11 พฤศจิกายน 2546 22:29 น.

เริ่มแต่งกลอน

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

ไอ้ทีแรกว่าจะแต่งแบบเล่นเล่น
พอแต่งเป็นอยู่บ้างอาจารย์บอก
ไม่ได้เก่งไม่ได้กาจเท่าไหร่หรอก
ไม่ได้หลอกบอกจริงสิ่งที่เป็น

พอแต่งไปแต่งมาชักสนุก
จะพุดลุกพุดนั่งยังคิดเห็น
จะเอื้อนเอ่ยคราใดให้กลายเป็น
เฝ้าครุ่นเค้นเป็นคำกลอนสอนตัวเอง

เริ่มแรกแต่งกลอนเปล่าเราว่าง่าย
ในตอนบ่ายวันฟ้าใสไม่รีบเร่ง
ไม่มีใครคุยมาเราบ้าเอง
ทำอวดเบ่งไม่เกรงใจคนใกล้ตัว

พอได้แต่งเรื่องสองของมันขึ้น
ทำหน้ามึนมึนไปที่ในหัว
พอแต่งไปแต่งมาชักเมามัว
เอาเรื่องตัวเรื่องเขามาเล่าความ

พอแต่งมากก็ชักคล่องเหมือนท่องป่า
คนบ้าบ้าบอบอไม่ขอขาม
พอแต่งไปเริ่มมีความพยายาม
แต่งให้งามแต่งยังไงช่วยไขที

ได้ลองอ่านนิราศท่านสุนทร
แล้วให้ย้อนมาดูงานของเรานี้
ไปเปรียบเทียบกับท่านยอดกวี
เหมือนดวงไฟหรี่หรี่กับจันทรา

พอแต่งมากแต่งไปให้เพ้อพก
ในหัวอกคิดแต่แต่งแรงคนบ้า
เจออะไรคิดเป็นกลอนทุกเวลา
อนิจจาเขียนไม่เป็นเล่นเรื่อยไป
				
11 พฤศจิกายน 2546 10:34 น.

นั่งรอ copy file อยู่

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

มานั่งรอ copy file ให้หน่ายจิต
เฝ้าเคร่งคิดถึงเรื่องเรียนเพียรเขียนอ่าน
file มันใหญ่ใช้เวลาอีกเนิ่นนาน
ค่อยค่อยอ่านค่อยค่อยเขียนลำเลียงไป

ตอนจะออกจากห้องเห็นน้องนุช
มาสะดุดพบเจอเธอที่หมาย
คิดคิดไปเหมือนฝันมากล้ำกลาย
ไม่เสียดายที่รีบออกนอกห้องเรา

ขอแค่เพียงได้เห็นน้องวันละหน่อย
เหมือนดั่งได้เห็นพลอยพลอยหายเหงา
แค่เพียงถ้าเช้าทุกวันได้เห็นเนาว์
คงเป็นเช้าวันสดใสใจเบิกบาน				
10 พฤศจิกายน 2546 14:42 น.

เช้าวันจันทร์

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

เช้าวันจันทร์นั่งทำงานมีบานเบอะ
เข้ามาเยอะยากแยกยักย้ายไหน
จะทำก่อนทำหลังยังคาใจ
ลมจะใส่เห็นงานบานตะเคียน

แล้วนี่เราควรเร่งงานอันไหน
ให้หนักใจรีบเร่งคิดอ่านเขียน
ต้องรีบจัดงานนัดที่ลัดเวียน
ไม่นั่งเทียนเขียนเล่นเช่นเป็นมา

จึงตั้งจิตตั้งใจให้คร่ำเคร่ง
เริ่งบรรเลงทำงานที่ค้างคา
คงพอทำให้เสร็จทันเวลา
ที่สัญญาเอาไว้กับเจ้านาย

พอทำไปทำมาพาหวั่นอก
กำลังตกหนกเหนื่อยเมื่อยถามหา
มองดูงานการตั้งอยู่ตำตา
ให้นำพาหมดแรงต้องแคลงใจ

ว่าจะเอากำลังใจที่ไหนกัน
มาฟาดฟันรันตูศัตรูหมาย
คงจะต้องทำกันจนวันตาย
ไม่วางวายสูญสิ้นดิ้นแดโดย

พอเห็นงานที่คั่งค้างให้หวั่นจิต
พอคิดคิดไปแล้วให้หายโหย
นึกถึงลมพายพัดที่โบกโบย
ถูกขโมยเรี่ยวแรงสิ้นแรงใจ				
10 พฤศจิกายน 2546 01:41 น.

กลอนเกี่ยวกับวิชาเคมี

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

พอดีเห็นว่ามีน้องที่ต้องแต่งกลอนเกี่ยวกับเคมี
ผมเลยเอามาเป็นโจทย์ในการแต่ง ลองอ่านดูกันนะครับ

อันว่าธาตุมีหลากหลายในโลกนี้
เรียนวิชาเคมีเราแยกได้
แบ่งไปตามสมบัติก็จัดไป
มาเรียงใส่ตามช่องกล่องตาราง

แต่ละช่องนั้นต่างต้องใส่ธาตุ
แปลกประหลาดอรอนงค์คงสงสัย
ไม่ยากหรอกพี่จะบอกเจ้าดนัย
ว่าเคล็ดลับท่องไว้ไม่ยากเกิน

ในขั้นแรกเลขอะตอมเราต้องนับ
แล้วจึงจับมาใส่ไม่ขวยเขิน
พอใส่ไปใส่มาจะพาเพลิน
ไม่มีเกินไม่มีขาดธาตุที่มี

ธาตุหมู่หนึ่งมีชื่อเขาตั้งไว้
ว่าโลหะแอลคาไลนท์ไม่หน่ายหนี
ส่วนหมู่สองท่องไว้ในฤดี
ว่าชื่อมีแอลคาไลน์เอิธประเสริฐจัง

ส่วนธาตุหมู่สามสี่นี้มันแปลก
ถ้าแบ่งแยกสมบัติดังที่ตั้ง
จะอยู่กลางระหว่างทั้งสองฝั่ง
โลหะบ้างไม่ใช่บ้างไม่วางวาย

เขาจึ่งเรียกธาตุพวกนี้กึ่งโลหะ
ที่เหลือจะจำไว้ดั่งใจหมาย
ว่าเป็นอโลหะจะสบาย
หมู่สุดท้ายมีนามเป็นแฮโลเจน....เอย				
9 พฤศจิกายน 2546 14:29 น.

แดดตอนเช้า

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

รุ่งอรุณแดดอ่อนทาท้องฟ้า
ที่ยอดหญ้าใบคามีน้ำค้าง
มีแสงแดดสาดส่องมองเห็นทาง
ใสกระจ่างแจ่มแจ้งให้แรงใจ

เมื่อคืนวานพาลคิดจิตรันทด
เศร้าสลดหดหู่มิรู้หาย
คิดถึงเธอคงดีมิวางวาย
เหมือนจะตายขาดใจไม่สมปอง

เมื่อรุ่งเช้าวันใหม่เข้ามาถึง
ฉันนี้จึงสดในไร้มัวหมอง
ตื่นขึ้นมามองฟ้าทาสีทอง
ใยเราต้องเสียใจในวันวาน

แค่วันนี้ทำให้ดีกว่าวันเก่า
อย่าไปเอาใจใส่เรื่องที่ผ่าน
ถึงยังไงแค่เพียงเรื่องวันวาน
แค่เพียงกาลผ่านไปไม่ต้องจำ

ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีกว่า
ปล่อยเวลาเสียไปให้คิดขำ
ในวันนี้ตั้งใจที่จะทำ
ขอเพียงเธออย่าใจดำทำไม่แล

***แต่งไปแต่งมาก็เข้าเรื่องเดิมอีกแล้ว***				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธี หล่อประจักษ์ศิริ
Lovings  เมธี หล่อประจักษ์ศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธี หล่อประจักษ์ศิริ
Lovings  เมธี หล่อประจักษ์ศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธี หล่อประจักษ์ศิริ
Lovings  เมธี หล่อประจักษ์ศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเมธี หล่อประจักษ์ศิริ