ขอเพียงระลึกถึงกัน ในวันที่สายฝนพรำ

สมภพ แจ่มจันทร์

ผมขอขอบคุณเธอมากสำหรับแรงบันดาลใจ และไฟดวงเล็กๆ ที่จุดประกายชีวิตผมให้เห็นทางเดิน ระหว่างผมกับเธอนั้น เราเป็นเพียงแค่คนผ่านทางเท่านั้น หรือจะเป็นเพียงคนที่จูนกันติดในบางเรื่อง จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เรื่องมันเริ่มขึ้นก็ตอนที่ฝนตก ผมต้องการที่หลบฝนสักที่ พอที่จะไม่ทำให้สัมภาระผมเปียก ผมวิ่งฝ่าฝนมาจนเจอร้านหนังสือเล็กๆ ร้านหนึ่ง ซึ่งมันคือร้านหนังสือที่ผมมาอุดหนุนเป็นประจำ ร้านนี้เป็นร้านหนังสือมือสอง และหนังสือหายาก นานๆ ทีผมถึงจะได้แวะและนั่งพูดคุยกับเธอ เจ้าของร้านหนังสือร้านเล็กๆ ร้านนั้น 
เธอเป็นคนไม่จัดว่าสวย แต่งตัวธรรมดาๆ ไม่หวือหวาเหมือนสาวๆ ทั่วไป แต่เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมต้องแวะมาหาเธอถ้ามีโอกาสก็คือ ความสละสลวยของคำพูด แต่ละคำ แต่ละวลี มันเหมือนหลุดออกมาจากบทประพันธ์ หรือหนังสือปรัชญาอะไรทำนองนั้น เธอเป็นคนพูดตรง ไม่ค่อยมีจริตมารยาอะไรมากมาย นั่นแหละคือแม่เหล็กตัวใหญ่ที่ดึงผมให้เข้ามาหาเธอ
วันนี้ก็เช่นกัน หากฝนไม่ตกผมก็กะว่าจะแวะไปหาเธอสักหน่อย เผื่อว่าเธอจะมีหนังสืออะไรดีๆ บ้าง แต่ฝนเจ้ากรรมดันตกอย่างกับฟ้ารั่วเสียนี่ ระยะทางไม่ถึง 100 ม.ก็จะถึงร้านเธอแล้ว ผมสูดลมหายใจลึกๆ แล้วตัดสินใจวิ่งไปหาเธอ ซึ่งเธอก็ต้อนรับผมดีเช่นเคย เธอจัดการหาผ้ามาเช็ดเก้าอี้ให้ผมนั่ง และดึงผ้าใบลงครึ่งหนึ่งเพื่อป้องกันกองหนังสือจากละอองฝน เราเริ่มต้นคุยกันถึงเรื่องสัพเพเหระเช่นเดิม จากนั้น เธอก็ปล่อยให้ผมเลือกรื้อหนังสือของเธอได้ตามใจชอบ โดยมีเธอแนะนำอยู่ข้างๆ 
ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมแนะนำว่าให้เธอดึงผ้าใบลงปิดหน้าร้านให้มิดชิดดีกว่า เพราะผมกลัวว่าหนังสือกองโตนั้นจะได้รับอันตราย ซึ่งเธอก็เห็นดีด้วย เพราะหากจะปิดร้านแล้วกลับบ้านก็กลับไม่ได้ หรือหากจะปิดร้านเลย ก็จะพาลไม่มีอากาศหายใจกันเสียเปล่าๆ นั่นเองภายในร้านจึงมีแค่เราสองคน
เรานั่งสนทนากันได้ครู่ใหญ่ เธอถามผมว่าผมทำงานอะไร ผมตอบเธอไป และบอกต่อไปอีกว่าจริงๆ แล้วมันไม่ตรงกับที่ผมเรียนมาเลย แต่ที่ผมเลือกทำงานนี้ก็เพราะรายได้ดี แล้วผมก็ย้อนถามเธอไปบ้างว่าแล้วเธอหล่ะ เธอตอบผมอย่างมั่นใจว่าเธอเรียนจบสายอาชีพมา แต่เธอชอบที่จะอ่านหนังสือ และชอบที่เห็นคนอื่นได้อ่านหนังสือ เธอจึงตัดสินใจเปิดร้านหนังสือร้านนี้ แม้มันจะเป็นเพียงร้านเล็กๆ ก็ตาม เพราะนั่นคือความสุข เธอยินดีที่จะให้ใครต่อใครมารื้อค้นหนังสือดู แม้จะไม่ซื้อก็ตาม มีความสุขเมื่อร่วมวงสนทนากันเกี่ยวกับหนังสือ หรือนักเขียนหลายๆ ท่าน วันเสาร์ อาทิตย์ ก็มีความสุขที่ไปเดินสวนฯ เพื่อไปดูหนังสือหายาก ถ้ามีเงินมากหน่อยก็หาซื้อเก็บไว้ เล่มไหนพอใจขายก็ขาย เล่มไหนชอบมากก็เก็บไว้เอง นี่แหละคือความสุขของชิวิตแล้ว
