๓๕ ๏พระดำรัสธรรมในพระนิพนธ์ พระปิยะมหาราช ฯ

tiki

พระดำรัสธรรมในพระนิพนธ์ พระปิยะมหาราช ฯ ๚. 
tiki  บัณฑิตวินิจแล้ว..............แถลงสาร...สอนเอย
                    ทศนฤทุมนาการ.......................ชื่อชี้
                   เหตุผู้ประพฤติปาน....................ดังกล่าว..........นั้นนอ
                  โทมนัสเพราะกิจนี้.....................ห่อนได้เคยมีเพราะทำความดีทั่วไป
                             ๑
                            ๏ ทำดีไป่เลือกเว้น...............ผู้ใด....ใดเฮย
             แต่ผูกไมตรีไป............................รอบข้าง 
             ทำคุณอุดหนุนใน.........................การชอบ.....ธรรมนา
             ไร้ศัตรูปองมล้าง..........................กลับซ้องสรรเสริญเพราะไม่ได้พูดร้ายต่อใครเลย
                               ๒
                               ๏    เหินห่างโมหะร้อน..................ริษยา
                 สละส่อเสียดมารษา.......................ใส่ร้าย
                 คำหยาบจาบจ้วงอา-........................ฆาตขู่...เข็ญเฮย
                ไปหมิ่นนินทาป้าย...........................โทษให้ผู้ใด  เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน
                                    ๓
                                   ๏ ยินคดีมีเรื่องน้อย...................ใหญ่ไฉน.....ก็ดี
                     
                  ยังบ่ลงเห็นไป................................เด็ดด้วน
                  ฟังตอบสอบคำไข..........................คิดใคร่...ครวญนา
                 ห่อนตัดสินห้วนห้วน........................เหตุด้วยเบาความ    เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด
                       
                                          ๔
                                          ๏    พาทีมีสติรั้ง................รอคิด
                   รอบคอบชอบแลผิด.......................ก่อนพร้อง
                   คำพูดพ่างลิขิต...............................เขียนร่าง...เรียงแฮ
                  ฟังเพราะเสนาะต้อง........................โสตทั้งห่างภัย    เพราะงดพูดในเวลาโกรธ
                                           ๕
                                          ๏   สามารถอาจห้ามงด..................วาจา...ตนเฮย
                      ปางเมื่อยังโกรธา...........................ขุ่นแค้น
                      หยุดคิดพิจารณา............................แพ้ชนะ....ก่อนนา
                      ชอบผิดคิดเห็นแม้น.........................ไม่ยั้งเสียความ    เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน
                                         ๖
                                         ๏  กรุณานรชาติผู้.....................พ้องภัย..พิบัติเฮย
                       
                      ช่วยรอดปลอดความไขษย...............สว่างร้อน
                      ผลจักเพิ่มพูนใน..............................อนาคต...กาลแฮ
                      ชนจักชูชื่อช้อน...............................ป่างเบื้องประจุบัน   เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด
                                     ๗
                                     ๏  ใดกิจผิดพลาดแล้ว...............ไป่ละ..ลืมเลย
                        หย่อนทิฐิมานะ...............................อ่อนน้อม
                        ขอโทษเพื่อคารวะ..........................วายบาด...หมางแฮ
                        ดีกว่าปดอ้อมค้อม..........................คิดแก้โดยโกง   เพราะความอดกลั้นต่อผู้อื่น
                                   ๘
                                   ๏  ขันตีมีมากหมั้น.....................สันดาน
                      
                         ใครเกะกะระราน............................อดกลั้น
                         ไป่ฉุนเฉียวเฉกพาล.....................พาเดือด....ร้อนพ่อ
                          ผู้ประพฤติดั่งนั้น.........................จักได้ใจเย็น . .๚ 
                       
                               
                                    เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนิทาน
                              ๙
                            ๏ ไป่ฟังคนพูดฟุ้ง....................ฟั่นเฝือ
                       เท็จและจริงจานเจือ.....................คละเคล้า
                       คือมึดที่กรีดเถือ..........................ท่านทั่วไปนา 
                      ฟังจะพาพลอยเข้า......................... พวกเพ้อรังควาญ   เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย
                        ๑๐
                        ๑   อีกหนึ่งไป่เชื่อถ้อย...................คำคน....ลือแฮ
                     บอกเล่าข่าวเหตุผล..........................เรื่องร้าย
                     สืบสอบประกอบจน..........................แจ่มเท็จ...จริงนา
                     งบ่ด่วนยักย้าย...................................ตื่นเต้นก่อนกาล   ๚ะ
                          ๑ ข้อความตามกล่าวแก้...............สิบประการ...นี้นอ
                    ควรแก่ความพิจารณ์...........................ทั่วผู้
                    แม้ละไป่ขาดปาน..............................โคลงกล่าว...ก็ดี
                    ควรระงับดับสู้....................................สงบบ้างยังดี    ๚ะ๛
 ขออัญเชิญพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันว่าด้วย การละเว้นวจีทุจริต เห็นเป็นสิ่งดีในการนำเสนอ ทั้ง บทโคลงสี่สุภาพ ซึ่งทรงใข้ถ้อยคำเรียบง่าย เข้าใจง่าย 
วันนี้ขอพระราชทานนำลง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชนทั้งหลาย  
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
 ทิกิ_tiki
๒๐:๐๐ นาฬิกา
พระอังคาร  ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยะมหาราชโคลงสุภาษิต**นฤทุมนาการ**
กิจสิบประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ
ที่มา  วรรณสารวิจักษณ์ เล่ม ๔
กรมวิชาการ กระทรวง ศึกษาธิการ ฉบับพิมพ์พุทธศักราช ๒๕๔๐				
พระราชนิพนธ์โคลงสุภาษิต  **นฤทุมนาการ**๑   ๚
ที่มา จากหนังสือ เล่มเดียวกัน ได้บรรยาย ความ โคลงสุภาษิตนี้ไว้ว่า

คำว่า นฤทุมนาการ  เป็นศัพท์สมาส ที่มีการสนธิ แยกได้เป็นขั้นๆดังนี้

          นฤทุมน + อาการ (อาการ แปลว่า สภาพ กิริยา ) 

นฤทุมน   เป็นศัพท์สมาสอีกเช่นกัน  แยกได้เป็น 
นฤ + ทุมน 

(นฤ เป็น อุปสรรค  แปลว่า ปราศจาก ไม่) 

ทุมน  แยกเป็น ทุ + มน

(ทุ เป็น อุปสรรค แปลว่า  ไม่ดี  เสีย

มน แปลว่า ใจ )

เมื่อแยกศัพท์ เช่นนี้แล้ว  จะเห็นว่า ความหมายรวม นฤทุมนาการ    ก็คือ  สภาพที่ปราศจากความเสียใจ  หรือ สภาพที่ไม่ทำให้เสียใจ ซึ่ง
ตามนัยแห่งโคลงสุภาตนี้มี ๑๐ ประการ
ดังที่ปรากฏในบทพระราชนิพนธว่า
.กิจ ๑๐ ประการที่ผุ้ประพฤติ ยังไม่เคยเสียใจ 

ที่มา หน้า ๑๔๒ เล่มเดียวกัน  
 : 4895 - tiki  : 264974 - 04 พ.ค. 47 - 20:39  
 

กิจสิบประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ
1. เพราะทำความดีทั่วไป
2. เพราะไม่ได้พูดร้ายต่อใครเลย
3. เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน
4. เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด
5. เพราะงดพูดในเวลาโกรธ
6. เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน
7.เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด
8.พราะความอดกลั้นต่อผู้อื่น
9.เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนิทาน
10.เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย

     คนเราทุกวันนี้ มีไม่น้อยที่ทำเรื่องต่าง ๆ แล้วพลอยทำให้ตนเองต้องเสียใจภายหลัง ก็ได้แต่เพียงคร่ำครวญ ปริเวทนาการ ไม่สามารถกลับหวนทวนอดีตได้ ถ้าจะว่าไปแล้วคนเราทุกวันนี้ไม่ต้องถึง 10 ประการหรอก ถ้าได้สักครึ่งหนึ่ง สังคมก็จะดีไม่น้อย แต่เพราะความดีให้ผลช้า และตอบแทนในแง่ของวัตถุไม่ทันใจ จึงดูเหมือนความชั่วจะได้รับการสนองตอบมากกว่า แต่เพราะคิดว่าแค่จะได้ จะเอานั่นแหละคนเราจึงต้องมาเสียใจภายหลัง 
     เอาง่าย ๆ แค่ข้อ 4 ที่ว่า คิดเสียก่อนจึงพูด ก็หมายถึงว่า ก่อนพูดเราเป็นนายของคำพูด แต่พอพูดเสร็จมันกลับเป็นนายเรา หรือ ข้อ 5 เพราะงดพูดในเวลาโกรธ ก็เพราะว่า ความโกรธเปรียบเสมือนลูกระเบิด คือ ก่อนที่มันจะทำลายคนอื่นได้ มันจะต้องทำลายตัวมันเองก่อน ส่วนความไม่โกรธ ก็เหมือนพัดลม ที่ตัวมันเองแสนร้อนเมื่อเปิดนาน ๆ แต่คนได้รับกลับเย็น..............
     ขอให้ทุกหัวใจจงงดงาม...
     แล้วเจอกันอีกครับทิกิ.  
: 7767 - เกียรติ กรัชกาย  : 265194 - 04 พ.ค. 47 - 23:53				
comments powered by Disqus
  • tiki

    5 พฤษภาคม 2547 17:14 น. - comment id 73897

    อันเนื่องมาแต่ โคลงสุภาษิต ทศนฤทุมนาการนี้เอง จึงจะเป็นเหตุให้จักค้นคว้า พระดำรัสในธรรม
    แห่งพระองค์ท่านมหาราชต่อไป
  • รัถยา

    5 พฤษภาคม 2547 23:15 น. - comment id 73909

    กิจสิบประการที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ
    
    1. เพราะทำความดีทั่วไป
    2. เพราะไม่ได้พูดร้ายต่อใครเลย
    3. เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน
    4. เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด
    5. เพราะงดพูดในเวลาโกรธ
    6. เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน
    7.เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด
    8.พราะความอดกลั้นต่อผู้อื่น
    9.เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนิทาน
    10.เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย
    
    ...............................................ย้ำเพื่อเตือนใจนะ ทิกิ
    
    .
  • ทิกิ _tiki ไม่ลงทะเบียน

    6 พฤษภาคม 2547 08:33 น. - comment id 73914

    ขอบคุณ คุณ รัถยา มากค่ะ
    เช้านี้ ก็ฟังคุณหมอประเวศ วะสี ท่านให้ความเห็น
    ตรงประเด็นที่เราเขียนกํนด้วยอยู่บ้าง
  • tiki

    6 พฤษภาคม 2547 09:50 น. - comment id 73915

    "ประเวศ\"ชี้7สาเหตุใต้รุนแรง
    
    เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ได้เขียนบทความเรื่อง ความรุนแรงที่ภาคใต้ 
    สาเหตุและวิธีแก้ไข ตอนหนึ่ง ระบุว่า การมองปัญหาภาคใต้ไม่ควรมองแบบตายตัวแยกส่วนว่าเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเท่านั้น
     แต่ต้องมองแบบอิทัปปัจจยตา คือมองการเกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยหลายอย่างพร้อมกัน
     เพราะในระบบที่ซับซ้อน แม้เหตุน้อยนิดก็ทำให้เกิดเรื่องแบบถล่มทลายได้
     เรียกว่า \"ปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีก\" 
    
    น.พ.ประเวศระบุว่า สาเหตุแห่งความรุนแรงในภาคใต้ มี 7 ประการ คือ 
    1.ความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ 
    2.ความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่น กับการรวมศูนย์อำนาจของราชการส่วนกลาง
    3.สปิริตแห่งการแบ่งแยกดินแดน
     4.การวางตำแหน่งของประเทศที่ผิดพลาดท่ามกลางความขัดแย้งโลก
     5.การขาดสัมมาวาจาของนายกรัฐมนตรี
     6.ขาดการใช้สันติวิธี และ
     7.ผลของการศึกษาที่ไม่เข้าใจความเป็นมนุษย์
    
    0ขาดบารมีเรื่องวาจา
    
    ในประเด็นการขาดสัมมาวาจา น.พ.ประเวศระบุว่า 
    
     การเป็นคนขาดวาสนาบารมีในเรื่องวาจา
     เป็นคนที่พูดแล้วทำให้เกิดเรื่อง 
    
    ทั้งนี้ควรยึดวจีสุจริตตามพุทธพจน์ ประกอบด้วย
     จะพูดอะไรต้องเป็นความจริง
     มีที่มา มีที่อ้างอิง,
     พูดเป็นวาจาสุภาษิต
    , พูดถูกกาลเทศะ
     แม้เป็นความจริงถ้าไม่ถูกกาลเทศะ ก็ไม่พูด
     และพูดแล้วต้องเกิดประโยชน์ พูดแล้วเกิดโทษก็ไม่พูด
    
    \"สังเกตการพูด จะเป็นปัญหามากกว่า พูดแล้วทำให้เกิดเรื่อง
     เป็นผู้นำต้องไม่ให้สัญญาณความรุนแรง อำนาจรัฐนั้นนิยมใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว
     ถ้าผู้นำให้สัญญาณความรุนแรง อำนาจรัฐก็จะใช้ความรุนแรงเกินขอบเขต ก่อเวรก่อกรรมต่อไปเป็นอันมาก\"
     น.พ.ประเวศระบุ
    http://www.matichon.co.th/matichon/matichon.php?s_tag=01p0102060547&show=1&sectionid=0101&day=2004/05/06
         จากข่าวมติชน 6 พฤษภาคม 2547
     
    
  • tiki

    11 พฤษภาคม 2547 10:15 น. - comment id 74071

    อืมม์ เป็นความเห็นที่น่าสนใจดี คงเห็นการพัฒนา
    อย่างเป็นรูปธรรมขึ้น หากผู้เขียนไม่คิดขยักสิ่งดีๆไว้ส่งนิตยสาร เพื่อรับค่าเขียนรายสัปดาห์ 
    
    หรือ ว่าเก็บไว้เพื่อออกหนังสือรวมเล่มเฉพาะตน
    เพื่อผลงานทางโลกบรรณกรรม...ซึ่งเป็นสิทธิส่วน
    บุคคลของแต่ละท่าน
    
    แต่ที่แน่แน่ เคยเสนอให้ ทำระบบ ห้ามคัดลอกกลอนอันเป็นลิขสิทธิ์ส่วนบุคคลผุ้ประพันธ์ เหมือน หน้า ใบหญ้าดอทคอม ที่นี่
    
    
    คุณอริตา กันยามาส เธอก็คุยให้ฟังว่าโดนขนาด
    คัดลอกทั้งเรื่องของเธอไปเปลี่ยนชื่อตัวละคร เท่านั่น ?
    
    ขอเรื่องสงวนลิขสิทธิ์  Copy right นี้ ก็ว่าขอมาปีหนึ่งพอดี ไม่มากไม่มายนะคะ
    เรียนขออีกรอบแล้วกัน 
    
             ไม่ใช่ว่าไม่อยากนำกลอนดีๆมาลง แต่เข้าใจว่า
    นักเขียนแต่ละท่าน ก็อยากมาร่วมลงที่ หน้าThaipoem แน่นอน แต่ลงแล้ว ต้องคิดในใจอยู่ว่า
    เขาได้อะไร หรือเสียอะไร
    
    
    เช่นบางท่านที่เคย โยน กลอนมาให้หลายเว็บ
    ท่านก็เลิก โยน เพราะ นำไปส่งนิตยสาร เป็นเงิน
    เป็นทองก็มาก นะคะ คุณ ขัยชนะคะ
    
    
    แต่ประเด็นของคุณก็น่าสนใจดีค่ะ
    
    ทิกิ_tiki
    
    
    Fraudulent   ....counterfeit...forged....mock...sham...falseness...dishonorable.....crooked...deceitful...
    devios...dishonesty.....
    
    
    หากไร้ศีลข้อมุสาวาท และ ลักขโมย เสียแล้ว
    การคว้าข้อความของผู้อื่นมาอ้างว่าเป็นของคน ก็มีอยู่เสมอร่ำไป
    
    
    
    ไทยไม่ช่วยไทย แล้วใครจะช่วยกัน ???
    
    
    ทิกิ_tiki
    deceit
    fraudulence
    misrerepresentation
    deception
    fake
    bustard
    sham
    falseness
    humbug
    fourflusher
    imposter
    
    pretense...deception
    นี้ การขโมยความคิดสร้างสรรค์งานประพันธ์ รวมไปถึงวิทยานิพนธ์ด้วยแหละ..เราจะ  
    แก้ไขได้ด้วยกันทุกคน ก็ด้วยความเคารพสิทธิในการสร้างสรรค์งานประพันธ์ของแต่ละบุคคล
    แน่นอนที่ว่า กฎหมายลิขสิทธิ์ที่มีอยู่ ได้ให้โอกาส
    ลูกหลานของทุกท่านไปอีก 50 ปีในการครอบครองลิขสิทธิ์วรรณกรรมของผู้จาร 
    แต่ตราบใด ที่  Freudulent  นี้ ยัง
    จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki  
    รหัส - วัน เวลา : 7136 - 11 พ.ค. 47 - 09:54 
    
    
    เห็นเป็นข้อมูลน่าสนใจคุณชัยชนะ
    จึงคัดมาลงที่นี่
    
    http://www.thaipoem.com/web/boarddata.php?id=324
  • หนุ่ม

    1 ธันวาคม 2547 22:50 น. - comment id 79576

    ใช้ได้ทุกเมื่อตอนนี้เรียนอยู่ขอไห้เข้าใจด้วยเถอะ
  • จากเด็กเรียน

    8 มกราคม 2548 22:37 น. - comment id 80412

    คำแปลแต่ละบทด้วยสิคับว่าแปลว่าอาราย
  • เด็ก

    8 มกราคม 2548 23:56 น. - comment id 80413

    แปลให้ด้วยซิ
    อยากรู้
  tiki

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน