มันก็แค่เรื่องในร้านหนังสือ

Surachada

496414106356355.jpg

ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้านหนังสือ...เพื่อหาซื้อหนังสือสักเล่มมาอ่านแก้เหงา...โดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจว่าจะซื้อหนังสือเล่มไหนเป็นพิเศษ 

สักพักเขาก็ไปสะดุดตาและรู้สึกพอใจกับหนังสือเล่มหนึ่งเข้า 
แต่พอเขาหยิบมันขึ้นมา เค้าก็รู้สึกเสียดาย 
ที่หนังสือเล่มนั้นถูกหุ้มไว้ด้วยพลาสติกบางๆ กันการเปิดอ่านก่อนซื้อ
แต่ถึงเขาจะรู้สึกผิดหวังเล็กๆกับการที่ไม่ได้ลองเปิดดูข้างในหนังสือ 

เขาก็ยังเลือกที่จะถือหนังสือเล่มนั้นเดินไปเดินมาอยู่ภายในร้านเพื่อมองหา
หนังสือเล่มอื่นๆไปด้วย  

...ไม่นานนักเขาก็ไปเจอหนังสืออีกเล่มเข้า 
เขารู้สึกพอใจกับหนังสือเล่มนี้เช่นเดียวกับเล่มแรก 

และรู้สึกดีใจมากขึ้นไปอีกเพราะหนังสือเล่มที่สองนี้ไม่มีพลาสติกหุ้มไว้ 
เขาสามารถเปิดอ่านภายในร้านได้ทันทีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ 
เขาเปิดอ่านมันไปทีละหน้าบ้างข้ามบางหน้าไปบ้างเพื่อดูภาพรวมอย่างคร่าวๆ 
สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะเลือกซื้อหนังสือเล่มที่เขาอ่านค้างไว้เพื่ออ่านในหน้าที่เหลือต่อให้จบ
เพราะดูภาพรวมแล้วเขาคิดว่ามันคงสนุกดี แต่เขาละเลยที่จะสังเกตว่าหนังสือเล่มดังกล่าวที่เขาเลือก
เป็นหนังสือที่ภายในทำจากกระดาษเนื้อบาง 
ฉีกขาดและหลุดหายจากสันหนังสือได้ง่าย ไม่มีความเข็งแรงมั่นคง

....จากนั้นเขาก็นำหนังสือเล่มแรกที่หยิบมาไปวางไว้ที่ชั้นหนังสือดังเดิม 
ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มแรกนั้นซึ่งดูจากภาพรวมแล้ว
เป็นหนังสือคุณภาพดีมีความคงทนแค่ไหนเขาก็ไม่ได้สนใจเลย 
เขาเดินจากหนังสือที่วางอยู่บนชั้นไปอย่างไม่รู้สึกอะไร 
เพื่อไปที่เคาน์เตอร์ทำการชำระเงินเพื่อซื้อหนังสือเล่มที่สองในราคาที่แตกต่างจากหนังสือเล่มแรกเพียงเล็กน้อย 
พนักงานหยิบหนังสือใส่ถุง เขาชำระเงินและรับมันไป 
เขาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหนังสือเล่มนั้นอย่างสมบูรณ์แล้ว....

แต่..เขาหารู้ไม่ว่าหนังสือเล่มแรกที่เขาหยิบมันแล้วเดินถือไปถือมาภายในร้าน
มันรู้สึกผูกพันกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่มันก็ต้องเสียใจที่สุดท้ายชายคนนั้นเลือกที่จะวางมันไว้ในชั้นตามเดิม
พร้อมกับร่องรอยนิ้วมือของเขาที่ยังติดอยู่บนพลาสติกที่หุ้มมันไว้ให้ระลึกถึง
แม้ว่าภายนอกพลาสติกจะเต็มไปด้วยร่อยรอยนิ้วมือ
แต่ว่าภายในหนังสือเล่มนั้นก็ยังคงสภาพเดิมไม่มีร่องรอยตำหนิใดใด

วันแล้ววันเล่าผ่านไป...แต่หนังสือเล่มนั้นก็ยังมีความหวังเล็กๆว่าสักวันจะมีคนที่เข้ามาในร้าน
และตั้งใจมาเพื่อเลือกซื้อมันเป็นเพียงเล่มเดียวไปครอบครอง
โดยเขาคนนั้นคงเห็นถึงคุณค่าของมันอย่างจริงใจ
พร้อมที่จะนำมันไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์เพื่อทำให้มันกลายเป็นหนังสือ
ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของเขาเพียงผู้เดียวอย่างถูกต้อง
และเขาก็พร้อมที่จะทะนุถนอมมัน โดยค่อยๆแกะห่อพลาสติกที่หุ้มมันออกอย่างประณีต
และพร้อมที่จะศึกษาเนื้อหาเรื่องราวภายในหนังสือเล่มนั้นไปทีละหน้า...ทีละหน้า...อย่างตั้งใจและใส่ใจ
เมื่อถึงตอนจบ....ทั้งหนังสือทั้งผู้อ่านล้วนแต่ได้รับความสุขเพราะต่างก็ให้ความสุขซึ่งกันและกัน....
				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน