28 กุมภาพันธ์ 2546 23:14 น.

**..บทบันทึก..ถึงคนทำดี..**

ต่อง (ต้อง) ksg



  **..  บทบันทึกนี้เขียนด้วยความอัดอั้นตันใจ..จะว่าเขียนด้วยอารมณ์ที่

ความโกรธเข้าครอบงำจิตใจก็ว่าได้......

  **..เขียนถึงคนดีที่คนชั่วมันคอยตามหาเรื่อง..ถึงจะเป็นเรื่องของ

ผู้ใหญ่..แต่ก็คงด้วยเราเองเริ่มมีความคิดความอ่านมาบ้างก็ได้..

  **...เสียดายนะครับ..ที่สังคมปัจจุบันอะไรๆก็แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

คนดีก็มักโดนคนชั่วคอยหาเรื่องอยู่เสมอ..จนบางครั้งที่ว่า  

ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว..สำหรับเราถึงเราจะเชื่อว่าเป็นสัจธรรมก็จริง

แต่มันก็ทำให้เราโอนเอนได้เหมือนกันเช่นในขณะนี้....

  **..ทำไมคนชั่วถึงได้เป็นใหญ่..แต่คนดีกลับทนทุกข์
       ทำไมคนชั่วร่ำรวย..แต่คนดีกลับอดมื้อกินมื้อ
       ทำไมคนชั่วทำอะไรก็ได้ตามใจ..แต่คนดีกลับเป็นผู้ถูกรังแก

  **..นี่ล่ะมั้ง..ที่ทำให้เราสับสนวุ่นวาย..คิดน้อยใจในโชคชะตาของ

คนเรา..นึกๆไปก็ขำดี  ที่คนเราทำคุณบูชาโทษ..ไม่มีอะไรแน่แท้เสียจริงๆโลก

มนุษย์...

  **..การลุกขึ้นสู้..มันอาจเป็นหนทางสุดท้ายที่ช่วยได้  แม้ว่าขาแขนและจิตใจ

ก็เริ่มอ่อนระโหยลงเต็มที...กำลังใจมากมายเป็นเครื่องชูกำลังให้ฝ่าฟัน

อุปสรรคต่อไปได้..

 **  ..และก็หวังว่าสักวัน  คนดีจะมีหนทางให้ก้าวเดินไป  คนชั่วจะพ่ายแพ้แก่

คุณธรรม..ตามคำที่ว่า  ธรรมะย่อมชนะอธรรม..(เสมอ)
       

      ด้วยความหวังดี

  จาก  คนดีไม่มีที่ยืน
   				
27 กุมภาพันธ์ 2546 09:15 น.

**..หัวใจ..ความหวังดี..มีแต่รัก..**

ต่อง (ต้อง) ksg





  **..โรยดอกแก้ว  แวววาว  จากราวฝัน
       ส่งเป็นของ  กำนัล  ความคิดถึง
       นานแล้วนะ  ดวงใจ  ไม่ซาบซึ้ง
       ด้วยหวังพึ่ง  ชีวา  คนปราณี

   **..น้ำค้างหยาด  ลงพลิ้ว  กับทิวสน
        หัวใจคน  ร้าวราน  เริ่มบานคลี่
        มุ่งหมาย  เดินทาง  ตามชีวี
        พกความ  หวังดี  มีให้มา

  **..แล้วยื่นสู่  ฝ่ามือ  ที่อบอุ่น
       พร้อมกับยิ้ม  ละมุน  เพื่อแทนค่า
       เผื่อคุณเห็น  หัวใจ  ในดวงตา
       เห็นคำว่า  ที่รัก  มาจากใจ

   **..ถึงแดนดิน  ถิ่นนี้  ไม่มีเสียง
        ไร้สำเนียง  บรรเลง  เพลงสดใส
         ก็จะร้อง  ขับขาน  กังวานไพร
         ชื่อว่าเพลง  อุ่นไอ  ไมตรีรัก

  **..แล้วด้นกลอน  ตอนนิทรา  เวลาค่ำ
       เพื่อเร่งย้ำ  ความดี  ที่แน่นหนัก
       แม้หัวใจ  เหนื่อยอ่อน  มิผ่อนพัก
       หากจะขอ    สมัคร  รักแต่เธอ

  **..ตะวันเริ่ม  แรกแสง  แห่งท้องฟ้า
      หมู่นกกา  บินเป็นคู่  อยู่เสมอ
      หัวใจคน  อย่างพี่  ไม่เลิศเลอ
      หากแต่เพ้อ  เรียกร้อง  อยู่ร่ำไร

     **..โรยดอกแก้ว  แวววาว  จากราวฟ้า
          ซบเถิดหนา  อกอุ่น  หนุนหัวไหล่
          ไว้รับขวัญ  ปลอบนอน  ตอนจากไกล
          แล้วรับใจ  ดวงน้อยน้อย  คอยกอดนอน... 
       

                  ด้วยความหวังดี

               ก.นพดล  รักษ์กระแส      

				
23 กุมภาพันธ์ 2546 15:40 น.

**..อำลาอาลัย..**

ต่อง (ต้อง) ksg


 

**..  คือความหลัง  คือความฝัน  คือวันวาน  ...ที่ไม่มีวันหวนกลับมาได้..**
 


                              **..จากไกล จากไป ในวันนี้ 
                                   หน้าที่ ทั้งหลาย เคยมีให้ 
                                  ไมตรี เปี่ยมล้น ปนน้ำใจ 
                                   เหลือไว้ เพียงคำ...อำลา 

                              **..น้ำตา จะริน หลั่งไหล 
                                  ดอกไม้ ให้ไว้ แทนค่า 
                                เหนื่อยแล้ว ขอพัก กายา 
                                  เริ่มต้น วันหน้า...อาลัย 

  
                   
                      คนที่ไม่เคยจากกัน  ย่อมยากจะเข้าใจถึงความ

                       รู้สึกลึกนี้...ดังคำกลอนที่เคยมีคนเขียนไว้ว่า

                            **..ใครไม่เคยรู้ฤทธิ์ความคิดถึง
                              ใครไม่เคยซาบซึ้งกับความฝัน
                              ใครไม่เคยมีรักปักชีวัน
                              ใครคนนั้นคงไม่ช้ำกับคำลา

                  **..ลาแล้ว  โรงเรียน  ครูบาอาจารย์  เพื่อนๆที่รัก..**

                				
22 กุมภาพันธ์ 2546 20:47 น.

ตาย

ต่อง (ต้อง) ksg



  บทประพันธ์โดย..อาจารย์นภาลัย  (ฤกษ์ชนะ)  สุวรรณธาดา  

   **..ในโลงนั้นร่างหนึ่งซึ่งฉันรัก
      เขานอนพักชีวีไม่มีตื่น
     ฉันเรียกเขาเท่าไรก็ไม่ฟื้น 
     ฉันสะอื้นอ่อนใจเขาไม่ฟัง

  **..เคยกล้าแกล้วแล้วไยเขาไม่ขัด
      ยอมถูกมัดกายาด้วยตราสัง
      ฉันเคยเรียงเคียงสู้อยู่ทุกครั้ง
      กลับมานั่งดูเขาถูกเผาไฟ

  **..เคยชนะอุปสรรคมาหนักหนา
      กลับต้องมาพ่ายแพ้เกินแก้ไข
      เขาไปสู่ฟากฟ้าสุราลัย
      ฉันอยู่ไห้โหยถวิลเจียนสิ้นตาม

  **..ยะเยือกคราพญาโศกพิโยคย่ำ
      เหมือนเสียงร่ำลาลับให้วับหวาม
      เปลวเพลิงรุ่งพลุ่งโพลงแลบโลงลาม
     แล้ววอดวามแวบสั่งครั้งสุดท้าย
  
  **..ในที่สุดหยุดนิ่งทุกสิ่งสูญ
      เพียงกองกูณฑ์เกลื่อนเถ้าร่างเขาหาย
      แม้นสุดอยู่สู้ชะตาเอกากาย
      ฉันจะตายตามไปคงไม่นาน  
 				
14 กุมภาพันธ์ 2546 23:11 น.

**..ร้อยกรอง ถึงเพื่อนรัก..**

ต่อง (ต้อง) ksg



  **..อยากจะบอกเพื่อนว่า  รักเพื่อนมากๆ  จะจบม.6แล้วไม่รู้ว่าจะเจอกันอีกเมื่อไร

  ขอเพื่อนจงโชคดี....ลาก่อนมิตรที่ฉันรัก

  **..ฉันเห็นยิ้ม  อำลา  จากหน้าเพื่อน
       อกก็เตือน  หวั่นไหว  เร็วใจหาย
       เคยเดินวิ่ง  ด้วยกัน  ครั้นปีกลาย
       กลับต่างฝ่าย  ต่างเดินไป  ในเส้นทาง

  **..ด้วยภาระ  การงาน  และหน้าที่
      ต่อแต่นี้  จึงจบสิ้น  ความบาดหมาง
      มิตรภาพ  จะวางใจ  ไว้กึ่งกลาง
      อยู่ระหว่าง  เธอและฉัน  ทุกวันวาร

  **..น้ำตาครวญ  คำนึง  ถึงความหลัง
       ไปเมื่อครั้ง  เอ่ยถ้อย  ร้อยคำขาน
       วันที่ร่วม  จดจำ  นำสาบาน
        ว่าจะรัก  กันยืนนาน  ตราบนิรันดร์

  **..โอ้ว่าใจ  อาดูร  เหมือนสูญสิ้น
       เคยยลยิน  เคยร่วมฝ่า  เคยร่วมฝัน
       โอ้ว่าใจ  อาวรณ์  ก่อนจากกัน
        ขอเพื่อนหัน  บอกรัก  อีกสักที

   **..จะพบกัน    วันไหน  ยังไม่รู้
       แต่ขออยู่  รอมิตร  ณ  ที่นี่
       ถึงจะผ่าน  วันเดือน  เลื่อนสู่ปี
       ดวงฤดี  ติดตรึงมิตร  นิจนิรันดร์...

             ด้วยความหวังดี

         ก.นพดล  รักษ์กระแส     

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงต่อง (ต้อง) ksg