18 กันยายน 2552 14:35 น.

***ทำแท้ง***

ปติ ตันขุนทด

***ทำแท้ง***
***อาดูรดูหมู่เฮาเศร้าเผาผี
นักเรียนที่ทำแท้งถึงตักษัย
เป็นวัยรุ่นวุ่นวายวาบหวามวัย
เผาศพได้ดำหริคิดตตริตรอง

อันที่จริงหญิงชายมักหมายรัก
หญิงไม่หักหวงตัวจึงมัวหมอง
เมื่อชายชมสมจิตไม่คิดครอง
หญิงตั้งท้องต้องระทมขมขื่นคิด

เป็นนักเรียนเรียนรักไม่รอบรู้
เบื่อคำครูเคร่งข่มอบรมจิต
หลงระเริงโลกีย์ท้องมีพิษ
สิ้นชีวิตพร้อมลูกที่ถูกแท้ง

อันตัวเราเกิดกายหลายชันษา
เสพตัณหารู้ห้ามความผิดแผลง
หญิงท้องโย้โฮไห้ใจระแวง
กล้าสำแดงแจ้งจิตว่าจริงใจ

ห้ามไม่ให้ทำแท้งแจ้งดินฟ้า
ขอลูกยามาเกิดประเสริฐใส
ครั้นลูกเกิดเลิศรอดชีพปลอดภัย
ชื่นเชื้อไขได้เลี้ยงลูกสุขนักเอยฯ

*************************************				
15 กันยายน 2552 18:17 น.

นิทานคำกลอน พระศรีปฏิรัฐ 7

ปติ ตันขุนทด

ต่อจากคำกลอนที่  80

ปลาโลมากระโดดโลดผยอง
ลงฝในท้องทะเลลึกคึกเต็มที่
ทะเลงามแตกฟองโลล่องนที
หลบลับลี้ยักย้ายตามสายธาร

เกิดพายุพัดโหมโถมกระแทก
คลื่นซัดแทรกซอกผาศิลาฉาน
วลาหกตกดื่นปลาชื่นบาน
ห้องละหานเหยหับซับพิรุณ

สองประสานซบซุกคลุกเคียงกัน
สองสุขสันต์ขันคิกระริกรุ่น
สองสิบเจ็ดชันษาเพลินกามคุณ
สองโอบอุ่นอิงแอบทุกแยบคาย

จนล่วงเลยเวลาใกล้สายัณห์
จึงชวนกันแต่งกายแล้วผันผาย
มาถึงแคร่เห็นแม่รอวุ่นวาย
แต่งหน้าตายว่าเล่นน้ำจนค่ำลง

ได้พบเพื่อนเหมือนพี่ที่กลางทาง
จึงชวนย่างมานี่พี่เขาหลง
เป็นเชื้อช่อหน่อผู้ดีมีเผ่าพงศ์
ข้าก็ปลงใจเชื่อว่าเชื้อพระยา

พระคำนับรับคำนางอำพัน
แต่ประหวั่นวุ่นจิตคิกหนักหนา
จะเป็นข่าวร้าวฉานถึงมารดา
จึงแสร้งว่าพูดเล่นใช่เป็นจริง

ตัวฉันหรือชื่อชาติพลาดพลั้งผิด
หลงทางทิศกลับบ้านคิดนานนิ่ง
มาพบนางจึงขอรอพึ่งพิง
ข้าอยู่สิงคำบ้านกันดารคน


แสร้งบอกว่าเป็นคุณชายน่าอายนัก
ท่านจงพักฟังว่าอย่าสับสน
ข้าโกหกพกลมต้มตุ๋นคน
คงไม่พ้นผิดโปรดลงโทษทัณฑ์

นางอำไพแม่อำพันว่าฉันนี้
ก็ปรานีลูกชาติแต่หวาดหวั่น
เรามีสามแม่ลูกรักผูกพัน
พ่อขอบงมันหมีกันฟัดจนตาย

***ฝ่ายคำแพงนางเดียวเที่ยวหาน้อง
หน้าหม่นหมองกลับมากระสับส่าย
น้องตัวดีพี่จะตีชีวีวาย
ค่ำแล้วหายอยู่ไหนไม่กลับเรือน

ครั้นถึงบ้านพบแขกแปลกใจนัก
เห็นน้องรักยืนเอียงเคียงชายเพื่อน
พิศวงหวั่นจิตคิดฟั่นเฟือน
จึงเอ่ยเอื้อนถามมารดาว่าชายใด

แม่จึงเล่าลายเรื่องตามเบื้องบอก
เขาคนนอกเวทนาค่อยปราศรัย
คำแพงพิศคิดมากหลากอกใจ
คนอะไรผิวพรรณมีเผ่าพงศ์

จึงเอ่ยว่าราตรีนี้เชิญพักผ่อน
ในสำนักเราก่อนค่อยจรส่ง
เป็นบ้านป่าเมืองเขาลำเนาพง
แม้นค่ำลงพักผ่อนนอนรอวัน

แล้วนางจัดสำรับวางกับข้าว
เนื้อย่างลาวหอมกลิ่นเป็นชิ้นหั่น
ต่างล้อมวงกินอร่อยคอยแบ่งปัน
ต่างสุขสันต์สำราญสานไมตรี

คำแพงจัวดที่นอนบ่อนของพ่อ
มีคำขอให้ชาตินอนบ่อนนี่
ถึงเที่ยงคืนอำพันอ่อนร้อนฤดี
แอบมาที่ห้องพ่อต่อว่าแฟน

อุตส่าห์ปลงใจรักสมัครมาด
โอ้พี่ชาติมาหลอกกันฉันอายแสน
จะเอาหน้าไว้ไหนในดินแดน
มามีแฟนคนโกหกอกตรอมตรม

ชาติพูดปลอบชอบรักจึงจำเป็น
เพราะได้เห็นอำพันงามสุดห้ามข่ม
อยากเป็นคู่ชู้ชื่นอารมณ์ชม
จึงจ่อมจมไม่จากพรากแม่นาง

ช่างปากหวานสานคำรำพันเพราะ
มาประเหลาะลวงเล่นเป็นของว่าง
ท่านกลับไปใจคิดจะแต่งนาง
หรือจะร้างลาลับไม่กลับมา

พี่ไม่ลืมปลื้มรักหนุนตักน้อง
จะขอครองร่วมชาติศาสนา
พี่ไปแล้วไหนเลยจะลืมลา
จะอุตส่าห์รวมสินแต่งกินนอน

ให้เจ้ารอพี่พร้อมกล่อมพ่อแม่
ท่านเหลียวแลแล้วมาแต่งแจ้งกระฉ่อน
อย่าวิตกอกหนาอนาทร
หลับพักผ่อนเถิดหนาอย่าร้าวราน        100  คำกลอน

แล้วโลมลูบจูบซ้ำคลำเนื้อนุ่ม
เข้าลอดซุ้มชลกระฉอกละลอกฉาน
สนิทเนื้อแนบรักตระหนักนาน
เสนอสนานซ่านสนองสองเปรมปรีดิ์				
15 กันยายน 2552 17:35 น.

***ก้มหน้าสู้***

ปติ ตันขุนทด

***ก้มหน้าสู้***
สิบห้ากันยายนฝนลาแล้ง
ข้าวเหี่ยวแห้งเต็มนาน่าใจหาย
ข้าวโพดฝักใบเฉาเศร้าเสียดาย
ชาวนาตายหมดสินสิ้นต้นทุน

เหมือนตัวเราเขาไม่แลรักแห้งแล้ง
ให้โรยแรงหมดอาลัยใจว้าวุ่น
แม้นมี่รักโลมไล้ร่วมใบบุญ
จะชื่นอุ่นเป็นทุนรักไร้ระกำ

เห็นคนอื่นมีคู่อยู่ฉอเลาะ
กระเซ้าเซาะซบซิกคิกคิกขำ
ดูตัวเราเหงี่ยวเหี่ยวหน้าดำ
ทั้งชอกช้ำในอกตกเอกา

สุดอาลัยใจหายไม่วายห่วง
เจ้าพุ่มพวงสวมแหวนหมั้นปลายพรรษา
เมื่อตกหนาวคงจะเข้าสู่วิวาห์
ทิ้งพี่ยาบ้าหนาวร้าวระบม

คู่ของน้องครองหมั้นนั้นเหมาะนัก
พี่ก็รักคิดเคาะเห็นเหมาะสม
จงสมสุขเถิดหนาอย่าปรารมณ์
พี่จะก้มหน้าสู้อยู่เดียวเอยฯ

(อะน่ะ   ล้อเล่น)

************************************				
14 กันยายน 2552 17:26 น.

***ค่าวซอ พญาพรม*** 3

ปติ ตันขุนทด

ต่อจากคราวที่แล้ว

ทรงต่นตั่วอยู่ปอบ่ได้   เหมือนหางตุงไชยช่อช้าง  ปักแขวนสูงพยุงยกก๊าง  ก๋างเป่งกว้างตอลม   แลนเยื่องทุกข์  แนบแหน้นแถมถม  กันกึ้ดไคว่จม  พรมมีแต่ไห้   จับหล้างวันเยียะเหมือนจักไข้  หนาวเย็นในนอกร้อน  เกยได้อยู่กิ๋น  ยินดีเซื้อมซ้อน  แฝงใฝ่อ้อมปิงปาว   เปื่อนเมารักจู๊  เมาบ่าวเมาสาว  ต๋ามเนื่องแนวนาวเกยแฝงใฝ่เฝ้า

***ถอดเป็นไทย
***ทรงตนไม่ได้   เหมือนกับหางธงไชยที่ยาว  ปักแขวนไว้สูง   ยกค้างไว้เช่นนั้นแล้วก็กางเบ่งรับลมแกว่งไปมา   มีทุกข์มากหนีบแน่นทับถม   เมื่อยามคิดชื่นชม
ก็มีแต่ร้องไห้  บางวันเหมือนจับไข้  ข้างในหนาว  ข้างนอกร้อน  คิดถึงที่เคยได้อยู่กินด้วยกัน  ซ้อนกัน  โอบอ้อมกัน  เหมือนกคนเมาชู้  เมาบ่าวเมาสาว   ตามที่เคยเป็นมา

(ถอดผิด  ขอผู้รู้ทางเหนือช่วยแก้ให้ด้วยนะครับ)				
14 กันยายน 2552 17:10 น.

***รักแบบพอเพียง***

ปติ ตันขุนทด

***รักแบบพอเพียง***

สิบสี่กันยายนเห็นลมบน
พัดเมฆหม่นลอยลิ่วปลิวไปหนอ
อันความรักเราหม่นจนตาคลอ
ยังรั้งรอลมพัดปัดเป่าไป

ลมใดใดในโลกพัดโศกเศร้า
หรือจะเท่าลมวาจาเมตตาให้
ลมจากรักจากจิตที่จริงใจ
พัดโศกไปหายหม่นจนดูงาม

รักที่เคยอยู่ครองมาหมองหมาง
เพราะทรัพย์จางเจ้าจึงจากไม่อยากห้าม
สุดบังคับใครอื่นให้ฝืนตาม
มันยากความจิตคนพ้นลึกลัล

เรารักเขาเขาไม่รักมักขมขื่น
ยากจะฝืนรั้งไว้ให้ส่ายสับ
จงไปดีมีคู่ขาคณาทรัพย์
ใช้จ่ายจับตามใจไม่หมดมือ

ทรัพย์ของพี่มีให้แต่พอเพียง
ใช้ชุบเลี้ยงชีวิตที่จิตซื่อ
ร่วมทุกข์สุขเสน่หาร่วมหารือ
เพราะนั่นคือรักเลี้ยงพอเพียงเอยฯ

************************************				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปติ ตันขุนทด
Lovings  ปติ ตันขุนทด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปติ ตันขุนทด
Lovings  ปติ ตันขุนทด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปติ ตันขุนทด
Lovings  ปติ ตันขุนทด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปติ ตันขุนทด