โลกกลมๆ ของฉัน ตอน 2 ฉันจะดังแล้ว

ใบคา

ตอนที่ 2: ฉันจะดังแล้ว
     ฉันยืนหอบฮักๆ หลังจากที่กระชากยัยปอ วิ่งออกจากห้องทันทีที่หมดวิชาเรียน 
     นี่เมย์! เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย อยู่ๆ ก็ฉุดกระชากออกมาอย่างนี้ ตกใจหมดเลย เหนื่อยด้วย
     อาย! คิดดูสิ 4 คนที่นั่งใกล้เรายังจำได้เลยว่าฉันหน้าเลอะขนาดไหน แล้วคนอื่นล่ะจะเหลือเรอะ ต้องรีบออกมาอย่างนี้แหล่ะจะได้ไม่มีใครคุ้นอีก พรุ่งนี้ค่อยทำตัวปกติเหมือนชาวบ้านเขา คนไทยไม่จำอะไรนานหรอกเธอ
     ขำ ปอฟางพูดทำปากแบะ
     เรื่องอะไรย่ะ ฉันค้อนใส่
     เล่นกระโตกกระตากออกมาอย่างนี้ ไม่มีใครสงสัยหรอกเธอ เขาต้องคิดว่าใช่เลยล่ะ โง่นี่
     อ้าว! เหรอ ทำไงดีล่ะ 
     ไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า ปอฟางตัดบททันที ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อ เธอก็เดินรี่ไปยังร้านอาหารนอกมหาลัยเสียแล้ว ฉันต้องรีบเดินตามไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก เรื่องราวต่างๆ ยังคงคาใจไม่ยอมหลุดสักที หวังจะมาโดดเด่นในมหาวิทยาลัยในวันแรกให้หลายคนอึ้งกับความสวยของฉันสักที แต่นี่ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้นะ เฮ้อ! แต่ไม่เป็นไรยังไงความสวยของฉันก็ไม่ได้ลด ลองไปประกวดดาวเดือนดีกว่า เผื่อจะดัง
     ฮ่าๆๆ... ฉันหัวเราะในใจดังๆ แต่มันเล็ดลอดออกมาเป็นรอยยิ้ม
     แอบขำตัวเองเหรอ ว้า! ปอฟางสังเกตุเห็นจนได้ เธอนี่ก็ปล่อยให้มีควาสุขในโลกส่วนตัวสักเดี๋ยวก็ไม่ได้
     เปล่า! ฉันรีบปฏิเสธ ก็คิดอะไรเพลินตามประสาคนสวย ขี้เหล่อย่างเธอบอกไปก็คงไม่เข้าใจหรอก ฮึ อยากมารบกวนโลกส่วนตัวแสนสวยของฉันดีนัก ต้องเจอแบบนี้
     ก็ชอบไปยืนดูตัวเองในกระจกคนเดียวประจำน่ะสิ ถึงไม่รู้ว่าคนสวยกว่าเธอมีอีกมากมาย เอ้ะ ยัยนี่ แทนที่จะสลดกลับตอกมาอีก
     เดี๋ยวเหอะๆ ฉันค้อนอีกรอบ ไปๆ รีบไป หิวไม่ใช่เหรอ ต้องรีบตัดบทเพราะรู้สึกว่ายัยปอจะเป็นต่อ
     แต่เดี๋ยวนะ เหมือนมีใครเดินตามเรามา ฉันแอบมองเขาครั้งหนึ่งหน้าตาดีด้วยสิ น่าแปลกตรงที่เขาเดินตามมาตั้งนานแล้วน่ะสิ เอ้ะ! หรือว่าจะเป็นไอ้โจรปล้นสวาด ต้องใช่แน่ๆ เลย หล่อๆ อย่างนี้ต้องเป็นพวกโรคจิต ชอบข่มขืนสาวสวยๆ แน่ แล้วฉันจะทำไงดี จะเตือนปอฟางดีไหม ไม่ดีๆ ยัยนี่ยิ่งขี้ตกใจอยู่ด้วยขืนบอกไป แล้วมายืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกก็เข้าแผนมันพอดี ไม่ได้การล่ะถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องใช้อาวุธกันบ้าง ยังไม่หยุดตามล่ะก็เห็นดีแน่ อ้าว! คัตเตอร์ที่พกประจำไปไหนเนี่ย แย่แล้ว 
     ตึกๆๆ เสียงหัวใจของฉันเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ
     ไปปอ สิ้นเสียงฉันดึงมือปอฟางออกวิ่งอีกรอบ โอ้ย! ทำไงดีมันวิ่งตามาด้วยสิ
     หยุด! เสียงชายหญิงคู่หนึ่งดังขึ้นพร้อมกัน แต่เหมือนมากันคนล่ะที่
     โครม! ไม่ทันแล้วล่ะ ฉันลงไปจ้ำเบ้ากับพื้นแล้ว
     เป็นไงบ้าง ปอฟางดึงฉันลุกขึ้นยืน
     โอย... ฉันตอบได้แค่นั้น นอกจากก้นจะกระแทกพื้นอย่างจังแล้ว หัวก็ชนอะไรเข้าก็ไม่รู้ เฮ้ย! แล้วอีตาบ้านี่วิ่งมายืนหัวเราะข้างๆ ปอฟางทำไมล่ะเนี่ย หนอยทำให้คนเขากลัวแล้วยังมาเยาะเย้ยกันอีก เชอะ! นึกว่าหล่อแล้วจะทำกิริยาอย่างไรก็ได้งั้นเหรอ
     หัวเราะอะไร ฉันมองตาเขียวปั้ด มือปัดกระโปรงไปมา
     ขอโทษครับ เป็นอย่างไรบ้าง ผมไม่ทันเห็นจึงชนคุณเข้าอย่างจัง อ๋อ! วัตถุที่ชนฉันนี่คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ผู้ชายนี่เอง 
     อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง ฉันก็เดินไม่ดูเองแหล่ะ ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่คุณเจ็บบ้างไหม นี่วิญญาณนางฟ้าเข้าสิง
     ไม่เป็นไรครับ งั้นผมไปแล้วนะ พอดีมีเรียน นี่ก็สายแล้ว เขาก้าวออกไปเร็วๆ โดนไม่ลืมคำนับขอโทษอีกครั้ง สุภาพบุรุษจริงๆ 
     โห ไอ้บ้านั่นยังไม่หยุดหัวเราะอีกเหรอนี่ หยุดหัวเราะได้แล้ว ญาติเสียเหรอไง ไอ้บ้านี่
     หยุดก็ได้ แค่นี้ก็ต้องด่ากันด้วย เขาทำหน้าเป็นเข้าใส่
     เธอจะวิ่งทำไมกันหาเมย์ ปอฟางเปิดศึกกับฉันอีก
     มานี่ๆ ฉันดึงมือปอฟางเข้ามายืนใกล้ๆ อย่าไปยืนใกล้มัน ก็หนีไอ้บ้านี่แหล่ะ มันแอบสะกดรอยตามเรามาตั้งนานแล้วรู้ไหม ดูมัน ว่าแล้วยังจะมาทำหน้าหล่อใส่อีก นึกว่าหล่อตายแหล่ะ ดูๆ หน้าตามันสิ ผู้ร้ายข่มขืนชัวร์
     อ้าว พิพากษากันเสร็จสรรพ เขาประชด ผมวรวุธ ในฐานะเพื่อนเรียกผมว่า วุธ ก็แล้วกัน ผมเรียนห้องเดียวกับคุณนั่นแหล่ะ เพียงแต่คุณไม่สังเกตุ ถ้ายังไม่เชื่อผมจะบอกว่าก่อนเข้าคาบเรียนวิชาเมื่อกี้นี้คุณคือคนที่แต่งหน้าเลอะๆ เข้ามา
     จำคนผิดแล้วย่ะ ฉันเชิดใส่
     แหม เขาลากเสียง ไม่ต้องอายหรอกน่ารักออก คนสวยทำอะไรก็ดูดี
     มันก็แน่อยู่แล้ว อ้าว! แย่แล้วตกหลุมพลางจังเบ้อเร้อเลย และเขาเริ่มจะยิ้มออกมาแล้ว นั่นใงหัวเราะจนได้ ฉันแค่ลองสร้างเทรนด์ใหม่ต่างหากเผื่อจะฮิต
เขาหยุดหัวเราะทันทีที่เห็นแววดาดุๆ ของฉัน
     ตกลงตามพวกฉันมาทำไม อย่ามาหัวเราะกลบเกลื่อน ฉันดุใส่
     คืออย่างนี้นะ พี่ชายของผมที่อยู่ชมรมละคร กำลังหานักแสดงหน้าใหม่อยู่ แล้วผมก็เห็นว่าคุณน่าสนใจดี ก็แค่จะเดินมาทาบทามดู ใครจะไปคิดว่าเรื่องจะเป็นถึงขนาดนี้ ประโยคสุดท้ายเขาพูดเบาเหมือนบ่น
     ฉันสบตาปอฟางทันที เราทั้งคู่ต่างงุนงง ไม่รู้ว่ายัยปองงอะไรส่วนฉันงงอย่างสับสน นี่ฉันจะได้เป็นดาราเหรอเนี่ย แววของฉันมันออกขนาดนั้นเลยเหรอ ความฝันที่จะได้โดดเด่นกลับมาอีกครั้งแล้ว 555
     ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าใช่คุณจริงๆ หรือเปล่าก็เลยเดินตามมาให้มั่นใจก่อน จนกระทั่งคุณออกวิ่งนั่นล่ะถึงว่าใช่แน่ๆ เขาอธิบายแบบยิ้มๆ
     ย่ะ
     เราไปคุยกันร้านอาหารดีกว่าไหม ปอฟางแนะ
     เชิญสั่งตามสบายผมเลี้ยงเอง วุธออกปากหลังจากนั่งลงในร้านอาหารใกล้ๆ นั้น
     จริงนะ ฉันถามอย่างไม่แน่ใจ
     ครับ แต่เฉพาะน้ำนะ เขาทำหน้าทะเล้น
     อ้าว! ปอฟางอ้าปากค้างขณะกำลังจะสั่งอาหาร นึกว่าเลี้ยงข้าว
     ได้ๆ ฉันพูดกัดฟัน แล้วหันไปพูดกับปอฟางว่า สั่งเลยสัก 20 แก้วเอาให้พุงกางไปเลย กวนดีนัก
     ที่นี่น้ำฟรีย่ะ แหม...ทำเป็นจะเลี้ยง ปอฟางกัดต่อ
     ก็ผมไม่ค่อยมีตังค์นี่ เขายังคงพูดทะเล้น
     ตกลงมื้อนี้เงินใครก็เงินมัน รายละเอียดต่างๆ ของงานก็คุยกันในมื้อนี้นี่เอง แต่ยังไงก็ต้องไปคุยต่อกับพี่ชายของวุธอยู่ดี ว่าจะได้เล่นเป็นตัวอะไร เพราะเขาเป็นคนคัดนักแสดง วุธจึงนัดพวกเราไปพบพี่ชายเขาอีกที ดังนั้นเราจึงแยกทางกันด้วยประการฉะนี้
     ทันทีที่กลับถึงห้องพักฉันรีบโทรศัพท์ไปเล่าให้เพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลายทันที ทั้งพ่อแม่พี่ป้าน้าอาก็ไม่เว้น จะเรื่องอะไรเสียอีกก็เรื่องที่ฉันจะได้เป็นนักแสดงยังไงล่ะ
     จ้า...อันนี้ก็แน่นอน...ใช่สิ หน้าตาดีอย่างฉันจะเป็นอะไรได้อีกนอกจากนางเอก...ไว้การแสดงมีเมื่อไหร่ฉันจะโทรไปบอกอีกที...หาอะไรนะ...อือๆ จ้า คิดถึงจ๊ะ แค่นี้นะ สวัสดีจ้า
     ฉันกะจะโทรไปบอกคนต่อไปอีก ยังไม่ทันได้กดเบอร์ใหม่เลยปอฟางก็มาแย่งโทรศัพท์จากมือไปทันที
     นิสัยเสีย ฉันค้อน ฉันกำลังจะโทรศัพท์อยู่นะเธอ
     แหม! แค่จะได้เล่นละครเวทีแค่นี้ทำไมต้องประกาศให้โลกรู้ด้วยเหรอแม่พระนางดัง หล่อนประชด
     เฮ้ย..อารมณ์เสีย ไปดีกว่า ฉันสะบัดก้นไปอ่านหนังสือทันที
                                     ***************
วันนัด
     ฉันออกมาคอยวุธเพื่อไปหาพี่ชายของเขากับปอฟางหน้ามหาวิทยาลัยก่อนเวลานัดตั้งครึ่งชั่วโมง ปอฟางยังคงยืนบ่นอยู่ข้างๆ น่ารำคาญจริงยัยนี่มาเร็วแค่ 30 นาทีเอง
     ผ่านไป 35 นาทีนายวุธก็ไม่มาสักที ฉันเริ่มจะหมดความอดทนแล้วนะเนี่ย น่าแปลกนะทั้งๆ ที่เลยเวลานัดมาแค่ 5 นาทีเอง คงเป็นเพราะว่าฉันมาล่วงหน้าตั้ง 30 นาทีแน่เลยจึงดูเหมือนกับว่ามันนานมากแล้ว จู่ๆ นายตัวกวนก็โผล่เข้ามาในสายตา
     ไป อย่าเสียเวลาอยู่เลย มาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลงเร่งกันทันที
มาถึงหน้าตึกนิเทศศาสตร์ มันช่างใหญ่โตอะไรอย่างนี้ กว้างหอประชุมโรงเรียนเก่าชนิดทิ้งกันไม่เห็นฝุ่นเลย เอาล่ะสิใจเริ่มสั่นระรัวแล้วสิ ต้องทำใจดีสู้เสือเอาไว้ ต้องมั่นใจ ฮึบ! 
     อ้าว! ยืนนิ่งทำไมตามมาสิ วุธเร้า
     นี่พี่ว่าน เป็นคนกำกับการแสดงและคัดเลือก ไหว้ซะ ฉันกับปอฟางทำตามทันที พี่ครับ นี่เมย์กับปอฟาง ที่ผทบอกจะพามาแนะนำ
     สวัสดีครับน้องเมย์ น้องปอฟาง พี่ว่านทักทาย
     คืออย่างนี้นะ แน่ะใจร้อนทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ พี่หานักแสดงมาหลายวันแล้วแต่ยังไม่มีใครเหมาะสักที พอดีก็เลยให้วุธลองมองๆ เพื่อนในห้องให้หน่อยเห็นมันบอกว่าน้องเมย์น่ะมีแวว เหมาะกับบทที่ขาดพอดี เดี๋ยวจะลองให้ทดสอบดู เอานี่บทลองอ่านดู
     ค่ะ ฉันรับบทมาจากพี่ว่าน
     ไหนดูบ้างสิ ปอฟางเข้ามาใกล้ หลังจากดูเสร็จเธอก็พูดว่า เด่นจริงๆ ด้วย
หลังจากที่ฉันปลีกตัวออกมาดูบทเกิดไม่เข้าใจขึ้นมาก็ต้องกลับไปหาปอฟางใหม่เพื่อขอคำปรึกษา นี่เธอว่าบทมันแปลกๆ ใหม มันดูโดดเด่นเกินไปหรือเปล่า
     ไม่หรอกมั้ง ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แล้วเธอจะเล่นได้หรือเปล่า ปอฟางถาม
     ชัวร์ ฉันตอบอย่างมั่นใจ
     พอถึงเวลาพี่ว่านก็เดินเข้ามาหาฉัน ถามว่าพร้อมหรือยัง พอฉันพยักหน้าเท่านั้นแหล่ะ เขาก็ให้ขึ้นไปยืนกลางเวทีทันที ดูอะไรๆ มันช่างรวบรัดไปหมด ดูเหมือนเขาเร่งจริงๆ ทันทีที่ขึ้นไปยืนบนนั้นขาฉันสั่นเหมือนเจ้าเข้าทันที กว่าจะเรียกสติมาได้ก็เล่นเอาหลายนาที พอรวบรวมความมั่นใจได้ฉันก็เล่นตามบทที่ท่องมาเมื่อครู่นี้ทันที ถูกบ้างผิดบ้างก็เล่นไปไม่สนอะไรแล้วเวลานั้น เล่นเสร็จเสียงปรบมือกราวก็ดังขึ้น แหมฉันนี่ช่งเก่งอะรเยี่ยงนี้
     เก่งมากๆ สมกับที่เจ้าวุธมันบอกจริงๆ พี่ว่านชม
     ขอบคุณค่ะสำหรับคำชม แต่เมย์อยากได้ยินคำว่าผ่านมากกว่า
     พี่ว่านหันไปมองเพื่อนๆ ก่อนจะตอบว่า ผ่าน!...เล่นเยี่ยมขนาดนี้ไม่ผ่านได้ไง
     เย้! ฉันเผลอร้องออกมาดังๆ แล้วหนูเล่นเป็นอะไรเหรอค่ะ ทำไมถึงต้องทำท่าแปลกๆ เยอะจัง
     เรื่องนี้ชื่อว่าเพื่อนสนิท พี่ว่านหยุดครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อ บทที่เมย์ได้รับคือคนบ้าครับ
     คนบ้าเหรอ ฉันแว้ดสุดเสียง อะไรกันนี่ ไหนว่าตัวเด่นไง
     ก็นี่แหล่ะบทเด่น พี่ว่านพยายามอธิบาย
     แหม อย่าหน้างอสิ เธอก็เล่นสมบทบาทออกจะตาย วุธเสริม ส่วนปอฟางยืนอมยิ้มอยู่ห่างๆ
     น้องอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ และอย่าด่วนโกรธด้วย บทนี้น่ะสำคัญมากๆ เลยรู้ไหม เพราะต้องเล่นเป็นเพื่อนสนิทกับคนดี เอ้ย! ตัวเอก ซึ่งมีทั้งหมด 2 คน แล้วเพื่อนอีกคนก็จะถูกล้อว่ามีเพื่อนเป็นคนบ้า แต่เพื่อนคนนั้นก็ยังคงคบกับคนบ้าซึ่งเป็นน้องเมย์ โทษๆ พี่หมายถึงในบท แล้วก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลากหลายเพื่อให้ทุกคนเข้าใจ และยอมรับเป็นเพื่อน เข้าใจคนบ้ามากขึ้น เป็นละครเพื่อสังคมเลยนะเนี่ย ถ้าน้องรับเล่นก็จะช่วยให้คนหลายๆ คนเข้าใจคนบ้ามากขึ้น ที่สำคัญบทนี้ไม่มีใครเหมาะเท่าเมย์แล้ว พี่คัดมาตั้งหลายคนไม่มีใครเหมือน เอ้ย! เล่นได้ดีเท่านี้เลย นะๆ รับเล่นเถอะนะ นึกว่าเพื่อคนบ้าไง พี่ว่านพยายามหว่านล้อม
    เอ่อ...คือว่า ฉันอ้ำอึ้ง กำลังลังเลว่าจะรับดีไหม คิดๆ ไปแล้วบทนี้มันก็สำคัญจริงๆ นั่นแหล่ะ
     ตกลงรับนะครับ พี่ว่านว่า
     ค่ะ!
     อ้าว! ตกหลุมอีกแล้วฉัน
******************จบตอน 2****************				
comments powered by Disqus
  • ก้าวที่...กล้า

    7 มีนาคม 2550 16:36 น. - comment id 95253

    ยังคงน่ารักเช่นเดิม   1.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน