ดอลลาร์เครื่องมือการเมือง

ลุงแทน

ดอลลาร์เครื่องมือการเมือง
บทนำ : กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  13  กุมภาพันธ์ 2547
นักเศรษฐศาสตร์หลายราย เคยคาดการณ์ เกี่ยวกับทิศทางของ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ว่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงมาก พอควรแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณา จากท่าทีล่าสุด ของบุคคลที่ทรงอิทธิพล ทางการเงินสูงสุดในสหรัฐ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ อาจคิดใหม่ก็ได้ หลังจากนายอลัน กรีนสแปน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงนโยบายการเงิน ต่อคณะกรรมาธิการ กิจการการเงิน ของสภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงผลประโยชน์ ของการร่วงลงของดอลลาร์ ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และการร่วงลงของดอลลาร์ จะมีส่วนช่วยลดตัวเลข ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ พร้อมกับกล่าวว่า มูลค่าของเงินหยวน จะเพิ่มขึ้น หากจีนเลิกแทรกแซงค่าเงิน ขณะที่เงินเยนจะแข็งค่าขึ้นชั่วคราว หากญี่ปุ่นหยุดแทรกแซงเช่นกัน
ขณะเดียวกัน นายกรีนสแปน ปฏิเสธความวิตกเกี่ยวกับการร่วงลงของดอลลาร์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า ผลกระทบด้านเงินเฟ้อจากการอ่อนตัวลงของดอลลาร์นั้นยังถือว่าน้อยมาก ณ ขณะนี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ส่งออกอเมริกันได้ทำประกันความเสี่ยงของผลประกอบการเอาไว้แล้ว และไม่ได้ผลักภาระราคาที่สูงขึ้นให้กับผู้บริโภคอเมริกัน นอกจากนั้น นายกรีนสแปนก็ไม่ได้ให้ความเห็นต่อทิศทางของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ นักลงทุนเคยทำนายว่า เฟดอาจปรับเพิ่มดอกเบี้ยจากระดับ 1% อันป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 45 ปี ในเร็วๆ นี้ นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มการอ่อนค่าต่อไปของเงินดอลลาร์ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนระหว่างประเทศให้ความสนใจซื้อน้อยลงต่อสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์
แถลงการณ์ของนายกรีนสแปนนับว่าสอดคล้องกับจุดยืนของนายจอห์น สโนว์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐที่เคยพูดเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การอ่อนตัวลงของดอลลาร์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นไปแบบไม่รุนแรงและเป็นระเบียบ และจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม นายกรีนสแปน ซึ่งได้รับเครดิตสูงมากในเรื่องการเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางที่มีอิสระในการบริหารงานมากที่สุดในโลก ปราศจากการแทรกแซงทางการเมืองโดยสิ้นเชิง ได้มีส่วนสนับสนุนประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ทางอ้อม เพราะคำพูดที่ว่า การร่วงลงของดอลลาร์จะช่วยลดตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ ยังผลให้นักลงทุนในตลาดการเงินโลกนำไปตีความหมายว่า นายกรีนสแปนได้เปิดทางให้เงินดอลลาร์อ่อนตัวต่อไป และสหรัฐกำลังใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ที่คาดว่าตัวเลขจะพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 521,000 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ อันเป็นผลจากการทุ่มงบกลาโหมและความมั่นคงมูลค่ามหาศาลของทำเนียบขาว
เรามั่นใจว่า ขณะนี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งยืนหยัดมาตลอดว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศต้องเป็นตัวกำหนดการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน และจะตำหนิโจมตีรัฐบาลญี่ปุ่นทุกครั้งที่เข้าไปแทรกแซงค่าเงินเยน ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายค่าเงินดอลลาร์เสียแล้วโดยไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ และไม่คำนึงถึงหลักการดอลลาร์แข็งค่าถือเป็นผลประโยชน์ของชาติอีกต่อไป พร้อมที่จะให้มูลค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเรื่อยๆ ซึ่งการปล่อยให้เงินดอลลาร์อ่อนตัวลงโดยการตีความเองของตลาดนั้น นอกจากจะไม่ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจแล้ว ยังมีผลช่วยเรียกคะแนนเสียงให้กับบุชผู้ลูก ในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปลายเดือน พ.ย.ปีนี้ด้วย
เชื่อว่าการอ่อนค่าลงอย่างมีระเบียบของเงินดอลลาร์คงไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้อย่างแน่นอน เมื่อพิจารณาจากความจำเป็นอย่างยิ่งของตัวประธานาธิบดีบุช ที่จะต้องมีคำตอบที่ชัดเจนให้กับผู้มีสิทธิออกเสียงชาวอเมริกันในเรื่องปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมหาศาล และผู้นำสหรัฐยังหวังที่จะใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นกลไกกระตุ้นภาคส่งออก เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้สินค้าของสหรัฐในต่างประเทศมีราคาถูกลง ขณะเดียวกัน ก็ลดความต้องการซื้อของผู้บริโภคในสินค้านำเข้าที่มีราคาแพงขึ้น อันจะช่วยลดยอดขาดดุลการค้าอันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของบัญชีเดินสะพัด อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของดอลลาร์ถือเป็นประโยชน์ของประเทศต่างๆ ด้วย เนื่องจากปัญหาขาดดุลของแดนพญาอินทรีนั้น ถือเป็นปัจจัยลบที่คุกคามเศรษฐกิจโลกด้วย				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน