หนาวน้ำค้างพร่างพรมลมพัดพริ้ว
ช่างหวาบหวิวสยิวกายให้เหน็บหนาว
ทะเลหมอกละลอกคลื่นเป็นแนวยาว
หมอกเหมยพราวคราวโดนผิวสยิวทรวง
วิหกน้อยค่อยโผผินบินสู่ฟ้า
กางปีกอ้าอ่าอำไพในแดนสรวง
มวลยอดหญ้าท้าแรงลมที่โหมลวง
ดั่งจะร่วงทบพื้นบนผืนดิน
แจ้วจำเรียงเสียงไก่ร้องก้องป่ากว้าง
หมอกเหมยจางเริ่มห่างหายคล้ายคืนถิ่น
มวลบุปผารอแสงที่โรยริน
จรุงกลิ่นหอมฟุ้งรุ่งทิวา
ตะวันยอทอแสงแดงระยับ
เปล่งแสงจับกับหยดน้ำตามยอดหญ้า
เริ่มวันใหม่สดใสมาอีกครา
ได้ฟันฝ่าคืนหนาวอันยาวนาน
24 เมษายน 2552 14:52 น. - comment id 976541
แว่บมาทักทาย ดีจ้า นันฯ เห็นกลอน คีตกานท์ แล้วเดี๋ยวแวะไปเยี่ยมค่ะปล.ทำไมถึงเปลี่ยนนามปากกาเหรอคะ
.........

25 เมษายน 2552 14:44 น. - comment id 977096
สวัสดีงามๆยามบ่ายเจ้า แวะเข้ามาอ่านกลอน ใช้สำนวนได้พลิ้วนะเจ้า เยี่ยมๆเจ้า

25 เมษายน 2552 18:42 น. - comment id 977190
สวัสดีค่ะกลอนเพราะดีจังคะ
(ยามเช้าที่หนาวเหน็บ ก็ยังคงดีกว่า ยามเช้าที่ร้อนอบอ้าวแบบทุกวันนี้เนอะ)
