พรหมลิขิต [=Destiny of Heven=] ....(9 ปาฎิหาริย์)

ป๊ากเก้อร์

2ปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านไปมันมันเร็วเหลือเกิน แต่สำหรับภูแล้ว วันเวลาที่ผ่านไปนั้นมันช่างช้ายิ่งนัก ถึงกระนั้น ภูก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะมาเจอฟ้า แม้จะในโลกของ อินเตอร์เน็ตก็ตาม ตั้งแต่ภูได้เจอกับฟ้าในเวบไซค์นั้น ทุกๆวัน ภูมักจะเข้าไปเขียนข้อความ และดูข้อความที่ฟ้าพิมพ์กลับมาทุกวัน แต่มันก็ไม่บ่อยนักที่ฟ้าจะตอบกลับมา เพราะด้วยงานที่ยุ่งและไม่มีเวลามากนัก พอมีเวลาฟ้าก็พยายามเขียนตอบกลับมา แม้จะเป็นแค่ข้อความและไม่ได้เจอกันจริง หรือแม้ไม่ได้ยินเสียง เพียงแค่นี้ก็ทำให้ภูรู้สึกมีความสุขใจมากแล้ว
      
      วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ภูและซี ไปกินข้าวด้วยกัน และเมื่อทั้งคู่เลิกงาน ภูจะเป็นคนมารับซีตลอด และพาไปกินข้าวด้วยกัน และก็มาส่งซีถึงหน้าบ้านทุกวันอย่างเคย แต่ทว่า วันนี้ซีรู้สึกแปลกๆ ซีรู้สึกว่ายังไม่อยากให้ภูกลับบ้าน และรู้สึกว่าอยากจะให้ภูอยู่กับตัวเองไปจนกว่าจะเลยเที่ยงคืน
ภู ซีอยากให้ภูอยู่กับซีก่อน ยังไม่อยากให้ภูกลับบ้านเลย อยู่กับซีก่อนนะ....ได้เปล่า  ซีพูดอย่างอ้อนๆ
แต่ว่า....วันนี้ภูรู้สึก เพลียๆ เหนื่อยๆยังงัยไม่รู้อะซี 
ภูพูดพร้อมกับยื่นหน้าเอาริมฝีปากไปจุ๊บที่หน้าผากซี แต่ซีกลับทำหน้าเป็นกังวล
ทำไมทำหน้างั้นหละซี? ภูมองหน้าซี
ก็ซียังไม่อยากให้ภูกลับบ้านนี่นา....... แต่ซียิ่งพูดก็ยิ่งเป็นกังวล
อืม.....คงไม่เป็นอะไรมั้ง ดูภูเพลียๆ ถ้าเรามัวแต่รั้งไว้ ลางสังหรณ์เราอาจจะไม่ดีก็ได้ ซีคิดในใจ
ก็ได้ งั้นถ้าภูถึงบ้านแล้วโทรมาเลยนะ ห้ามโอ้เอ้ด้วย......
แม้ซีจะตัดใจปล่อยให้ภูกลับบ้าน แต่ซีก็ยังคงคิดและลังเลๆอยู่
อืม.....เดี๋ยวพอเราลงรถก็ค่อยโทรหาก็ได้เน้อะ ภูจะได้มีเพื่อนคุยตอนขับรถ ฮิฮิ ซีคิดในใจ
งั้น ซีเข้าบ้านเลยนะ  ซีออกจากรถกำลังจะเดินเข้าบ้าน
กลับบ้านดีดีนะที่รัก
ซีหันกลับมาพูดอย่างเดิมเหมือนทุกๆวัน แต่ว่าวันนี้ ซีดูไม่ค่อยเบิกบานมากนัก ด้วยความที่ว่าตัวเองนั้นรู้สึกกังวลกับลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง ส่วนภูก็ทำเหมือนปกติคือเปิดหน้าต่างรถเคยดูจนกว่าซีจะเดินเข้าบ้าน
เดี๋ยวภูถึงบ้านแล้วจะโทรกลับมาหานะ
จ้า......
หลังจากนั้นภูก็ปิดหน้าต่างรถออกรถ และขับรถหายวับไป ระหว่างที่ภูขับรถ ภูรู้สึกว่าตัวเองเริ่มง่วงนอน และเริ่มง่วงนอนมากขึ้น มากขึ้น แต่ภูก็พยายามฝืนขับรถ 
......กริ๊ง..........ๆๆๆๆ
โทรศัพท์ของภูดังขึ้น ภูสะดุ้งตื่นจากอาการงวงเงีย.....
โอย...ง่วงมากเลย เมื่อกี้เกือบหลับใน....
อ้า ซีโทรมาเองเหรอ ดีนะที่ซีโทรมาหาเรา ไม่งัน หลับในแน่ ภูพูดกับตัวเอง แล้วภูก็กดรับสาย
ฮัลโหล ภู! ถึงไหนแล้ว ซีพูดอย่างกังวล ปนความเป็นห่วง
เฮ้ย!.....เป็นอะไรซี ทำไมต้องทำเสียงกังวลๆอะไรอย่างนั้นด้วยหละ ตกใจหมด 
ภูพูดด้วยความงวงเงียๆ
ก็ซีเป็นห่วงภู เมื่อกี้ภูบอกว่าภูเหนื่อยๆเพลียๆซีกลัวภูจะหลับในก็เลย.............
เอี๊ยดดดด โครมมมมม................
ภู..............................................
ทันใดนั้น !!!!~ แค่ชั่วพริบตาเดียว รถของภูก็ได้ไปเสยท้ายรถสิบล้อที่บรรทุกเสาไฟฟ้าเข้าอย่างจัง ....เป็นเพราะช่วงที่ภูก้มมองจะไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนเบาะข้างคนขับ แล้วประกอบกับที่ภูยังคงเบลอจากอาการงวงเงีย พอคุยกับซีไม่ทันไร เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็ไม่ทันที่จะหยุดรถ เพราะเมื่อเห็นภาพข้างหน้าชัดเจนอีกที รถภูก็เสยเข้ากับท้ายรถบรรทุกเสาไฟฟ้าเข้าให้อย่างจัง
ภู.....!! ภู.....!! ภูเป็นอะไร ภู ฮือฮือ ภู เกิดอะไรขึ้น ภู........
ซีไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เท่าที่ได้ยินเสียง ก็พอเดาได้เลยว่า ภู คงเกิดอุบัติเหตุซะแล้ว ลางสังหรณ์ซีดูจะเป็นจริง ซีร้องไห้ออกมาทันที และเริ่มร้องหนักขึ้นๆ เหมือนคนไร้สติทันที รู้สึกใจหายอย่างมาก หัวใจหล่นไปกองที่ตาตุ่ม แขนขามือไม้อ่อนปวกเปียก ซีร้องไห้อยู่ครู่ใหญ่พอตั้งสติได้ซีก็รีบหยิบกระเป๋าสตังค์ที่อยู่บนโต๊ะและรีบวิ่งออกจากบ้านทันที ในใจก็คิด
ภู....ภูอย่าเป็นอะไรนะภู.....ฮือ.....
 
ซีวิ่งไปร้องไห้ไป ซีรีบวิ่งออกไปที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกแท็กซี่ เมื่อเรียกแท็กซี่ได้ก็ให้คนขับ ขับไปตามทางที่ภูมักจะขับกลับบ้าน ไม่นานซีก็มาถึง ซีเห็นคนมายืนมุงดูกันอยู่ก็รู้ทันทีว่าที่นี่แน่นอน ที่ที่ภูเกิดอุบัติเหตุ ซีรีบหยิบเงินอย่างร้อนรน โดยไม่ใส่ใจกับเงินทอน
คุณครับ คุณ เงินทอนครับ
ซีปิดประตูรถและวิ่งออกไปทันทีที่จุดเกิดเหตุ
ภู......ภู....... ซีส่งเสียงเรียกภูอย่างร้อนรน
ขอโทษนะคะขอทางหน่อยค่ะ....ภู...
พอซีหลุดเข้ามา  ภาพที่เห็นคือ รถของภูเข้าไปอยู่ในใต้ท้องรถบรรทุก ส่วนเสาไฟฟ้านั้นทะลุเข้าไปในรถ เท่านั้นเองที่ซีเห็นภาพอันน่ากลัวนี้แล้ว ซีค่อยๆหันไปมองที่ปลายเสาไฟฟ้าอันหนึ่งที่ทะลุเข้าไปในรถของภู  ซีถึงกับเข่าอ่อน รู้สึกเหมือนกับสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต เหมือนกับว่าหัวใจของตัวเองแทบสลายลงไปเดี๋ยวนั้น
ภู.............~ 
ซีร้องเรียกภูเสียงดังลั่น ทุกคนในที่นั้นหันมามองซี แต่วินาทีนั้นซีไม่สนใจอะไร กลับปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก และค่อยๆเดินไปที่ภูอย่างช้าๆ เพราะภาพที่ซีเห็นนั้น ที่ปลายเสาไฟฟ้าอันนั้นได้เข้าไปกระแทกอัดกับเบาะคนขับที่ภูนั่งอยู่นั่นเอง แต่แล้ว..............
เฮ้ยๆๆ.... ยังไม่ตายเว้ย !! ยังหายใจอยู่ แต่แผ่วเบาแล้วหวะ มาช่วยกันหน่อยเร็ว
ผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปดูอาการของภูตะโกนขึ้น ซีได้ยินดังนั้นก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่ภูยังไม่เป็นอะไรไป
เค้าเอามือบังไว้ที่หน้า ...โหย แต่ท่าทางกระดูกมือด้านซ้ายเค้าจะแตกหมดแน่เลย เอ้าๆๆ รีบช่วยกันหน่อยเร็ว อย่ามัวแต่มุง
คนที่เข้าไปดูอาการอีกคนพูด  เมื่อซีได้ยินคนที่เข้าไปช่วยเหลือตะโกนออกมาอย่างนั้น ก็รีบวิ่งเข้าไปดูอาการของภูทันที
ภู!! ...ภู ....ภู อย่าเป็นอะไรนะ ภูต้องอดทนนะ ซีอยู่นี่แล้ว...  ซีพูดไปร้องไห้ไป
หนูเป็นเพื่อนเค้าเหรอ เค้าสลบไปหนะ แต่อาการก็น่าเป็นห่วงอยู่ แต่เค้าคงไม่เป็นไรหรอก แต่ก็ต้องรีบช่วย ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวหมอจะช่วยอย่างสุดความสามารถ หมอที่มาดูอาการพูดขึ้น
เค้าจะฟื้นไหมคะหมอ ซีพูดด้วยความกังวลและร้องไห้ไป 
ไม่เป็นไรๆ หมอต้องช่วยเต็มที่อยู่แล้ว 
แล้วซีก็ค่อยๆถอยออกมายืนดูภูอยู่ห่างๆ เพื่อที่จะได้ไม่ไปเกะกะคนที่ไปช่วยภู ผ่านไปเกือบชั่วโมง ร่างของภูก็หลุดออกมาจากรถ แล้วทุกๆคนก็ช่วยกันพาร่างภูไปโรงพยาบาลทันที ส่วนซีก็ตามขึ้นรถพยาบาลเพื่อคอยดูอาการภูอยู่ไม่ห่าง ไม่นานนักก็มาถึงโรงพยาบาล ตลอดทางซีได้แต่ร้องไห้และมองดูภูอย่างเป็นกังวล ในใจก็ภาวนาไม่ให้ภูเป็นอะไรไปมากกว่านี้ 
หมอคะ หัวใจเค้าหยุดเต้นค่ะ พยาบาลคนหนึ่งพูด
ภู ภู....ฮือ....ภู ภูต้องไม่ตายนะ ภู ซีรักภูนะ ฮือ.... 
ซีตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินที่พยาบาลพูดว่าหัวใจภูหยุดเต้น
เตรียมเครื่องปั๊มหัวใจ 
หมอที่อยู่ในรถพยาบาลพูดขึ้น  แล้วทั้งหมอและพยาบาลก็ช่วยกันปั๊มหัวใจภู 
ภู ฮือ......ต้องฟื้นนะ ภู...ฮือ.......
พอถึงโรงพยาบาล หมอและพยาบาลก็ช่วยกันเอาร่างภูลงมาจากรถและพาเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินทันที ซีก็ตามไปไม่ยอมห่างจากภูจนถึงหน้าห้องผ่าตัด
ต้องขอโทษนะคะคุณ คนเข้าเข้าห้องผ่าตัดด่วนกรุณารอที่นอกห้องนะคะ พยาบาลคนหหนึ่งเข้ามากันซีไว้
ภู..........
ซีไม่อยากห่างจากภูเลยในวินาทีนี้ แต่ก็ต้องจำใจรออยู่ด้านนอก
ภู อย่าเป็นอะไรนะ ภูต้องมีชีวิตอยู่เพื่อซีนะ ฮือ..... ซีขาดภูไม่ได้....ซีรักภูมาก....มากๆ ฮือ.....
ซีพูดกับตัวเองในใจ และได้แต่ร้องไห้ เพราะตอนนี้ในหัวมันอื้อไปหมด พูดอะไรไม่ออก และรู้สึกเสียใจและทรมาน ซีได้แต่นั่งรอและภาวนาได้อย่างเดียวว่าอย่าให้ภูจากไป 
ส่วน ทางด้านภู ไม่รู้สึกตัวอะไรอีกแล้ว และเสียงของหัวใจก็เงียบหายไป เหมือนคนที่ใกล้จะตายเต็มที
นี่.....เราอยู่ที่ไหนเนี่ยะ!?
ภูรู้สึกตัวอีกทีก็ยืนอยู่ในที่ที่ตัวเองไม่รู้จักร และไม่เคยเห็นมาก่อน ภูมองไปรอบๆ สภาพแวดล้อมรอบตัวนั้นเป็นสีแดงฉานไปหมด เหมือนกับว่าตัวเองอยู่ในดินแดงแห่งนรก.....แวบเดียว ชั่วเสี้ยววินาที ก็ปรากฏชายร่างใหญ่ 2คนเดินเข้ามาหาภู
เจ้าวิญญาณที่ยังไม่ถึงฆาต.....กลับไปสู่ร่างของเจ้าซะ.......
ชายร่างใหญ่คนหนึ่งพูดขึ้น นั่นทำให้ภูถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยเสียงอันดังก้องกังวาน 
เอ่อ.....ที่นี่ที่ไหนครับ ภูเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
ปากทางเข้านรก! 
ภูได้ยินคำตอบดังนั้น กลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร แต่กลับรู้สึกแปลก นั่นเป็นเพราะ
แล้วทำไม วิญญาณของผมจึงออกมาจากร่างได้ครับ? ภูถามด้วยความสงสัย
ดวงของเจ้าเข้าอายุ 25เป็นช่วงเวลาที่ดวงของเจ้ากำลังตก ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น จนเจ้าต้องหมดสติไป และเป็นเพราะวิญญาณตนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเจ้า ตามเจ้ามาตั้งแต่เจ้าหนีมาเกิด ได้ดึงวิญญาณเจ้าออกมาจากร่าง และพาเจ้ามาถึงยังปากทางเข้านรกแห่งนี้  
ภูตกใจเฮือกหนึ่ง แล้วค่อยๆหันกลับหลังไปดู เป็นร่างวิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าภู เมื่อวิญญาณนั้นเริ่มแสดงเรือนร่างที่ชัดเจนขึ้น ภาพอดีตต่างๆปรากฏเข้ามาในหัวของภูทันที
พี่เผือก.... เสียงแผ่วเบาของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้น
ภา.......
ภูจำภาพในอดีตได้หมด ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นก็คือ ภา
ภา ทำไม!? แล้วฟ้าที่ภูเห็น ไม่ใช่ฟ้าหรอกหรือ? ภูถามด้วยความสงสัยและรู้สึกสับสนอย่างยิ่ง
นั่นคือภาจริงๆ ....แต่ภาที่เห็นเป็นฟ้านั้น ก็คือภาในชาตินี้ ฟ้าก็คือภาในชาตินี้ ส่วนภาตรงนี้ คือภาในอดีตชาติ ที่คอยตามเผือก หรือภูในชาตินี้ไม่ห่าง
แล้วทำไม ภาถึงมีร่างที่เป็นอดีต
ภาตายตาไม่หลับ และมีห่วงอยู่ เพราะงั้นจึงเหลือไว้เพียงวิญญาณที่ไม่ไปไหน เพื่อตามพี่ในชาตินี้และรอจนกว่าจะเห็นพี่ชดใช้กรรม เมื่อถึงเวลาที่ภาสามารถสื่อสารกับพี่ได้ ภาจึงต้องทำแบบนี้ เพื่อจะมาบอกกับพี่ว่า ภา.....รักพี่
ภา..... ทันที ความรู้สึกผูกพันเมื่อครั้งอดีตชาติก็กลับคืนมา ภูสวมกอดภาทันทีโดยไม่ลังเล
ภา .......ฮือ.....พี่ก็รักภา .....ฮือ....... ภูร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว
ภาดีใจที่พี่ไม่ลืม ที่ผ่านมาภาขอโทษ
พี่ก็ขอโทษ....ฮือ.....พี่มันบาปหนา พี่ต้องชดใช้กรรมที่พี่ก่อ
ภาก็ไม่ต่างจากพี่นัก ทั้งคู่สวมกอดกันอย่างอบอุ่น
ถึงเวลาแล้วที่ร่างวิญญาณนี้ต้องไป ถึงบัดหนี ภาได้เห็นกรรมที่พี่ต้องชดใช้มาแล้ว และตัวภาเองได้แก้ปมในใจแล้ว ภาต้องไปซักที พี่เผือก ฟ้าในชาตินี้ก็คือภาในอดีตชาติ และพี่เผือกก็คือภูในชาตินี้ ชาติหน้าของพี่เราจะต้องได้อยู่ด้วยกันอีกแน่นอน เดินตามพรหมลิขิตที่เราได้ขีดเขียนไว้ พี่ต้องรักผู้หญิงที่ซีให้มากๆ เพราะเค้าคือเนื้อคู่ของพี่ในชาตินี้ ส่วนฟ้า ไม่นานพี่จะได้เจอเค้า และพี่จะรู้ว่าฟ้าจะรักพี่ไม่เคยเปลี่ยน แม้ชาตินี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ชาติหน้าเราต้องได้อยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน จำไว้ต้องดูและผู้หญิงที่ชื่อซีให้ดี เพราะเค้า เคยเป็นแม่ของพี่ในชาติที่แล้ว......... ภาต้องไปแล้ว ทุกอย่างนี้ ภาได้แก้ปมในใจออกหมดแล้ว ภาต้องไปก่อนนะ
ภา.....ภา....... 
แล้ววิญญาณของภาก็ค่อยๆหายวับไป 
เจ้ามาอยู่ตรงนี้นานแล้วรู้มั้ย  
ยมทูตตนหนึ่งพูดขึ้น แต่ภูก็ทำหน้างงเพราะรู้สึกว่าตัวเองก็ยืนอยู่ตรงนี้แค่ไม่กี่นาทีเอง
เวลาที่นี่นั้น ช้ากว่าบนโลกนัก 1นาทีที่นี่นั้น ช้ากว่าบนโลกเท่ากับ 1วัน เจ้าอยู่นี่มา 7นาทีแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าควรจะกลับไปเข้าร่างเจ้าซะ  หากผ่านไปนานกว่านี้เจ้าอาจจะไม่สามารถเข้าร่างได้ และวิญญาณของเจ้าในส่วนที่ยังคงอยู่ในร่างเจ้าอันน้อยนิดนั้นก็จะสลายไป จนทำให้เจ้าไม่สามารถกลับเข้าร่างได้อีก และเป็นช่องทางให้วิญญาณพเนจรเอาร่างเจ้าไปใช้ได้ เจ้ายังไม่ถึงฆาต เพราะฉะนั้นเจ้าต้องรีบกลับเข้าร่างเจ้าซะ ไป!.....
แล้วผมต้องกลับไปอย่างไรครับ ต้องไปยังงัยถึงจะกลับเข้าร่างของผมได้
เดินไปตามแสงที่ส่องประกายสีขาวนั่น แล้วเจ้าจะสามารถกลับสู่ร่างของเจ้าได้ จำไว้ เดินตามแสงที่ส่องประกายเท่านั้นอย่าหยุดอย่าสนใจสิ่งรอบข้าง และอย่าเดินกลับมาอีก หากเดินกลับมาเจ้าอาจจะไม่ได้เห็นแสงสีขาวนั่นอีก เร็วเข้า รีบไปซะ!......
พูดจบยมทูตทั้ง 2ก็ค่อยๆหายวับไป ภูหันหลังกลับไปมองก็เห็นแสงแวววับสีขาวส่องประกาย ภูจึงเดินตรงไปหาแสงนั่นทันที พอเดินไปซักพัก
ภู..ภู..ภู......
ไอ้เผือก! มึงจะหนีไปไหน มึงลงมานรกแล้ว มึงก็ต้องไปนรก ไอเผือก!
พ่อหมอ....พ่อหมอ....พ่อหมอ ทำเสน่ห์ให้ฉันที พ่อหมอ...
กรี๊ด.......
ฮ่าฮ่าฮ่า.......
เสียงต่างๆที่อยู่รอบข้างนั้นพยายามดึงรั้งภูไว้ไม่ให้ภูได้กลับไป แต่ภูก็ไม่สนใจ พยายามตั้งหน้าตั้งตาเดินโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
พ่อหมอเผือกจ๊ะ .....ลืมสร้อยไปแล้วเหรอ พ่อหมอ......
ทันใดนั้น วิญญาณของสร้อยก็ได้ปรากฏขึ้นอยู่อยู่เบื้องหน้าภู ภูไม่สนใจเดินตรงไปโดยไม่มองและไม่สนใจสร้อย แต่ทว่า แสงนั่นกลับหายไปซะแล้ว
พ่อหมอเผือกจะไปไหน จำสร้อยไม่ได้แล้วหรือ
ภูหยุดพร้อมกับค่อยๆเงยหน้าขึ้น
ยี่..!
ใช่จะ แต่ไม่ใช่ยี่ ยี่อดีตชาติคือสร้อยเอง อยู่กับสร้อยนะพ่อหมอ อย่าไปเลย......
ไม่ ! ผมชื่อภู ผมไม่ใช่หมงหมอเผือกอีกแล้ว หลบไปซะอย่ามาขวางทาง ต่อไปนี้เราจะไม่จมปักกับอดีตอีกแล้ว!
ทันทีที่ภูพูดจบ จากสีหน้าที่ยิ้มแย้มของสร้อย กลับกลายเป็นสีหน้าที่เคียดแค้นทันที
มึงจะไปไหนไอ้เผือก! ฮะฮะฮะ
ภูชะงักทันที แต่ก็พยายามที่จะเดินตรงไปและมองหาแสงนั่น
กูไม่ให้มึงไปไหนหรอก ฮะฮะฮะ
ภูเริ่มเข้าตาจนและทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ตกใจและใจหาย แต่ก็พยายามใจดีสู้เสือ ไม่กลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น....
.....ทันใดนั้น....
ก็มีน้ำหยดลงมาที่ใบหน้าของภู และชั่วเสี้ยววินาทีนั้นเอง ภูก็กลับมายืนอยู่ที่ห้องของโรงพยาบาล ภูรู้สึกมึนงง แต่พอมองไปรอบกายก็รู้ว่าได้กลับมายังโลกมนุษย์
ภู....ฮือ..เมื่อไหร่ภูจะฟื้นซักที
ซีนั่นเอง น้ำตาของซีที่อาบอยู่บนหน้านั้นได้หยดไหลเต็มหน้าของภู และชั่วแวบเดียวแค่เสี้ยววินาทีนั้นเหมือนกับว่ามีอะไรมาดึงเอาตัวภูกลับเข้าร่าง.....นั่นคือ อ้อมกอดที่อบอุ่นของซีนั่นเองและรอยจูบแห่งความรักที่แท้จริงและจริงใจที่ทำให้ภูได้กลับเข้าร่างอีกครั้ง......
ซี......เสียงแผ่วเบาของดังขึ้น ซีตกใจและดีใจเมื่อได้ยินเสียงภู
ภู.....ภู...ภูฟื้นแล้ว! ..... ภู!....
ซีดีใจอย่างมาก และมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของซีอย่างชื่นบาน
ฮิฮิ ภูฟื้นแล้ว ซียิ้มพร้อมกับปาดน้ำตาบนใบหน้า
ภูเจ็บ. ภูขยับแขนซ้ายไม่ได้ ขยับด้านซ้ายไม่ได้เลย โอย.....ปวดตัวไปหัวไปหมด
ในที่สุด ภูก็ฟื้นขึ้น ช่างเป็นปาฏิหาริย์นัก แต่ทว่า
ภูปวดหัวมากๆเลยซี ภูพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา
ภูขยับตัวทางซีกซ้ายไม่ได้เลย มันไม่รู้สึกอะไรเลย
 ภูเป็นอัมพาตทางซีกซ้าย แต่หมอบอกว่าถ้ากระดูกเชื่อมต่อติดดีแล้ว ก็จะแช็คหมอนลองกระดูกอีกทีนึงว่าต้องผ่าตัดมั้ยหลังจากนั้นก็จะกายภาพบำบัดมันก็จะหาย แต่ภูรู้รึเปล่า หมอบอกว่าภูอาจจะหลับไปตลอดชีวิต โอกาสที่ภูจะฟื้นขึ้นมาน้อยมากๆ แต่ถ้าฟื้นขึ้น ก็คือปฏิหาริย์ ...แล้วมันก็ปาฏิหาริย์จริงๆ ภูรู้รึเปล่าช่วงที่ภูหลับ มีใครต่อใครหลายคนมาเยี่ยมภูเยอะแยะเลย แล้วซีก็มาหาภูทุกวันด้วย
ซี แล้วภูหลับไปนานขนาดไหน?
นี่ก็ 1เดือนแล้วหละตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ  ภูหมอยังบอกอีกว่าแขนขาทางด้านซ้ายของภู มีกระดูกหักรวม 20ซี่ ซีกลัวมากเลยนะว่าภูจะเป็นอะไร แค่ภูฟื้นขึ้นมา ซีก็ดีใจมากแล้ว ภูไม่เป็นอะไรซีก็ดีใจที่สุดแล้ว ซีอะจะเข้มแข็งนะ จะให้กำลังใจภูให้ภูกลับมาหายเป็นปกติ หมอบอกว่าภูโชคดีมาก ที่ภูเอามือป้องหน้าไว้พอดี เลยทำให้มือทั้ง 2ข้างของภูแตก แต่มือด้านซ้ายของภูเป็นหนักกว่าข้างขวา แล้วขาของภูก็อัดกับคอนโซนหน้ารถ ฮิฮิ ภูอะเหมือนมัมมี่เลย เข้าเฝือกทั้งตัว แต่ตอนนี้อวัยวะภูทางด้านขวา พวกกระดูกขาแขนมันต่อเชื่อมติดกันหมดแล้ว แต่หมอยังเข้าเฝือกอ่อนไว้ อีก1อาทิตย์ค่อยเอาออก แต่ทางด้านซีกขวา ต้องเข้าเฝือกอีก 2เดือนได้แล้วต้องรอดูอีกทีว่ากระดูกของภู เชื่อมติดกันได้มากขนาดไหน หลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนมาเป็นเฝือกอ่อน พอเชื่อมติดกันดีแล้วก็ให้ภูพักฟื้น พอเริ่มกลับมาแข็งแรงดีแล้ว หมอเค้าจะเอ็กซเรย์อย่างละเอียดอีกทีเรื่องกระดูกและเส้นประสาทแล้วอาจจะต้องผ่าตัด หากหมอนลองกระดูกเคลื่อน และหลังจากนั้นค่อยมาทำกายภาพบำบัด ฮิฮิ ช่วงเวลานี้อะนะ ซีจะดูแลภูเอง ซีจะอยู่คอยดูแลภูไม่ห่างเลย
ภูได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มแก้มปริ 
ขอบคุณนะ ซี ภูรักซีที่สุดในชีวิตเลย ฮะฮะ
เย่เย่ ฮะฮะ ภูยิ้มแล้ว ซีดีใจมากๆเลยที่ภูฟื้นขึ้นมาหาซี ซีรักภูมากๆเลยนะ ภูต้องหายให้ได้นะ
ซีพูดพร้อมกับสวมกอดภูด้วยความรัก รอยยิ้ม และน้ำตาที่ไหลตอนนี้นั้น มันคือความรู้สึกที่สุขใจยิ่งนัก
ภูจะอดทน และกลับมาหายเป็นปกติให้ได้เลย เพื่อซี และก็เพื่อทุกๆคนที่รักและห่วงใยภูด้วย
สัญญานะ ซียื่นนิ้วก้อยออกมา
อืม สัญญา แล้วซีก็เอานิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยภู
ในใจของทั้งคู่ตอนนี้มีแต่ความรักที่เอื้ออาทร ที่มอบให้แก่กัน ทั้งคู่รู้ซึ้งถึงค่าของคำว่ารัก ตัวซีเองนั้นก็แทบไม่เชื่อว่าภูจะฟื้น จากคนที่ใกล้จะตายแล้ว แต่ด้วยความรักที่จริงใจจากซีที่มีให้ หรือเป็นเพราะพรหมลิขิตที่ทั้งคู่ได้ขีดเขียนไว้ แต่ไม่ว่าด้วยอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะอดีตที่ทำให้ภูได้รู้เรื่องราวที่ตัวเองได้ก่อขึ้น ตอนนี้ภูรู้แต่เพียงว่า ผู้หญิงที่ชื่อซีคนนี้ เป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เค้ารอดกลับมาจาความตาย
ภูจะรักซีตลอดไป ภูคิดในใจ
ซีก็จะรักภูตลอดไปเหมือนกัน  
เอ๋!?.... ซีรู้ได้งัยว่าภูจะพูดว่า ภูจะรักซีตลอดไป 
ก็ ซีรักภูที่สุดในชีวิตงัย ฮิฮิ.				
comments powered by Disqus
  • ป๊ากเก้อร์

    9 พฤษภาคม 2551 22:13 น. - comment id 100136

    นี่ก็เป็นตอนที่ 6แล้วนะครับ สำหรับเรื่องพรหมลิขิต สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน -ตอนแรก http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9021.html นี่เลยครับยกมาให้แล้ว อันนี้คือตอนแรก http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9046.html นี่คือตอนที่ 2
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9085.html นี่คือตอนที่ 3
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9125.html  นี่คือตอนที่ 4
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story1981.html  นี่คือตอนที่ 5
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9219.html  นี่คือตอนที่ 6
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9232.html  นี่คือตอนที่ 7
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9245.html  นี่คือตอนที่ 8
    ใครสนใจ ที่จะอ่านตั้งแต่แรกผมยกมาให้แล้วนะครับ คลิ๊กเข้าไปอ่านได้เลยไม่ต้องหา  ชอบไม่ชอบยังงัยช่วยวิจารณ์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ และขอขอบคุณท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามผลงานมาตั้งแต่ตอนแรกด้วยครับ ข
    
    ****หมายเหตุ: ต้องขออภัยนะครับหากเขียนผิดในบางคำ หน้าจะประมาณช่วงปลายปีจะโพสฉบับสมบูรณ์ครับ ตอนนี้จะเป็นต้นฉบับก่อนครับ ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ....
    
    ขอบคุณ ป๊ากเก้อร์....

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน