16 พฤศจิกายน 2546 00:40 น.

หมดกำลังใจ

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

ในวันนี้น้องนางหนีห่างหาย
กระวนกระวายอยากเห็นเจ้าเป็นหนักหนา
พี่เฝ้ารอแต่เจ้าตลอดเวลา
เจ้าไม่มาพี่เหงาเศร้าโศกใจ

หรือว่าเจ้าไม่รู้พี่รออยู่
จึงไม่ดูไม่แลไม่สนใจ
รอนานนานเกินไปชักไม่ไหว
กลัวหมดแรงกำลังใจก่อนใกล้เธอ				
14 พฤศจิกายน 2546 23:34 น.

เศร้าตอนบ่าย

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

๏ เมื่อยามบ่ายแดดหลบเข้าพลบเขา
เหมือนตัวเราเจ้าหลบไม่คบหา
ตัวพี่นั้นอยากได้รัตนา
ทั้งเก้ามากองกอดพลอดรำพัน

แต่อนงค์ยังคงทำนิ่งเฉย
ยังไม่เคยเอ่ยใดใจโศกศัลย์
จะมีใจหรือไม่ให้บอกกัน
คืนและวันเฝ้ารอรักจากนาง

ภายในใจจับจองดองให้เจ้า
ใครไม่เอาทั้งนั้นไม่คั่งค้าง
ในฤทัยดวงนี้มีแต่นาง
สถิตกลางใจพี่เพียงผู้เดียว

แต่ว่านุชน้องเจ้านั้นไม่สน
ไม่ว่าหนคราใดไม่แลเหลียว
เห็นเจ้าเฉยพี่หนอช่างห่อเหี่ยว
ไม่อาจเที่ยวบอกใครในความจริง

เพราะพี่กลัวจะน้องจะหมองหม่น
พี่เป็นคนไม่น่ามาสุงสิง
คิดเรื่องเจ้าเล่าไปใจประวิง
เจ้านั้นทิ้งให้พี่เหงาเศร้าหัวใจฯ				
12 พฤศจิกายน 2546 03:45 น.

กลอนไดอารี่

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

๏ ลืมตาตื่นตอนเช้าราวเจ็ดแปด
แสงสีแสดสาดส่องเข้าห้องหับ
ลุกขึ้นจากที่นอนก่อนลาลับ
แล้วเร่งพับที่นอนไม่ร้อนใจ

ก่อนจะทำอย่างอื่นหลังตื่นนอน
ไม่รีบร้อนก่อนทำกิจอันไหน
เข้าเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทิ้งไว้
รันโปรแกรมไว้ทั้งคืนให้ตื่นดู

พอเปิดมาเห็นข้อความเพื่อนฝากฝัง
ว่าเราตื่นเร็วจังแต่เช้าตรู่
กดคียบอร์ดตอบไปให้ได้รู้
ว่าเพิ่งตื่นเมื่อครู่รู้ไหมเพื่อน

แล้วบอกลาเพื่อนเราในเช้านี้
ยังไม่ทันได้ที่จะมีเหมือน
ตั้งแต่ตื่นจิตนั้นคอยย้ำเตือน
ไม่แช่เชือนเข้าห้องน้ำล้างหน้าพลัน

ในวันนี้มีหน้าที่รับผิดชอบ
ได้รับมอบหมายมาเมื่อสายันต์
เก้าโมงแล้วถ้าไม่รีบเดี๋ยวไม่ทัน
ย้ายกายพลันออกจากห้องจำจรไป

พอออกมาพ้นห้องพบน้องเข้า
เจ้าน้องเนาวรัตน์ภราไดย
เจ้าเห็นพี่ไหว้พี่ไหว้ตอบไป
สวนหน้าใสที่หน้าห้องมองน้องนาง

โอ้ใยน้องนี่หนาช่างน่ารัก
ยิ่งได้ทักทายเจ้าแต่เช้าสาง
แม้ไม่ทันจะได้คุยกับนวลนาง
ตาสว่างจิตสดใสในทันตาฯ
 
๏ แล้วออกเดินดุ่มไปที่ตึกหนึ่ง
พอไปถึงชายตามองเหลียวหา
เพื่อนในห้องชั้นสี่ที่เคยมา
แต่เวลาเช้าไปไม่เห็นตัว

เลยเดินเลยเข้าไปในช่องข้าง
ที่เป็นทางขวางไว้ไฟสลัว
เดินเข้าไปในใจไม่นึกกลัว
เพราะเคยตัวหลายครั้งเราเคยมา

มาหยุดอยู่ทางขวาตรงหน้าห้อง
ไม่ทันร้องทันเรียกสำเนียกหา
ท่านอาจารย์ก้าวออกบอกตามมา
ไม่ทันอ้าทันเอ่ยเผยวจี

ระหว่างเดินทางไปอาจารย์ท่าน
ก็บอกงานที่ต้องทำในวันนี้
ว่าเราต้องไปทำคอมให้โทนี่
ท่านผู้ที่เป็นอาจารย์จากต่างเมือง

พอพูดถึงอาจารย์ท่านผู้นี้
ท่านผู้มีสีผมออกเหลืองเหลือง
ศาสตราจารย์แขกบ้านจากต่างเมือง
ที่รองเรืองนิวซีแลนด์จากแดนไกล

เดินเข้าไปในห้องพร้อมธงไชย
เรายังได้สับสนยังสงสัย
ท่านจะให้ข้าพเจ้าทำอะไร
ไม่แจ้งใจจับคำสนทนา

พอได้ฟังใจความสองท่านพูด
ให้หัวปูดมึนงงเป็นหนักหนา
เพราะสำเนียงเสียงท่านเจรจา
เป็นภาษาอังกฤษคิดแล้วงง

แต่พอจับใจความตามพอได้
ท่านจะให้ใส่ฮาร์ดดิสก์เอาไฟล์ลง
แต่เครื่องท่านไม่เห็นเราต้องคง
เอาไปลงที่เครื่องอื่นไม่ตื่นการ

มานั่งรอ copy file ให้หน่ายจิต
เฝ้าเคร่งคิดเรื่องเรียนเรื่องเขียนอ่าน
file มันใหญ่คงต้องใช้เวลานาน
ค่อยค่อยอ่านค่อยค่อยเขียนลำเลียงไป

นึกถึงตอนออกห้องเห็นน้องนุช
มาสะดุดพบเจอเธอที่หมาย
คิดคิดไปเหมือนฝันมากล้ำกลาย
ไม่เสียดายที่รีบออกนอกห้องเรา

ขอเพียงได้เห็นน้องวันละหน่อย
เหมือนดั่งได้เห็นพลอยพลอยหายเหงา
เพียงทุกเช้าได้เห็นหน้าน้องเนาว์
คงเป็นเช้าที่สดใสใจเบิกบานฯ				
12 พฤศจิกายน 2546 02:53 น.

คิดถึงผู้หญิงไร้เงา

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

วันนี้หญิงไร้เงาเขาไม่มา
ดูที่หน้าคำกลอนหล่อนไปไหน
คงไม่ว่างงานเยอะหรืออย่างไร
ใยหายไปไม่มาตอบต่อกลอนกัน

เธอหายไปใจฉันนั้นคิดถึง
เพียงวันหนึ่งเธอหายไปนั้นคล้ายฝัน
ไม่มีใครมาประต่อล้อกลอนกัน
วันนี้ฉันแสนเศร้าเหงาเปล่าเปลี่ยว

***เธอมาฉันดีใจ เธอหายไปฉันคิดถึง				
11 พฤศจิกายน 2546 22:29 น.

เริ่มแต่งกลอน

เมธี หล่อประจักษ์ศิริ

ไอ้ทีแรกว่าจะแต่งแบบเล่นเล่น
พอแต่งเป็นอยู่บ้างอาจารย์บอก
ไม่ได้เก่งไม่ได้กาจเท่าไหร่หรอก
ไม่ได้หลอกบอกจริงสิ่งที่เป็น

พอแต่งไปแต่งมาชักสนุก
จะพุดลุกพุดนั่งยังคิดเห็น
จะเอื้อนเอ่ยคราใดให้กลายเป็น
เฝ้าครุ่นเค้นเป็นคำกลอนสอนตัวเอง

เริ่มแรกแต่งกลอนเปล่าเราว่าง่าย
ในตอนบ่ายวันฟ้าใสไม่รีบเร่ง
ไม่มีใครคุยมาเราบ้าเอง
ทำอวดเบ่งไม่เกรงใจคนใกล้ตัว

พอได้แต่งเรื่องสองของมันขึ้น
ทำหน้ามึนมึนไปที่ในหัว
พอแต่งไปแต่งมาชักเมามัว
เอาเรื่องตัวเรื่องเขามาเล่าความ

พอแต่งมากก็ชักคล่องเหมือนท่องป่า
คนบ้าบ้าบอบอไม่ขอขาม
พอแต่งไปเริ่มมีความพยายาม
แต่งให้งามแต่งยังไงช่วยไขที

ได้ลองอ่านนิราศท่านสุนทร
แล้วให้ย้อนมาดูงานของเรานี้
ไปเปรียบเทียบกับท่านยอดกวี
เหมือนดวงไฟหรี่หรี่กับจันทรา

พอแต่งมากแต่งไปให้เพ้อพก
ในหัวอกคิดแต่แต่งแรงคนบ้า
เจออะไรคิดเป็นกลอนทุกเวลา
อนิจจาเขียนไม่เป็นเล่นเรื่อยไป
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธี หล่อประจักษ์ศิริ
Lovings  เมธี หล่อประจักษ์ศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธี หล่อประจักษ์ศิริ
Lovings  เมธี หล่อประจักษ์ศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธี หล่อประจักษ์ศิริ
Lovings  เมธี หล่อประจักษ์ศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเมธี หล่อประจักษ์ศิริ