แล้วความสุขของคุณหล่ะ อยู่ที่ไหน อยู่กับการได้ทำอะไร เธอถามผมอีกครั้ง แต่แปลกนะ ผมไม่ยักกะตอบเธอได้ มันเหมือนมีก้อนอะไรมาอุดปากไว้เสียอย่างนั้น ผมได้แต่นั่งนิ่ง ภาพวันเก่าๆ มันย้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่วันแรกที่ผมได้เข้าทำงานที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง วันที่ผมได้เขียนหนังสือ วันที่ผมได้ออกสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ วันที่ผมอยู่กับกองหนังสือและเอกสารกองโต จนถึงวันนี้ วันที่ผมเบนเข็มทิศชีวิตของตัวเอง มาสู่อีกสาขาอาชีพหนึ่ง ที่เม็ดเงินสะพัดกว่า แต่ในใจลึกๆ ของผม มันก็ยังโหยหาที่จะเขียนหนังสืออยู่ 
เธอสัมผัสแขนผมเบาๆ เพื่อเรียกผมกลับคืนมา นั่นสินะ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับสิ่งที่ผมเป็นมากน้อยเพียงไร ผมไม่เคยถามคำถามนี้กับตัวเอง ผมรู้เพียงว่าผมทำงานหนักเพื่อแลกกับเงินเดือนก้อนโต ซึ่งมันทำให้ชีวิตของผมสะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนมาก ผมมองหน้าเธออีกครั้ง และยิ้มให้เธออย่างขอบคุณ ที่เธอทำให้ผมคิดถึงตัวตนของผมมากขึ้น
ฝนเริ่มซาแล้ว แต่ผมยังไม่อยากแยกจากเธอ ความรู้สึกพิเศษบางอย่างมันบังเกิดขึ้น ผมเชื่อว่าความรู้สึกของผมมันคงปิดเธอไม่อยู่ ผมเริ่มถามเธอว่าเธอมีคนรักแล้วหรือยัง เธอตอบว่าขอบเรียกว่าเพื่อนชายได้ไหม เพราะคนรักของเธอนั้นมีมากมายหลายคน แต่เพื่อนชายนั้นมีคนเดียวที่สนิทที่สุดในตอนนี้ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนชายของเธอจะเข้ากับเธอได้มากน้อยแค่ไหน หรือไปด้วยกันนานสักเท่าไหร่ เธอเปิดประเด็นการพูดคุยเกี่ยวกับความรัก ซึ่งนั่นเองยิ่งทำให้ผมรู้สึกกับเธอมากมายขึ้นไปอีก แต่เธอช่างเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงเสียจริง
ในวันวานผมไม่รู้ว่าเธอกับเพื่อนชาย มีอนาคตร่วมกันอย่างไรบ้าง แต่ในเวลานี้ วินาทีนี้ ผมรู้สึกต้องการเธอมาอยู่ข้างๆ ผมเสียจริง ผมต้องการคนแบบนี้แหละ ผมส่งยิ้มให้เธอ เหมือนเธอจะอ่านใจผมออก เธอเอื้อมมือมาสัมผัสหลังมือผม แล้วบอกว่าเราเป็นเพียงคนผ่านทางที่แวะมาทักทายกันเท่านั้น ซึ่งบางเรื่องเราอาจจะจูนกันติดเร็ว หรือคุยเข้าใจกันง่ายกว่าคนอื่นๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้ากันได้ทุกเรื่อง เพราะฉะนั้น ความสัมพันธ์ต่างๆ มันต้องมีชั้นตอน ให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่ใจอยากจะให้เป็น แต่ต้องให้มันดำเนินไปตามวันและเวลาที่เหมาะสมของมันเถิด นั่นคือความประทับใจอีกครา ที่เธอเปล่งวาจานั้น ผมอยากจะกอดเธอไว้ให้แน่นเสียจริงๆ เธอจะได้ไม่ไปจากผม 
แต่ความจริงมันก็คือความจริงวันยังค่ำ ผมรู้จักเธอเท่าที่เธอยอมให้ผมรู้จัก แม้ว่าตัวผมเองอยากจะเปิดเผยตัวตนของผมให้เธอรู้จักมากเท่าใดก็ตาม มันก็ถูกของเธอ ผมควรจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามขั้นตอนดีกว่า วันนี้ผมได้รู้จักบางมุมของเธอ ในวันข้างหน้าผมอาจจะมีโอกาสได้รู้จักเธอมากกว่านี้
หลังจากฝนหยุด ผมบอกขอบคุณที่เธอให้ที่หลบฝน และให้แง่คิดบางอย่างกับผม ผมจำใจเดินจากเธอมาทั้งๆ ที่ใจผมยังติดตรึงอยู่กับเธอ ผมไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ผมจะมีโอกาสได้มานั่งพูดคุยกับเธอเช่นนี้อีกหรือไม่ เพราะงานของผมนั้นมันช่างยุ่งดีเสียจริงๆ ก่อนกล่าวคำอำลา ผมมองหน้าเธออีกครั้ง เมื่อสายตาของเราทั้งสองประสานกัน ผมแน่ใจว่าเธอเองคงมีความรู้สึกไม่ต่างจากผมมากนัก
หลังจากนั้นอีกเกือบ 5 เดือน ผมก้าวย่างไปหาเธออีกครา ซึ่งก็เช่นเดิม ในวันที่มีสายฝน ผมนั่งคุยกับเธอใต้แสงไฟสลัวท่ามกลางบรรยกาศชุ่มฉ่ำของสายฝน แม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่ความรู้สึกของผมมันยังหมือนกับเมื่อวันนั้น วันที่ฝนตกหนัก ผมบอกกับเธอว่าผมตัดสินใจลาออกจากงาน โดยที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับ เธอค่อนข้างตกใจว่าเหตุใดผมจึงทำเช่นนั้น ผมตอบเธอไปว่า เธอนั้นช่างโชคดีที่ค้นหาตัวเองเจอกและทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ส่วนผมไม่อาจจะอยู่กับการหลอกตัวเองได้อีกต่อไป ผมมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง ซึ่งมันค่อนข้างเป็นก้อนโต ผมจะทำในสิ่งที่ผมต้องการทำ เผื่อว่าสักวันหนึ่งผมจะค้นหาตัวตนของผมได้บ้าง
 ผมอยากจะกอดเธอไว้แน่นๆ เสียจริง แม้ว่าการตัดสินใจของผมจะทำให้ผมไม่มีโอกาสได้พบกับเธออีก แต่มันก็ทำให้ผมได้เลือกทางเดินชีวิตตามแบบของผม ผมได้แต่จับมือเธอไว้แน่น แล้วพร่ำบอกเธอว่า ได้โปรดอย่าลืมผม ผมไม่ได้ต้องการความรักจากเธอ ผมต้องการเพียงแค่ความระลึกถึงกันบ้าง โดยเฉพาะในวันที่มีสายฝนพรำ เพียงเท่านั้น 
ผมเองไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกเช่นนั้นบ้างหรือไม่ นับตั้งแต่วันที่ผมกล่าวคำล่ำลากับเธอ แต่โดยความจริงผมไม่เคยลืมเธอเลย ณ วันนี้ ผมได้อยู่ในสถานที่ที่ผมใฝ่ฝัน ได้ทำงานอย่างที่ผมอยากทำ ได้ดำรงชีวิตตามวิถีที่เรียบง่าย ซึ่งบางวันที่ฝนตกหนัก ผมก็อดที่จะคิดถึงเธอไม่ได้ เพราะนอกจากเธอแล้วความสวยงามของภาษาในการสนทนา ผมยังมองหาคนอื่นไม่เจอ ผมเองก็ได้แต่หวังว่า ในบางอารมณ์หรือบางสถานการณ์เธอจะระลึกถึงผมบ้าง เหมือนอย่างที่ผมกำลังรู้สึกในตอนนี้				
comments powered by Disqus
  • กลั่นแก้ว

    21 กรกฎาคม 2554 15:25 น. - comment id 125157

    1.gif1.gif1.gifสวัสดีค่ะคุณสมภพ แจ่มจันทร์
    อ่านแล้วให้ความรู้สึก..ดีมากเลยค่ะ1.gif
    เหมือนได้ก้าวเข้าไปอยู่เหตุการณ์นั้นเลยค่ะ
    ชอบจังเลยค่ะ41.gif
    อยากจะบอกว่าความรู้สึกดีๆนั้นไม่ต้องระลึกถึงเฉพาะวันที่ฝนตกหลอกค่ะหากเข้าไปอยู่ในหัวใจของใครแล้วคงจะระลึกถึงตลอดเวลา..ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก
    ขอให้คุณสมภพเข้าไปอยู่ในหัวใจเธอนะค่ะ
    46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif
    รอยยิ้มปราถนาดีที่มีให้ทุกๆวันค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน