เมื่อเรามาพบกันใหม่

สมภพ แจ่มจันทร์

หลังจากที่ผมตัดสินใจเดินหันหลังให้กลับเมืองกรุง นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ที่จิตใจมีความพร้อมเพียงพอ ที่จะหยิบจับเรื่องราวต่างๆ มาเล่าสู่กันฟัง
การจากลาเมืองหลวงในครั้งนั้น ฝากบาดแผลให้ผมอย่างฉกาจ วันนี้บาดแผลนั้น มันจางหาย คงเหลือเพียงแต่รอยแผลเป็น ฝากไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น
ก้าวย่างในเมืองน้อย มันแสนสับสน แต่ก็อบอุ่นละมุนละไม ไปด้วยน้ำใจไมตรี ของคนต่างถิ่น ผมตัดสินใจมาอยู่เมืองๆ หนึ่ง ที่ห่างจากเมืองหลวงเกือบพันกิโล แฝงตัวอยู่ในสังคมชนบท มีเพียงบุคคลเพียง 2-3 คน เท่านั้นที่รู้จัก และรู้ว่าผมเป็นใคร ในสัปดาห์แรกผมพยายามจะเขียนเรื่องสั้นที่ค้างไว้ให้จบได้อีกตอนหนึ่ง แต่ทว่าอารมณ์และความรู้สึกมันกระด้างเกินเกว่า จะทำอะไรต่อไปได้ ผมจึงวางทุกอย่างลง แล้วปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปอย่างวิถีของคนที่นี่ ที่ๆ ผมตัดสินใจมาอยู่ ไม่อ่านหนังสือ ไม่ฟังเพลง ไม่ดูทีวี ไม่ใช้โทรศัพท์ มันได้ผลครับ ผมอยู่อย่างนั้นประมาณ 3 เดือน แสงสว่างในจิตใจมันเริ่มแย้มพรายทีละน้อย ผู้คนที่นี่เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมหายวันหายคืน เมืองเล็กๆ ที่ผู้คนแทบจะรู้จักกันหมด ไปไหนมาไหนก็ตะโกนทักทายกัน 
ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะอิจฉาผมมกกว่านี้ ถ้าเพียงแต่ผมเอารูปถ่ายหลังบ้าน (ที่อยู่ขณะนี้) มาให้ดู นั่นสินะ มันจะมีอะไรมากมายไปกว่านี้ กินอิ่ม นอนหลับ ในที่ๆ อากาศดีๆ ภาพสวยๆ ผู้คนไม่ละโมบ โลภมาก  แค่นี้ก็พอแล้วหล่ะ สำหรับคนตัวคนเดียวอย่างผม 
บางที ที่สมองโล่งๆ ความคิดถึงเรื่องราวร้ายๆ ในเมืองกรุง มันก็แวะเวียนเข้ามาบ้าง ในครั้งแรกคือ "รับไม่ได้" ซึมเศร้า เสียใจ กับเรื่องที่ผ่านมา ก็เฝ้าแต่เงียบเหงา หดหู่อยู่อย่างนั้น วันหนึ่งเห็นหญิงคนหนึ่งท่าทางอายุก็น่าจะเกือบ 50 ปีแล้ว ตัดผมสั้น นุ่งผ้าถุง เสื้อเชิ้ตนักเรียน แกเดินไปเดินมา พูดคุยกับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย บางคนก็คุยด้วย บางคนก็ไม่สนใจ ก็มานั่งคิดต่อ เออ เขามีความสุขดีนะ ไม่ว่าจะคุยกับใครก็เป็นยิ้มกริ่มไปเสียกับทุกคน ไถ่ถามคนในพื้นที่ บอกว่าแกสติไม่ค่อยดี แล้วไงครับ ที่เล่าให้ฟังก็เพียงแต่ว่า ทำอะไรก้ได้ที่อยากทำ และทำแล้วไม่เดือดร้อนใคร ท่านั้นก็มีความสุขแล้ว
"ความโลภ" "ความอยากได้อยากมี" ของคนเมืองกรุง 
อีกนานไหมที่มันจะแผ่เข้ามาในอาณาบริเวณนี้
ผมคิดว่าไม่นานหรอก
แต่มันก็คงจะมีเวลาพอให้ผมได้พักฟื้นจิตใจ และร่างกายอันอ่อนล้า จากคนละโมบ โลภมาก เพื่อที่จะต่อสู้กับคนเหล่านั้นอีกในวันข้างหน้า
เย็นแล้ว นกตัวสีขาวหลายฝูงกำลังบินกลับรัง ส่วนผมต้องไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกน้ำก่อนนะครับ  แล้วจะเขียนมาเล่าให้ฟังใหม่				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน