25 พฤศจิกายน 2548 17:41 น.

(-") วันฟ้าใสกับหัวใจสีชมพู ("-)

เฟรช

ข่าวร้อนแรงของการต้อนรับปี 2006 สุปเปอร์สตาร์ดังแห่งปี"คิมเจยอง"ลูกครึ่งไทยเกาหลีจะมาเยือนพร้อมกับผมงานของเมืองไทยเรื่องแรกในชีวิตของเค้าข่าวนี้กินพื้นที่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์บันเทิงไปทั้งหน้าแล้ว  แฟนคลับของหนุ่มคนนี้ต่างรอคอยด้วยความหวังกับการได้เห็นโฉมหน้าจิงๆของหนุ่มเกาหลีขวัญใจวัยรุ่นทุกคนในขณะนี้ด้วยดวงใจที่มีความสุข
  
  เวลา 05.30 น. สนามบินภูเก็ต
ขณะนั้นสนามบินเงียบเหงาไม่มีผู้คนพลุกพ่านมากนัก เหมาะสมอย่างยิ่งกับเวลาที่ดาราดังจะลักลอบเข้าสถานที่พักและสถานที่ทำงานที่ทำงานด้วยความเงียบสงบ
ขณะเดินทางจิตใจของเขาเบื่อหน่ายกับการต้องทำตามตารางเวลาในแต่ละวัน  ทำตามผู้จัดการซึ่งเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก  ทำตามคำสั่งต่างๆนานา ถ้าเขารู้อย่างนี้แล้วเขาจะไม่มีวันยอมเซ็นสัญญาเล่นหนังภาพยนต์เด็ดขาดเพราะหลังจากภาพยนต์เรื่องนั้นออกฉายชื่อของเขาก็ดังไปทั้งเอเชียแล้ว
    เวลานี้หระอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นขอบฟ้า  หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ริมระเบียงห้องพัก ตรงหน้าเธอมีผู้กัน สีน้ำ และกระดานวาดรูปตั้งอยู่  เธอเป็นผู้หญิงที่ดูภายนอกอ่อนหวานแต่ซ่อนไปด้วยความหยิ่งทะนงในศักศรีของการเป็นจิตรกร  นักเขียน และโปรดิวเซอ ซึ่งเป็นพรสวรรค์ของเธอ และการเป็นลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจหลายร้อยล้านที่มีกิจการต่างๆ มากมายนับไม่ถ้วน เบื้องหลังของดาราดังๆหลายคนที่ไปดังต่างประเทศนั้นก็เป็นฝีมือของเธอทั้งนั้นอีกทั้งบทภาพยนต์ต่างๆที่นักแสดงงแสดงนั้นก็เป็นผลงานการเขียนของเธอเช่นกัน แต่เธอไม่ค่อยจะยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามของเธอเท่าไหร่นัก  เธอนั่งค่อยๆบรรจงความรู้สึกที่มีอยู่ผ่านผืนกระดาษแผ่นตรงหน้านี้  ด้วยความรู้สึกว้าเหว่  และเดียวดาย ถึงแม้ภายนอกเธอจะเป็นผู้หญิงแกร่งนั้นแต่ภายในจิตใจของเธออ่อนไหวมากเลยทีเดียว  ผมเป็นลอนสีน้ำตาลตกลงมาปรกใบหน้าที่ขาดผุดผ่องซ่อนสีแดงระเรื่อเอาไว้ข้างใน ดวงตาที่คมกริบและริมฝีปากที่บางจนน่าสัมผัสนั้นทำให้เธอตกเป็นเป้าสมใจของหนุ่มหลายๆคนโดยปริยาย แต่การที่เธอมีทั้งสมบัติ และน่าตาที่สวยงามนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้แผลในใจของเธอดีขึ้นเลย  ตั้งแต่เล็กจนโตเธอได้เจอพ่อและแม่ของเธอปีละไม่ถึง 3 ครั้งด้วยซ้ำไป เธอเติบโตมาจากการเลี้ยงของผู้หญิงคนนึงซึ่งเธอรักและถือเอาผู้หญิงคนนั้นเปรียบเสมือนแม่ของเธอเลยทีเดียว
     
     "นี่จะเป็นการเก็บตัวสำหรับภาพยนต์เรื่องใหม่ของคุณนะจียอง"เสียงของผู้บริหารท่านนึงพูดขึ้นขณะอยู่ในห้องประชุม
     "คับผม"
     "แต่การที่คุณจะอยู่ที่นี่นั้นไม่ใช่การเก็บตัวเพียงอย่างเดียวแต่จะเป็นการเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อให้เข้ากับคอนเซปของการเดินทางมาโปรโมทอัลบั้มใหม่ของเมืองไทยด้วย ดังนั้นคุณจึงจำเป็นจะต้องมีโปรดิวเซอที่มีความสามารถ ซึ่งผมได้เตรียมให้คุณเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานคุณก็จะได้เจอเธอ"
     "อะ..อะไรนะคับ  โปรดิวเซอของผมเป็นผู้หญิงหรอคับ  ผมไม่เอาเด็ดขาดผมว่าเราเคยคุยกันแล้วนะคับว่าผมขอไม่เอาโปรดิวเซอผู้หญิงเด็ดขาด"
    "มันไม่เหมือนกันจียองโปรดิวเซอของคนนี้เค้าเป็นคนที่มีความสามารถมากนะ  เธอปั้นใครหลายๆคนให้เป็นซุปเปอร์สตามาแล้ว"
   "ตั้งถึงอย่างนั้นผู้หญิงก็อ่อนแออยู่ดี  ผมไม่ร่วมงานกับผู้หญิงหรอกนะคับให้ตายเถอะ"
   หลังจากที่ฟังการถกเถียงอยู่นานหญิงสาวผู้ที่รอการประชุมส่วนตัวอยู่หลังประตูก็ทนไม่ไว้แล้วเปิดประตูเข้าไป
   "ผู้หญิงแล้วมันเป็นยังไงไม่ทราบค่ะ"เธอถามด้วยเสียงเยือกเย็นแฝงความโมโหไว้ใต้น้ำเสียงนั้น ทุกคนในห้องประชุมต่างหันมองเธออย่างตะลึงเพราะรู้ถึงนิสัยดื้อรัน เอาแต่ใจของเธอดีแล้วยิ่งมาบวกกับนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจของจียองด้วยแล้วละก็ไม่มีทางจะร่วมงานกันได้แน่ๆ
   "เออ คือริสาอาว่านะออกไปอข้างนอกก่อนเถอะเดี๋ยวทางนี้อาจัดการเอง"
   "ไม่ค่ะ ว่าไงค่ะคุณดาราดัง ผู้หญิงแล้วมันเป็นยังไงไม่ทราบ"เธอจ้องหน้าเขาเขม็ง 
   "ก็ไม่ทำไมหรอกคับแต่แค่อ่อนแอ  หนักนิดเบาหน่อยก็โอดครวญ  แล้วยิ่งเป็นผู้หญิงที่เข้ามาแรกระหว่างการประชุมแบบนี้ด้วยแล้วละก่อน  ยิ่งไม่มีมารยาทเข้าไปอีก"
     เมื่อเขาพูดจบทั้งห้องก็หัวใจหล่นวูบพร้อมรีบจ้องไปที่ริสา  ราวกับไม่อยากเห็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอีก  แต่พวกเขากลับคิดผิดเมื่อเธอกลับหัวเราะไม่มีท่าทางของความโกรธหลงเหลืออยู่เลย 
   "นายมันก็แค่ชอบดูถูกผู้หญิงไปวันๆเท่านั้นแหละ  ตัวนายเองก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีตรงไหนเลย  ดูจากท่าทางน่าสมเพชของนายแล้วคงจะต้องเคยโดนผู้หญิงหักอกมาแล้วแน่ๆ  ให้ตาย  โง่ชะมัด "หลังจากพูดจบเธอก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
    เธอเป็นใครกล้าดียังไงถึงกล้มาว่าเขาแบบนี้  ตั้งแต่เล็กจนโตเขาผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนผู้หญิงทุกคนต่างต้องการเขาและอยากเป็นเจ้าของเขาทั้งนั้น ยกเว้นผู้หญิงคนคนนั้นคนที่เขารักมากแต่หล่อนกลับจากเขาไปด้วยโรคร้ายแรงซึ่งเขาสัญญาว่าเขาจะไม่มีวันลืมเธอผู้ที่ทำให้เขามีน้ำตาได้  เขาคิดและนึกถึงภาพเก่าๆขึ้นมา แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปอย่างเงียบๆแล้วได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมา  แต่ตอนนี้เขาไม่มีความคิดใดใดเหลืออยู่แล้วนอกจากความคิดถึงที่มีต่อผู้หญิงที่เขารักแค่เท่านั้น

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดรออ่านด้วยนะค่ะ....				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฟรช
Lovings  เฟรช เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฟรช
Lovings  เฟรช เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฟรช
Lovings  เฟรช เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเฟรช