24 มกราคม 2547 09:40 น.

บันทึกข้ามมิติ......เมื่อรุ่งสาง

tiki



คนที่แสนดี
อัลบัม/Album : คนที่แสนดี
ศิลปิน/Artist : นันทิดา แก้วบัวสาย



--------------------------------------------------------------------------------
เนื้อร้อง 

เนื้อร้อง 

ตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน มันดูเหมือนในนิยาย
 วันที่ผ่านพ้นไปดูราวเหมือนฝัน
เรื่องราวดีดีทุกอย่าง ที่เคยมีวันนั้น
ทุกเวลานาทีช่างมีความหมาย   
เธอคงไม่รู้ว่าตัวฉันเอง ยังคงฝังใจมานาน
ตั้งแต่เราเลิกกันเธอเคยรู้ไหม
อะไรมากมายหลายอย่างที่เธอเคยทำไว้ 
ฉันไม่เคยจะลืมได้สักที

* ก่อนนอนเธอเคยจับมือ ร่วมเรียงอยู่เคียงหมอน 
วางแขนให้ฉันแนบหนุนนอนฝันดี..
ตื่นมาเคยเจอกับเธออยู่กับฉันทุกๆที 
ฉันยังจำได้ดีว่ามีวันนั้น

(*)

ตั้งแต่วันแรกที่เรารักกัน จนเป็นแค่ความทรงจำ 
 
เธอก็ยังสวยงามในใจของฉัน 
ไม่เคยลืมความรู้สึกอบอุ่นละมุนอ่อนหวาน 
เมื่อครั้งมีใครบางคนที่แสนดี 


ขอบคุณวันคืนแสนสุข 
ที่เธอมีให้ฉัน เก็บไว้เป็นความทรงจำที่แสนดี



6: 46  นาฬิกาหน้าจอบอกเวลา
ฉันนอนฟังเพลง คนแสนดี จากกระปุกดอมคอม #1900 

          หลังจากลงกลอนบทล่าสุดสามเว็บ วันนี้ สี่เว็บเสร็จเรียบร้อย
 ทำกิจวัตรทักทายใครต่อใครในเว้บตามเคย
            และจบลงด้วยเพลงนี้ก่อนนอน

          ล้มตัวลงนอนด้วย ใจเงียบๆเหมือนเมื่อเป้นเด็กๆ

               
 *****ขอบคุณวันคืนแสนสุข 
ที่เธอมีให้ฉัน เก็บไว้เป็นความทรงจำที่แสนดี*****

          เพลงหวานจนเรียก...น้ำตาเล็กๆหยดลงมา

              ***ทุกเวลานาทีช่างมีความหมาย*****


         ใครคนหนึ่งถามว่า*เป็นกวีนี้โรแมนติคหรือ*


           .........คงใช่มั้ง.........

          เมื่อคุณ รักกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ความฝันของคุณจะแสนหวาน 
เพราะมันเป็นภาพฝันที่...ไม่อาจลบเลือนไปจากใจ..

          ....ฉันจึงไม่ค่อยอยู่ในโลกนี้เท่าไหร่นัก......
แต่มักเตลิดไปในจักรวาลอันอ้างว้างนั้นเพียงผู้เดียว.....

         ......ภาพในชีวิตแล้ว เล่า คือการอยู่กับธรรมชาติ คนเดียว
.........เงียบๆ......เหมือนเวลายามดึก.....
      กับบทกวี......ที่ฉันเขียนเอง
 กับเสียงเพลง
และแป้น คีย์บอร์ด และหน้าจอคอม


                 ชีวิตเรียบ.....ง่าย.....เป็นสุข.....
          กับความละเอียดอ่อนทางจิตใจที่ต้องกระทุ้งทุกวัน
      ด้วยเพลง.....
               ให้หลุดพ้น.....จากความรุ้สึกผิดที่ทำร้ายจิตใจใครบางคนเสมอมา......

            แต่ในนาทีนี้.......ความรุ้สีกของรักบางๆอ่อนหวาน....
      ......เป็นสิทธิ์อิสระของฉันเอง...ที่ไม่มีใครแย่งยื้อไปจากฉันได้.......
...เวลาก่อนนอนที่จะหลับไปกับรอยยิ้มนิดๆ..
..ถึงปุยเมฆขาวกับความอ่อนโยนของใครบางคน

       ....******วางแขนให้ฉันแนบหนุนนอนฝันดี..*****

                    ภาพจางๆในสายหมอกเช้านี้ก่อนที่ฉันกำลังข้ามมิติไปอีกครั้ง.......

             สู่อาณาจักรที่ไร้ขอบเขตนอกจักรวาล....

                      ......ไม่มีเพศ ไม่มีสี ไม่มีวรรณะ ไม่มีความทุกข์ 
 ไม่มีสิ่งสมมุติที่แบ่งกั้นความบริสุทธิ์แห่งใจ   

                   ....ภาวะแห่งเทวะพรหม.....ผุ้เมื่อหลุดพ้น..
สุ่โมกษะ ด้วยเวลานานเนิ่น........สู่....ภาวะอันหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาณนั้น


                  ....ขอบใจช่วงเวลาน้อยๆแห่งการสนใจ.....


          .....ขอบใจความอาทรห่วงใยที่มนุษย์มีให้กันไร้ขีดคั่น...


......ขอบใจความรักและเมตตา.....พลังแห่งจักรวาลที่ไร้ เพศ วัย วรรณะ......
...ที่หลั่งไหลมาให้......ขอบใจ
 

ทิกิ ..7:08 นาที เช้า วันเสาร์ 24 มกราคม 2547				
24 มกราคม 2547 03:15 น.

พรรณนาการุณย์....เทวีไร้ใจ...๔.

tiki

ราวหญิงร้าย..โหดหิน...ดับสิ้นชาติ

ทั้งแกร่งกร้าว...กล้าประกาศ.....บาดหน้าไหน

หากไม่รัก........ก็โน่นแน่ะ.........จงถอยไป!

ให้ห่างไกล........พันนัยน์ตา........ไม่ปรานี......( ๓๙)

 


 ดำรงตน.......เย้ยหยัน.......วันละหลาย

ใครใจสลาย.........ช้ำอย่างไร..........ก็ช่างพี่

ใครเล่า?  ล่อ ?  ลวงมารัก.....ช้ำฤดี

ก็แร่หลง....เองนะพี่........ใครมีใจ...?......( ๔๐)
 


ไม่รู้เจ็บ........รุ้จำ........ว่าทำบาป

เป็นหาบหาบ......สืบสาน.......มาพันสาย

เหตุไฉน..........เพียงพบข้า ฯ .........รักง่ายดาย .?

ก็ด้วยร้าย.......จองร้าว........คราวก่อนนั้น......(๔๑ )
 


จึงกำหนด........บทเขียน.......เวียนมาจาร


จารึกหว่าน....วาจา......มารังสรรค์

ถือเมตตา.........ข้าฯเถิด........เป็นสำคัญ

ซึ่งรักนั้น........ข้ามภพมา......คณานับ......( ๔๒)
 


ใครเคยรัก......เคยทุกข์.......เคยสุขด้วย

แล้วมอดม้วย.........ด้วยรักข้าฯ........จนดิ้นดับ

ต้องอาสัญ......ร้าวสลาย.......วายชีพลับ


ใจว่านับ........โหดหิน..ร้าย...........จงคลายใจ......( ๔๓)
..... 


 ถวายพร.........วอนองค์พรหม..........ปฐมกาล

ช่วยเป่าผ่าน........พระคาถา...........วาจาให้


ช่วยคลายทุกข์.........ให้เบิกบาน.........สำราญใจ

พ้นคำสาป.........บาปไกล..........อย่าได้ตรึง......(๔๔ )
 


หากวจี........นี้มีพร..........แห่งองค์พรหม


ผ่านผสม........วอนหัวใจ..........ให้คิดถึง

ผ่านความหวาน.......จารข้ามภพ......สบคำนึง

เคยหวงหึง.........โหยหา.........เคยอาลัย ......( ๔๕)
 

ขอพระเดช.........พระคุณ........การุณย์ข้าฯ

โปรดเก็บรัก........พจนา............ด้วยรักใคร่

ข้าฯฝากรัก.........ฝากลมสาย.........สยายไป

เป่าจิตใจ..........ให้เยือกเย็น...........เป็นนิรันดร์ ......( ๔๖)
 

ให้พ้นทุกข์.........ที่รุกใจ........ในรักร้าง

ที่อ้างว้าง.........จงคลายทุกข์.........ให้สุขสันต์

ยามระลึก......ถึงใจ.........เคยให้กัน

เมื่อกาลก่อน..........เคยจำนรรจ์..........ลั่นวาจา......( ๔๗)
 


 เคยรักลึก........ผนึกใจ.........เคยใกล้ชิด

รักล้นจิต.........เคยฝากรัก...........เคยฝันหา

จะภพใด........ชาติใด..........เคยใกล้มา

จงคลายทุกข์.........ในนิทรา.........ทุกคืนวัน......( ๔๘)


 ขอพรแห่งองค์พรหม.......ผสมผสาน

ช่วยสมาน.........ใจรัก.........ปักตรึงฝัน

ให้คลอนคลาย........ร้าว..สลาย.........ในคืนวัน

ให้ทุกข์นั้น........ผ่อนคลาย......ในองค์พรหม........( ๔๙)   


ข้าฯ วอนขอ......ง้อพระพาย........ที่กรายพัด

ช่วยระบัด........เป่าผสาน.........จารผสม

เชิญพระพาย.......ปัดทุกข์สลาย......ในสายลม.

หว่านเมตตา......แห่งองค์พรหม........ทั่วโลกา........( ๕๐) 				
23 มกราคม 2547 06:31 น.

วจนะมาลา......เทวีไร้ใจ..๓

tiki

วจนะมาลา......เทวีไร้ใจ..๓   

บทสุดท้ายก่อนจบความเดิม

เจ้าอาฆาต...มาดร้าย ....สิบหกชาติ

แล้วใครเล่า....มาอนาถ...เรื่องคุมแค้น

ก็ข้าฯเอง...นี่ไงเล่า....เศร้าละแม้น

ชายคลุ้มคลั่ง....ดั่งมาแล่น..บีฑาใจ...........(๓๐) 

 


จงรับทราบ........หาบไป.......เพื่อได้บุญ

จักเนื่องหนุน......นำสังฆทาน       ผ่านไปได้

จะถวาย.......พระรุ่งเช้า..........จงหักใจ

หักอาฆาต..........มาดร้าย.........นะเทวี..........( ๓๑)
 


ทั้งคืนนั้น.........ข้าฯไหว้พระ..........นับประคำ

ร้อยแปดนำ...........อิติปิโส...........เป็นศักดิ์ศรี

ถวายบุญ........พระรัตนตรัย.........ในวจี

แล้วหลั่งน้ำ..........บุญวารี.........ลงพสุธา..........(๓๒ )
 


.ขออำนาจ........บุญนี้.........ที่มีอยู่

จงพร่างพราย........หลั่งไปสู่.........รักของข้าฯ

ผู้ใดได้........เคยทุกข์..........รุกอุรา

อดีตชาติ........ฉกาจกล้า.........จงรับบุญ.........( ๓๓)
 


ด้วยกุศล.....นับแต่นี้.......ซึ่งมีมา

จะกล่าวประณามคาถา...เพื่อเกื้อหนุน

ให้ใจเจ้า...ร่มเย็น.........ให้เป็นคุณ

อโหสิ.........แก่แม่คุณ........ผู้ไร้ใจ..........( ๓๔)
..... 


ประพฤติธรรม.......อโหสิกรรม..........อดีตชาติ

ประกาศก้อง.......ละอาฆาต.........ชาติก่อนไหน

พระเดชพระคุณ.........รักข้าฯ......จากชาติใด

พระฤาสาย.......ทรมาณกระไร...........ในดวงจินต์ ..........( ๓๕)
 

ฝากลมพา........วาจาข้าฯ..........กราบพระบาท

คู่ครองข้าฯ.........ทุกทุกชาติ..........ประกาศสิ้น

สิบหกชาติ........ข้าฯทำร้าย.............ให้พังภินท์

พระหน่อเนื้อ..........ดับดิ้น............ด้วยแรงกรรม..........( ๓๖)
  

 จึงเวียนว่าย.......ในขาติกรรม.............ไม่รู้จบ

ต้องพานพบ..........รักขม..........ตรมกระหน่ำ

ต้องพานพบ.........รักสลาย..........ร้ายระกำ

ทุกข์ซ้ำซ้ำ.........ช้ำสะบั้น.........รักรัญจวน
...........(๓๗ )
 

ชาตินี้นั้น......ผ่านมา......กี่คราครั้ง.?

ต้องหักรั้ง........หันกลับ.............นับไม่ถ้วน


สลัดทิ้ง...........ราวรองเท้า............เก่ากระบวน

ไม่คิดหวน......ไปใยดี............ไม่มีใจ .........(๓๘ )
				
22 มกราคม 2547 13:32 น.

มงกุฎหนาม

tiki




เป็นอีกวัน.........และอีกคืน....จากตื่นหลับ 

สิ่งลึกลับ.......ที่บั่นทอน......รอนคุณค่า 

ค่อยหายหนัก........หายหม่น.......จนชินชา 

รออยู่ว่า.........อีกกี่วัน.........ขวัญจะคืน 


ความอดทน......คืออาภรณ์......อันเหนือชั้น 

ซึ่งช่วยฝ่า........ช่วยฝัน...........ให้หวานชื่น 

เฝ้าแต่รอ.........วันเธอกลับ......จะรับคืน 

ให้ชุ่มชื่น..........โอบใจ.........ที่ไร้รัง 


เหมือนหลงทาง......สิ่งสุดท้าย........ได้ร่องรอย 

คืนวันคอย......ให้เธอหวน..........ครวญกลับหลัง.

หากหวนคิด......ความใคร่รัก.....หักภินท์พัง

ไม่ถึงฝั่ง.......ดังหวัง........ตั้งใจกัน 


เราทั้งสอง.......มีกัน......มันนานมาก 

คล้ายคู่ทุกข์......คู่ยาก.......ที่บากบั่น 

เธอสัตย์ซื่อ........อดทน........รนประจัญ 

ทุกข์ห้ำหั่น.........เธอก็นิ่ง........ไม่ทิ้งกลาง 


จึงอยากขอ.......ประทานรางวัล.....จากชั้นฟ้า 

คนอดทน..........นั้นมีค่า..............ฝ่ากีดขวาง 

เธอคือซ้าย.........ฉันคือขวา .........ฝ่าร่วมทาง 

เราต่างสร้าง..........จารึกไว้...........ให้ตรึงตา 


หากแต่นี่......กระไร.......ไฉนหนอ??

ทุกคำพ้อ.......พูดกระแทก.......กระทั้นว่า

ใครจะเจ็บ....จะปวดใจ....ไม่คณนา

กระโชกว่า..!!...สรรพเสียง.......เพียงปวดใจ 


ในความเงียบ.....เลียบหาย.....กรายที่นี่

ขอความสุข.........สักนิดนี้........ให้ฉันได้

เปิดหลวงตา.......บัวมหา........ฟังสวดไป

ให้จิตใจ.........สงบเย็น.......เห็นแสงธรรม 


แม้นเป็นคู่.........เคียงมา........คราชาติไหน

ถือดาบจ้วง..........แทงให้.........ใจเจ็บช้ำ

ตามมาบ่น.........ด่าว่า...........ให้ระกำ

ขอเจ็บจำ.........นิ่งชอบ..........ไม่ตอบคืน 


จะทิ่มแทง.......ก่นด่า........ว่าแต่ไหน

จะเก็บใจ........ให้เยียบเย็น.........ให้สดชื่น

จะไม่ตอบ.........ไม่ตะโกน.......ไม่โจนคืน

จะทนฝืน.........ข่มนิ่ง.........อย่างจริงจัง 


อโหสิ......มาเถิดมา.........แต่คราไหน

ชาตินี้ไซร้........ข้าฯเจ็บช้ำ.........เกินหันหลัง

ทั้งหน้าที่..........รับผิดชอบ.......หอบประดัง

ทั้งญาติวงศ์.......พงศ์รั้ง.........พิจารณา 


สถานะ..........ทั้งต่อหน้า..........และลับหลัง

คือการยืน.........หยัดไม่คลั่ง.........และข่มท่า

คืออดทน.........หยัดยืน.......ฝืนตลอดมา

เป็นอาภรณ์.........อันสูงค่า..........มงกุฎตน..... 


แม้นหนามเรียว.....เกี่ยวกาย.......ให้เป็นแผล

ภายนอกแล.........ช่างงดงาม.......ตามสถล

มงกุฎหนาม.........ตามขบเกี่ยว.......เรียวเนื้อมล

มงกุฎหนาม.......ซึ่งใครยล........ว่าแสนงาม!  ........@				
21 มกราคม 2547 20:28 น.

ส่งใจ...ชายแดน

tiki

 

ฟังสำเนียงเสียง หวานขานเพลงนี้

อยากให้พี่น้องเรือนไทยได้คิดฝัน

จึงสำเนามาแจกจ่ายให้อ่านกัน

และแจกฝันให้ฟังเสียงสำเนียงไพร


ที่ห่างบ้านห่างกันฝันก็หาย

มีพฤกษาพันธุ์ไม้อันสูงใหญ่

มีแต่ดินมีแต่ฟ้าข่มอาลัย

เฝ้าแดนไกลใจอยู่บ้าน...ฝากอ่านกลอน


คนอยู่ไกลกอดปืนยืนอยู่ล้า

คงครวญคิดพินิจหาตามอักษร

คงวุ่นวายหม่นใจเมื่อใกล้นอน

นิทราหลอนกับขอนไม้..ในแดนดง

 



ฟังเพลงได้ที่เว็บนี้เลยนะคะ
http://www.police.go.th/music/music1.html 


 โอ้ ชีวิตเอย..อยู่กลางเขาลำเนาป่า 
ตระเวณชายแดน..เหมือนดังพรานล่องพนา 
ต้องนอนกลางดิน ต้องกินล้วนอาหารมีในป่า 
สุดทรมา...เพียงไร 

เธอไม่ท้อเลย 

เมื่อยามค่ำคืน มีเพียงนวลแสงจันทร์ส่อง 
หริ่งเรไรร้อง 
ทำนองดนตรีที่เคย 

ตกดึกเหน็บหนาว กายใจไม่เห็นเธอเอื้อนเอ่ย 
โอ้น่าชมเชย..สมเป็นยอดตำรวจชายแดน 

เมื่อเธอระทม นอนซมเพราะพิษไข้ป่า 
กันดาร 

ร้าวรานน่าเบื่อระอา ขาดคนเอาใจ 
ห่างไกลผองมวลมิตร 

สนิทหน้า 
อยู่ตามประสา เชื้อชาย ชาติอาชาไนย 

เมื่อยามค่ำคืน เธอนอนไม่สุขเหมือนผู้อื่น 
ต้องนอนกอดปืน ผจญศัตรูสู้ไป 
ชีพดับสลาย ความตายคือเกียรติที่เธอได้ 

โอ้เราชาวไทย เห็นใจ ยอด ตำรวจชายแดน 
--------------------------------------------------------------------------------
 
ทิกิ

 เธอต้องอยู่ลำบากทุกข์ยากเข็น
ได้ป่าเป็นเพื่อนเพื่อนปลอบใจให้สุขี
ยินเสียงปืนกล่อมเพื่อนเหมือนดนตรี
ดาวริบหรี่เหมือนไฟ .. ส่องให้ทาง

ไร้ฝ้าห่มที่นอนหมอนนุ่มนิ่ม
ไร้ความชุ่มชื่นใจในทุกอย่าง
ไร้ซิ่งกลิ่นเคยหอมถนอมปราง
ไร้ซึ่งร่างคนดีที่เคียงนอน

มีแต่เสียงน้ำค้างหล่นกลางหาว
ไม่มีสาวคอยอยู่เป็นคู่อ้อน
มีเพียงจันทร์กับนภาคอยอาทร
มีเพียงขอนหนุนแทนแขนของเธอ

จึงฝากกลอนจากเหนือมาเจือจิต
บอกมิ่งมิตรว่าฉันนั้นห่วงเสมอ
ระยะทางห่างกันฉันยังเพ้อ
ยังอยากเจอคนไกล .. ไม่เว้นวัน 


**  ขอแจมด้วยคนนะคะ  **

 
 จาก : รหัสสมาชิก : 4956 - มาแตง  
 รหัส - วัน เวลา : 209537 - 22 ม.ค. 47 - 14:33  


งานมาแตงมาตอบไว้ไพเราะมากค่ะ
ทิกิ				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki