๏ ..คนมันผิดคีย์ ๚

tiki

ฉันไม่เคยจำเลยว่า บทกลอนชิ้นแรกเขียนเมื่ออายุเท่าไหร่ 
รู้แต่ว่า สมุดปกแข็งเล่มหนึ่ง จะ มีภาพ ประกอบ รวมกับ กลอน 
เขียนด้วยลายมือสวย ทีละหน้า...
           ความที่พวกเรานักเรียนโรงเรียนหญิงสตรีวิทยา..แห่งนั้น 
ชอบร้องเพลงกันนัก วันเวลาแห่งการคัดเขียนเพลง จึงทำให้เรา เขียนไป..
.ร้องด้วยกันไปบ่อยๆ 
    พวกเรามีความสุขที่จะร้องเพลง ของสุนทราภรณ์..และนักร้องอื่นๆอีก
มากมาย .....**เที่ยวพเนจร ...ซอกซอนพนาลัย..ชมเขาลำเนาไพร...ฯ** .
..พรานไพร   สุนทราภรณ์ : : 
เอื้อ สุนทรสนาน..
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=488
        **คืนวันนี้ ถ้าพี่นอน...หนุนหมอนน้อย..*...ฝากหมอน บุษยา รังสี
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=591
    กลุ่มของเราที่นั่งข้างตึก จะประกอบด้วยนักเรียนหญิง ต่างรุ่นกัน .
สำหรับฉันเด็กยุคซิกซ์ตี้ (Sixty_1960)
ก็ ร้องเพลง   Elvis  Presley ,Cliff   Richard.., The . Beatles....ฯลฯ  ที่ ดีเจซ่า
ในยุคนั้น อัดใส่มาทางวิทยุ คงหนีไม่พ้นBabadu The Watuzi  อันลือลั่น 
 พอ พอ กับทุกเพลงของ C C R  Credence Clear Water  ,
 Grand Funk Rail Road.. , Deep Purple..White Witch...TheLettermen..,
Chicago...,Olivia Newton John  .,.Crosby  Still Nash and  Young...
,The   Carpenters...,The Rolling Stones..., โอย จำไม่หมด..
 โก๋เด๊บ โก๋ม้อด หลังวังฯ......และ เพลงลูกทุ่ง ลูกกรุงสลับกันไป
เขียนกลอนมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หน ส่งไปตามนิตยสารต่างๆ แต่ไม่เห็นเคยได้เงิน.?
        หากเรื่องสั้นนั้นจะได้เงินประจำเป็นก้อนเป็นกำทีเดียว...
              แล้วถ้าเขียนกลอนมากมายขนาดนี้จะเอาไปทำอะไร ? 
ใครบางคนหยิบต้นฉบับที่ถ่ายด้วยเครื่องเลเซอร์พริ้นท์ตั้งสูงเหล่านั้น มาอ่าน
          เดี๋ยวไปถ่ายเอกสารน่ะ แล้วจะ รวมเย็บเล่มเอง...ไว้แจก.
           .งานไรดี..ไม่มีใครซื้อ ไว้แจกงานศพตัวเองก็ได้
              คนเขียนกลอนจะหมดอนาคตขนาดนั้นหรือ...?
      บทกลอน มันเคยมีค่าบ้างไหม..
.ฉันเคยถามตัวเองหลายครั้ง เมื่อไปจ่ายค่าพริ้นท์ บางที สี่ห้าร้อย 
บางที ก็ร้อยกว่า สองร้อยกว่าเฉพาะต้นฉบับ เป็นตั้งนั้น ก็เหยียบหมื่นเข้าไปแล้วสิ
          มันมี มีมากสำหรับฉันเลย
ทิกิ_tiki

จารจดเมื่อ  ๑๓:๔๐ นาฬิกา บ่ายพระพฤหัส ทั้งวันครูทั้งวันพระใหญ่อีกต่างหาก
วันที่  ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช  ๒๕๔๗
วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘  วันหยุดภาคครึ่งปี ธนาคารฯ
ภาพโดย   วาพราว
เรื่อง โดย  ทิกิ_tiki
สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved  				
หวนไปคิดบทกลอนของสุจิตต์  วงศ์เทศ  กับ ขรรค์ชัย บุญปาน
 ซึ่งฉันตัดมาจากนิตยสารสมัยนั้น ปะไว้หน้าสมุดเล่มนั้น

         ไม่เคยลืมเลย...๏  .**มึงกับกูขาดกันในวันนี้ 

                                ลาทีดอกไม้ในความฝัน

                                มึงทำร้ายกูได้กระไรทุกวัน

                               น้ำคำมึงฟาดฟันทุกเวลา...

                มึงกับกูขาดกันในวันนี้

               ไม่มีดอกไม้ในวันหน้า
 
               มึงทำร้าย มึงทำลายด้วยสายตา

             อิริยามึงทำร้ายกูหลายคราว
                 
                  มึงกับกูขาดกันในวันนี้
            
               อีกเนิ่นกาลนานปีอย่ามีข่าว
                                   
               ........   กูหลายคราว
         
               มึงทำความปวดร้าวกูยาวนาน...............
              ฯลฯ    ๚ .

เขียนโดยทิกิ  14:00 ;วันเดียวกับความข้างบนน่ะ
ภาพโดย  วาพราว (ลูกสาวจิตรกร ก็เก่งงี้แหละ )				
สมุดเล่มที่ถือไป คณะ ฯ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย  ให้รุ่นพี่ดู อารมณ์กวี
ในสมุดที่ปะเอาไว้ยืดยาว
บทกลอน ๏  สุจิตต์  วงศ์เทศ หรือ ขรรค์ชัย บุญปาน 
จำไม่แม่นแล้ว..๚ แปะอยู่หน้าปก
.                    **มึงกับกูขาดกันในวันนี้ 
                    ลาทีดอกไม้ในความฝัน
                    มึงทำร้ายกูได้กระไรทุกวัน
                     น้ำคำมึงฟาดฟันทุกเวลา...
                           มึงกับกูขาดกันในวันนี้
                    ไม่มีดอกไม้ในวันหน้า
                    มึงทำร้าย มึงทำลายด้วยสายตา
                    อิริยามึงทำร้ายกูหลายคราว...ฯลฯ
                 
                * เฮ้ย ทำไมโหดอย่างนี้วะ  กลอนไรของเอ็งวะเนี่ย ไอ้ทิกกี้* 
               พี่คนผอมบางกร้องแกร้ง แต่เป็นพี่ชายแท้ๆของเพื่อนสนิท
นักเรียนเตรียมอุดม ฯ ผู้เคยให้คนขับรถขับ คาดิลแลค คันงามมารับเรา
ไปนอนท่องหนังสือด้วยกันที่บ้าน อัครฐาน ในซอยสุริวงศ์
              บ้าน ซึ่งมี กุ๊กจีน ทำอาหาร จีนได้อร่อยที่สุด  ป๋าชอบลงมาดู คน
อย่างเรา กับเพื่อนเอ๋ย อีกคนด้วยท่าทีพิศวง ว่าทำไมพ่อแม่ ถึงปล่อยลูกสาว 
ไปนอนค้างอ้างแรม บ้านเพื่อนได้ ยังงั้นนะ ?         
          พวกเราก็ท่องหนังสือกัน ในห้อง ในบ้าน กับลูกสาว ซูซี่คนงามของ
อาป๋า นั่นแหละ
              และ ฉันก็หอบหนังสือกลอนไป ตาแฉะกับอักษรทั้ง ชีทข้อสอบ
 และ บทกลอนของตัวเอง
     *ไอ้ทิกกี้ เอ๊ย*
  ซูซี่ คนตัวขาวสูงใส่แว่น จะ ชอบเอามือขยี้หัว ฉัน อย่างเอ็นดูนัก
     * แม่แกนี่ โคตรโหดเลยนะไม่ยอมให้แกไปสอบคณะที่ตัวเองอยากเรียน*
     * อือมม์ ช้ำว่ะ*  ฉันตอบเศร้าใจ

ภาพและเรื่อง โดยทิกิ_tiki
หยิบจากโน้ตแพ้ดเขียนเมื่อเช้า
ตอนนี้ก็เวลา 14:05 นาฬิกา				
ใครใครก็รู้ดีว่า ฉันอยากเรียน มัณฑนศิลป์ ศิลปากร ปานไหน...
 แต่สำหรับแม่ ที่เกิดมาเห็นแต่ตัวเลข เลี้ยงลูกได้เพราะตัวเลขบัญชี..
.มีสังคมแต่คุณหญิง คุณนาย เล่นไพ่ รำพัด เต้นรำ เข้าสังคม 
ที่ฉันชอบ แขวะให้เสมอว่า * *จอมปลอมสิ้นดี  สังคมพวกแม่น่ะ** 
 แม่รังเกียจพวกศิลปากร ปานใด

              * กุ๊ย สกปรก ดูแต่ละคนเข้าซี  กางเกงยีน เก่าๆ ขาดๆ รองเท้าผ้าใบ
เสื้อยืดไรไม่รู้ หัวหูไม่สระ....ตาลอย..บ้าทั้งวัน ชั้นไม่มีวันให้เธอเข้าเด็ดขาด
 แค่นี้ก็บ้า ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว จะเข้าให้บ้าสองร้อยเปอร์เซ็นต์เหรอ**

          แล้วคุณแม่ คนงาม คนสวยพริ้งราวนางฟ้าของฉัน ก็เริ่มออกงิ้ว 
กรี๊ดใส่ลูกสาวคนที่เริ่มสวยเหมือนกัน
              ทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดง
           ขนาดฉันทุบโต๊ะประกาศกร้าวว่าจะสอบเข้าให้ได้ 
           แม่ก็ทุบบ้างเหมือนกัน ว่าลองเลือกคณะฯบ้านั่นอันดับหนึ่งสิ
จะตัดลูก ตัดแม่ จะ ตัดออกจากกองมรดก วงศ์ตระกูล จะไล่ออกจากบ้าน 
ไม่ส่งเสียเลี้ยงดู ไม่ส่งเสียให้เรียนหนังสือมหาวิทยาลัย เด็ดขาด
                      
           เอาวะ จะไปหาเงินที่ไหนเรียนล่ะ ...ฉันร้องไห้ทุกวัน 
        อุตส่าห์ไปฝึกมือ กับพวกพี่เผือกพี่โภชน์ไรนั่นมาหลายเพลา...
     ทำไมแม่ถึงใจร้าย ใจดำปานฉะนี้หนอ
    เอ้า ไม่ให้ สอบ ก็ได้ แกล้งแม่ดีกว่า  อยาก บังคับให้เลือก จุฬาฯ 
อันดับหนึ่งนักนี่ คอยดูเหอะ

            ** แม่**  ฉันตะโกนใส่แม่   
 ๏ ** พวกจุฬาฯ น่ะ มันทำท่าหยิ่ง ผู้ดีตีนแดงจะตาย 
หนูเบื่อวงศาคณาญาติพ่อแม่ผู้ดีทั้งโคตรตระกูลมาเต็มทนแล้ว 
จะให้หนูไปเรียนกะพวกนี้อีกเหรอ...? **   ๚

             * ไม่ได้ ต้องเลือกอันดับหนึ่ง ชั้นไม่ยอมเด็ดขาด**

          วะ เลือกก็ได้นะ งั้นเลือกบัญชีอย่างแม่น่ะแหละ*ฉันตะโกนใส่แม่มั่ง
 แล้วยิ้มกริ่มด้วย ใจสนุก  ตอนเห็นแม่ทำหน้าบึ้งกับภาษาทอมบอยของฉัน
จะเลือกให้มันไม่ติดไง.......

           *ลูกทำไมไม่เลือก อักษร ฯ หรือ นิเทศล่ะคะลูก*...แม่เริ่มอ่อนข้อ   .
            .....เรื่องไร เลือกตรงสายให้มันติดเหรอ 
.         .........ไม่มีทางซะหรอก
       .........  ใครจะไปติดได้ล่ะ ฉันหัวเราะเยาะแม่  
            ......ก็ฉันมันเด็กเรียน  สายศิลป์ฝรั่งเศส นี่นา  คณิตศาสตร์ ก็ 
เรียน ..กอ อย่างเดียว   ขอ น่ะไม่กระดิกหู  อย่าไปพูด ถึง คณิต คอ อย่าง 
ศิลป์คณิต เรียนกันเลย ไม่มีทางรู้เรื่องเด็ดขาด
            
           ต้องโทษ ซูซี่ ที่จับไปติวเข้มที่บ้าน ซูซี่ และ เพื่อนเอ๋ย มันเด็กสาย 
ศิลป์คณิต    สมัยนั้น ฉันเลือกภาษาอังกฤษ เข้าสอบแทน คณิตศาสตร์ 
ขอ คอ อะไรเขาน่ะแหละ
         อันดับสอง ก็ เลือก มอธอ ธรรมศาสตร์ ขวัญใจแม่ไง 
             มันก็คงไม่ติดหรอกเฮอะ บัญชีมอธอ  
         อันดับสาม แฮ่ ฮั่นแน่ จะหนีแม่ไปให้ไกลฟ้าเลย  
เลือกมนุษยศาสตร์   มอชอ เชียงใหม่ไง .
.......จะได้ไปเรียนกับพวกเพื่อนเก่าสายสตรีวิทย์ ที่เราลาออก เมื่อสอบตก 
วิทย์มอสี่อย่างภาคภูมิใจ  ที่แกล้งแม่ ว่าจะสอบตกให้แม่ดูทั้งปีนั่นไง
 
        ก็ แม่อยากไม่ให้ไปสอบเข้าเตรียมอุดมฯ ทั้งๆที่ลูกมันสอบได้ที่หนึ่ง
ในห้อง ทั้งปีน่ะนะ    โกรธแม่ จะแกล้งแม่ให้สะใจ
วัยรุ่นนั้นมันเป็นพาลกับพ่อแม่แท้แท้เลย...พ่อแม่ต้องทำใจกับความแปร
ปรวนของฮอร์โมนในร่างกายลูกให้ดีเชียวนะในวัยนั้นนั้น

ภาพและเรื่อง โดยทิกิ_tiki
หยิบจากโน้ตแพ้ดเขียนเมื่อเช้า....ตอนนี้ก็เวลา 14:15 นาฬิกา 
(ปอลอ ภาคโหดอย่างนี้ น้องๆอย่าเอาตัวอย่างไปใช้เป็นอันขาด )				
ผล...โน่น วันประกาศผลสอบที่หน้าคณะวิทยาศาสตร์มหิดล...
                ฉันร้องไห้ โฮ อยู่หน้าบอร์ดประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย..
         **อ้าวน้องคร้าบ  อย่าร้องไห้คร้าบ...ไม่ติด สอบใหม่ ปีหน้าได้คร้าบ
น้องคร้าบ...นี่ผ้าเช็ดหน้าพี่**
         พี่ใครไม่รู้ สุดหล่อ เดินเข้ามาส่งผ้าเช็ดหน้าหอมกรุ่นให้  
        แต่ไม่ทันกะมือขาวๆ อีกหก มือ ของ สาวน้อย ศิษย์เก่าสตรีวิทย์ สาย 
มอชอ ทั้งหมด ที่คว้าหมับ แยกเขี้ยว ให้พี่สุดหล่อ แล้วประกาศลั่นว่า
                 *เค้าติดจุฬาย่ะ สะเหร่อ** (ภาษากะเหรี่ยงสุดสมัยโน้น)
                * อ้าว แล้วร้องไห้ทำไมครับ น้อง**
                * อ้าว ก็มันอยากให้ติดอันดับสามชัวร์อยู่แล้ว มอชอ ไง ..
.ผ่าไปติดอันดับหนึ่ง..มันก็ร้องไห้น่ะย่ะ พ่อรูปหล่อ**
         โดนสาวซ่าทั้งกลุ่มรุมล้อม พี่สุดหล่อแห่งมหิดลฯ ก็เดินเลี่ยงไปทางอื่น...

       ๏  ** ปลิดความฝัน...ขว้างกระจุย...ลุยแดนถิ่น
              งามชีวิน  สีชมพู อันโก้หรู
             ถูกแอนตี้  รับน้องเดี่ยว  เชียวนะกู
              ต้องลงเข่า...คลานกู่...ร้องเชียร์จุฬา**  ๚   

     ใครว่า เรียนจุฬา ฯ แสนดี ไม่มีทาง  เรามันช้ำระกำใจสุด ไม่อยากเรียน
ก็รู้อยู่แล้ว   โดนรุ่นพี่ ส่วนใหญ่ รุ่นเพื่อนที่สตรีวิทย์ที่ก้าวเข้ามาอยู่คณะนี้
แต่ปีก่อนสักสองสามคน .
          ..บอก ซีเนียริตี้ มีห้ามทัก ....ไม่ทักก็ได้วะ ..
            .อย่ามองหน้ากันอีกเลย...ผล  ไอ้ทิกกี้ โดนรับน้องเดี่ยว.ในกรุ๊ป..
.ถูกสั่งให้คุกเข่า อ้าปากกินอาหารบ้าบออะไรเลวร้ายที่ผสมมาให้กิน  
แต่กำลังหิวก็ซัดเข้าปากไม่ถ่มสักอึก
      โน่น ทางเดิน ธงชัยข้างหน้า โทษฐานไม่เข้าซ้อมร้องเพลงเขียร์จุฬา ฯ
     ร้องเดี๋ยวนี้  เอ้าร้องผิด คุกเข่า คุกเข่า คลานเข่าไปบนทางขรุขระ นี้นะ
      ร้องเพลงเดินจุฬาด้วย ไป  คลานไป...นั่น...หัวเข่าแตกเลือดออกเหรอ 
          ดี ...ดี..สะใจ... เพื่อนร้องไห้ กันกระจองอแงในภาพที่เห็น  
         รุ่นพี่ แอบ ซับน้ำตา กันยกใหญ่
             ** ม่าย เปงราย...**
          ทิกกี้ มันกัดฟันทน คลานเข่าไปตามคำสั่ง ไอ้ซีเนียริตตี้ บ้า บ้าที่สุด
ที่กูเคยเห็นมา
            รับน้อง...ประสา..ห...อะไรของมันวะ
**
ภาพและเรื่อง โดยทิกิ_tiki
หยิบจากโน้ตแพ้ดเขียนเมื่อเช้า...ตอนนี้ก็เวลา 14:20 นาฬิกา 
(ปอลอ คำไม่สุภาพในใจในสมัยโน้น น้องๆโปรดอย่าทำตาม ขอร้อง )				
.            ผ่านไปแล้ว รับน้องคณะฯ แสนดี แสนน่ารัก ..
.รุ่นพี่ใน หอซีมะโด่งมากลุ้มรุม แสนรักเสียอีก 
  เป็นไงไม่รู้นะ พี่เค้ารักกันจริง...แต่เราก็ยังไม่รักจุฬา ซะที..
           จะชอบก็อย่างเดียวได้ไปดู วงดนตรี ถาปัดลูกทุ่งมั่ง  
ได้มีเพื่อน อย่าง จ๊อจี แซ่เชน  กฤษณ์ โชคฯ จ๊อจ ร้องเพลง กับพวก 
          ได้ไปสีซอที่หอกลางเวลาว่าง แถว ชมรมดนตรีไทย   ได้ไป เตร็ดเตร่
ร่อนเร่กรุ๊ป ขอสี พวกพี่ สุณีย์ ได้ไปรู้จัก ตุ้ยเพื่อนรักเพื่อนเลิฟ 
คนที่เราฝันอยากฝากรักด้วย..
      ทั้งนี้ ทั้งนั้น ในที่สุดพวกนี้ ไอ้เจ้าเด็กซ่าพวกนี้พอถึงปีสามปีสี่ มันก็ รีไทร์ 
ออกไปด้วยกันหมดแหละ.....ยกเว้นเราก่อน ....

        ได้มีเพื่อนก๊วน สถิติ และ เศรษฐศาสตร์ อีกเป็นตัน
          คือ ร่อนเร่ไปหมด แบบไม่อยากนั่งเรียนเรียบร้อยในกลุ่มเรียน
ของตัวเองเป็นอันขาด 
    (มันไม่อยากเรียนโว้ย ) ตะโกนบอกตัวเองทุกวัน (วิชาบ้าไรวะ )     
       คณิตศาสตร์ เศรษฐศาสคร์ ไรไม่รู้ .
     ไม่ d ก็ f ตอน สอบซ่อม หรือ Re-exam เค้าเรียกกันว่า รีแซม
 เพื่อนในกลุ่มมองไอ้นี้ มันแสบซ่า ตัวประหลาด..
        ไม่มีใครแซมหรอก เศรษฐศาสตร์น่ะ ไอ้ทิกกี้ มันแซม อยู่คนเดียวฟ่ะ 
กะ คณิตศาสตร์ไร แคลคูลัส อะไรน่ะ ที่อ่านยังไงก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง 
จำได้ แต่สมการ สมัยเรียน เตรียมฯ เท่านั้นแหละ
        ..ไม่แปลกที่ วิชาที่ได้ a และ b เสมอ คือ ภาษาอังกฤษ 
และ ที่น่าหยิก ที่สุด ผ่าได้ บี  b น่ะ มันวิชา บัญชี ..!
 กว่าจะรู้ว่า บัญชีนั้นเคย เป็นส่วนหนึ่งของคณะอักษรศาสตร์ ก็เมื่อออกไปแล้ว..
  .แล้ว สมาคมนิสิตเก่า ส่งประวัติมหาวิทยาลัยไปให้ เพิ่งถึงบางอ้อ ว่าโง่บรม..
.สมแล้ว... คนมันไม่รู้ค่าสิ่งที่ตัวได้ ตัวมี  ...

           วิถีทางเขาวางไว้ให้ ไปฝืนชะตาตน..
                  ..ทำอย่างไรก็ไม่พ้น...ไม่พ้น  ทาง...แห่งท่านหรอก...
                     บารมีพระมากพ้น......รำพัน .. .จริงๆ... 

