15 กุมภาพันธ์ 2554 00:17 น.

นอนเถิดนอน

เปลวเพลิง

เพื่อนเอย
เอนกายลงตรงเขนยที่เคยหนุน
ค่ำคืนนี้เดือนดาวพราวละมุน
ฟ้าโอบอุ่นอ้อมแขนแทนแพรพรรณ

นอนเถิดนอนนอนลงที่ตรงนี้
รับไมตรีวาววับแล้วหลับฝัน
สู่แดนทิพย์วิมานสะอ้านครัน
สู่คืนวันที่ไร้ภัยรุนแรง

ชมดอกไม้ในสวนอวลอบกลิ่น
ปรุงประทิ่นดินให้ไม่ระแหง
ชมทุ่งนาสีทองครองทุกแปลง
ชมบัวแต่งก้านกวัดกระบัดใบ

วางภาระระหว่างทางสายเก่า
วางหน้าที่ที่เฝ้าเอาใจใส่
วางทุกข์เข้มเต็มข้นให้พ้นไป
พักกายใจให้ผ่อนนอนนิทรา

รอวันพรุ่งรุ่งรวีที่เฉิดฉาย
มาทักทายยิ้มรับกับโลกหล้า
รอเรี่ยวแรงหวังใหม่ให้กลับมา
เพื่อเผชิญเบื้องหน้าอันทารุณ

เพื่อนเอย
เอนกายลงตรงเขนยที่เคยหนุน
ค่ำคืนนี้เดือนดาวพราวละมุน
จะโอบอุ่นอ้อมขวัญให้ฝันดี


ปล.ขอให้ทุกคนนอนหลับฝันดีครับ				
14 กุมภาพันธ์ 2554 01:04 น.

เนื่องในวันแห่งความรัก

เปลวเพลิง

โลกจะแสนงดงามด้วยความหมาย
เมื่อรักแย้มแต้มพรายใจคนทั่ว
ที่ปริ่มหมองครองทุกข์รานรุกตัว
คงลบมัวหม่นหมางให้ห่างลา

 เมื่อวันแห่งความรักมาทักท้วง
ในห้องทรวงก็คงพะวงหา
ถามถึงรักจากผู้อยู่ไกลตา
ที่ลอยลมฝากมากับฟ้าไกล

 เราคนโสดหทัยยังไร้ผู้
มาแนบคู่เคียงจิตพิสมัย
คงขอมอบรักห้วงแห่งดวงใจ
ลงปักแนบแอบไว้ให้ทุกคน

 มอบแด่ครอบครัวอันสุขสันต์ยิ่ง
มอบแด่มิ่งมิตรสหายสุดไพรสณฑ์
มอบแด่สัตว์ร่วมโลกาในสากล
มอบแด่ตนเพื่อเพิ่มเสริมแรงใจ

 มอบแด่ดินโอบอุ้มคุ้มเรือนเหย้า
มอบแด่ข้าวเลี้ยงเราจนเติบใหญ่
มอบแด่ชาติ ศาสนา ทุกคราไป
มอบแด่ไท้จอมกษัตริย์ขัตติยา

 โลกจะแสนงดงามด้วยความหมาย
ยามรักฉายอาบชนบนแหล่งหล้า
พรมแดนกั้นใดใดไร้ฤทธา
เพราะมนต์รักล้ำค่าสถาพร

 ครั้นวันแห่งความรักยิ้มทักทาย
จึงหญิงชายสุขโขสโมสร
เราขอมอบไพรำแห่งคำกลอน
แทนเพลงพรกล่อมตัวกล่อมหัวใจ


ปล.ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันแห่งความรักครับ				
13 กุมภาพันธ์ 2554 10:01 น.

ถึงบินหลา

เปลวเพลิง

บินหลาเอย
ค่ำเช้าเจ้าเคยขับกล่อมทุ่ง
แว่วหวานกว่าเพลงของเมืองกรุง
ปลุกรุ่งอรุณฟ้าบ้านนาเรา
................................................
ข้าจากปู่ย่ามาเมืองใหญ่
หาความรู้ใฝ่คลายโง่เขลา
ข้าเห็นแสงสีมีมิเบา
มอมเมาหลอกล่อใครต่อใคร

บทเพลงเมืองเขาแสนเร่าร้อน
ดังจนเข่าอ่อนทนไม่ไหว
เมืองเขามีดาวคือแสงไฟ
ไม่เหมือนดาวพราวใสที่บ้านนา

ผู้คนวุ่นวายไม่ว่างเว้น
หลอกลวงแฝงเร้นหลากหลายหน้า
เล่ห์กลมากเหลี่ยมมารยา
น่ากลัวหนักหนาสากรรจ์

ข้าอยากกลับบ้านกลับนา
หาปู่หาย่าคงสุขสันต์
ร่ำเรียนเพียรรู้อยู่ทุกวัน
หวังเพื่อคว้าฝันปริญญา
................................................
บินหลาเอย
อย่าละอย่าเลยทุ่งเหว่ว้า
ข้าอยากฟังเสียงนกบินหลา
เมื่อข้าเยือนถิ่นแผ่นดินเดิม				
10 กุมภาพันธ์ 2554 11:29 น.

อยู่ที่เราลิขิต

เปลวเพลิง

อันคนเราเท่านี้แหละที่ว่า
มีสองมือสองขาสองตานั่น
มีหัวใจเต็มหวังเป็นรางวัล
เพื่อเสกสรรค์ชีวิตเช่นคิดไว้

แม้ต้องการสิ่งใดในหล้าแหล่ง
เพียงลงแรงใช่จักยากคว้าไขว่
สูงเสียดฟ้าต่ำลงดินถิ่นใกล้ไกล
ก็คงได้ใคร่ชิดสนิทนาน

ด้วยสองมือสองเท้าเร่งเข้าสู้
เรียนและรู้ทุกข์สุขสนุกสนาน
สัมผัสแดดสัมผัสฝนทนกรำงาน
ให้ซาบซ่านถึงค่าราคาคน

มีความหมั่นเพียรก่อเป็นบ่อเกิด
ปลูกความรู้ชูเชิดเป็นดอกผล
อดทนเลี้ยงชีพชอบกอปรกมล
ลิขิตตนหมดสิ้นด้วยยินดี

ชีวิตเราคงอยู่คู่กับโลก
ใช่เพราะโชคชะตากรรมนำวิถี
หากเป็นเพราะเลือกลิขิตด้วยฤทธี
ให้สดศรีฤาหมองไหม้ดั่งใจเรา				
ไม่มีข้อความส่งถึงเปลวเพลิง