๏ สัมผัส ทราย..ปีนป่าย สวน ๚ ..

tiki


     แล้วจะต่อใหม่ค่ะ
    ในเวลา ๒๑:๔๐  คืนพระพุธ  ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
คืน ขึ้น ห้าค่ำ   ๕   เดือน ๘/๘				
วันนี้ ค่อนข้างพิเศษหน่อย เพราะหลานสาวคนสวยของไร่ เธอเดิน
ส่งเสียงแจ้วๆ ทักทายตั้งแต่คนขายของในร้านไปถึงคนนำทัวรที่มาขับรถ
ชมสวนให้เป็นกรณีพิเศษ
            เรามีการถ่ายรูปกันไว้มากมาย โดยเฉพาะ มีน้องๆเด็กจบรามคำแหงกลุ่มหนึ่ง น่ารักดีทั้งกลุ่มขึ้นรถมาเที่ยวชมสวนด้วยกัน ก็คงขำพี่สองคน
ที่เอาแต่ถ่ายรูปๆๆๆๆ กันอยู่นั่นแหละค่ะ
            แต่กระนั้นก็ยังได้ ลงแวะ รับประทานผลไม้ อาทิเช่น ทุเรียนพูครึ่ง มังคุด อีก สักหกลูกตบท้าย แล้วไป รับ องุ่นจิ่ว แบบไร้เมล็ด 
ถ่ายรูปมาให้ดูก่อนเลย องุ่นที่นี่ออกกันลูกดกมากมายดี


ฝากรูปดูกันชัดชัดไปก่อนแล้วกันค่ะ				
แก้วมังกรอีกหน

ระหว่างที่คนขับจำนรรจาพาข้ามจากอีกฝั่งสามสี่ร้อยไร่ มาอีกฝั่ง
สามสี่ร้อยไร่เหมือนกันนั้น
          ฉันก็อดถามคนขับรถมัคคุเทศก์กิตติมศักดิ์นั้นไม่ได้ว่า
             นี่ต้อง ใช้เงินปีละกี่ร้อยล้านคะถึงจะดูแลสวนขนาดใหญ่ อย่างนี้ได้ 
มีผลไม้ครบหมด
          มีทั้ง ทุเรียน กระท้อน ลำใย  แก้วมังกร  องุ่น มังคุด เงาะ ฯลฯ 
บรรยายไม่หมด   ท่านมัคคุเทศก์ผู้ขับรถให้นั่งก็บรรยายได้เก่งมาก				
หารูปสาวๆมาให้ดูหน้า หลานสาวคนสวยคนงาม
ของสวนนี้แหละค่ะ คนเสื้อแดงนะคะ				
เวลาที่อยู่ในสวนจริงๆทั้งหมด ก็ประมาณ สองชั่วโมง คือขึ้นๆลงๆ
รถกันไปเรื่อยค่ะ กับน้องๆกลุ่มใหญ่เพื่อนใหม่น่ารัก  ซึ่งก็ได้อานิสงค์มี
รูปถ่ายร่วมกันมาในตอนนี้กันเป็นแถว...
                เป็นบรรยากาศเป็นกันเอง แบบสบายๆ ชมต้นไม้ ฟังบรรยาย 
แล้ว ก็ แอบลงไปหม่ำผลไม้ ฮิฮิ สนุกดีในการเที่ยวสวนที่มีต้นไม้ครบพร้อม 
หลากหลายชนิดนะคะ 
             มีทั้ง ทุเรียน กระท้อน ลำใย  แก้วมังกร  องุ่น มังคุด เงาะ ฯลฯ 
บรรยายไม่หมด   ท่านมัคคุเทศก์ผู้ขับรถให้นั่งก็บรรยายได้เก่งมาก 

           ทั้งนำมีดไปตัดผลไม้สีทับทิม นามแก้วมังกรมาเฉือนกันคนละเสี้ยว
ให้ทุกคนได้รับประทานกันสดสดอีกด้วย...

           ,ไม่ประทับใจเจ้าบ้านแล้วจะไปประทับใจใครล่ะคะ

           ทิกิ_tiki				
iรถคันนี้ก็จอดคอยกลุ่มน้อยๆของเรานี้ทั้งกลุ่มตลอดเวลาค่ะ 
ขึ้นๆลงๆ กระโดดไปเดินไปมาดูสวนระดับส่งออกและ องุ่นที่สวนนี้
ก็ส่งไป ห้างสรรพสินค้าในแถบนั้นเป็นส่วนใหญ่ค่ะ				
เวลาไปหยุดแวะเวียนตามจุดแวะชิมผลไม้
คุณหลานสาวเจ้าของสวน ก็ลงไปถ่ายภาพร่วมกับ
เหล่าพนักงานดูแลรับแขกชมสวน แต่ละท่านนั้น
ส่วนใหญ่ก็ จบระดับ เกษตรศาสตร์กันมา สามารถ
ชี้แจงแถลงการณ์เรื่องสวนให้ทั้ง แขกคนไทย
และ ชาวต่างชาติได้เสมอค่ะ
            สวยยังไงก็ชมเองแล้วกันนะคะ...				
ก่อนจะออกจากสวน ได้ชิมน้ำมะพร้าวที่ทางสวนเตรียมไว้ให้ แต่เริ่ม
เข้าไปในสวน บัดนี้เมื่อจะกลับ ก็ออกมานั่งแวะที่โรงขายผลไม้ของสวนก่อน
จะกลับ ....
          มะพร้าวน้ำหอมคนละผล..ชื่นใจ แล้วก็ตั้งต้นเดินทางกันใหม่ ในบรรยา
กาศเย็นๆสบายดี เจ้าบ้าน เอ่ยวา มาทั้งทีไม่ไปดูสถานที่โปรดของเจ้าบ้านหรือ ?
          น้องๆเหล่าที่มานั่งรถไปด้วยกัน ลาด้วยการ ขับรถเก๋งส่วนตัวของกลุ่มเธอ
ออกไป ไม่ลืม เขียนชื่อที่อยู่ โทรศัพท์ ฯลฯ กันไว้ด้วย มิตรภาพแบบไทยๆ เป็นกันเอง ง่ายๆสบายๆ ..แบบชาวฝั่งตะวันออกของไทยเรา...
         ความสดใสของแดด ลม และ  ความเขียวจริงใจของสวน บ่มหลอมผู้คน
ให้มีอัธยาศรัยไมตรีอันดี ต่อกัน...				
ความสดใสของน้ำ และหาดทราย ยังมีอยู่ แต่ขณะนี้ กล้องได้ส่งไปที่ร้าน
เพื่อจะล้างรูปและส่งเข้าไฟล์ซีดีเพื่อให้ ได้นำกลับไปกรุงเทพฯมหานครเพื่อการบันทึกการเดินทาง..
            ถึงกระนั้น การนั่งเล่น บน สันเขื่อนก้อนหินขนาดใหญ่ ที่ทางเมืองทำไว้
เพื่อไม่ให้ความแรงของน้ำเซาะซัดตลิ่งหาดหายไป  ก็เป็นความสุขสันโดษที่น่ายินดี...ระหว่างผืนทราย...โขดเขื่อนหินก้อนใหญ่ๆเรียงราย และ แผ่นน้ำที่สาดคลื่นซัดซ่าเบื้องหน้า.....
            เรานั่งคุยกันเรื่องหนังสือ 
          ในมือมีบทกวี บางเล่ม  คุยกันถึงที่มา ของ การเขียนบทประพันธ์ใน
แต่ละช่วง...

           ค่ำนั้น ฉันเดินทางกลับ..หอบความทรงจำสดใสครั้งหนึ่งในชีวิตกลับมา
ด้วย...				
การเดินทางกลางคืน...บางคนว่าน่ากลัวมาก..บางคนก็บอกไปได้อย่างไร 
แถวนั้นขับรถไปคนเดียวยังถูกไปฆ่าหมกป่า

          บางคน ก็ว่า..เธอไม่รู้จักใครไปได้ยังไง
           เหอๆๆๆๆ
        มันเรื่องของบุญของกรรมของผู้คนค่ะ..อย่างเราไปด้วยทุกข์ใน
ชะตาฟ้าลิขิตชีวิตเราทำไมมันยุ่งเหยิงนักน้า...แต่แรกจะขึ้นรถไฟด่วนไปเชียงใหม่ ไปให้ถึงเช้าจะไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ ด้วยซ้ำไปนะคะ

     ...ชีวิตนั้นฝากรักไว้ในเชียงใหม่และ เมืองเหนือเสียเหลือเกิน มัน
ซึ้งเข้าไปในหัวใจอย่างไรก็บรรยายไม่ถูกค่ะ
         แต่ แล้วก็กลับไปตาม คำพูดของเราที่ให้ไว้แก่ใครบางคน ที่ชอบท้าว่า
      **กล้ามาไหมล่ะ**
    เอ้า กล้าก็มา ก็มาจริงๆ ไปจริงๆ อย่างสะดวก ปลอดภัย สบายใจตัวเองนะ
แต่คนรอบข้างใจตุ้มต่อมกันไปเป็นแถว ไหงคุณ..เธอ ทำอย่างนี้หว่า..นะ


            ก็ว่าจะไม่ทำตัวอย่างนี้อีกแล้วรับรองได้ถ้ารู้...แต่วันนั้นขอยอมรับว่า
มันเครียดสูงจัด หกโมงครึ่งยังนั่งอยู่กับสรรพากรเขต  ไม่เครียดก็ต้องเครียดแหละนะคะ...เอาเป็นว่า การเดินทางไปเที่ยวพักผ่อน เจอ คนเก่งคนงาม คน
เจ้าเสน่ห์แห่งไทยโพเอ็มนั้น ก็ เป็นเรื่องดีเหมือนกัน..หวังว่าลงรูปให้แล้ว คุณ
เธอคงมีแฟนสักร้อยห้าสิบคนนะคะ
              วันนี้ ขอฝากกลอนไว้กระจิ๊ดหนึ่งให้คนที่ไปทำแกงคั่วกลิ้งหญิงใจ...นั้นน่ะค่ะ...

          
    ๏     อยากกินปลานึ่งมะนาว อันเข้าที 
     อยากกินปลาคังลวกจะมีให้พี่ไหม  
    อยากกินลูกชิ้นปลาเยาวราช นะดวงใจ
    แต่ตอนนี้ได้.แซนด์วิชปลาทูน่า.. ถ้าจะดี     ๚ 
                         

ไปก่อนแล้วค่ะบ๊ายบายมิตรสหายไทยโพเอ็ม ขอให้เข้าเว็บได้นะคะ
ทิกิ_tiki
17:08 วันอาทิตย์วันพักผ่อนแต่ทำงานอีกแล้ว
25 กรกฎาคม พ.ศ. 2547				
comments powered by Disqus
  • tiki

    24 กรกฎาคม 2547 14:54 น. - comment id 75688

    ขออภัยท่านผู้อ่านเนื่องจากภาพในซีดี ไฟล์ใหญ่มาก พอหดลง 
    คุณภาพสีก็หดไปด้วย ไว้ค่อยๆใจเย็นๆแล้วกันนะคะดูบรรยากาศ 
    ข้างรถไปก่อนแล้วกันนะคะ..
    ปอลอ พยายามลดความอ้วนอยู่ค่ะขออภัย 
    
  • อาภาภัส

    24 กรกฎาคม 2547 19:15 น. - comment id 75691

    เที่วเพลินเลยค่ะ
  • tiki

    24 กรกฎาคม 2547 20:24 น. - comment id 75693

    อร่อยด้วยค่ะ คุณ อาภาภัส คะ  ...
  • tiki

    25 กรกฎาคม 2547 17:33 น. - comment id 75709

    แต่ตอนนี้ไซร้..แซนด์วิชปลาทูน่า..ถ้าจะดี 
    
    
    ไปก่อนแล้วค่ะบ๊ายบายมิตรสหายไทยโพเอ็ม ขอให้เข้าเว็บได้นะคะ
    ทิกิ_tiki
    17:08 วันอาทิตย์วันพักผ่อนแต่ทำงานอีกแล้ว
    25 กรกฎาคม พ.ศ. 2547
  tiki

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน