18 พฤษภาคม 2545 13:09 น.

ศรัทธาแห่งความรัก : ในทุกสิ่งไร้รักคงไม่มี

แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า

ศรัทธาแห่งความรัก : ในทุกสิ่งไร้รักคงไม่มี
     
    รักใดในแหล่งหล้า.ธานี
จะเสื่อมความหมายมี.บ่ได้
เพียงตาสื่อตาฤดีไหวหวั่น
คงแต่เปิดใจไว้อย่าได้ปิดปังฯ
                     1.
     ณ ระเบียงเรียงรายด้วยดาวฟ้า
หนึ่งวิญญาณหม่นหมองดังถูกขัง
คือชายหนุ่มผู้ทุกข์ทนทุกข์นิรันดร์
ผู้โศกศัลย์จากความรักที่ร้าวราน
เพ้อตัดพ้อความงามในความรัก
ที่ถูกหักถูกผลาญเกินกล่าวขาน
ใจจึงจำฝังเจ็บตลอดกาล
แม้เวลาเนิ่นนานมิอาจลืม
                 2.
     หนึ่งหญิงสาวเดินผ่านมาในความมืด
เธอนั้นหรือคือหญิงสุดขมขื่น
เล่าระบายความรักอันกล้ำกลืน
ก่อนหัวเราะรื่นรื่นว่าร้ายนัก
ว่าร้ายนักรักนี้เคยพลีให้
ในทุกห้องดวงใจดังโดนสับ
ถูกลมลวงจากชายที่ใจภักดิ์
แต่ความรักของฉันยังงดงาม
                 3.
     ชายหนุ่มนั่งร่ำไห้มานานนัก
เอ่ยปากทักหญิงสาวแล้วร้องถาม
ว่าเหตุใดรักเธอยังงดงาม
ทั่งที่เคยร้าวรานที่ผ่านมา
ฉันยังเจ็บอยู่ในอารมณ์ลึก
ยังคงนึกหวั่นไหวเพียงคิดผ่าน
หรือที่เธอเจอมิใช่รักร้าวราน
จึงอาจหาญอ้าวรักนั้นชุ่มเย็น
     หญิงสาวมองเดือนดาวที่กราวฟ้า
แล้วพูดว่า นั้นมิใช่ที่เธอเห็น
รักของเธออาจกระทำเธอลำเค็ญ
แต่ชีพเธอใช่เป็นเช่นวันวาน
เธอจงมองดอกไม้ใกล้รุ่งสาง
ยังคงโปรยคำหวานให้หมอกขาว
ดูดอกหญ้าส่งสายตาให้ดวงดาว
แม้ชั่วคราวเท่านั้นที่พบเจอ
เธอเห็นไหมสายลมที่พริ้มไหว
ยังส่งใจให้สายธารสม่ำเสมอ
ได้ยินไหมเสียงนกร้องละเมอ
ที่ร้องเผลอบอกความรักแด่พื้นดิน
                  4.
     รักหนึ่งรักคำหนึ่งคำอาจล้ำค่า
แต่จะไร้ราคามลายสิ้น
ถ้าหากคนไร้รักมาได้ยิน
เพียงลมที่ผ่านลิ้นแล้วผ่านไป
เธอจงลืมเสียเถิดความรักร้าว
ชีวิตเธอต้องก้าวสู่วันใหม่
รักของเธอนั้นมีค่าถ้าหากใคร
ได้มอบใจให้เธออย่างแท้จริง
ที่สุดแล้วรักใดในโลกนี้
ทวีค่ามากมีดุจทรัพย์สิน
ถ้าได้เรียนรู้รักแล้วไม่ทิ้ง
ในทุกสิ่งไร้รักคงไม่มีฯ				
17 พฤษภาคม 2545 13:04 น.

ศรัทธาแห่งความฝัน : ฝันของว่าวตัวน้อย

แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า

ศรัทธาแห่งความฝัน : ฝันของว่าวตัวน้อย
     
     หนึ่งดวงใจร้อยความฝันอาจเป็นได้
ร้อยดวงใจหมื่นความฝันก็ไม่ผิด
เพียงเธอมีความหวังในชีวิต
ขออย่าคิดว่าหนทางนั้นมืดมน

     ครั้งหน้าร้อนยามเย็นลมไหวโบก
ว่าวสีโศกร่ำไห้ดูหมองหม่น
นึกถอดถอนเสียใจในตัวตน
แม้เหินลมก็มิอาจบินดังใจ
นกน้อยผ่านจึงร้องถามว่า เพื่อนยาก
เจ้าลำบากสิ่งใดถึงโศกศัลย์
หรือว่าใครเขาเข้ามารักแกกัน
บอกเถิด  ฉันจะคอยช่วยอำนวยชัย
ฝ่ายว่าวน้อยพริ้มตาแล้วเล่าว่า
ฉันนั้นหนามองท้องฟ้าแล้วนึกฝัน
ว่าวันหนึ่งจะไปถึงซึ่งดวงจันทร์
ที่เฉิดฉันสว่างงามกลางโพยม
แล้วเลยไปยิ้มเล่นกับดารา
ที่เกลื่อนกลาดนภาฟ้าสวยสม
หรือจะท่องล่องกระแสแห่งสายลม
ไปเชยชมแสงเร้าเจ้ารุ้งงาม
อาจแอบไปอาบแสงของขอบฟ้า
ที่ทอแสงงามตาอันวาบหวาม
ก่อนจะไปฟังดอกไม้เล่านิทาน
ที่พริ้มผ่านกลางใจในไพรวัน
เพียงเท่านี้ที่ฉันปรารถนา
ฝันของฉันยังโสภาอยู่ใช่ไหม ?
รู้อยู่ว่าเกินกำลังจะดั้นไป
เพราะฉันไร้ปีกที่จะโบยบิน
นกนิ่งฟังแล้วตอบว่า เจ้าเพื่อนยาก
ใครก็ต่างมีความฝันนั้นไม่ผิด
ขอเพียงเธอมีไว้ประดับชีวิต
มีความคิด มีความหวังในฝันพอ
ว่าวได้ฟังคำเพื่อนจึงปลาบปลื้ม
จิตสดชื่นดวงใจเลิกเหี่ยวห่อ
ขอแค่มีความฝันฉันจะรอ
จะไม่ท้อเพราะใจฉันมั่นศรัทธาฯ

คงไม่ท้อถ้าหากใจฉันเฝ้ารอ!				
16 พฤษภาคม 2545 12:41 น.

ศรัทธาแห่งกวี : ถ้าเธอขอ...ฉันจะเป็น

แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า

ศรัทธาแห่งกวี : ถ้าเธอขอ...ฉันจะเป็น
    
      จะวาดเดือนวงงามไว้กลางฟ้า
โปรยดาราระยับงามเกลื่อนฟ้าใส
จะกอบกลีบบุหงาที่ล่วงไป
ร้อยเป็นสร้อยมาลัยคล้องใจเธอ
จะวักน้ำช่ำเย็นทุกแหล่งหล้า
แล้วพรมหน้างามตาคนพิเศษ
จะจูงมือถือแขนไปในไพนเวศน์
ให้งามเนตรเพลินอยู่ในพงไพรวัน
จะกล่อมเธอดูดาวบนภูสูง
ที่หอมฟุ้งอุ่นกลิ่นสร้อยพฤกษา
จะพาเธอล่องไปสุดไกลตา
ณ ที่ซึ่งผู้กล้าเคยฝ่าไป
จะพาเธอแผ้วถางหนทางฝัน
ซึ่งเธอหวังที่จะทำตามใจใฝ่
จะหล่อหลอมความรักทุกห้องใจ
ประดับไว้ให้เธอได้ศรัทธา
จะกรองทรายทุกเม็ดที่เธอย่ำ
ผนึกเป็นถ้อยคำปรารถนา
จะหยิบรุ้งคลุ้งฟ้าแสนโสภา
เป็นผืนผ้าเช็ดหน้าซับปรางเธอ
จะเสกลมเร้าร้อนจนหน่วงจิต
นฤมิตเป็นหมอกอันชุ่มเนื้อ
จะเอื้อนเอ่ยน้ำคำที่จุนเจือ
ให้เธอเชื่อค่าล้ำน้ำคำพร
จะประสิทธิ์ทุกอย่างในโลกหล้า
เป็นมนต์ตราอัคราศิลป์อักษร
จะแทรกร่างทุกอณูในบทกลอน
ยามเธอท่องจะได้อยู่เคียงคู่เธอ
จะเป็นในทุกสิ่งและทุกอย่าง
ทุกถิ่นที่เธอย่างเธอก้าวเหิน
ขอเพียงเธออย่าเหลียวแล้วทำเมิน
จงเผชิญเพลินฝันเคียงคู่กันฯ

     ถ้าเธอยังมีหวังคงพบกัน
สุขเพียงเรามีฝันเท่านั้นพอ
ถ้าเธอขอฉันจะเป็น...เช่นคำพร!				
15 พฤษภาคม 2545 12:58 น.

เติมไฟใส่ฝัน : ผู้สร้าง

แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า

เติมไฟใส่ฝัน :  ผู้สร้าง
     สองมือแห้งกร้านดำไหม้
หนึ่งใจหดหู่สิ้นหวัง
สองเท้าสิ้นแล้วพลัง
หมดหวัง  สูญสิ้นแผ่นดิน
จรจากบ้านนาที่อยู่
จากอู่เร่ขายทรัพย์สิน
ทรัพย์สินคือเหงื่อไหลริน
หยาดรินเพื่อถิ่นผู้ใด?!
เหยียดหยามประณามด้อยค่า
ตีตราต่ำต้อยเดียรฉันท์
ดูถูกกดขี่ชีวัน
ชนชั้นวิถีกรรมกร
แหงนหน้ามองฟ้ากว้างใหญ่
หัวใจเฝ้าแต่ถอดถอน
ดวงตาสือฟ้าอ้อนวอน
ออดอ้อนขอฝนคืนนา
แล้งแล้วน้ำใจคนกรุง
อยากมุ่งคืนถิ่นบ้านป่า
โปรดฟ้าโปรดคิดเมตตา
บ้านนารอข้ากลับคืน
คืนถิ่นพลิกผืนนาไร่
นาไทยใครเล่าจักสืบ
หาใช่ด้วยแรงสองมือ
สองมือของชาวนาไทย
ไอดินกลิ่นฟางยังหอม
ดอกหญ้ายังจะระริกไหว
ปลาน้อยยังเวียนว่ายไป
ภาพในสวรรค์บ้านนา
คือภาพคือความหนหลัง
คือฝันในหมอกเริ่มสลาย
คือชีพชาวนาใกล้ตาย
เร่ขายร่างกายในเมืองฯ				
14 พฤษภาคม 2545 13:01 น.

เติมไฟใส่ฝัน : วีถีนาวา

แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า

เติมไฟใส่ฝัน : วีถีนาวา
     เรื่อน้อยลอยคว้างกลางธาร
ใต้ฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล
เกลียวลมเห่กล่อมเบาบาง
นาวาลอยลำล่องไป
จุดหมายคือทางฝากฝั่ง
ใฝ่ฝันถึงวันสดใส
พื้นดินที่ซึ่งยาวไกล
ล่องไปด้วยใจศรัทธา 
เรืองรองดังแสงดาวจรัส
ลิบลับดังแสงของฟ้า
เสียงลมดังจะกระซิบว่า
จุดหมายนั้นยังไกลเกิน
ล่วงผ่านคืนวันเงียบสงบ
เริ่มพบทุกข์ยากต่อเพิ่ม
ลมคลื่นซาดซัดซ้ำเติม
ฟ้าเสริมด้วยแสงอสุนี
เวิ้งฟ้าดาวหลบลบหาย
เรื่อว่ายล่องธารตามวีถี
ใต้น้ำคลื่นลมมากมี
ปราณีเถิด...เจ้าเรื่อครวญ
ข่มใจกลั้นจิตคิดสู้
เรียนรู้มิยอมกลับหวน
ความหลังย้อนคิดทบทวน
ยอมสวนทางลมคลื่นแรง
ด้วยใจเต็มอวนมวลฝัน
กล่อมขวัญความหวังประจักษ์แจ้ง
ดวงใจคือทุนหนุนแรง
สำแดดแกร่งกล้าฝ่าไป
วันหนึ่งคงถึงจุดหมาย
ปลายทางคือทางสร้างฝัน
ด้วยใจมีศรัทธาเป็นพลัง
มุ่งมั่นฝ่าฟันประกาศชัยฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
Lovings  แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
Lovings  แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
Lovings  แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า