เส้นทางชีวิต

สุชาดา โมรา

จากอดีตสู่ปัจจุบันสังคมของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดและสิ่งที่เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยได้ในทุกวันนี้ก็เห็นจะหนีไม่พ้นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการการเมือง  ๑๔ ตุลา  หลาย ๆ คนคงจะจดจำความเจ็บปวดได้ดี  แต่อีกหลาย ๆ คนก็ไม่อาจจะรับรู้เลยว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเช่นไร  ดิฉันจึงขอย้อนความหลังหลังจากที่ได้ไปศึกษามาว่า  เมื่อครั้งเหตุการณ์ ๑๔ ตุลานั้นเป็นปรากฏการณ์ ทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อเดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๑๖ เยาวชนคนหนุ่มสาวที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้ร่วมกับประชาชนจำนวนแสน เรียกร้องให้รัฐบาลคณาธิปไตย ถนอม-ประภาส- ณรงค์ ปลดปล่อยนิสิต นักศึกษา อาจารย์ และนักการเมือง ๑๓ คน ที่ถูกจับกุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ แต่กลับถูกรัฐบาลตั้งข้อหาว่ากระทำการผิดกฎหมาย มั่วสุมชักชวนให้มีการชุมนุมทาง การเมืองในสาธารณะเกินกว่า 5 คน เป็นบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐเป็นกบฏภายในพระราชอาณาจักร และมีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์  
                ในระหว่างวันที่ 9-12 ตุลาคม นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ชุมนุมประท้วง โดยสันติวิธี ณ มหาวิทยาลัยธรรมสาสตร์ ในวันเสาร์ที่ ๑๓ ประชาชนเดินขบวน สำแดงพลังครั้งยิ่งใหญ่ที่ดูประหนึ่งว่ากระแสคลื่นมนุษย์จักท่วม ท้นถนนราชดำเนิน ในวันที่ ๑๔- ๑๕ ถัดมาก็เกิดความรุนแรง เยาวชนคนหนุ่มสาวถูกปราบปรามด้วยอาวุธร้าย เป็นผลให้เกิดการลุกขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ต่อมาเผด็จการก็ล้มลง ผู้นำคณาธิปไตย ถนอม-ประภาส- ณรงค์ ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ  ธีรยุทธ บุญมี อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย บัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ ๑๐ คน เปิดแถลงข่าวที่บริเวณสนามหญ้าท้องสนามหลวง ด้านอนุสาวรีย์ทหารอาสา โดยมีวัตถุประสงค์ คือ  เรียกร้องให้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญโดยเร็ว  จัดหลักสูตรสอนอบรมรัฐธรรมนูญสำหรับประชาชน  กระตุ้นประชาชนให้สำนึกและหวงแหนในสิทธิเสรีภาพ ธีรยุทธ บุญมี  นำรายชื่อผู้ลงนามเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ๑๐๐ คนแรกประกอบด้วยบุคคลต่าง ๆ มาเปิดเผย เช่น พล.ต.ต สง่า  กิตติขจร นายเลียง ไชยกาล นายพิชัย รัตตกุล นายไขแสง สุกใส นายประพันธ์ศักดิ์ กมลเพชร รวมทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัย เช่น ดร.เขียน ธีรวิทย์ ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ดร.ชัยอนันต์ สมุทรทวณิช อาจารย์ทวี หมื่นนิกร เป็นต้น รวมทั้งจดหมายเรียกร้องจากนักเรียนไทยในนิวยอร์ค  ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นจะสร้างความสูญเสียถึงขนาดทำให้นิสิตนักศึกษาต้องจบชีวิตลงราวกับใบไม้ร่วงโดยที่ไม่มีใครออกมารับผิดชอบก็ตามแต่ประเทศไทยก็มีประชาธิปไตย  ซึ่งการเมืองนั้นเปรียบดั่งก้อนหินที่แข็งแกร่ง  ถ้าหากว่าวันใดก้อนหินถูกกัดเซาะจนบุบสลาย  การเมืองไทยจะอยู่ได้อย่างไร...
                การเมืองก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนไทยทั้งแผ่นดิน  เมื่อมีก้อนหินที่แข็งแกร่งถูกเจียรนัยให้มีความมั่นคงงดงามแล้ว  การเมืองก็จะไปได้ด้วยดี  และทางด้านอื่น ๆ ของชาติ  ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ  การเกษตร  หรืออื่น ๆ นั้นก็จะมีเสถียรภาพที่มั่นคงซึ่งเป็นเหตุมาจากการเมืองที่มีรากเง้าดั่งก้อนหินที่เจียรนัย
 
เอกสารอ้างอิง
วัฒน์  วรรลยางกูร.๒๕๔๓, ไขแสง  สุกใส  ลูกผู้ชายหัวใจไม่ผูกเชือก.กาญจนบุรี. สำนักพิมพ์ปลายนา				
ขอขอบคุณเพื่อนๆที่มาเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ  หนังสือของไขแสง  สุกใส  มีวางจำหน่ายนะคะ  ซึ่งคุณวัฒน์  วรรยางค์กูล  อาจารย์ท่านเป็นคนเขียนขึ้นมา  ( นักเขียนซีไรต์ )				
..........				
comments powered by Disqus
  • somebody

    12 สิงหาคม 2547 07:21 น. - comment id 76017

    การเปิดเรื่องเป็นไปตามสูตรดั้งเดิม
    มีคำผิดอยู่คือ รากเง้า แก้ให้นะ คนดี รากเหง้า
    
    ท่อนกลางเรียบเรียงมาจากเอกสารอ้างอิง
    เรียบเรียงคือการเรียงให้เรียบ เรียบแบบของเรา ถ้ายังเหมือนกระทั่งคล้ายคลึงเอกสารอ้างอิง(ยกเว้นรายงาน/การวิจัย/วิทยานิพนธ์/วิชาการที่ต้องแม่นยำเที่ยงตรงชัดเจน อาจหมายความต้องแข็งทื่อเป็นไม้สักแปรรูป)  บทความน่าจะมีเอกลักษณ์ทางภาษส่วนตัวเราเอง จะดูมีชีวิตชีวา
    น่าติดตามไปจนจบ ไม่เหมือนอ่านตำรา
    
    ตอนจบการใช้สัญลักษณืเปรียบเปรยสะดุดมากก้อนหินไม่มีใครเอามาเจียรนัยหรอกนะคับ
    หากจะเปรียบเป็นเหล็กต้องผ่านการหลอมขึ้นรูป ถูกตีกระหน่ำ กว่าจะเป็นมีดชิ้นงาม
    หรือเปรียบเป็นอัญมณีเพชรพลอยที่เพิ่งเอามาจากเหมืองแร่ อะไรอย่างนั้น แต่โดยบริบท หรือความรวมของเรื่องนี้ น่าจะหาสัญญลักษณือื่น ลองคิดดูเองนะ แนะนำให้ 
    
    ส่วนการเชื่อมคำ การเลือกคำยังมีกระโดดบ้าง
    เป็นธรรมดา มันเป็นแบบฝึกหัดขัดเกลาเราเอง
    
    ขอให้คงความขยันไว้นะ 
    ลองอ่านเรื่องถั่วงอกรำพึงของเราดูสิ
    
    แต่ตอนนี้ขอแถมนะ
        
            เส้นทางชีวิต 2
     การเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเรา สุดแล้วแต่จะไปถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่ คงแล้วแต่ชะตากรรมส่วนตัว ไม่อาจฝืนได้ เช่นเส้นทางชีวิตของอเมริกันชน ในวันที่ 11 กันยายยน
           กัปตันเอลตันตรวจตราความพร้อมก่อนทะยานเครื่องโบอิ้งสู่น่านฟ้า ส่วนแคทเธอรีนกำลังเตรียมเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ผู้โดยสาร 
          ในชั้นบินธุรกิจ จอห์นกำลังครุ่นคิดถึงของขวัญวันเกิดให้ลูกชายคแรกที่กำลังจะครบ5ขวบ ส่วนที่นั่งติดกันโมฮัมเหม็ด กำลังกำมีคตเตอร์อยู่อย่างรัดกุม ...
           ทุกคนในเที่ยวบินนั้นร่วมเส้นทางเดียวกัน
    แต่ต่างจุดหมาย
           เช้าวันนั้นที่ตึกเวิร์ลเทรด ปีเตอร์กำลังหัวเสียที่คู่ค้าเลยเวลานัดมากว่าครึ่งชั่วโมง  เฮเลนกำลังรอลิฟท์เพื่อลงไปชั้นล่างจะออกไปซื้อเครื่องสำอางค์ที่ถึงช่วงลดราคาพอดีด้วยใจกระวนกระวาย
            พลันเสียงกึกก้องกัมปนาทเกิดขึ้น..........
    ...................บรรยาย(เอามาจากเอกสารอ้างอิงแต่ต้องบรรยายในรูปแบบภาษาเฉพาะเรา)
    
    
         เส้นทางชีวิตอาจต่างจุดหมายในระหว่างที่ยังใช้ชีวิตอ่ยู แต่สุดท้ายจุดจบเดียวกันคือความตาย เมื่อเรายังมีลมหายใจอยู่พึงรำลึกอยู่เสมอว่าชีวิตเราไม่ต่างจากเทียนที่จุดไฟ มีแต่เผาไหม้ตัวเอง ขอจงเปล่งแสงแห่งความดี เผื่อเป็นอนุสรณ์ส่องสว่างให้ชนรุ่นหลังเห็นความเรืองรองของไฟชีวิตเรา ..อย่าเป็นดังด้ายไส้เทียนที่ไหม้เปล่า ที่มีเพียงแสงริบหรี่.
    
    อะไรทำนองนี้ ก็ไม่ได้เป็นอาจารย์ด้านภาษอะไรหรอก
    ไม่ได้เขียนหนังสือเป็นอาชีพ เขียนเป็นอาจิณ เท่านั้นเอง
    เพิ่งเข้ามาเว็บนี้
          
    
    
    
    
  • แม่มดน้อยค่ะ

    28 สิงหาคม 2547 14:20 น. - comment id 76426

    ค่ะ. . .เห็นคำว่ารากเง้า ในนำเรื่องหน้าแรกของบทความเรื่องสั้น
    ก็รีบกระโดดเข้าใส่เลย. . .
    รากเหง้า. . .อาจจะพิมพ์ตกหล่นไปโดยไม่ตั้งใจ
    แต่ก็อยากให้แก้นะค่ะ
    
    อืมม์ อ่านคอมเมนท์ข้างบนแล้วดีจังเลยค่ะ
    อยากมีใครช่วยคอมเมนท์อะไรแบบนี้บ้างจัง
    
    เพราะแม่มดน้อยเขียนงานไม่ดี ถ้ามีใครช่วยแนะนำคงจะดีขึ้นได้บ้าง
    
    โชคดีจังมีคอมเมนท์ดีๆ :)
    
       =^_____^=
    
  • 211

    4 กันยายน 2547 14:00 น. - comment id 76648

    ดีมาก
  • 1199

    9 กันยายน 2547 15:14 น. - comment id 76837

    ผมเห็นด้วยกับบทความนี้ เพราะการเมืองเดียวนี้ก็มีแต่ ประโยชส่วนตนกันทั้งนั้น
  • แฟนคลับ ( ขาประจำคลับ )

    10 กันยายน 2547 12:47 น. - comment id 76853

    คุณเคยได้ยินไหมครับว่าก้อนหิน  คำๆนี้ก่อนที่บรรพบุรุษเราจะรู้ว่าก้อนหินคือเพรชหรือพลอยน้ำงามเราก็ต้องนำมาเจียรนัยก่อน  ก้อนหินก่อนนั้นจึงจะสุกสว่างและมีคุณค่าเป็นรัตนชาติ  คุณผึ้งหรือน้องสุชาดา  ก็คงคิดเช่นนั้นเพราะผมเคยไปร่วมงานวันแถลงตัวเปิดหนังสือเล่มใหม่ของเธอที่อิมแพล็กฯ  เธอเอ่ยถึงเรื่องก้อนหินกับการเมือง  เป็นภาษาดอกไม้ที่ชวนฟังมาก  นอกจากนั้นเธอยังเป็นคนที่รอบรู้และเชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์และวรรณคดีหลายเรื่อง  ผมเชื่อว่าเธอจะต้องเป็นนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างแน่นอนเพราะเธอมีอาจารย์เป็นนักเขียนที่ดีหลายท่าน  และเธอก็เป็นคนช่างสังเกต  ช่างค้นคว้า  ช่างจดบันทึก  และเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี  ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นหน้าตาของเธอมากๆเพราะเธอน่ารักดี...  และเธอก็เป็นคนที่ดีมีน้ำใจด้วย  เธอเป็นนักกีฬา  เป็นนักเขียนตัวน้อย ๆ ที่ผมติดตามผลงานมาถึง 5 ปีกว่า  ผมชื่นชอบเธอมาก ๆ และได้ตั้งสมาคมคนรักสุชาดา  หรือแฟนคลับของเธอไว้ที่เว็ปส่วนตัว...ผมอยากให้ทุกคนมองเธอในแง่มุมและงานเขียนที่ต้องวิเคราะห์ของเธอ
               ผมนี่แหละคนรู้จริงในชีวิตของเธอ
    นี่น้องผึ้งพี่กอล์ฟ  พี่โก้   พี่อ๋อง  น้องเดือน  ต้นต่อ  และนุ่น  มาแสดงความคิดเห็นให้น้องแล้วจ้า....
  • o_1224@hotmail.com

    10 กันยายน 2547 12:48 น. - comment id 76854

    อ๋อ...เข้าใจแล้วละ
    สุชาดา  โมรา  ชื่อผึ้งเหรอ  มีเบอร์ไหมอยากได้หนังสือ
  • เพลงกลางป่า

    5 ตุลาคม 2547 19:43 น. - comment id 77767

    ครับ ความคิดที่ดีครับ
    
  • คุณ เก่ง

    26 ตุลาคม 2547 14:30 น. - comment id 78406

    คุณเขียนได้ดีมาก  ผมสามารถนำบทความของคุณไปสงอาจารย์  ได้คะแนนเต็มด้วย  ผมดีใจมาก
  • แพร

    28 ตุลาคม 2547 13:56 น. - comment id 78479

    คนเขียนเขียนได้ดีมากค่ะ อยากได้หนังสือจัง
  • วิจิตร ภู่เงิน

    29 ตุลาคม 2547 22:02 น. - comment id 78525

    คุณไขแสง สุกใส 
    เคยอ่านประวัติท่านจากหนังสือพิมพ์ครับ
    ไม่รู้มีหนังสือให้อ่านประวัติท่านหรือเปล่า
  • น.นิรัติศัย

    10 พฤศจิกายน 2547 22:36 น. - comment id 78941

    ทุกๆ ย่อมมีสิ่งที่ผิดกันบ้างเหมือนกับเขียนผิดนั้นหละ แต่ก็สามารถที่จะแก้ไขได้มันก็คล้ายๆกับความผิดที่เราก่อ ถ้าคิดจะปรับตัวและทำให้ดีไม่นานมันก็ดีขึ้นมาเองแต่บางครั้งต้องใช้เวลา เชื่อเถอะว่า พลังและความหวังมีอยู่ในตัวเรากันทั้งนั้น หาให้เจอ แล้วจะรู้ว่า... นั้นหละ เจ๋ง
  • กุ้ง 101

    6 มกราคม 2548 13:52 น. - comment id 80370

    ข้อความอ่านแล้วรู้สึกดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ            ให้คติดีต่อผู้อื่น
  • หลานสาว ขอนแก่น

    29 มกราคม 2548 17:23 น. - comment id 82396

    ท่านไม่น่าจากไปเร็วขนาดนี้เสียใจค่ะ
  • ขก

    29 มกราคม 2548 17:24 น. - comment id 82397

    คนดีๆไม่น่ามาจากไปเลยท่านมีบุญคุณมาก

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน