พรหมลิขิต [=Destiny of Heven=] ....(3 กรรมเก่า)

ป๊ากเก้อร์

หลังจบจากงานรับปริญญา ภูก็ได้ไปสมัครงาน และได้ทำงานร่วมที่เดียวกันกับตูนที่โรงแรมเมรี่โรส โรงแรมเมรี่โรสเป็นโรงแรมระดับ 5ดาว ซึ่งที่ภูกับตูนได้ทำอยู่นั้นอยู่ในส่วนของ Poolbar หรือที่เรียกกันในภาษาของคนทำโรงแรมว่าสระน้ำ แต่จะมีทั้งบาร์ และที่สำหรับแขกมานั่งทานอาหาร พร้อมทั้งสามารถสั่งทานอาหารได้บนเตียงที่สระได้ตลอดเวลา งานของภูและตูนก็คือ ทำทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยยันเรือรบ ทั้งเสิร์ฟอาหาร รับorder เป็นbarman runnerboy แม่จะเหนื่อยแต่ก็เป็นงานที่สนุกสนานสำหรับทั้งคู่ 
"ตูน! กูอยู่เมรี่โรสกี่เดือนได้แล้วว้า" ภูพูดอย่างเซ็งเล็กน้อย
"3 เดือนมั้ง....กูจะไปรู้มึงเหรอว้า ภู ไอเวงนี่!!!!"
"เออ เน้อะ แต่ก็อยู่มา 3เดือนแล้วเมื่อไหร่จะได้ Promote ซักทีว้า..." 
"เอาน่า กูก็เซ็ง แต่ไหนๆแล้ว คิดซะว่าหาประสบการณ์ไปก่อนนา"
"อืม ก็แค่เซ็งๆหวะ เฮ้อ...ช่างเหอะ คิดมากปวดหัวเว้ย....ทำงานต่อดีกว่า"
สำหรับเพื่อนๆ ในกลุ่มแต่ละคนทีเรียนจบกันแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานที่ตัวเองอยากทำ ซึ่งก็หลายเดือนแล้วที่ทุกคนในกลุ่มไม่ได้เจอกันเลย  เรื่องนี้ทั้งตูนและภูก็พยายามที่จะนัดเพื่อนๆในกลุ่มมารวมตัวเจอกัน แต่ก็พลาดทุกครั้งไป เพราะเวลาเลิกงานไม่ตรงกันบ้าง หยุดไม่ตรงกันบ้าง สุดท้ายก็ยังคงนัดรวมตัวกันไม่ได้ ....ตู๊ด ......เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นั่นเป็นเสียงโทรศัพท์ของภูเอง ภูรีบเดินไปหลบมุมหาที่รับสายโทรศัพท์ พอได้มุมที่เหมาะก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ภูรู้ฉงนเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าเบอร์ที่โทรมานั้นเป็นเบอร์ของใคร แต่สุดท้ายภูก็กดรับสาย เมื่อภูรับเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงที่ฟังน้ำเสียงแล้วออกจะเถื่อนๆดุๆ พูดจาแบบฮ้วนๆไม่มีหางเสียง
"ขอสายภู!" เมื่อภูได้ฟังเสียงที่พูดออกมาจากสายรู้สึกงงๆ เพราะผู้ชายคนที่โทรมานี้เหมือนไม่พอใจอะไรซักอย่าง
"พูดอยู่ครับ" ภูตอบด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
"มึงใช่มั้ยไอภู! มึงออกมาเจอกูเดี๋ยวนี้"น้ำเสียงนั้นพูดด้วยอารมณ์โมโหและเครียดแค้น 
"นั่นใครครับ!?" ภูสงสัย
"อ๋อง อ๋อง!!!!"
"อ๋องไหนครับ!?" ภูตอบกลับไปอย่างงง
"กูอ๋อง! ผัวไอยี่! มึงทำอะไรกับกูไว้มึงโดนแน่ มึงออกมาเจอกูเลย" น้ำเสียงของชายคนนี้ยิ่งพูดยิ่งให้รู้สึกว่าแค้นเคืองอย่างที่สุด พอภูได้ยินคำว่า ผัวไอยี่ ภูนึกขึ้นได้ทันที นั่นคืออ๋อง อ๋องคนที่เป็นแฟนกับยี่ ซึ่งผู้หญิงที่ชื่อยี่นั่นก็คือ อดีตที่เจ็บปวดของภู 
ภูตอบกลับไปว่า "ผมไม่ได้คุยกับยี่มา 2ปีแล้วนะครับ จะมายุ่งอะไรกับผมอีก ผมเลิกคบกับยี่มานานแล้วนะครับ"
ภูพยายามพูด และอธิบายเพื่อให้ผู้ชายที่ชื่ออ๋องใจเย็นลง แต่ก็ไม่ได้ผล จนในที่สุดภูก็ตัดสินใจกดวางสายโทรศัพท์และอีกอย่างภูก็อยู่ในระหว่างทำงานอยู่จึงไม่อยากจะคุยอะไรยืดยื้ออะไรให้มากความ แต่ทว่าผูชายที่ชื่ออ๋องนั้นก็ยังโทรมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะวางสายกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังโทรมาไม่หยุด จนในที่สุดภูรู้สึกรำคาญอย่างเต็มที่จึงกดวางปุ่มปิดเครื่องมือถือทันที 
"เฮ้ย! เป็นไรอีกว้าหน้าเครียดๆ"
"ไอนั่นมันโทรมาหวะ"
'ใครว้า!?"
"แฟนไอยี่" ภูตอบด้วยสีหน้าเซ็งๆ
"อะไรว้า มึงเลิกกับไอยี่ไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วมันโทรมาทำไมอีกว้า"
"นั่นดิ"ภูตอบแบบเซ็งเล็กน้อย แต่ก็ทำหน้านิ่งๆ
"แล้วมันพูดอะไรกับมึงบ้างว้า"ตูนถามด้วยความอยากรู้ แต่ในใจเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญกับผู้ชายคนนี้
"กูก็บอกมันไปแล้วว่ากูไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับยี่แล้วไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่รู้เรื่องมา 2ปีแล้ว มันก็ไม่ฟังจะเจอกูให้ได้ท่าเดียว"
"ถ้ามีอะไรนะเดี๋ยวพวกกูช่วยมึงเอง"
"เออ กูไม่กลัวมันหรอก แต่รำคาญมันมากเลยหวะ"
"เอาน่า ถ้ามีอะไรเดี๋ยวพวกกูช่วยอีกแรง"
"อืม  ขอบใจหวะ"
ภูเริ่มคิดในใจ "นี่กรรมที่เราได้ทำไว้ จะกลับมาหาเราอีกครั้งแล้วเหรอ ถ้าวันนั้นเราไม่ตัดสินใจคบกับยี่ เราก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนั้น"
    ก่อนนี้ ภูได้รู้จักรกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อยี่ แต่ก็เป็นการรู้จักรอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะทั้งคู่ไม่เคยคุยกันมาก่อน แต่ภูก็เคยเห็นยี่และรู้จักรมาอยู่บ้าง เพราะยี่ก็เป็นรุ่นน้องของภูในคณะเดียวกันนั่นเอง ตอนนั้นภูเป็นหนึ่งในหัวหน้าของชมรม คนรักป่า ซึ่งได้จัดเข้าค่ายที่ต่างจังหวัดทุกปี และยี่ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมที่ได้ร่วมเดินทางไปกับชมรมด้วยในปีนั้น ชมรมคนรักป่ามักจะออกค่ายช่วงซัมเม่อร์หรือที่เรียกกันว่าปิดเทอมใหญ่ จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันในค่ายถึง 3เดือน ระหว่างนั้นภูกับยี่ก็ได้มารู้จักรด้วยความจำเป็น ตอนนั้นเกิดปัญหาภายในชมรม และได้แบ่งกลุ่มกันออกเป็น 2กลุ่ม คือกลุ่มของเจ๊เหลง เจ๊เหลงนั้นเป็นที่ปรึกษาของชมรมคนรักป่า เป็นคนให้คำแนะนำ เรื่องโครงการต่างๆและมีประสบการณ์ในการทำชมรมนี้มามาก จึงเป็นที่นับหน้าถือตาของพวกรุ่นน้อง ส่วนอีกกลุ่มนี่ก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็เป็นกลุ่มของภูเอง เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะ ความคิดของคนในกลุ่มหลายหลายคนนั้นเกิดไม่ตรงกันต่างคนเริ่มต่างทำอะไรปล่อยปะละเลย และฝ่าฝืนกฎระเบียบของค่าย ซึ่งนำโดยเจ๊เหลงที่เป็นตัวหัวโจกในการแหกกฎต่างๆ เพราะตัวเจ๊เหลงเองคิดว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรตัวเจ๊เหลงได้ แต่ทว่าทางพวกที่ไม่พอใจเจ๊เหลงนั้นก็ได้มาปรึกษากับภูในเรื่องต่างๆที่เจ๊เหลงได้ทำซึ่งหนึ่งในคนที่เข้ามาปรึกษาเรื่องราวและปัญหาต่างๆด้วยนั่นก็คือ ยี่ ยี่มักจะมาคุยกับภูและขอคำปรึกษาต่างๆเกี่ยวกับคนในกลุ่มและเรื่องงานของกลุ่ม  ยี่นั้นมีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งภูก็ไม่รู้มาก่อนว่ายี่นั้นมีแฟนแล้วแฟนของยี่ชื่ออ๋อง อ๋องเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งมีหน้าที่การงานที่ดี แต่ก็พึ่งมาคบกับยี่ได้ไม่กี่เดือนยี่ก็ต้องมาออกค่าย คนรักป่า ที่ต่างจังหวัด แต่อ๋องก็มักจะโทรมาหายี่แทบทุกวัน 
วันหนึ่งยี่นัดเจอภูมาคุยที่ห้อง เพราะยี่ไม่อยากออกไปที่ห้องภูเพราะห้องภูมีคนเยอะ และยี่รู้สึกว่าไม่มีสมาธิในการคุยในเรื่องต่างๆจึงนักเจอภูมาคุยที่ห้อง และคืนนั้นเองที่ภูกับยี่รู้สึกดีต่อกัน และก็ทำให้ภูรู้ด้วยว่ายี่นั้นมีแฟนแล้ว ภูจึงไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่ก็เก็บความรู้สึกดีไว้ไม่แสดงออก แต่ทว่าคืนนั้นยี่กับชวนภูนอนที่ห้องด้วย และตั้งแต่นั้นมาภูก็เริ่มสนิทกับยี่มากขึ้น จนวันนึงเรื่องได้รู้ไปถึงหูเจ๊เหลง เจ๊เหลงจึงพยายามพูดให้ร้ายยี่และภูสารพัด ให้คนอื่นคิดว่ายี่เป็นผู้หญิงง่ายๆนอนกับใครก็ได้ จนเพื่อนยี่คนนึงคิดแผนขึ้นมาให้ทั้งคู่เป็นแฟนกัน และนีก็คือจุดเริ่มต้นแห่งความทรมานและทำให้ชีวิตของภูเริ่เปลี่ยนไป จากที่แกล้งๆเป็นแฟนกันกลับกลายเป็นแฟนกันจริง พร้อมความที่รู้สึกดีต่อกันทั้งคู่จึงตกลงคบกันจริงๆเข้า แต่ทว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมันแสนสั้นนัก เพราะถึงเวลาที่จะต้องกลับกรุงเทพแล้ว และก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว 
"ยี่ถึงบ้านแล้วจะโทรมาหาภูรึเปล่า"
"โทรสิ ไม่โทรได้ยังงัย"
นี่คือ สิ่งที่ผูกพนธ์กันมา แม้มันจะสั้นด้วยระยะเวลาแค่ 3เดือน แต่ภูก็รู้สึกผูกพันธ์กับยี่มาก เพราะตอนที่ทั้งคู่อยู่ที่ค่ายแทบไม่เคยแยกจากกันเลย เพราะงั้นพอกลับมาถึงกรุงเทพ ภูรู้สึกว่าตัวเองต้องการยี่มาก แม้จะรู้อยู่เต็มอกเลยว่าตอนนี้ภูกลับมากรุงเทพแล้ว แล้วตอนนี้ภูก็ต้องกลายสถานะจากการเป็นแฟนของยี่ กลายมาเป็นกิ๊กของยี่แทน แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ภูพอใจและยังรับได้ และก็หวังลึกๆว่ายี่จะเลือกตัวเองและรักตัวเองอย่างเต็มตัว แต่ภูไม่เคยรู้เลยว่าการที่ผู้หญิงที่ชื่อยี่นั้นได้เข้ามาในวิตของภูจะทำให้ภูต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ เมื่ออ๋องแฟนของยี่นั้นได้รู้ว่าภูกับยี่นั้นคบกัน เพราะเป็นการบังเอิญที่น้องของอ๋องได้แอบไปเห็นภูกับยี่เดินจูงมือด้วยกันในห้างแห่งหนึ่ง หลังจากวันนั้นภูก็เริ่มโดนจิตวิทยาของอ๋องเล่นใส่ ตัวภูเองไม่ค่อยรู้สึกกลัวอ๋องเท่าไหร่ แต่เป็นยี่ที่โดนอ๋องเล่นงาน ด้วยคำพูดที่ขู่ยี่ต่างๆนานา จนยี่รู้สึกหวาดกลัวทำให้ภูก็เป็นห่วง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนภูตัดสินใจขอเลิกกับยี่ แต่ก็เป็นยี่ที่ยังรั้งภูไว้ไม่ยอมเลิก นั่นก็ทำให้ภูทรมานเหมือนตายทั้งเป็น เพราะจากที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน เจอกันทุกวันกลับกลายเป็นว่า เจอกันบ้างไม่เจอกันบ้าง และอ๋องก็จะมารับยี่ที่มหาลัยบ่อยขึ้นๆจนภูแทบไม่ได้เจอยี่เลย ต้องคุยโทรศัพท์กับยี่หลังจากที่ยี่กลับมาถึงบ้านแล้วภูรู้สึกอึดอัดและทรมานเพราะตัวภูเองก็อยากจะเลิก แต่ยี่กลับไม่ยอเลิกมันเป็นสิ่งที่ภูทรมานเหมือนตายทั้งเป็น ทำให้ภูกลายเป็นคนที่คิดมากคิดมากจนภูกลายเป็นโรคเครียดและเป็นโรคความดันต่ำหายใจไม่ออกแล้วก็จะชัก มันทรมานมากเพราะผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้ภูได้เป็นแบบนี้หรืออาจเป็นเพราะกรรมเก่าที่ภูได้ทำไว้ แต่เหตุการณ์ที่ทำภูต้องฝังใจและทรมานที่สุดในชีวิตก็ได้เกิดขึ้น วันนั้นยี่ไปหาอ๋องตามปกติ แต่ปกติแล้วยี่จะโทรมาหาภูเมื่อถึงบ้าน 
ตู๊ดๆๆๆ.... เสียงโทรศัพท์ของภูดังขึ้น
ฮัลโหล ยี่เหรอ 
อืม ภูเราเลิกกันนะ สิ้นเสียงยี่ ภูก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวนั้นเงียบไปหมด แต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของภู ภูรู้ว่าต้องมีวันนี้จึงพอจะทำใจได้
อืม เราจะไม่ได้คุยด้วยกันแล้วใช่เปล่า
อืม ช่ายยี่ตอบกลับไปอย่างสั้นๆ
แล้วไม่ต้องโทรหากันอีกเลย ไม่เจอกันอีกต่อไปแล้ว....
อืม ช่าย เราเลิกกันแล้วนะ แล้วยี่ก็วางสายไปทันที
อืม....ภูก็ตอบไปเพียงสั้นๆ พอดีกับที่ยี่วางสาย
แต่ไม่นานผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เสียงโทรศัพท์ภูก็ดังอีก และก็เป็นเบอร์ยี่ที่โทรมาอีกครั้ง ในใจภูเริ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดนึง คิดว่ายี่อาจจะอยากกลับมาพูดว่าเราคบกันอีกครั้ง แต่ทว่าเมื่อภูรับสาย ก็ได้ยินเสียงยี่ร้อง เหมือนคู่รักกำลังมีอะไรกันอยู่ ภูพยายามฟังซักพัก ในใจพยายามคิดว่านี่เป็นการแกล้งทำ แต่ว่าฟังไปได้ซักพักจึงรู้ทันทีว่าอ๋องกับยี่กำลังทำอะไรกันอยู่อย่างแน่นอน เมื่อรู้เท่านี้ น้ำตาภูก็เอ่อล้นออกมาทันหัวใจภูเต้นแรงขึ้นๆ มือไม้สั่น ยิ่งฟังภูก็รู้สึกว่าตัวเองโดนพัดพราก เสียของที่ตัวเองรักมากที่สุด และไม่นึกว่าคนที่ตัวเองรักมากที่สุดนี้จะทำอะไรอย่างนี้ได้ทั้งๆที่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนี้พึ่งบอกเลิกกันไปเอง ภูรู้สึกเสียใจและเสียใจอย่างมากและมากมากที่สุดตั้งแต่เกิดมา เสียใจจนแทบขาดใจภูรู้สึกทรมานทรมานแบบว่าเสียใจยังงัยก็ไม่ได้ ทุกข์ยังงัยก็ไม่ได้ รู้แต่ว่าตอนนี้ตัวเองทรมานมากเรียกได้ว่ารู้ซึ้งเลยว่าคนที่เจ็บจนหัวใจสลายเป็นยังงัย แต่ตอนนั้นดีที่ว่าภูยังมีเพื่อนๆ และเพื่อนที่เป็นผู้หญิงอยู่เคียงข้าง เพื่อนผู้หญิงคนนึงเห็นภูเป็นอย่างนั้นแล้วก็สงสารภูมาก จึงจับมือภูพยายามปลอบและพยายามคุยกับภูจนภูสติสตังเริ่มกลับมาบ้าง แต่ก็ยังเบลอๆและเหม่อลอย จนตกเย็นเมือภูกลับบ้าน กลายเป็นว่ายี่กลับโทรมาหาภูอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภูทั้งงงทั้งดีใจและทรมานและสับสนพยายามที่จะถามยี่ว่ามันคืออะไรในเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน แต่ยี่ก็อ้างนู่นอ้างนี่ แต่ภูรู้อยู่เต็มอกว่า ตอนนั้นยี่กับอ๋องมีอะไรกันจริงๆ และอ๋องก็พยายามทำให้ภูได้ยินเพื่อที่จะให้ยี่เลิกกับภู แต่ทว่ายี่ก็ยังไม่เลิกคบกับภูจริงๆ บอกแต่เพียงว่าตอนนั้นอ๋องบังคับให้ทำและบังคับให้พูดว่าเลิกกับภู แต่ยิ่งนานวันๆวันเข้าเหตุการณ์ภูกับยี่ก็เลวร้ายลงๆเรื่อยๆ จากที่เจอกันเฉพาะในมหาลัย ก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลย เพราะอ๋องมาขู่และมาหายี่ทุกวัน จากที่เคยคุยกันนานกลับได้คุยกันแค่ไม่ถึง 5นาทีก็ต้องวาง และจนไม่ได้เจอกันแม้กระทั่งในมหาลัย ได้คุยกันแค่ทางโทรศัพท์เท่านั้น จนในที่สุด ยี่ก็บอกเลิกกับภู เพราะยี่ก็แย่และทนไม่ไหวที่ต้องโดนอ๋องบังคับขมขู่และทำร้ายร่างกาย อ๋องทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้ยี่เลิกกับภูและไม่ให้ภูมายุ่งกับยี่ 
"ภูยี่ทนอ๋องไม่ไหวแล้ว เราเลิกกันนะ ภูรู้เปล่าอ๋องทำอะไรกับยี่บ้าง จิกผมซ้อมยี่ ยี่เจ็บยี่ทรมานนะภู ภูต่อไปนี้ไม่ต้องโทรหายี่แล้วนะ"
"อืม ยี่ก็ไม่ต้องโทรมาอีกแล้วนะ หลังจากวินาทีนี้ไปเราเลิกกันแล้ว" นั่นก็ทำให้ภูรู้สึกดีและโล่ง แต่ก็รู้สึกทรมานและเศร้าคละเคล้ากันไปแต่หลังจากวันนั้น ยี่ก็ยังโทรมาหาภูปะปลาย คือโทรมาบ้างอาทิตย์ละครั้ง ทำเป็นหาเรื่องชวนภูคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับตัวภู แต่ภูก็ไม่ค่อยอยากจะคุยอะไรกับยี่แล้ว เพราะความรู้สึกดีดีมันก็ได้หมดไป จะมีก็แต่ความทรมาน และนี่ก็เป็นเรื่องราวที่ทรมานของภูและเป็นต้นเหตุที่ทำให้ภูต้องมากลายเป็นคนที่คิดมากและเป็นโรคประจำตัวที่เป็นความดันต่ำ เมื่อเวลาโมโห หรือเครียดมากๆก็จะเป็น การที่จะทำให้ภูหายได้คือการกอด และปลอบโยน 
"เฮ้ย! ภู มีTrainee มาใหม่หวะ" ตูนเรียกภู ให้ตื่นจากภวังของอดีตที่ทรมาน
"เด็กฝึกงานมาใหม่เหรอว้า แล้วมึงไม่จีบซะหละ"
"โธ่ พลาดได้งัย กูก็จะจีบอยู่นี่งัย"
"แล้วรู้แล้วเหรอเค้าชื่ออะไร" ภูถามด้วยหมั่นไส้
"น้องเกรซๆ เว้ย..."ตูนตอบแบบยิ้มๆ
"แหมชื่อซะฝรั่งเชียว"
"แต่กูก็ปะล่อมๆถาม เค้าก็มีแฟนแล้วหวะ แต่แฟนเค้าอยู่ต่างประเทศ"
"อ้าว มึงก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเค้าสิ ก็คบกันแค่เพื่อนก็พอ อย่าไปจริงจังหละ" ภูพูดและหลอกสอนตูน
"เออน่า กูรู้น่า กูไม่ได้หวังหรอก แต่ก็จะลองคุยๆดู 5555"
"เออ กูก็แค่เตือนๆมึง ไม่อยากให้เหมือนกูตอนที่กูคบกับไอยี่" ภูพยายามพูดเตือนสติเพื่อน
"เออน่า กูรู้ว่ากูทำอะไรอยู่นา" ไม่นานก็ผ่านไปเดือนนึง ก็มี Trianee มาใหม่อีกคนนึง 
"เฮ้ย ภูมีเด็ก Trianee มาหใม่อีกคนนึงหวะ ที่ห้องอาหารเดียวกับ เกรซเลย ก็น่ารักดี แต่กูว่ากูชอบเกรซมากกว่า55555"
"อืม ก็ช่วงนี้มึงก็สนิทกับเกรซมากเลยหนิ งงงานหมู่นี้ตกไปนะมึง ลางานบ่อยอีกต่างหาก"ภูพูดอย่างประชดๆ
"เออ น่าๆ"
และก็เป็นจังหวะบังเอิญที่ภูจะต้องเดินไปยืมของที่ Long town พอดี
"อ้าว! น้องภู มาเอาอะไรจ้า" เสียงของหญิงสาว คนนึ่งดังขึ้น นั่นคือเสียงพี่หนู พนักงานของห้องอาหาร Long town 
"อ้อ ภ฿ ว่าจะมายืม แก้วเบียร์ซักหน่อยหนะครับ" 
ระหว่างที่ภูกำลงจะเปิดตู้ ก้มไปหยิบแก้วเบียร์ที่ Chill ไว้ในตู้เย็น ภูได้เหลือบไปเห็น Trianee คนที่พึ่งมาใหม่เข้า โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะมอง.....				
comments powered by Disqus
  • ป๊ากเก้อร์

    3 มีนาคม 2551 04:56 น. - comment id 99274

    นี่ก็เป็นตอนที่ 3ของเรื่องพรหมลิขิตนะครับใครที่ได้ติดตามมาตั้งแต่ตอนแรก หรือใครที่ไม่รู้เรื่องตั้งแต่แรก ย้อนกลับไปดูที่หมดเรื่องสั้นได้นะครับ ยังงัยก็วิจารณ์กันได้นะครับ ขอบคุณครับ
  • รอยทาง

    3 มีนาคม 2551 17:31 น. - comment id 99290

    สวัสดีคะ  เนื้อเรื่องใช้ได้นะคะ  แต่จัดตัวอักษรให้อ่านง่ายกว่านี้สักนิดคะ
  • ป๊ากเก้อร์

    4 มีนาคม 2551 02:37 น. - comment id 99297

    ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน