กล่องไม้สีดำ

Kittichai

ถ้ามกลางกลียุคที่วุ้นวายทั้งสงคราม มากมายทั่วทิศ ผู้คนมากมายต้องทนทุกข์ ทรอมาน กับสงคราม และ สังคมอันเลวร้ายเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แสนอาภัพเกิดมาข้างถนนที่แสนสกปรก ทั้งกายและใจของเด็กหนุ่มก็เต็มไปด้วยความสกปรกที่สังคมนั้นได้หล่อหลอมความคิดของเด็กหนุ่มเอาไว้เด็กหนุ่มอยู่อย่างหวาดกลัวและเดียวดายกับเมืองที่เต็มไปด้วยความหม่นหมองและมลพิษพร้อมกับ ผู้คนที่เป็นดัง มัจจุราช จิตใจโหดเหี้ยม  ในยามค่ำคืน เด็กหนุ่มจะต้องออกไปหาเศษอาหารเศษเนื้อต่างๆที่ตายลงจากสงครามและเนื้อที่ได้ก็จะเป็นเศษเนื้อของมนุษย์กินเพื่อ ประทังชีวิตไปวันๆก็เพราะว่าโลกขาดแขลนหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างไปกับสงครามเสียแล้วเนื้อมนุษย์จึงเป็นสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ร่างกายเด็กหนุ่มอ่อนแอขี้โลก ไม่สามารถที่จะต่อสู้เพื่อแย่งอาหาร กับใครเค้าได้ในยามเช้า ในยามค่ำคืนจึงเป็นเวลาที่ปลอดภัยของเด็กหนุ่มที่จะออกมาจากที่ซ่อน.. เด็กหนุ่มออกมาจากทีซ่อนเดินออกไปบนเส้นทางเดิมๆที่มักจะมีใครซักคนนอนตายอยู่แต่แปลก???ที่วันนี้เส้นทางกลับมืดมิดไรแสงสว่างเด็กหนุ่มเดินไปเรื่อยๆช้าๆทั้งความหิวโหยอันแสนทรอมารบวกกับความกลัวในความมืดทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าที่จะก้าวเท้าต่อไปแต่ในใจของเด็กหนุ่มนั้นยังมีความหวังที่จะเจออาหาร หรืออะไรซักอย่างที่ทำให้เด็กหนุ่มอิ่มท้องได้เด็กหนุ่มเดินไปบนเส้นทางที่เมื่อก่อนคุ้นเคยแต่วันนี้กับกลายเป็นเส้นทางที่ไมคุ้นเคยเอาซะเลยเด็กหนุ่มเดินไป เดินไปจนได้พบกับภาพรางๆในความมืด ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งสว่างขึ้น จนเห็นได้ว่า เป็นซอยเล็กๆข้างตึกปรักหักพังพอมีความสว่างเด็กนุ่มก็อุ่นใจเด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปในซอยเล็กๆที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนนั้น.....เด็กหนุ่มเดินไปจนเกือบสุดซอยดูเหมือนจะเป็นซอยตัน และทันใดนั้นเอง!!!เมื่อสายตาของเด็กหนุ่มได้กระพริบลงก็ได้ทำให้ซอยที่เหมือนจะตันกลับกลายเป็นทุ้งหญ้าๆเตียนๆแห่งหนึ่งบนท้องฟ้ามีดวงจันทร์ดวงมโหราฬสาดแสงลงมายังพื้นทุ้งหญ้าให้เขียวขจีดังทุ้งหญ้าในยามเช้าเด็กหนุ่มกลัวกับสิ่งที่ได้เห็น เพราะอยู่ๆฟ้าก็สว่างพระจันทร์ก็เต็มดวงแทนที่จะมืดมิดดังจันทร์ในข้างแรมแต่กลับสว่างเหมือนดวงจันทร์ในข้างขึ้นดังโลกทั้งโลกที่มืดมิดอยู่กลับสว่างขึ้นมาในชั่วพริบตาความหิวโหยเริ่มทวีคูณทำให้ความกลัวหายไปจากใจเด็กหนุ่ม  เด็กหนุ่มจึงเดินไปบน ทุ้งหญ้าที่เขียวขจีในยามค่ำคืนนั้นโดยไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเด็กหนุ่มเดินไปสายตากวาดไปรอบๆในใจขอให้เจอบางสิ่งที่กินได้แต่ถ้าหาไม้ได้เด็กหนุ่มก็จะกินหญ้าให้คลายความหิวซักนิดก็ยังดีจนสายตาของเด็กหนุ่มนั้นได้พบกับบ่างสิ่งบางอย่าง เด็กหนุ่มไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปหยิบขึ้นมาดูแต่เด็กหนุ่มกับต้องผิดหวังเพราะสิ่งที่หยิบขึ้นมาเป็นเพียงกล่องไม้สีดำเท่านั้นและตอนนี้กล่องไม้สีดำก็ได้ว่างอยู่บนมือเด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มจึงเปิดกล่องนั้นดูว่าจะมีอะไร ขณะเปิดนั้นเองก็มีแสงไฟสลัวออกมาจากกล่องยิ่งเปิดก็ยิ่งสว่างจนความสว่างคลอบคลุมทั่วทุ้งหญ้าแห่งนั้น เด็กหนุ่มไม่สามารถทนกับแสงสว่างงงได้ร้างกายของเด็กหนุ่มก็ฟุบลงไปนอนกับพื้นดินที่มีหญ้าลองรับอยู่.........ทันใดนั้นเอง!เด็กหนุ่มก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับสายตาอันสลัวๆของเด็กหนุ่มไม่นานนักดวงตาของเด็กหนุ่มก็ต้องต้องเบิกโพน!!!เมื่อพบว่าตนเองนั้นลอยอยู่บนอากาศมีเมฆลอยผ่านสายตา มี ดวงดาวและจันทร์ทรา ใหญ่โตอยู่ข้างหน้าเป็นภาพที่ทำให้เด็กหนุ่มนั้นตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่สิ่งที่แปลกและเหนือไปกว่านั้นร้างกายของเด็กหนุ่มแข็งแรงขึ้น พร้อมกับมีพลังคิดอะไรก็ปรากฏออกมาเมื่อคิดอะไรทุกอย่างก็จะเป็นอย่างที่คิดคิดจะสร้างก็สร้างได้ คิดจะทำลายก็ทำลายได้  ชั่ววูปของความคิด เด็กหนุ่มก็ได้ใช้พลังนั้นทำลายเมืองที่ตนเองอาศัยอยู่ ให้พังพินาศย่อยยับไป และ ขยายการทำลายไปทั่วโลก เป็นพลังทีแข็งแกร่งไม่มีผู้ใดทำอะไรกับเด็กหนุ่มได้เลยไม่มีเลยย.. ในใจของเด็กหนุ่มคิดเพียง สมควรแล้วที่ พวกมนุษย์นี้สังคมแสนเลวร้ายแบบนี้ ความคิดมนุษย์ทุกคนตอนนี้มันเลวทรามทำลายให้ย่อยยับไปกับโลกใบนี้ดีที่สุดแล้วเด็กหนุ่มในตอนนี้เหมือน มัจจุราชที่หลุดจากนรกมาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้ามนุษย์ทุกคนต่างหวาดกลัวความตายที่เด็กหนุ่มจะนำมาให้...วันเวลาผ่านเลยไปบรรยากาศบนโลกเย็นยะเยือกเมฆดำปกคลุมทั่วท้องฟ้า ทุกอย่างบนโลกเริ่มดับสูญ จากเด็กหนุ่มสู่วัยชราพลังที่ได้มาเริ่มถดถอย ภาพของการทำลายล้าง สะท้อนสู่จิตรใจ ชายชรา ความละอา อาลัยเริ่มบัง เกิด ชายแก่ ผู้คลุ้มคิดกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป พูดกับตัวเองในใจว่าเราคิดว่าเราทำลายความเลวทรามของโลกนี้ไปหมดแล้วทั้งมนุษย์และสิ่งก่อสร้างมากมายที่ ต้อง สลายพังพินาศไปแต่อย่างเดียวที่เรายังไม่ได้ทำลายคือความนึกคิดที่เลวทรามของมนุษย์พวกนั้นเป็นการทำลายที่สูญป่าวเสียจริงๆ และตัวเราเองก็ไม่ต่างจากมนุษย์พวกนั้นเลยแถมตัวเรายังเลวร้ายกว่ามนุษย์พวกนั้นเสียอีกเมื่อมีอำนาจเราก็เป็นอย่างมนุษย์พวกนั้น ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันมากมายเลยตอนนี้เราเลวลายเลวทรามกว่าทุกสิ่งสรรพบนโลกเสียแล้วเรามีพลังอำนาจมากมายแต่ไม่ช่วยให้เรามีความคิดทีดีและทำในสิ่งที่ดีขึ้นมาเลยมีแต่ความลุ่มหลงในอำนาจ จนนำไปสู่ความพินาศของทุกสรรพสิ่งชายชราคลุ่มคิดอยู่นาน ความเศร้าปกคลุมทั่วหัวใจชายชราชายชราลอยไปกับสายลมที่เย็นยะเยือก สายตามองลงไปยังโลกที่ตนเองทำลาย ทันใดนั้นเอง!!!สายตาของชายชราก็ไปพบกลับเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งไล่จับผีเสื้อเล่นอยู่ ชายชราคิดว่าตนเองนั้นทำลายทุกอย่างหมดแล้วแต่ยังเหลือเด็กน้อยคนนี้อยู่ ชายชราไม่รู้ว่าเด็กน้อยคนนี้รอดมาได้อย่างไงรู้เพียง  รอยยิ้มที่แสนสดใส และเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุข ของเด็กคนนี้ ทำให้ชายชรามีความสุขใจขึ้นมาชายชราได้แต่เฝ้ามองดูร้อยยิ้มและฟังเสียงหัวเราะอันแสนมีความสุขนั้น

ชายชราไม่คิดว่าจะได้เห็นได้ยินสิ่งใด สวยงามและมีคุณค่ามากมาย เท่ากับร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะนี้เลย เพราะที่ผ่านมาชายชรานั้นเห็นแต่ สีหน้าที่หวาดกลัว สีหน้าที่อาแค้นสีหน้าอันเศร้าหมองของผู้ที่โดนชายชราทำลายไปเท่านั้น มันจึงทำให้ชายชรามีความสุขใจกับสิ่งที่เห็นที่ได้ยินในตอนนี้ ชายชราเฝ้ามองและดูแลเด็กน้อยคนนี้ด้วยพลังของตนเองค่อยหาสิ่งต่างๆมาให้ หาสิ่งที่ทำให้เด็กน้อยอยู่ต่อไปในโลกที่ใกล้จะสลายนี้ แต่ชายชราไม่อาจให้เด็กน้อยคนนี้เห็นตนเองจึง อยู่แต่บนฟากฟ้า เฝ้ามองอยู่เท่านั้น เพราะชายชราตอนนี้เป็น มัจจุราชในความคิดของพวกมนุษย์ทุกคนไปเสียแล้วไม่มีใครอยากจะพบกับชายชราคนนีเลยในที่สุดวันเวลาก็มาถึงสังขารย่อมไม่เที่ยง ความทรอมารคุกคามกายชายชรา พลังที่ได้มาไม่ช่วยให้ชายชราหนีความตายไปได้ชายชรารู้ ชะตาตัวเองว่าจะต้องตายแล้ว ชายชราจึง ใช้พลังครั้งสุดท้ายเนรมิตกล่องไม้สีดำ แล้วใสพลัง ที่ได้มา ไปยังกล่องไม้สีดำนั้นและให้กล่องลอยไปยังเด็กน้อยผู้มีรอยยิ้มอันแสนสดใสชายชรากลายเป็นคนธรรมดากายล้วงหล่นลงสู่พื้นปฐพีกายชายชรากระจายแตกซ่านไปทั่วบริเวณแห่งความตายของชายชรา

......กล่องไม้สีดำได้ล่องลอยไปกับสายลมลอยไปยังเด็กน้อยผู้มีเสียงหัวเราะอันแสนสดใสนั้นเมื่อกล่องไม้สีดำได้อยู่ในมือเด็กน้อยแล้วนั้น เด็กน้อยได้เปิดกล่องดูว่ามีอะไรเด็กน้อยเห็นเพียงแสงสว่างจ้าสว่างจนเด็กน้อยทนไม่ไหวสลบล่วงไปยังพื้นดินตรงนั้นเอง...เด็กน้อยลืมตาอีกครั้งหลังจากที่สลบไปแสนนานเด็กน้อยลืมตาขึ้นมาก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้เห็นท้องฟ้าอันสดใสป่าไม้และทุ้งหญ้าอันเขียวขจีลมพัดสบายกายอากาศบริสุทธิ์แสงแดดที่อบอุ่นเด็กน้อยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรกับตัวเองเกินอะไรขึ้นกับโลกที่ใกล้จะพินาศเด็กน้อยคลุ่มคิดอยู่นาน ก็มีแสงสว่างจากท้องฟ้าปรากฏออกมาเด็กน้อยมองด้วยความสงสัย แสงสว่างค่อยๆหายไป และมีกระดาษแผ่นหนึ่งลอยลงมาจากฟากฟ้าลอยปลิวมายังมือเด็กน้อยเด็กน้อยดูกระดาษแผ่นนั้นแต่กระดาษนั้นเป็นกระดาษเปล่าทันใดนั้นเองก็มีเสียงพูดดังกึกก้องทั่วทองฟ้ารอบทุกทิศขี้นมาว่าจงสร้างโลกที่มีแต่เสียงหัวเราะอันสดใสสร้างสรรพสิ่งให้สวยงามสร้างความสุขให้เต็มพื้นแผ่นดินโลกสร้างลอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขดังความสุขความสดใสที่มีอยู่ในตัวเจ้าสร้างโลกในแบบของเจ้าป ล.กล่องไม้สีดำเมื่อเด็กหนุ่มฟังสียงนั้นจบทุกคำพูดที่ได้ยินก็กลายเป็นตัวอักษรลงไปในแผ่นกระดาษนั้นแล้ว ทุกอย่างของเผ่าพันธ์มนุษย์ในตอนนี้ก็ขึ้นอยู่ที่เด็กน้อยคนนี้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป...    

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน