26 กุมภาพันธ์ 2547 19:24 น.

... ความลงตัว ...

แก้ม .. ป่อง



ความลงตัวในความต่าง
ระหว่างเราจะเรียกอย่างนั้นได้ไหม
เพราะเราสองคน .. ต่างความคิด .. และจิตใจ
ความเห็นต่างกันไป .. คนละเส้นทาง

ทว่าเรากลับเข้ากันได้
เหมือนความเย็นกับอุ่นไอ .. ดูไกลห่าง
พอรวมกัน .. เย็นเริ่มอ่อน .. ร้อนเจือจาง
กลายเป็นพบกันครึ่งทาง .. และลงตัว


				
26 กุมภาพันธ์ 2547 10:11 น.

.. ฉันอยาก .. กินดาว ..

แก้ม .. ป่อง



ฉันจะโหนเมฆขึ้นไปกินดาว
ดอกสีขาวดาดแดงแสงไสว
หนึ่งดอก .. สองดอก .. กรอกเข้าไป
อบกระไออยู่ในท้องท่องเที่ยวกิน


ฉันจะนั่งบนเสี้ยวจันทร์อันอ่อนแสง
ปลุกสำนึกเติมแต่งแล้วผกผิน
จักรวาลกว้างใหญ่หัวใจบิน
เก็บเกาะเลาะเลี้ยวเที่ยวกินดาว


ฉันจะส่งสายตาลงมาล่าง
เพื่อมองดูความกว้างอันเหินหาว
ผู้คนพลุกพล่านระเนระนาว
ฉันจะโปรยดอกดาวสู่ผู้คน


ฉันจะหอบปากกาขึ้นมาด้วย
บรรจงแต่งถ้อยสวยบนเมฆฝน
เหลือบสายตาแลแล .. ชะแง้บน
ดอกดาวหล่นคือดอกกวีที่ดีงาม


ห้อยเท้าบนจันทร์เสี้ยวเที่ยวค้นหา
ดอกน้ำตาของผู้คนที่ล้นหลาม
ดอกความทุกข์ยาก .. จากนิยาม
ร้องตะโกนถามพื้นล่างเป็นอย่างไร


ฉันจะโหนเมฆขึ้นไปกินดาว
ขีดเขียนร้อยเรื่องราวพราวไสว
เป็นถ้อยคำลึกซึ้งถึงแก่นใจ
เพื่อผู้คนหยุดร้องไห้ .. มากินดาว

				
23 กุมภาพันธ์ 2547 18:50 น.

จากเพื่อน .. ถึงเพื่อน

แก้ม .. ป่อง



หัวใจฉันสั่นร้าวคราวเจ็บปวด
ยามเพื่อนอวดอนาคตอันสดใส
เข้าโรงเรียนมีชื่อเลื่องลือไกล
หวังคว้าใบปริญญามาครอบครอง



เสียงหัวร่อต่อกระซิก .. ระริกรี้
คุยสิ่งโน้นสิ่งนี้ไม่มีหมอง
วาดวิมานในฝันอันเรืองรอง
ส่วนฉันต้องแอบสะอื้นกลืนน้ำตา



ครอบครัวฉันนั้นจนข้นแค้นหนัก
ได้แต่หักห้ามใจความใฝ่หา
ฉันคงเป็นเช่นเพียงแค่ชาวนา
มีราคาแค่ครึ่ง .. หนึ่งธุลี



เพียงแต่คิดก็ผิดหวังจึงยั้งคิด
ไม่มีสิทธิ์เลือกทางหว่างวิถี
จบ ป.6 อกสะท้อนร้อนฤดี
เพียงเท่านี้ก็ย่ำแย่พ่อแม่จน



หมดโอกาสเรียนต่อหนอตัวฉัน
ได้แต่เพียงรำพันความขัดสน
ทางชีวิตลิขิตมาอย่างมืดมน
กลายเป็นคนฝันร้ายได้แต่ปลง



เพื่อนโชคดีมีโอกาสวาสนา
ที่เกิดมามีเงินทองของประสงค์
เสกสรรสร้างความหวังดังใจจง
แต่ฉันคงไม่ท้อ ก้าวต่อไป


				
22 กุมภาพันธ์ 2547 21:13 น.

สามฤดู

แก้ม .. ป่อง



ถึงวสันต์
เมฆครึ้มพลันเกลื่อนฟ้าลมพาพลิ้ว
แนวไม้อ่อนชูล้อช่อไหวปลิว
หยาดฝนลิ่วพรมหว่านกิ่งก้านใบ


ยอดหญ้าเอนโอนอยู่คู่ทิวทุ่ง
ประกายรุ้งทิ้งโค้งงามตามวิสัย
ผีเสื้อน้อยลอยฟ้อนอ่อนวิไล
ประทับใจเมื่อได้เห็นเป็นอาจิณ


ถึงเหมันต์
ลมหนาวสั่นผ่านผิวกายร้อนคลายสิ้น
ปุยเมฆหมอก ระลอกล่องต้องผืนดิน
ตามเทือกถิ่นพนาไพรไกลสูงเนิน


ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งตั้งชูช่อ
เหมือนหลอกล่อภุมราพาหกเหิน
นกเขากู่เรียกคู่มันขันหยอกเอิน
แสนเพลิดเพลินเจริญจิตยามชิดชม


ถึงคิมหันต์
อรุณผันแต้มขอบฟ้าทาสีเข้ม
นางนวลนกวิหคเหินสะเทิ้นลม
เอื่อยเอื่อยพรมระลอกคลื่น ระรื่นใจ


ชายหาดขาวแพรวพราววาวระยับ
เขียวประดับมะพร้าวสวนชวนสดใส
เรือใบน้อยลอยเลื่อนคล้อยเคลื่อนไป
ล้ำอำไพครั้งได้พบประสบพา


ถึงน้องพี่
สามฤดูเคยสุขศรีเสน่หา
ฝนหนาวร้อนเจ้านอนแนบแอบอุรา
อนิจจาความเที่ยงแท้ไร้แน่นอน


เคยชี้ชมรุ้งเสี้ยวเกี่ยวกิ่งไม้
เคยชี้ให้ดูสายหมอกดุจหลอกหลอน
เคยชี้ชวนแล่นเรือใบในสาคร
ล้วนจากจรทิ้งความหลังที่ฝังตรึง

				
21 กุมภาพันธ์ 2547 19:52 น.

เมื่อฉันมีเธอ

แก้ม .. ป่อง



มีเธออยู่ใกล้
โลกก็ดูสดใสไปทุกอย่าง
ทุกที่ .. ทุกทาง
ไม่เคยอ้างว้างอย่างไร

มีเธออยู่ด้วย
ที่ป่วย .. ยังรีบหาย
รอยยิ้มที่แก้มยังแย้มพราย
และชีวิตก็มีความหมาย .. ขึ้นทันที

มีเธอเป็นความรัก
และความรักเป็นของเธอคนนี้
มีฉันเป็นคนดี
เพราะฉันอยากเป็นคนดี .. เพื่อเธอ


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ม .. ป่อง
Lovings  แก้ม .. ป่อง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ม .. ป่อง
Lovings  แก้ม .. ป่อง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ม .. ป่อง
Lovings  แก้ม .. ป่อง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้ม .. ป่อง