เกาะต้นอ้อย-Sugarcane Island ตอนที่ 6-B สำหรับผู้เลือกข้อ 16-30

Parinya

สำหรับผู้เลือกข้อ 16.เธออยู่ที่นั่น
   เธออยู่ที่ อบากัน แข็งแรงขึ้นและเรียนรู้การล่าสัตว์ จับปลา เรียนรู้ความลับของป่า และเรื่อง
ราวของดวงดาว เป็นชีวิตที่มีความสุขแต่เธอก็คิดถึงบ้าน
      หลายปีต่อมา นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งเดินผ่านป่ามาถึงหมู่บ้านและถูกจับได้   หัวหน้า
บอกพวกเขาว่า พวกเขาจะกลับไปไม่ได้ แต่ดูเหมือนพวกเขาไม่ใส่ใจ       ทำให้เธอสงสัย เมื่อ
พวกเขาบอกหัวหน้าว่าพวกเขามีความสุขมากที่จะได้อยู่ต่อไป   แต่นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งพา
เธอเลี่ยงไป  " พรุ่งนี้อยู่ใกล้ฉันไว้นะ " เขาพูด
    เที่ยงวันต่อมา เฮลิคอปเตอร์ร่อนลงมาจากฟ้า ชาวเกาะตกใจพากันแตกกระเจิงเธอตามนัก
วิทยาศาสตร์ไปขึ้นเครื่องบิน  ต่อมาเธอก็ปลอดภัยอยู่ในช่วงเดินทางกลับบ้าน
                                 อวสาน
สำหรับผู้เลือกข้อ 17.  เธอรอและพยายามคิดมายากล
  เธอนั่งอยู่กับคนเรือพยายามคิดสร้างมายากลสักอย่าง แต่ดูเหมือนไม่มีหวังหลังจากผ่านไป
สักครู่ คนเรือก็บอกเธอว่าเขาคิดอะไรได้บางอย่าง
      เช้าต่อมา ชาวเกาะท่าทางดุ ๆ สองคนพาเธอและคนเรือไปหาหัวหน้า
 "ฉันสามารถคุยโดยไม่ต้องพูด"  คนเรือนั้นบอกกับหัวหน้าชาวเกาะ
    "นั่นย่อมเป็นมายากล" หัวหน้าพูด
    จากนั้นคนเรือก็นำกระดาษออกมาแผ่นหนึ่งแล้วเขียนบนกระดาษแผ่นนั้นว่า
    "ยกมือขวาขึ้น" โดยปราศจากการเปิดปากเขายกกระดาษแผ่นนั้นตั้งขึ้น เธอจึงอ่านมันได้ 
เธอยกมือขวาขึ้นตามที่คาด หัวหน้าชาวเกาะหัวเราะขบขันกับกลวิธีการคุยแบบนี้ เขาบอกว่า
 เธอสามารถอยู่ร่วมในเผ่าของเขา หรือ พวกเขาจะนำเธอไปที่หมู่บ้านถัดไปถ้าเธออยากไป
        23.เธออยู่ร่วมกับชาวเกาะเผ่านั้น   หรือ
        24.เธอจะไปที่หมู่บ้านถัดไป
สำหรับผู้เลือกข้อ  18.  เธอพยายามหนี
      เธอวิ่งอย่างเร็วจี๋ระหว่างกระท่อมสองหลังแล้วโถมตัวเข้าไปในพุ่มไม้ ทันใดนั้น 
เธอรู้สึกปวดแปลบจากการถูกหอกแทงข้างหลัง  เธอล้มลงบนพื้น     จบชั่วนิรันดร์  
                                         อวสาน
สำหรับผู้เลือกข้อ  19.  เธอวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน
      เธอพรวดพราดเข้าไปกลางหมู่บ้านชาวเกาะจับกลุ่มอยู่กลางฝน พวกเขากำลังสวดอ้อนวอน
  ดูเหมือนพวกเขากำลังกลัวพายุ   เธอเดินเข้าไปอยู่ท่ามกลางคนพวกนั้นแล้วตะโกน  " สวัสดี ! " 
  ชาวเกาะยืนขึ้นอย่างเกรงกลัว มีเสียงฟ้าร้องและแสงฟ้าแลบตามมาเป็นครั้งสุดท้าย  ฝนหยุดตก
 พายุผ่านพ้นไป ชาวเกาะคิดว่าเธอเป็น "เทพเจ้าแห่งพายุ"  พวกเขาจัดเลี้ยงเธอด้วยเค้กน้ำอ้อยและ
องุ่นสีชมพู กับจัดที่นอนนุ่ม ๆ ให้เธอ   วันต่อมาถึงแม้ว่ายังมีชาวเกาะบางคนยังระแวงเธออยู่แต่
พวกเขาก็วนเวียนอยู่รอบ ๆ เธอ  เธอตระหนักดีว่าทางที่ดีเธอจะต้องจากไป จึงถามชาวเกาะคน
หนึ่งว่าหมู่บ้านที่อาจมีเรือมาแวะจอดอยู่ที่ไหน
 "ทางตะวันตก " เขาพูด "ระยะเวลาเดินทางสามวัน เป็นหมู่บ้านของคนหน้าขาว กับเสียงเครื่อง
จักรที่หนวกหู ส่วนทางตะวันออกเป็นแม่น้ำกว้าง อะไรจะอยู่บริเวณแม่น้ำนั่น พวกเราไม่มีใครรู้
        25. เธอไปทางตะวันตก    หรือ
        26. เธอไปทางตะวันออก
สำหรับผู้เลือกข้อ 20.  เธอซ่อนตัวอยู่ใต้ผาหิน
    เธอซ่อนตัวอยู่จนพายุผ่านไป ทั้งเปียก หนาว และหิว หมู่บ้านเงียบเชียบเธอต้องย้ายที่ เธอย่ำ
 เข้าไปในป่าแล้วปีนข้ามเขา มองไปเห็นมหาสมุทร หากว่าได้กลับไปอยู่บนเรือของ ดร.ฟริสบี้.......
      เธอสังเกตเห็นรูปทรงแปลก ๆ อย่างหนึ่งอยู่บนหาด เธอเดินตรงไปหามันมันคือซากเรือ
อับปางมีรูปทรงคล้ายของเล่น เธอเดินดูรอบซากเรือนั้น พื้นเรือนั้นปิดแน่นแต่มีรูอยู่ด้านข้าง
 เธอมองในรูนั้น มันมืด ค้างคาวตัวหนึ่งบินออกมาผ่านหูของเธอไป
        27.เธอคลานเข้าไปทางรูนั้น  หรือ
        28.เธอไม่คลานเข้าไป
สำหรับผู้เลือกข้อ   21.  เธอพูดว่าจะช่วย
        เมื่อทุกคนเข้านอนแล้ว เธอนั่งคิดว่าอะไรที่เธอจะช่วยพวกเขาในการทำสงคราม
กับอีกเผ่าหนึ่งได้ เกิดความคิดขึ้นสองแนว  หนึ่งก็คือแนะให้เผ่านี้ออกไปจากหมู่บ้าน
แล้วดักซุ่มโจมตีศัตรู  อีกวิธีหนึ่งที่เป็นไปได้คือ จู่โจมหมู่บ้านของเผ่านั้นจับพวกเขาใน
ขณะที่พวกเขาไม่ทันระวังตัว
       29. เธอแนะให้ซุ่มโจมตี   หรือ
       30. เธอแนะให้จู่โจมศัตรูก่อน
สำหรับผู้เลือกข้อ  22.  เธอพูดว่าช่วยไม่ได้
     เธอบอกว่าเธอช่วยไม่ได้ และจะไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องนี้  หัวหน้าไม่ชอบคำพูดของเธอ
 เขาเริ่มโกรธ พวกเขามัดเธอไว้กับเสาและพูดว่าจะเผาเธอเมื่อพวกเขากลับจากสงคราม
 แล้วพวกเขาก็จากไป เธออยู่คนเดียว  รอตลอดวัน ไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้ หมดหวัง
ทุกอย่าง    ขณะดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า มีเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ คนแปลกหน้า
กลุ่มใหม่พรวดพราดเข้ามาในหมู่บ้าน นั่นคือเผ่าที่เป็นศัตรู พวกเขาเป็นฝ่ายชนะสงคราม
 จึงรีบเข้ามาปล่อยเธอ หัวหน้ากลุ่มพูดว่า "นักโทษทุกคนของพวกเขาคือเพื่อนของพวกเรา"
       ในสามวันต่อมาพวกเขาช่วยเธอหาทางไปที่หมู่บ้านเป็นมิตรที่เธอสามารถคอยเรือ
สักลำเพื่อจะพาเธอกลับบ้าน
                              อวสาน
สำหรับผู้เลือกข้อ 23. เธอเอาของมีค่าไปส่วนหนึ่งแล้วเดินทางต่อ
  เธอยัดเพชรพลอยนั้นใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปตามทางเมื่อ เลี้ยวทางโค้ง ชาย
มีเคราสามคนพร้อมสัมภาระอยู่บนหลังเดินอยู่ข้างหน้าเธอ คนหนึ่งมีพลั่ว คนหนึ่งมี
เสียม  อีกคนมีแผนที่ ทุกคนมีปืน เธอจึงซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ ชายคนหนึ่งพูดว่า
     "ดรัท  แผนที่นี้ผิดแน่ ๆ สมบัติไม่ได้อยู่ที่นี่ ! ฉันจะไปบีบคอคนที่ขายแผนที่ให้เรา"
       31.เธอคุยกับคนพวกนั้นแล้วบอกพวกเขาเรื่องสมบัติ
       32.เธอคุยกับคนพวกนั้นแต่ไม่บอกพวกเขาเรื่องสมบัติ  หรือ
       33.เธอซ่อนตัวอยู่เงียบๆ
สำหรับผู้เลือกข้อ  24.  เธอซ่อนตัวและเฝ้าดูเผื่อจะมีใครมา
        เธอรอแล้วรอเล่าจนผล็อยหลับไปแล้วเริ่มฝัน ในฝันนั้นมีสิงโตห้าตัวเดินอาด ๆ 
เข้ามาหาเธอทุกทิศทาง เธอตื่นด้วยความตกใจ ชาวเกาะถือหอกห้าคนกำลังยืนค้ำหัว
เธออยู่ พวกเขาออกค้นหาเธอและลากเธอกลับไปที่แคมป์ เธอถูกนำไปที่กระท่อมของ
หัวหน้า
        คนร้าย ! คนร้าย ! คนร้าย !  เสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งของพวกเขาบางคน แต่
หัวหน้ามาจับมือของเขาแล้วพูดด้วยภาษาพื้นเมือง ทำให้พวกเขาสงบลงได้  แล้ว
หัวหน้าก็พูดกับเธอด้วยภาษาอังกฤษ
        "เธอเป็นคนแปลกหน้าคนแรกที่พบเพชรพลอย และไม่เอามันไป เราจะพา
เธอไปยังหมู่บ้านหนึ่งที่เธอจะลงเรือกลับไปอเมริกา หรือถ้าเธอต้องการจะหาวิธี
ของเธอเอง เธออาจจะได้เพชรเม็ดใหญ่ไปด้วย "
        34. เธอเลือกข้อเสนอแรก       หรือ
         35. เธอเลือกข้อเสนอที่สอง
สำหรับผู้เลือกข้อ 25. เธอดื่มยาเสน่ห์นั้น
        ยาเสน่ห์ลึกลับนั่นมีรสชาติแย่มาก เธออยากให้เธอไม่ได้ชิมมัน รู้สึกคลื่นไส้
จนต้องนั่งลง ดูเหมือนแม่มดพวกนั้นตัวใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นและหมุนอยู่รอบ ๆเธอ
จนเห็นเป็นวงกลมสี รู้สึกเหมือนเธอถูกยกขึ้นและตกลงมา แกว่งไปด้านโน้นที
ด้านนี้ที  เธอได้ยินเสียงดังเป็นจังหวะ  คล้ายเสียงตบน้ำที่กำลังไหล
เสียงหนึ่งร้องว่า  " เฮ !  นี่มันเป็นเวลาอาหารเย็นแล้ว "
นั่นคือ ดร.ฟริสบี้ เธอฝันไปและตระหนักว่าเธอยังอยู่บนเรือของเธอที่มุ่งหน้า
ไปเกาะ กาลาปากอส
                            อวสาน
สำหรับผู้เลือกข้อ 26. เธอปฏิเสธการดื่มยาเสน่ห์นั้น
     เมื่อเธอปฏิเสธการดื่มยาเสน่ห์ลึกลับนั่น แม่มดพวกนั้นโกรธ พวกเธอเต้น
ตะโกนพร้อมกับแกว่งแขนราวกับสาปแช่งไปรอบ ๆ เธอ เธอรู้สึกโกรธจึง
เตะหม้อต้มของแม่มด ทันใดนั้นแม่มดก็หายไปกลายเป็นเต่าตัวใหญ่อยู่ตรง
หน้าเธอ
      "คุณปลดปล่อยฉันให้เป็นอิสระจากคำสาปแช่งของแอนดาก้า " เต่า
ตัวนั้นพูด  "ฉันจะทำอะไรให้คุณได้บ้าง ? "
     "พาฉันไปที่เรือที่จะเดินทางไปอเมริกา" เธอพูด
เต่าเงียบไปแต่คลานตุปัดตุเป๋มาหาเธอ เธอปีนขึ้นบนหลังเต่า ดูเหมือนไม่มีใคร
สังเกตเห็นเธอ มันเคลื่อนไปอย่างคล่องแคล่ว เพราะที่จริงมันเป็นเต่าวิเศษ
หลังจากเดินทางได้หนึ่งชั่วโมงก็มาถึงชายหาดแล้วมุ่งหน้าลงไปในทะเล  
เธอเกาะปุ่มบนหลังของมันไว้แน่น
            36. เธอขี่หลังเต่าต่อไปในทะเล  หรือ
            37. เธอกระโดดลงจากหลังเต่าตัวนั้น
สำหรับผู้เลือกข้อ  27. เธอปีนขึ้นหลังเต่าตัวนั้น
        เธอเพิ่งจะปีนงุ่มง่ามขึ้นไปอยู่บนกระดองขรุขระของเต่าตัวนั้นได้ มันแสดง
ราวกับว่ามันรู้ที่มันจะไป มันคลานงุ่มง่ามอุ้ยอ้ายไปในทุ่งหญ้า ไต่ลงเนินเล็ก ๆ 
แล้วไถลตกลงไปในน้ำจึงว่ายน้ำต่อไป รู้สึกราวกับกำลังนั่งแพโลหะกลม
จึงมองไปรอบ ๆ  เธออยู่ในลำธาร  เห็นจระเข้ตัวยาวสีเขียวแต่เต่าก็ปลอดภัย
จนออกไปถึงทะเล  เต่ากำลังว่ายน้ำออกสู่มหาสมุทร
           38.เธอยังอยู่บนหลังเต่า  หรือ
           39. เธอกระโดดลงจากหลังเต่า
สำหรับผู้เลือกข้อ 28. เธอเพียงเดินตามเต่าตัวนั้นไป
      เธอเดินตามเต่าตัวนั้นไปตลอดทางที่จะออกสู่มหาสมุทร มันหยุดที่ริมน้ำ แล้ว
เหลียวมองเธอ  กระดองแวววาวอยู่กลางแสงแดด  อยากให้ ดร.ฟริสบี้ได้เห็นเต่า
ตัวนั้น เวลามันยกหัวขึ้นสูงเกือบเท่าหัวของเธอทีเดียว
     ทันใดนั้น เต่าตัวนั้นก็เดินลงน้ำแล้วว่ายน้ำจากไป เธออยู่ตามลำพังอีกครั้งหนึ่ง
 หิว กระหายน้ำ และอ่อนเพลีย  เธอเหนื่อยมากตั้งแต่ตอนปีนเขา จึงหยุดพักครู่หนึ่ง
สงสัยว่าคงอีกนานกว่าจะได้รับการช่วยชีวิตที่ไหนสักแห่ง
   (ย้อนกลับไปอ่าน  ตอนที่ 2  สำหรับผู้เลือกข้อ 1. เดินไปตามชายหาด
     เธอเดินไปตามความยาวหาด   ............. 
           
       
   สำหรับผู้เลือกข้อ 29. เธอไป
            เธอไปตามทางแต่ละวันเธอกินผลไม้แปลกนั่นผลหนึ่งและเก็บเมล็ดเอาไว้
มันให้พลังงานมากรู้สึกแข็งแรงราวกับจะสู้กับเสือได้เลย เมื่อดวงอาทิตย์ลับฟ้า
ในวันที่เธอกินผลไม้ประหลาดผลสุดท้ายเธอก็มาถึงหมู่บ้านที่ผู้คนเป็นมิตร ข้าง
หมู่บ้านมีอ่าว วันหนึ่งมีเรือมาจอดทอดสมอแล้วส่งเรือเล็กขึ้นฝั่งหาเสบียง
กัปตันชวนเธอลงเรือ หนึ่งเดือนต่อมา เธอก็เดินทางอย่างมีความสุขไปยังประตู
บ้านของเธอเอง  ต่อมาเธอปลูกเมล็ดผลไม้ประหลาดนั้น แต่มันเป็นชนิดที่ขึ้น
เติบโตได้เฉพาะบนเกาะ ชูการ์เคน เท่านั้น
                              อวสาน  
สำหรับผู้เลือกข้อ 30. เธออยู่ที่นั่น
        เธอไม่เชื่อเพื่อนใหม่  ทำไมจึงไม่มีใครไปจากสถานที่แห่งความสุขนี้
วันแล้ววันเล่าผ่านไป ในสวนของผลไม้ประหลาด มีคนอื่นมากมายอยู่ที่นั่น
ทุกคนดูมีความสุข แต่ไม่มีใครพูดหรือเล่น ไม่นานเธอก็ลืมว่าเธออยู่ที่นั่น
นานเท่าไรแล้ว เธอรู้สึกราวกับว่าเธอล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆ  และเริ่มอ่อน
แอลง จนกระทั่งไม่มีแรงพอจะไปจากหุบเขาแห่งความสุขนี้
  เธอจำได้อย่างเลือนลางว่าเธอจะต้องไปจากที่นี่ก่อนที่จะสายเกินไป
                                อวสาน    
   
comments powered by Disqus
  Parinya

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน