ดาว(๒)

ธารินทร์


    "เร่เข้ามาครับ หนังสือทำมือ คุณภาพดี ราคาถูก ช่วยกันอุดหนุนคนไทยด้วยกันหน่อยนะครับ มีทั้งเรื่องสั้น กลอน นวนิยายมากมายให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมกันเลยครับ" เสียงห้าวของศิลปินหนุ่มนั่นเอง วันนี้เขามาขายหนังสือทำมือที่เขาทำขึ้นเอง ทั้งเขียนเรื่อง และจัดรูปเล่ม ความจริงเรื่องสั้นและบทกลอนของเขาหลายเรื่องเคยตีพิมพ์ลงหนังสือนิตยสารรายเดือนชื่อดังหลายต่อหลายเรื่อง แต่ไม่มีสำนักพิมพ์ไหนสนใจจะนำเรื่องของเขาไปรวมเล่มเลยสักครั้ง เขาจึงต้องทำเป็นหนังสือทำมือออกวางขายเอง "เชิญชมเชิญเลือกได้เลยครับ หนังสือดีมีคุณภาพทั้งนั้นนะครับ" "จากวาดรูปก้อมาเขียนหนังสือหรือนายกานต์ จากจินตนาการอีกแล้วล่ะสิ" เสียงที่คุ้นเคยกล่าวมาให้ชายหนุ่มได้ยิน "เอ๊ะ! คุณนี่ยังไง คนกำลังยุ่งอยู่ ผมก้อต้องทำมาหาเลี้ยงชีพบ้างสิครับ คุณหม่อมราชวงศ์ ดาริน ผมไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคุณนี่ครับ ก้อต้องปากกัดตีนถีบไปตามประสา" ศิลปินหนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดี "เราสองคนนี่เห็นท่าจะคุยกันดีๆไม่ได้เลยนะครับ พอประโยคแรกก้อตั้งท่าจะทะเลาะกันแล้ว แล้วนี่คุณจะไปไหนล่ะครับ" "วันนี่ฉันว่าง ก้อเลยมาเดินเล่น แล้วเป็นยังไงล่ะ ขายดีมั๊ย ไอ้หนังสืออะไรของคุณนั่นน่ะ" "ก้อขายได้บ้างไม่ได้บ้างล่ะครับ ทำไงได้ ความจริงเรื่องสั้นของผมก้อเคยลงในนิตยสารหลายเรื่อง แต่ไม่มีใครสนใจจะสนับสนุนผมเลย ว่าแต่คุณเถอะ ช่วยอุดหนุนสักเล่มสองเล่มสิครับ ช่วยๆกันหน่อย" "ฉันไม่เคยอ่านหนังสือแบบนี้เลยนะ" หญิงสาวพูด "แล้วฉันก้อเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องมาอ่านเรื่องสั้นหรือกลอนอะไรนั่น แต่ก้อเอาเถอะ ฉันจะช่วยซื้อ เอาเป็นว่าคุณจัดมาให้ฉันอย่างละเล่มก้อแล้วกันนะ" "ขอบคุณครับ คุณนักวิทยาศาสตร์สูงศักดิ์ ผู้หลงผิดมาซื้อหนังสือของศิลปินผู้ต่ำต้อย" ชายหนุ่มยังอารมณ์ดี "เอ..ท่าทางจะน่าสนุกนะขายหนังสือเนี่ย ให้ฉันช่วยขายมั๊ยล่ะ" นักวิทยาศาสตร์กล่าว "โอ๊ะโอ เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ" วันนี้ทั้งวันเธอเลยไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย แต่มาช่วยศิลปินหนุ่มขายหนังสือทั้งวัน ท่าทางเธอดูมีความสุข เพราะยิ้มทั้งวัน ต่างจากท่าทางเฉยๆที่เธอเคยทำเป็นประจำ "วันนี้ดูอารมณ์ดีจังนะคุณศิลปิน ครึ้มอกครึ้มใจอะไรล่ะ" เธอถาม เมื่อเห็นเขายิ้มบ่อยๆ "จะไม่ให้อารมณ์ดีได้ยังไงล่ะครับ วันนี้มีนักวิทยาศาสตร์ขายหนังสือกับผมด้วย ผมว่าคุณต่างหากที่ดูจะมีอารมณ์ดี ผิดไปกว่าทุกครั้งที่ผมเคยเจอ" "เหรอ นั่นสินะ ฉันไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีเลยมั้งที่ฉันรู้สึกปลอดโปร่งและสบายใจที่สุด" เธอบอก "งั้นเหรอครับ เอางี้ เดี๋ยวผมจะเลี้ยงบะหมี่ที่อร่อยที่สุดในโลกเป็นการตอบแทน ดีมั๊ยครับ" "ไม่ดีกว่า คราวนี้ฉันขอเลี้ยงคุณบ้างดีกว่า สนใจมั๊ยล่ะ" "อ๊ะ ลาภปากแบบนี้ก้อตกลงสิครับ เอาเป็นว่าเราไปกันเลยดีกว่า ผมหิวแล้ว" พร้อมกับพูด เขาก้อรีบเก็บหนังสือบนแผงลงไปในกล่องทันที
    ร้านอาหารที่เธอพาเขามา มีความหรูหราอลังการมาก ทุกสิ่งทุกอย่างดูมีค่าและราคาสูงด้วยกันทั้งนั้น ไม่ต้องอะไรมาก แค่บริกรก้อแต่งตัวดีกว่าเขาเป็นกอง เขารู้สึกอึดอัดใจยังไงบอกไม่ถูก "คุณไม่น่าพาผมมาที่นี่เลย รู้มั๊ย ผมเพิ่งจะเคยทานอาหารที่หรูหรายังงี้เป็นครั้งแรก ทำตัวไม่ถูกเลย" "เอาเถอะน่า" เธอบอก "เดี๋ยวเราก้อรีบกินรีบกลับ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอก" หลังจากนั้นทั้งคู่ก้อไม่ได้คุยกันอีกเลยจนกระทั่งทานอาหารเสร็จ เธออาสาไปส่งเขาที่บ้านบ้าง แต่เขาปฏิเสธ แต่กระนั้นเขาก้อทนลูกตื้อของเธอไม่ได้ เลยต้องให้เธอไปส่งเขาที่บ้าน บ้านของศิลปินหนุ่มเป็นบ้านหลังเล็กๆที่ดูเก่าและซอมซ่อ "เป็นยังไงล่ะครับ บ้านของผม รู้สึกว่าคุณจะผิดหวังมากเลยนะ" "อืม...ฉันยอมรับว่ามันผิดไปจากที่ฉันคิดมากทีเดียว แต่ก้อไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ฉันกลับก่อนล่ะ"
    หลังจากที่เธอไปส่งเขา เธอก้อขับรถกลับบ้านทันที คืนนี้เป็นคืนที่ดูเหมือนจะมีความสุขที่สุดของนักวิทยาศาสตร์สาว เธอนอนไม่หลับอีกแล้ว หยิบหนังสือของศิลปินหนุ่มขึ้นมาอ่าน...
คืนนี้...ฟ้าทางนี้
ฟ้ามีดาวนับหมื่นพัน
แต่ฟ้าก็ยังดูเงียบงัน
เพราะไม่มีจันทร์ประดับฟ้า
      คืนนี้...ใจดวงนี้
      มีเรื่องราวร้อยพันให้ค้นหา
      แต่ทุกเรื่องราวดูไร้ค่า
      เพราะไม่มีเธอมาประดับใจ
คืนนี้...ฟ้าทางนั้น
จะเงียบงันเหมือนฟ้าทางนี้ไหม
ท่ามกลางหมู่ดาวบนฟ้าไกล
มีดวงจันทร์บ้างไหมบนท้องฟ้า
      คืนนี้...ใจดวงนั้น
      มีกี่ร้อยพันเรื่องราวให้ค้นหา
      เรื่องราวใดที่ดูมีค่า
      จะมีฉันในสายตา..บ้างไหมเธอ
    คืนนี้หรือคืนไหนๆ ก้อมีดาวอยู่ทุกวันน่ะล่ะ เพียงแต่ว่าเราจะมองเห็นหรือเปล่าเท่านั้นเอง เธอคิด...  แล้วฟ้าทางนี้หรือทางไหน มันก้อเป็นผืนฟ้าเดียวกันน่ะล่ะ เพราะเราอยู่ในโลกเดียวกันนี่ ทำไมต้องเปรียบเทียบอะไรให้วุ่นวาย ศิลปินหนุ่มจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ป่านนี้คงจะหลับไปแล้ว เอ๊ะ! แล้วนี่ทำไมฉันต้องมาคิดอะไรให้วุ่นวายแบบนี้ด้วย คิดแล้วเธอก้อทิ้งตัวลงบนที่นอนหนานุ่มและหลับลงไปอย่างง่ายๆพร้อมกับความคิดอันสับสนวุ่นวาย...
    เขายังนอนไม่หลับหากแต่ยังมองท้องฟ้า ฟ้าผืนเดียวกับเธอนั่นล่ะ แต่คนละฟาก ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปกับสายลม ป่านนี้นักวิทยาศาสตร์สาวคู่ปรับคงจะหลับไปแล้วล่ะมั้ง เกิดมายังไม่เคยเจอใครที่เจ้าเหตุผลเท่านี้มาก่อนเลย... ท่ามกลางความคิดสับสนวุ่นวาย เขาก้อคิดกลอนได้บทหนั่ง...
หัวใจดวงนี้
ไม่ได้มีอะไร
นอกจากความห่วงใย 
ให้กับใครบางคน
     หัวใจดวงนี้...
     บางที...ก็สับสน
     แต่ไม่เคยทิ้งใครบางคน
     ให้ร่วงหล่นจากหัวใจ
หัวใจดวงนี้
บางทีก็หวั่นไหว
แต่จะเป็นเพราะใคร
ถ้าไม่ใช่...ใครบางคน
    ใช่แล้ว เขาก้อไม่มีอะไรมากหรอก นอกจากจะคิดถึงเธอให้วุ่ยวายใจเล่นๆ เขาก้อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องปล่อยให้เธอเข้ามาในความคิดแบบนี้ แต่ช่างเถอะ ในเมื่อคิดแล้วมีความสุข เขาก้อจะคิดอยู่แบบนี้ล่ะ... แล้วเขาก้อเผลอหลับไปท่ามกลางความสุขใจ 

    โปรดติดตามตอนต่อไป ..				
comments powered by Disqus
  • JoyLek

    12 พฤศจิกายน 2546 17:12 น. - comment id 70153

    ดีใจด้วยค่ะ
  • tiki

    23 กันยายน 2547 04:34 น. - comment id 77344

    มาอ่านเรื่องสนุกของคุณ ไม่เคยแวะมาเลยค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน