สิติยะ ป.
ป 3
ทรัพย์สินศฤงคารทั้งสิ้น ได้รับพิจารณาให้แบ่งสรรปันส่วนอย่างยุติธรรม โดยมีตุ๊ลุงทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ด้วยอาการขอร้องแกมบังคับของพ่อหลวงและชาวบ้าน ท่านจึงก้าวเข้ามารับตำแหน่งนี้ชั่วคราวแบบจำยอม เพราะหาได้ใช่กิจของสงฆ์ไม่
ทรัพย์สินอันเป็นของเคลื่อนที่ได้ภายในบ้าน ให้ตกเป็นของวัดทั้งหมด เงินทองที่มีอยู่ให้ตั้งเป็นกองทุนการศึกษาสำหรับพระเณร ส่วนที่ดิน ให้ถือเป็นที่สาธารณประจำหมู่บ้าน แต่มีข้อแม้ว่า...เรื่องราวรายละเอียดของทรัพย์สินและที่ดินทั้งหมด ห้าม! ให้ศิราน้อย รู้เป็นอันขาด ด้วยเป็นบุคคลไม่น่าไว้วางใจ เกรงจะนำออกขายเหมือนที่ผ่านมาเช่นกระทู้นี้...
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=90251.0
กลางดึกของคืนหนึ่ง...หลังจากฌาปนกิจศพของลุงทรวง สิ้นไป 5 วัน สิ่งที่สามเณรทุกรูปกลัวมากที่สุดในชีวิตนี้ ก็ได้คืบคลานเดินทางมาถึง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประตูที่คิดและแน่ใจว่าได้ลั่นดาลไว้เรียบร้อย เกิดมีเสียงดังกุก ๆ กัก ๆ เหมือนมีมือคนเขย่า...!! เส้นขน! ที่มีอยู่บนหัว บนแขน หรือที่ไหน ๆ ของนักบวชน้อยทั้ง 3 รูป ได้พร้อมใจกันลุกเกรียวขึ้น...ในเหตุการณ์อันน่าสพรึงกลัวที่อาจเกิดขึ้นได้...
เสียงสายลมด้านนอก พัดแรงปะทะประตูกุฏิครั้งแล้วครั้งเล่า...เณรน้อยทุกรูปจ้องมองเป็นตาเดียวกัน...และในฉับพลันทันใด ประตูก็ค่อย เปิดแง้มออก....อะไรกันนี่!!!
" แอ๊ดดดดดดดด..... "
ให้ตายเถอะ!! ประตู...ประตู...ประตูกำลังจะแง้มออกอย่างเต็มที่แล้ววววววว....
๐๐๐๙๙๙๙๙๙๙๙๙๐๐๐
" อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!! "
หือ..ผู้เขียนลองแซมเปิ้ลร้องดูม่ะย่า...
๐๐๐
ทันทีที่ประตูถูกแง้มเปิดจนหมด...ภาพที่สามเณรน้อยทุกรูปเห็นในขณะนั้น มันช่างน่าเกลียดน่ากลัวน่าขยะแขยงเสียยิ่งนัก
เป็นรูปใบหน้าคน..ที่มีดวงตาอันแดงกล่ำเถลือกถลน! ใบหน้าเป็นแผลเหวะหวะเน่าเฟะเต็มวงกบประตู ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งตลบอบอวน สามเณรทุกรูปจำใบหน้านี้ได้เป็นอย่างดี..
" เหวอออออ....!!! อุ๊ยทรวง!!! "
ณ บัดนั้น ความชุลมุนพร้อมเสียงเอะอะโวยวาย ก็ให้บังเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ศัพท์ พระน้อยต่างโผเข้าหากัน กอดกันกลมโดยมิได้นัดหมาย ผ้าห่มเพียงผืนเดียวแทบจะฉีกขาดย่อยยับ เพราะต่างก็ยื้อแย่งดึงดันใช้เป็นเกาะกำบังภัยโดยสัญชาติญาณ...
" น้อย..เป๋นหยังน้อย..!!"
เสียงตุ๊ลุงผลักประตูออกมาอย่างแรง พร้อมกับคำถามปนน้ำเสียงอันตกใจของท่าน
ระฆัง! มาช่วยไว้ทันเวลา ทุกรูปโผผวาเข้าเกาะกุม กอดขาตุ๊ลุงไว้แน่น พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา....พร้อมกับชี้ไปที่ประตูกุฏิ
แต่ก็ต้องตลึงงัน! เพราะประตูทุกบานปิดสนิท! ไม่มีแม้แต่ร่องรอยว่าเคยเปิดทิ้งไว้...นี่มันอะไรกัน!!!
ตุ๊ลุงปิดเปลือกตาลงครู่หนึ่งอย่างอ่อนใจ คงมีเพียงท่านเท่านั้นที่รู้ว่าอุ๊ยทรวงมาปรากฏตัวทำไม!!??..เอ...จะเป็นเพราะรัก..เพราะห่วงเณรน้อยของแกหรือเปล่านะ? หรือว่า...หรือว่ามีห่วงกรรมอันหนักหน่วง แน่นหนามัดดึงดวงวิญญาณของแกไว้ ...หรือเปล่านะ?!!?
" ทรวงเอ้ย...ตุ๊ลุงเข้าใจ๋ดีเน้อ..ถ้ามันไปไหนบ่ได้เตื่อก็อยู่นี่ก่อนกะได้ แต่ห้ามแสดงตั๋วเน้อ..ลูกพระลูกเณรเปิ้ลตกอกตกใจ๋ เป๋นบาปเป็นก๋ำหนา..."
ท่านกล่าวน้ำเสียงเรียบ แต่เปรี่ยมด้วยเมตตาตามแบบฉบับของท่าน
นับแต่นั้นมา ไม่มีผู้ใดเห็นเปรตอุ๊ยทรวงอีกเลย ตกดึก จะมีก็แต่เพียงเสียงหมาหอนที่โหยหวลรับกันเป็นทอด ๆ รอบบริเวณวัดทุกคืนไป
" ... บลู๋วววววววววว!!!! ... "
" ... โบล๋ววววววววววววววว!!! .. "
สู่สุคติเถิดนะ...อุ๊ยทรวง