จารจดเมื่อ  ๑๔:๕๐ นาฬิกา บ่ายพระพฤหัส 
วันที่  ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช  ๒๕๔๗
วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘				
.ในช่วงปีหนึ่งนั้น แม้จะโดนรุ่นพี่รุมยำเละเทะปานใด 
 ถึงจะเป็นคนถ่อมตัวปานไหน..
พี่พี่ก็ยังเทใจให้ 
อย่างถูกคัดเลือกส่งไปเป็นตัวแทนคณะฯ
 เพื่อร่วมเต้นระบำ โมเดิร์นดานซ์ 
ชุด Bangkok Bugs 
ที่เวทีสวนอัมพรฯ หน้าพระที่นั่ง 
ในคืน ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๑๓
 คืนฉลอง สมเด็จพระปิยะมหาราช ที่พระรูปทรงม้า...
 
                      รูปถ่ายที่ฉันนำใส่กรอบไว้ให้ เด็กๆที่บ้านดู

คือพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้า รำไพพรรณี 
สมเด็จพระราชินี ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ 
ท่านทรงยืนประทับทอดพระเนตรลงมองดูนักแสดง ทุกชุด 
ซึ่งกำลังหมอบถวายบังคมอยู่ต่อหน้าพระที่นั่ง 
มีฉันเป็นหนึ่งในกลุ่มที่นั่งเงยหน้าขึ้นมองพระองค์ท่านด้วยความปลื้มปิติ 
ในพระศิริโฉมอันสง่างามนุ่มนวล
 แม้ทรงมีพระชนม์พรรษาสูงแล้ว

              และ อีก รูปหนึ่ง..ซึ่งน่าปลื้มปีติยิ่งเสมอ
          .คือพระบรมฉายาลักษณ์แห่ง
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯและ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ฯ
ท่านทรงยืนประทับทอดพระเนตร ดูพวกเรา  
 พระพักตร์นั้น อ่อนโยน เต็มไปด้วยพระหฤทัยอันชื่นชม 
ทรงเอื้อเอ็นดูต่อเหล่านักแสดงตรงหน้า....
 
                    เป็นอีกรูปหนึ่ง ซึ่ง ที่บ้านฉันไม่เคยสนใจ ..เคยเห็นหรือไม่ ..?.
                  ..ไม่มีใครสนใจไอ้เด็กดื้อตัวแสบ..คนนี้เลย...

ลงเพิ่ม เช้าวันศุกร์
๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗....เวลา ๑๒:๒๒ นาฬิกา				
และ ครั้งที่สอง ในคืน วันที่ ๔ ธันวาคม ในปีเดียวกันนั้น 
 ไปเป็นตัวแทน มหาวิทยาลัยในการรำ ถวายพระพร สิบสามสถาบัน 
ออกอากาศที่ ช่อง ๓ 
              ในวาระฉุกละหุกที่พี่องค์การสโมสรนิสิตซึ่งฉันมิได้จำชื่อ 
เป็นผู้ขับรถมารับ และ ไปส่ง ให้ถึงสถานี 
พร้อมพากลับมาส่งอย่างเรียบร้อยทุกประการ
                   ตัวแทนมหาวิทยาลัยคนดัง อย่าง ลลธริมา..แห่ง ม.ธ.. 
อย่าง พวงเดือน  ณ เชียงใหม่ ตัวแทนมอชอ ...
แต่ คนนี้.ไม่ดัง..ไม่มีใครจดจำ..รำลึก...
                 ทราบภายหลังว่า คุณแม่ไปพบ กับหลานสาวคุณแม่ 
ลูกสาว ท่านอธิบดีกรมดังแห่งยุคนั้น   เธอก็ถามคุณแม่ว่า 
    **ยายทิกกี้ลูกสาวคุณอาไปรำที่สถานีโทรทัศน์คืนถวายพระพร 
โดยสิบสามสถาบันนั้น....คุณอา ทราบไหม....**
     *.ไม่ทราบเลย ..**...คือคำตอบของคุณแม่
ทั้งๆที่บอก หลายครั้ง...แต่คุณแม่ก็ไม่ได้สนใจเลย

                 ไม่มีใครถ่ายภาพ ภาพที่สื่อถ่ายไว้ ฉันก็ไม่มีโอกาสได้เห็น
ว่า หน้าตาตัวเองในฐานะตัวแทนจุฬาฯ....ในคืนนั้นเป็นอย่างไร...?
                ไม่มีใครโปรโมทข่าว ยังคงวางตัวเงียบเชียบเช่นเดิม

        เพราะรุ่นพี่ในคณะที่เตรียม อัดยำเละเทะ ยังคงกระเหี้ยนกระหือรือ
ในการ สับยำ ทุกประการเช่นเดิม   ดังนั้น จึงไปฝึกซ้อม อย่างเงียบเงียบ  
ร่วมกับตัวแทน  สิบสองสถาบัน...นั้น...
           แล้วก็เงียบหายไปกับความทรงจำของทุกคน
                     ขอบคุณที่ไม่ดัง
Bangkok Bug 
ทิกิ_tiki				
Who loves you..?

Who has the deepest love for me ?
Whoever..?..Tell me...dear..
To whom I have seen all my life..

Only Mom..She is , there and here.....

No love is pure and real in my life.
Only the relationship between babies and their mom.
I have seen many lovers passing by..
Time and time will tell who will never come..

Keep myself in a shell space.
Keep under the protection of the dream
Keep yourself...under the water..
Let days and nights gone..along the stream..

ทิกิ_tiki
write now under my copyright..
Let's see the bi_lingual poet 's talking 
Read what she was dreaming about.. 
One might be you..who is in her writing..

ทิกิ_tiki
 written on Wednesday 5:15 pm at Bangkok, Thailand
ไม่มีใครในโลกนี้ ที่จะรักเรา เท่าแม่ของเรา...
และอีกคน คือ ตัวเราเองที่จะรักเรามากเท่าชีวิตอย่างไร.

« Last Edit: Jul 21st, 2004, 05:24am by tiki_ทิกิ » 
บทนี้เขียนไว้ในเว็บไซท์  Your dream  comes true...
http://tiki2004.proboards30.com/index.cgi?board=general&action=display&num=1090403673				
comments powered by Disqus
  • วนัสนันท์

    1 กรกฎาคม 2547 17:57 น. - comment id 75050

    อ่านแล้วอมยิ้มได้เรื่อยๆ เหมือนเดิมค่ะ
    
    อย่างงี้ต่ายยังโชคดี ที่หาคีย์ตัวเองเจอแล้ว.. และไม่มีใครมาบังคับให้ไปในคีย์อื่น น่ะสิคะ
    
    แม่บอกว่า จะเรียนอะไรก็เรียน เอาแบบเรียนแล้วสนุก มีความสุข แต่มีงานทำด้วยก็ดีน่ะ แต่เอนท์ให้ติดนะแก...
    
    อันดับหนึ่งที่จะเลือกเป็น วารสาร ธรรมศาสตร์... และอันดับสุดท้าย คือ โบราณคดี ศิลปากร ... ไม่ว่าจะติดอันไหน จะตั้งใจเรียนอย่างมีความสุขเผื่อพี่นะคะ  :)
  • ทิกิ _tiki ไม่ลงทะเบียน

    1 กรกฎาคม 2547 19:16 น. - comment id 75051

    ชอบทั้งสองเลยค่ะ ขอให้มีความสุขเช่นกันค่ะ
    และขอให้สมหวังตั้งใจนะคะ
  • พันช์

    2 กรกฎาคม 2547 15:11 น. - comment id 75057

    แว๊บมาอ่านเรื่องราวของพี่ทิกิค่ะ อ่านแล้วชอบค่ะ  พันช์ love_corner แห่งบ้านบางกอกซิตี้
  • tiki

    2 กรกฎาคม 2547 15:25 น. - comment id 75058

    ขอบคุณมากค่ะ พันช์ พี่กำลังทำหน้าย้อนปกไว้รวมเล่มอยู่ค่ะ
  • กอกก

    3 กรกฎาคม 2547 01:52 น. - comment id 75074

    คุณทิกิ
             กอกกเพิ่งจะเริ่มตามหาผลงานของคุณอ่าน อ่านแล้วยิ้มได้เรื่อยๆ  จากคำถามที่เคยถามว่าคุณทำอาชีพอะไร ก็เหมือนจะได้คำตอบลางๆ แล้ว แต่จะตามหาคำตอบต่อไป
             ชอบในความรู้จริงของคุณ
             กอกกเป็นคนมีความรู้น้อย จึงต้องเฝ้าใฝ่หา ใฝ่รู้ในเรื่องต่างๆ 
             ขอบคุณคุณจริงๆ ที่มีผลงานให้อ่านเสมอๆ
             บางครั้งอาจจะหยอกๆ กันบ้างต้องขออภัย
    เพราะอยากลดช่องว่างระว่างวัยเพื่ออารมณ์ในการเขียนกลอน
    
    
  • tiki

    3 กรกฎาคม 2547 02:27 น. - comment id 75078

    คุณทิกิ
             กอกกเพิ่งจะเริ่มตามหาผลงานของคุณอ่าน อ่านแล้วยิ้มได้เรื่อยๆ  จากคำถามที่เคยถามว่าคุณทำอาชีพอะไร ก็เหมือนจะได้คำตอบลางๆ แล้ว แต่จะตามหาคำตอบต่อไป
                    
                ทำอะไรก็..ถ้าสำเร็จส่วนใหญ่เกี่ยวกับงานเขียนนี้ตรงกับจริตนิสัยค่ะ ส่วนงานอื่นๆทำมามากมาย ก็งั้น งั้น  ใครชวนให้ทำอะไรก็ทำทั้งนั้น มัลติเลฟเวลมาร์เกตติ้ง   เปิดร้านค้า ทำอะไรสารพัด แต่ไม่เห็นได้ดีสักอันนะคะ...ทิกิ_tiki
    
    
    กอกกเป็นคนมีความรู้น้อย จึงต้องเฝ้าใฝ่หา ใฝ่รู้ในเรื่องต่างๆ 
             ขอบคุณคุณจริงๆ ที่มีผลงานให้อ่านเสมอๆ
             บางครั้งอาจจะหยอกๆ กันบ้างต้องขออภัย
    เพราะอยากลดช่องว่างระว่างวัยเพื่ออารมณ์ในการเขียนกลอน
    
    
    
             ดีเลย ถูกต้องเลยค่ะ
    เพราะวันนี้ ก็วิสัชนากันกะเพื่อนในเว็บนี้แหละว่าทำไม จึงยังมีคนชอบลอกกลอนไปปะชื่อเขาไปลงที่โน่นนี่กันจัง
    ทั้ง ทั้ง ที่  สิ่งที่จะเขียนมันมีรอบตัว 360 องศา จริงๆ ....
    คุณ หาข้อมูลได้ถูกต้องแล้วค่ะ ข้อมูลสำคัญมากก่อนเขียนงานทุกครั้ง ตรวจสอบหลายแหล่งก็ดี
    เพราะเราอาจพลาดได้ทุกเมื่อ
    
                 ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเขียนงานอย่างตั้งใจของคุณนะคะ
    
    ทิกิ_tiki
  • ยโส โย-อริน ไม่มีเวลา log in

    3 กรกฎาคม 2547 12:55 น. - comment id 75082

    แวะมาอ่านครับ 
    รูปสวย น่ารัก แฝงไว้ด้วยความเป็นศิลปินจริง ๆ ทั้งกลอน และภาพวาด
  • tiki

    3 กรกฎาคม 2547 13:29 น. - comment id 75083

    -ขอบคุณ ยโส อริน ไม่มีเวลา log in 
    มากค่ะ
    ในกำลังใจนี้
  • vaproud unlogin

    5 กรกฎาคม 2547 18:54 น. - comment id 75148

    ยิ้ม  ยิ้มค่ะพี่ทิกิ
    อ่านแล้วยิ้มเลย
    ทำให้นึกถึงอะไรหลายๆ  อย่าง
    อยากเรียนที่เพาะช่าง  ป๋าไม่อยากให้เรียน
    
    ^____________^
    
    แต่ตอนเด็กๆ  ก็ฝันอยากเรียนมัณฑนศิลป์
    ศิลปากรเหมือนกันค่ะ  555
    นึกถึงวันวาน...
    วันนี้แว๊บมาหาค่ะ
    
  • tiki

    7 กรกฎาคม 2547 23:59 น. - comment id 75222

    ทราบแล้วเปลียนรอบดึกค่ะ
  • atm

    25 กรกฎาคม 2547 18:36 น. - comment id 75710

    อ่านแล้วบรรยายได้เข้มข้นดีจริงค่ะพี่ทิกิ
    +++น้องแอมจะรอดูผลสำเร็จการรวมเล่มของพี่นะคะ+++
  • tiki

    25 กรกฎาคม 2547 20:11 น. - comment id 75711

    อ่านแล้วบรรยายได้เข้มข้นดีจริงค่ะพี่ทิกิ
    +++น้องแอมจะรอดูผลสำเร็จการรวมเล่มของพี่นะคะ+++  
     จาก : รหัสสมาชิก : 6812 - atm  
     รหัส - วัน เวลา : 10874 - 25 ก.ค. 47 - 18:36 
    -
    ขอบคุณน้องแอมมากค่ะ
    ทิกิ_tiki
  tiki

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน