หลอน....

กชมนวรรณ

"จริง ๆ นะพี่ หนูเจอมาจริง ๆ" 
             "เจอมากะตัวเองเลย...ไม่ได้ฟังใครเค้าพูด...แต่หนูจะเล่าให้พี่ฟัง แม้!ว่าจะไม่เล่าแล้วนะ มันอดใจ ไม่ได้ มันอึดอัด" เสียงแม่น้องฟ้า ซึ่งพาน้องฟ้า มารักษาตัวด้วยโรคลูคีเมีย บอกฉันด้วยเสียงอัน ตื่นเต้นถึงเรื่องราวที่ได้เจอในวันนั้น หลังจากที่เราเคยเจอกันที่โรงพยาบาลนี้ 2-3 ครั้ง แต่ครั้งนี้เราอยู่เตียงติดกัน สนิทกันยิ่งขึ้น จากที่เมื่อก่อนแค่ยิ้มทักทายธรรมดา ทักกันเล็กน้อยพอเป็นพิธี แต่วันนี้เรานั่งคุยกันหลายเรื่องจนมาถึงเรื่องนี้ซึ่งฉันไม่อยากฟังเล้ย..จริงๆ
แต่ปากก้อดันพูดว่า 
                "แล้ว เป็นไง หรอค่ะ น้อง เล่ามาเลยค่ะ พี่อยากฟัง" นั่นไม่อยากฟังแต่สมองมันไม่รับ มันสั่งแต่ว่าอยากรู้ค่ะ
                 "คืน นั้น นะพี่นะ หมอไม่รู้คิด ยังไง โทรมาสั่ง ตี 2 แล้วให้เอาน้องฟ้าไปเอ็กซ์เรย์ ตรวจกระดูก ก่อนให้ คีโม หนูก็ต้องตามลูก ไปด้วยตอนเจ้าหน้าที่เปลเค้ามารับ ตอนไปนะพี่ไม่เป็นไรหรอก แต่สักพักเค้าบอกให้หนู กลับมารอที่ตึกเพราะ คิวยาว เดี๋ยวเค้าจะเอาน้องฟ้ามาส่งเอง หนูนะอยากกลับพร้อมลูกแต่อยากนอนด้วย เลย นะกลับ ก็กลับ"
                   "ค่ะ น้อง ต่อเลยค่ะ"
                   "ทีนี้นะพี่ ว่าจะเดินขึ้นทาง บันได แต่ ชั้น 6 เรามันนานนะพี่แล้วกลัวเจอ รัย รออยู่บนบันได ด้วยกะว่าเอาเร็ว นะพี่ใช้ลิฟ นี่แหละชั้น 6 เองกลั้นใจแป๊บเดียว"
                    "พอ กดลิฟ นะ มันเปิดออก ช้า ๆ หนูเข้าไปกดชั้น 6 นะ พอประตูปิดนะพี่ มันขึ้น พรวดเลยนะ เร็วมาก แต่มันไม่หยุด ชั้น 6 นะพี่ไปหยุดชั้น 8 เลยพี่ พอหยุด ชั้น 8 ประตูไม่เปิด นะ หนูเลยกดลง ชั้น 6 อีกมันลงพรวดเลย แต่ไม่หยุดชั้น 6 นะไปหยุดชั้น G เลย พี่ก็รู้ชั้น นี้เป็นที่เก็บศพ หนูใจเสียหมดแล้วนะพี่ จะออกก็ออกไม่ได้ ต้องกดขึ้นอีก ชั้น 6 มันก็ขึ้นชั้น 8 อีกกดลงมันก็ลง ชั้น G อีกแล้วไฟในลิฟ นะพี่ มัน ติดๆ ดับๆ ด้วยหนูจะชีอค อยู่แล้ว นะ ทีนี้มันเปิดชั้น 6 พี่หนูรีบวิ่งออกมาเลย หันเห็นแมวดำวิ่งตามหลังออกมาด้วย ตัวหนึ่ง หนูรีบวิ่ง เข้าตึกเลย"
                    " ไม่เอาแล้ว พี่หลังจากนั้น นะหนู ไม่ใช้แล้วลิฟ คนเดียวไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน เดินขึ้นบันไดนี่แหละยังไง ได้วิ่ง ฝ่ามันได้แต่ในลิฟ พี่คิดดูนะ วิ่งไปทางไหนก็ไม่ได้ ตายกะตาย"  "หลาบแล้วพี่เฮ้อ" แม่น้องฟ้าสรุปพร้อมถอนหายใจ อย่างโล่งที่ผ่านคืนวันนั้นมาได้ โดยหัวไม่โกร๋น ไม่งั้นใคร ๆ คงคิดว่ามารักษาตัวเองแน่ ไม่ใช่พาลูกมารักษา
                        ฉันฟังเรื่องของแม่น้องฟ้าแล้ว มันคอยคิดอยู่ตลอดเวลาเพราะฉันนะเรื่องกลัว ผี นะรักษายังไงก็ไม่หาย หลอกตัวเองว่าไม่มีก็ไม่ได้ ไม่คิดถึงมันก็ไม่ได้อีกเพราะต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลบ่อยแล้วที่จอดรถของฉันนะติดกับชั้น G แหละที่สะดวกสุดแล้ว เพราะชั้นนี้นอกจากเป็น ที่ของห้องเก็บศพแล้ว
ยังเป็นที่ตั้งของโรงอาหารอีก ซุปเปอร์อีก เรียกว่าไม่จำเป็นก็ต้องจำเป็นต้องลงชั้นนี้แหละ แล้ววันละหลายๆ รอบด้วย เพราะเจ้าตัวเล็กของฉันที่มารักษาตัวด้วยเดี๋ยวจะเอานั่น แม่ เดี๋ยวจะเอานี่แม่ จะกินนั่นแม่ จะกินนี่แม่ (ฉันรู้ว่าเค้าไม่อยากอยู่แต่ในห้องรักษา อยากเดินเล่นมากกว่า ของที่บ่นอยากได้อยากกินนะซื้อมาตั้งถ้าของกินฉันต้องกินเอง ถ้าของเล่นก้อถือติดมือเดี๋ยว เดียว ฉันต้องเก็บใส่ถง ไว้ตอนออกก็ โอนให้เด็กๆ เตียงอื่นไป เพราะที่บ้านจะรกไปด้วยของเค้าที่ขยันซื้อ แต่ไม่ขยันเก็บและเล่นต่อเลย) แต่คิดตั้งใจไว้ว่า ทีนี้ถ้าจะ ซื้ออะไรจะต้องซื้อตอนกลางวัน ไม่ลงตอนกลางคืนแล้ว แต่ต้องลงจนได้ บอกแล้วอย่าไปฟัง อย่าไปฟังก็ไม่เชื่อ รันเอยรัน ตายแน่ตู
                         คืนนั้น หลังจากหมด เวลาเยี่ยมตอน 1 ทุ่มน้องฟ้าก็เอาบะหมี่ถ้วยมากิน(เด็กพวกนี้ หมอจะไม่ให้กินของพวกนี้นะค่ะ แต่พวกเค้าจะทานอะไรไม่ค่อยได้ เป็น 4-5 วันเราพ่อ แม่ กลัวลูกหิวไม่มีอาหารลงท้องบางครั้งก้อต้องยอมตามใจเค้าค่ะ ถึงหมอบางคนก็เหมือนกัน ถ้าดูชาร์ดของเด็กบางคนที่แม่ไม่ได้มาเฝ้าแล้วเด็ก ไม่ทานอะไร เวลาให้คีโมนะ หมอจะปลีกเวลามานั่งข้างเตียงแล้วคุย บอกให้กินอาหาร อยากกินแบบไหน เดี๋ยวหมอจะสั่งให้ เอาข้าวต้มไหมเอากับข้าวแบบไหน คือยังไงก็ได้ ขอให้เด็กได้ทานสักหน่อย สุดท้ายถ้าเด็กเบื่ออาหาร โรงพยาบาลจริง ๆ ไม่ยอมทานอะไร ก็ต้องยอมให้เค้ากิน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี่แหละค่ะ แล้วไม่รู้ทำไมเด็กพวกนี้จะทานได้นะค่ะ พวกนี้นะ อาจจะพอชงร้อนๆ แล้วมันหอมน่ากินก็ได้) ที่นี้ พอเจ้าตัวเล็กเห็นพี่ฟ้ากิน อยากกินบ้าง บอกให้ฉันลงไปซื้อ ที่ซุปเปอร์ฉันบอกค่อยกินพร่งนี้นะ แม่จะซื้อมาไว้หลายถ้วยเลยหลายรสด้วย เค้าไม่พูดค่ะว่ายอมเปล่า แต่วิธีการแสดงของเค้าทำให้ฉันทนนั่งเฉยไม่ได้ ต้องรีบลงไปซื้อให้เค้า คือเค้าจะนั่งขัดสมาด บนเตียงแล้วหันมองพี่ฟ้านั่ง กินเฉย ๆ พร้อมไม่พูดอะไรเลย เป็นคุณต่อให้ใจแข็งอย่างไรก็ต้องไปค่ะ
                         ฉันคว้ากระเป๋า ได้รีบไปเลยพอเดินถึงหน้าลิฟ เอาวะ จะ กดชั้น 1  แล้วเดินลงชั้น G ดีหรือว่าลงชั้น G  เลยแล้วรีบเดินไปซื้อแล้วรีบกลับ ฉันเลือกวิธีหลังค่ะ พอลิฟ เปิดชั้น G ปุ๊บฉันกระโดด ออกปั๊บ เหมือนกันรีบก้มหน้าเดิน พอถึงหัวโค้งทางแยก นั่นไงเจ้าหน้าที่แปลเข็นเห็นฝ่าเท้าขาวๆ มาแล้วพร้อมด้วยญาติ 2 คนเดินร้องไห้ตามหลังมา ฉันรู้ด้วยประสบการณ์แล้วว่าเค้าจะไปไหนกัน พยายามไม่มอง แต่ในใจบอก ขอให้เป็นสุข เป็นสุขเถิด แล้วไปที่ชอบนะค่ะ ถึงไม่รู้จักกันแต่ฉันจะทำอย่างนี้นี้ทุกครั้งที่เจอคนตาย ที่ไม่รู้จักกัน
                            พอซื้อเสร็จรีบกลับมากดลิฟ ขึ้นหาลูกป่านนี้คงคอยแล้วกดเรียกลิฟ ลิฟมาพร้อมเปิดฉันเดินเข้าพร้อมกด ชั้น 6 พยายามไม่คิดเรื่องที่แม่น้องฟ้าเล่า แต่สมองไม่ทำงานอีกแล้ว เอาแต่จะคิด ๆ ๆ พร้อมไฟในลิฟ ดับพรึบ สนิทเลยค่ะ เอาแล้ว เอาแล้ว เอาแล้ว ฉันคิดพลางสั่นพลาง รีบหยิบมือถือมาจะกด อ้าว ตายละหว่า ทำไม ไม่มีสํญญาณเลยว่ะ ตายแน่ ลิฟก็ดังกึก กึก กึก ก็มันไม่เดินนี่ น่าจะประมาณชั้น 3-4 นี่แหละ กึก กึก กึก ทั้งเสียงลิฟ และเสียงหัวใจของฉัน พรึบ ไฟติดขึ้นมา พร้อมลิฟกระชากขึ้นหยุดกึกในทันทีประตู เปิดออกชั้นรีบกระโดดแต่ไม่กลับไปหาแมวดำหรอกนะค่ะ แล้วไม่ค้นหา ความเร็วด้วยว่าฝีเท้าใครจะเร็วกว่ากันระหว่างฉันกับแม่น้องฟ้า คิดอย่างเดียวค่ะ พร่งนี้ตูไปเปลี่ยนซิม แล้วโว้ย เอาที่มันมีสัญญาณ ในลิฟ แล้วจะขอเบอร์พยาบาลในหวอดไว้ทุกคนด้วย..............				
comments powered by Disqus
  • คนบนเกาะ

    11 มิถุนายน 2550 11:25 น. - comment id 96526

    36.gifอ่านแล้วขนลุกเหมือนกันนะ  สิ่งเหล่านี้มีจริง  ผมก็เคยเจอแต่อย่าเล่าเลย มะดี๊มะดี

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน