ผีเสื้อปีกบางฯ
เตรียมงานและเอกสาร...ก่อนเข้านอน
๒๒ มีนาคม ๒๕๔๖
..... หาวววว....ววว .....
.... เช้าแล้วหรอเนี่ย มิน่าจวนจะถึงสถานีเชียงใหม่
จุดหมายปลายทางแล้ว เมื่อจาวตาลกะพี่ย้งไปถึงเชียงใหม่ได้สักครู่
พี่โจ พี่ชายชาวออสซี่ผู้ใจดี ก็พาน้อง (รถ) จิ๊ป มารับ เพื่อเดินทาง
ข้ามภูเขา ข้ามน้ำ ข้ามทะเล (อันนี้เว่อร์) ไปยัง อ.แม่สรวย จ. เชียงราย .....
.... แต่น แตน แต๊น.... ขอเปิดตัวเพื่อนร่วมทีมอีก ๔ คน ฮับป๋ม อันได้แก่
พี่เอก พี่ชายหน้าตา (เกือบ) หล่อ ที่บินตรงมาจากแดนปลาดิบ
พี่เอกเค้าได้ทุนไปเรียนสาขาเอเชียและแปซิฟิคศึกษาที่ญี่ปุ่นค่ะ
ก็พี่เอกนี่แหละค่ะ ที่เป็นคนหลอกล่อ เอ๊ย ชวนจาวตาลมาทำงาน
กับ ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อเยาวชนหรือ YCC
พี่เอกเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนเอเปค
ที่แคนาดา เมื่อปี ๑๙๙๗ ค่ะ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของวายซีซีนานาชาติ
และวายซีซีประเทศไทย สำหรับจาวตาลแล้ว พี่เอกน่ะเป็น
นักสังคมสงเคราะห์ในดวงใจเลยล่ะค่ะ คุณพ่อของพี่เอก
หรือคุณซาบูร์ ก็ทำงาน NGO เหมือนกัน
คนที่สอง คือ พี่โบว์ ตามมาติด ๆ ด้วยพี่แอน พี่โบว์กับพี่แอนเป็นพี่สาวคู่ซี้
น่ารัก แถมเรียนเก่งอีกตะหาก พี่สาวสองคนนี้ก้าวเข้าสู่งานสังคมสงเคราะห์
ได้เพียง ๑ ปีเองค่ะ แต่ความสามารถไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว
และสุดท้าย ซัน หนุ่มหล่อนักกิจกรรม คนนี้มีดีกรีเกือบเป็นถึง
รองประธานนักเรียนทีเดียว แต่ซันปฏิเสธไม่ยอมเป็น
เพราะว่าอยากทำงานสังคมให้เต็มที่
อ้อ...ซันเป็นเจ้าของโครงการอบรมเรื่องสิทธิเด็กครั้งนี้ด้วยนะคะ
พี่พี่ทั้ง 3 คน และซัน เดินทางล่วงหน้ามาก่อนจาวตาล เพื่อมา
ติดต่องาน เตรียมการไว้ก่อน ส่วนจาวตาลกํบพี่ย้งตามมาทีหลัง
พวกเรานัดเจอกันที่หน้าอำเภอ (กรุณาเปิดเพลงนัดพบหน้าอำเภอ
ของพุ่มพวง จะได้บรรยากาศมาก) แล้วพ่อหลวง ซึ่งเป็น
ผู้ใหญ่บ้านดอยล้าน ก็มารับพวกเราขึ้นดอย พร้อม ๆ กับพี่โจ
let's go !!!
.... หูยยยย.....สาบานได้ว่าที่นั่งมาไม่ใช่เกวียน แค่ทางขึ้นดอยล้าน
อันสุดแสนหฤโหด ๙ กิโล ฯ กว่า ก็ทำให้เด็กกรุงอย่างพวกเรา ๖ คน
หอบแฮ่ก ใครมาเห็นสภาพจาวตาลตอนนี้คงขำก๊าก ไม่เชื่อลองนึกถึง
ภาพเด็ก ๖ คน ยืนหัวแดง (เพราะฝุ่นลูกรัง) ลูบก้น
อยู่ข้างรถกระบะดูสิคะ -_-!
ล้างหน้าล้างตาพอสดชื่น พี่โจ (ผู้ใจดี อีกแล้ว อิอิ) ก็พาพวกเรา
๖ คน ไปเดินเล่นรอบ ๆ หมู่บ้าน ทำให้ได้เจอน้อง ๆ ที่กำลังวิ่งเล่น
ตั้งหลายคนแน่ะค่ะ นึกถึงพวกเด็กในเมืองอย่างเรา ๆ ที่มีของเล่น
สีสันสวย ๆ เกลื่อนบ้าน แต่สำหรับเด็กชาวอาข่าและลีซู เพียงแค่
ได้กระโดดโลดเต้น เดินโถกเถก (ที่เป็นไม้ไผ่ต่อขาสูง ๆ อ่าค่ะ)
โหนเถาวัลย์ แล้วก็แข่งกัน กระโดดน้ำตูม ๆ ก็เห็นเขายิ้ม
อย่างมีความสุขแล้วล่ะค่ะ จะว่าไปก็อิจฉาในความเรียบง่ายของ
ชาวไทยภูเขาเหมือนกันแฮะ
.... ๖ โมงแย็นแล้ว พี่อะเรย์ (อะเรย์ หมายถึง ลูกคนที่ ๒ ค่ะ
คนที่เป็นลูก คนที่ ๒ จะชื่อเหมือนกันทั้งหมู่บ้าน ) ลูกสาวพ่อหลวง
ก็ต้อน เอ๊ย! เรียก พวกเราไปอาบน้ำ ทานข้าว และมาคุยกัน
เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนตะลุยการอบรมในวันรุ่งขึ้น
ขอแอบเม้าท์เรื่องห้องน้ำหน่อยนึง คือ ห้องน้ำที่นี่เป็น
ผนังไม้ไผ่ หลังคาสังกะสี จาวตาลก็ไม่ได้คิดอะไร
เดินเข้าไปในห้องน้ำ เตรียมแก้ผ้า ๕๕๕ พลัน !!!!
สายตาก็ไปจ๊ะเอ๋กะ น้องกุ๊กไก่ตัวอ้วน....เหยยยย...มองออกไป
เห็นไก่เป็นตัว แล้วข้างนอกมอง เข้ามาจะเหลือหรอเนี่ย เอื๊อก
(เสียงกลืนน้ำลาย... กรุณาเปิดเพลงสยิวประกอบการอ่าน)
แต่ด้วยความไว้ใจใน ศีลธรรมจรรยาของชาวบ้าน ก็เลย
แก้ผ้าอาบน้ำ ซา-บาย-จายยย (จะโดน เซ็นเซอร์มะเนี่ย)
แต่คิดว่าไม่มีใครกล้าแอบดู จาวตาลหรอกนะคะ
เพราะเวลาราดน้ำขันนึง ก็กรีดร้องทีนึง (ถ้านึกไม่ออก
ลองฟังเสียงน้องหมาโดนเหยียบหางดูสิ) แหม...น้ำมันเย็นนี่นา
.... กลับมาเรื่องเตรียมงานต่อดีกว่า พี่อะเรย์พาเพื่อนใหม่
ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นเด็กโต ๆ (ตัวใหญ่กว่าพวกเราอีกอ่า)
มาให้รู้จักอีก ๖ คน เพื่อนัดแนะกิจกรรมคร่าว ๆ บางส่วน
เพื่อน ๆ เหล่านี้จะเป็นแกนนำน้องเล็ก ๆ คอยกระตุ้นให้
เด็กคนอื่นแสดงความคิดเห็น เพราะทุกคนที่นี่ไม่เคย
แสดงความคิดอย่างอิสระ ไม่เคยอบรมแบบนี้มาก่อน
ทำให้เด็กส่วนใหญ่ขี้อาย ไม่กล้าพูด แต่กว่าจะอธิบายกันได้
แต่ละกิจกรรม พวกจาวตาลก็แทบปาดเหงื่อ ที่ต้อง
แปลไทยเป็นไทย (เราไม่ใช่พจนานุกรมเคลื่อนที่นะ
ถึงแม้ความหนาของตัว จะใกล้เคียงก็เถอะ...แหะ ๆ ๆ)
เวลาล่วงมากว่า ๕ ทุ่ม พวกเราทีมงาน ๖ คน ก็ได้เวลา - - - ยัง ๆ ๆ
ยังไม่นอน..... เตรียมเอกสารต่างหาก จนล่วงเข้าสู่วันใหม่
พวกเราจึงได้ฤกษ์พาตัวเองตะกายขึ้นฟูก หมดแรงแล้วล่ะค่ะ