หนาวน้ำค้างพร่างพรมห่มไอหนาว
ไอรักคราว ณ เช้านี้ลี้ลับหาย
แขนเคยหนุนอุ่นยามหลับกลับมลาย
ตอนนี้คล้ายกายแตกดับลับลานาง
เคยคลอเคลียพะเนียพร่ำเคยร่ำรัก
น้ำต้มผักมักว่าหวานกว่าตาลบ้าง
แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีรักน้ำผักจาง
รักไม่ค้างกลางใจเจ้าเราตรอมตรม
เคยสัญญาว่ารักพี่ไม่มีสอง
จะอยู่ครองปองแต่พี่ที่งามสม
ให้เชยชิดติดตามน้องที่น่าชม
ช่างรื่นรมย์ยามโลมเร้าเฝ้าแต่รอ
สาดแสงทองละอองน้ำย้ำเตือนข้า
ที่พรมมาจากฟ้าใสทำไมหนอ
หรือสงสารทรมานนักเพราะรักท้อ
จึงช่วยต่อก่อความฝันให้ฉันไง
ฝากสายลมที่พรมพริ้วละลิ่วล่อง
ไปบอกน้องมาครองรักอย่าผลักไส
รักของพี่นี้อ่อนนุ่มละมุนละไม
มาต่อใยแห่งไอรักกลีบดังเดิม
22 กันยายน 2545 11:45 น. - comment id 79010
ท่านจารย์ อย่าหาว่าศิษย์คิดบังอาจ เก่งฉกาจสามรรถเกิน เลยล่วงเพลิน มาเยินยก เป็นสาทกให้ชี้แจ้ง บ่ได้แกล้งหมิ่นท่าน อันกลอนกานต์ดั้นโศลก ศิษย์ก็ตกจิตประหม่า กลอนมันว่าถึงเรื่องรัก แสนสมัครภิรมย์รื่น ดุจดังคืนจันทร์กระจ่าง หยาดน้ำค้างสิพร่างโปรย ระบัดโชยวิถีใด ให้อุ่นไอพระพายพัด ริ้วระบัดพัดพรม ปิ่นปฐมท่านเป็นพระ แล้ใย ธ จึ่งรู้แจ้ง ดั่งแสดงได้ตามบท ที่จรดอักขรา ลาศลีลาชวนพิศ ตรองพินิจคิดวะหวาด โปรศประกาศ แก่ศิษย์ ด้วยเทอญ
