราไม่จำเป็นต้องเฟ้นหาเงิน
ทองเท่ากองภูเขา ไม่จำเป็นต้องมีบ้านหรูหราดั่งคฤหาส เพียงแต่มีที่หลับที่นอน
มีอาหารให้กิน มียาให้ใช้ยามเจ็บป่วย และที่สำคัญมีคนที่เรารักและรักเราอยู่
เคียงชิดใกล้ จะมีอะไรสุขสบายไปกว่านี้อีกแล้ว

    ผมเลิกงานคำนวนมาเป็นเจ้าของร้านขายของในหมู่บ้านของผม ทว่าดวงของ
ผมมารุ่งทางนี้พอดี หมู่บ้านของผมไม่ค่อยจะมีร้านขายของนัก นอกจากตลาดแล้ว
ร้านของผมก็จะเป็นที่พึ่งสำหรับคนในหมู่บ้านในยามขาดแคลนข้าวของเครื่องใช้
ได้ดีเลยทีเดียว เงินที่ได้มามันต่างจากที่ผมทำงานในกรุงเทพ แต่ผมก็อยู่สุข
สบายดี มีแค่เงินพอใช้
   
    นับจากที่ผมกลับมาจากกรุงเทพได้ปีกว่า ผมมีอาการไอมาโดยตลอด และไอ
แบบแห้งๆ ไม่มีเสลด ผมปล่อยละเลยไปจนนาน จนแม่ผมต้องเกรี้ยวกราดให้
ผมไปหาหมอ หมอไม่ได้ตรวจอะไรมากนัก และก็ให้ยาแก้ไอผมมาทาน ผมก็
กลับมาดีขึ้น

   แต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็กลับมาไออีก และมันก็หนักขึ้นเรื่อยๆ จนผมไม่
ต้องรอให้ใครบอก ผมตัดสินใจไปหาหมอที่กรุงเทพ ตอนนั้นเพื่อนผมที่เรียน
ด้วยกันแนะนำให้ไปหา เพราะอาการไอของผมท่าจะไม่ดี ผมได้กลิ่นเลือดใน
คอ แต่ว่าไม่ได้ไอออกมาเป็นเลือด ผมหายใจไม่ค่อยสะดวก วันนั้นที่ผมเดิน
ทาง หมอเอ็กซเรย์และตรวจร่างกาย ตรวจความดันผม แต่ผลที่ออกมามันไม่
ปรกติ หมอเอ็กซเรย์และบอกว่า ปอดผมมีก้อนเนื้อผิดปรกติขึ้นมา วันนั้นผม
นอนพักที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าวันรุ่งขึ้นจะขอตรวจขอดูดน้ำในปอดขึ้นมา
ถ้ามันมีสีแดง แสดงว่ามันมีเชื้อ .. มะเร็ง .. มันเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดเท่าที่ผมเคย
รู้สึกมา ในโลกนี้ ครั้งนี้ และชีวิตนี้จะมีเพียงหนึ่งครั้งแต่ไม่ใช่หนึ่งคน ผมได้
แต่ภาวนาว่า มันจะไม่เป็นอย่างที่ผมกังวลไว้ คือ มะเร็ง

   สายวันถัดมา หมอขอนัดตรวจ หมอลากเครื่องตรวจมาซึ่งมันดูเป็นเทคโน-
โลยีที่น่าแปลกตาตัวหนึ่ง ลักษณะเป็นเครื่องดูดอะไรสักอย่าง ซึ่งผมก็เดาไม่
ผิดว่ามันจะใช้ดูดของเหลวในปอดผม วินาทีนั้นเป็นวินาทีที่ลุ้นมาก ผมอยาก
จะหลับตาให้สนิทและไม่อยากรับรู้เลย ไม่อยากรู้ว่ามันจะเป็นอะไรก็ช่าง 
 
    มันเจ็บมากตอนที่หมอสอดสายเข้าไปในช่องทางเดินหายใจผม และเครื่อง
ก็ทำงาน ผมหลับตาและไม่ได้มองมันเลย

  
  เช้าวันรุ่งขึ้น หมอเชิญผมนั่ง  หมอบอกว่าผมมีเนื้องอกในปอด และผลตรวจ
บอกว่า ผม ... เป็นมะเร็ง



    คืนหลังจากที่ทราบผล ผมไม่ได้บอกให้ใครทราบเลย ผมกลัวเขาจะเสียใจ
และผมก็พูดไม่ออกด้วยที่ผมจะบอกให้คนอื่นรู้ว่าผมกำลังจะตาย มันเป็นความ
คิดที่ผมบอกว่าโง่ที่สุด ผมตัดสินใจฆ่าตัวตาย ผมโดดลงมาจากตึกชั้นสอง ใน
โรงพยาบาล แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น ผมยังคงหายใจอยู่ ผมกระโดดไม่พ้น
ระเบียงชั้นสอง และกลิ้งตกลงไปกองระเบียงชั้นหนึ่ง จนแขนผมหัก เนื่องจาก
ผมเอาแขนลง ผมพักรักษาตัวต่ออีก หลังจากนั้นไม่นานแม่ผมก็ขึ้นรถมาเยี่ยม
ผมที่โรงพยาบาล ผมโกหกแม่ไปว่าผมถูกรถชน แต่ไม่นานแม่ก็ทราบข่าวว่า
ผมเป็นมะเร็ง และผมคิดจะฆ่าตัวตาย แม่ผมเสียใจมาก และพยายามปลอบใจ
ผมเสมอ แม่มาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาลสลับกับน้องที่ต้องดูแลร้านที่บ้าน ผมดีใจ
มากที่แม่มาเยี่ยม ผมเครียดมากจนไม่กล้าบอกกับใครจนแม่ของผมมารู้เอง

   ....

...

คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าหมอเชิญให้คุณนั่ง และคุณรู้ว่าเรากำลังจะตาย คนเรา

บนโลกก็ตายด้วยกันทั้งนั้นแหละ จะไม่ว่าด้วยโรคร้าย อุบัติเหตุ สิ้นอายุขัย

หรือการประหารชีวิตนักโทษ 

...

แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ ผมมีความหวังและความฝันอีกมากมายในโลกอนาคต

มันเหมือนดั่งโลกนี้ของผมจบลงจริงๆนะ นาฬิกาแต่ละเรือนที่หมุนไป มันไวเสีย

จนเราตามมันแทบไม่ทัน

ทำไมล่ะ ทำไมคนที่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ถึงถูกนับถอยหลัง

ทำไมล่ะ คนที่สูบบุหรี่ กินเหล้า บางคนถึงไม่ถูกนับถอยหลัง 

คนที่รักตัวเองและอยากอยู่กับโลกใบนี้ไปนานๆ ถูกตัดสินให้จบชีวิตลง

คนที่ไม่รักตัวเองหรือแม้กระทั่งคนรอบข้าง คนที่ชอบทำให้พ่อแม่เสียใจ คน

ฆ่าตัวตาย เขาน่าจะมาเป็นแบบผม แล้วเขาจะรู้ว่า ชีวิตนี้ไม่อยากตายเลย

คนหลายคนอาจจะยังหลงระเริงอยู่กับความบรรเทิงในผับในบาร์ แต่ถ้าเขา

ลองมารู้ว่าอีกไม่นานเราจะตาย ก็จะรีบเร่งทำความดีหรือทำในสิ่งที่อยากจะทำ

ถ้าคุณกำลังทะเลาะหรือโกรธกับพ่อกับแม่มากๆจนปึงปังกระทืบเท้าคว้ารถหนี

ออกจากบ้าน หากพ่อแม่ของคุณกำลังจะตาย คุณก็อาจจะยินดียอมทนเขาได้

ทุกอย่างเพราะรู้ว่าเหลือเวลาไม่มากแล้ว

ทำไมล่ะ คนเราจะต้องทำดีกันตอนที่รู้ว่าเราจะตายหรือ ทำไมคนเราไม่ทำความ
ดีไว้ 

ปัจจุบันนี้ยังมีคนอีกมากมายที่ทำร้ายตัวเอง ทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่

คนที่ไม่รักตัวเองและทำร้ายตัวเองแบบนี้



อยากให้เขาลองเป็นผมบ้าง 

....

แล้วเขาจะรู้ว่า

การที่เราถูกเชิญนั่ง แล้วมีคนบอกว่า




เรากำลังจะตาย




มันรู้สึกอย่างไร

...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพลงกลางป่า
Lovings  เพลงกลางป่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพลงกลางป่า
Lovings  เพลงกลางป่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพลงกลางป่า
Lovings  เพลงกลางป่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเพลงกลางป่า