21 ตุลาคม 2548 23:26 น.
				
												
				
								แดนไกล ไลบีเรีย
		
					
				
     อยากจะร้องจนตายเป็นสายเลือด
อยากกรีดเชือดหัวใจให้หมูหมา
ชีวิตล้มเหลวแหลกแทบมรณา
เพราะเธอทำชีวาฉันตายไป
      เวลานี้ฉันไม่เหลือสักเนื้อนิด
เพราะคิดผิดรักเธอเผลอหลงไหล
เธอไม่คิดรักษาคุณน้ำใจ
ทิ้งฉันไปเยื่อใยไม่เคยมี
      มีใครช่วยฉันได้โปรดบอกหน่อย
อย่าให้ฉันมัวคอยต้องหลบหนี
จากห้วงรักลึกลับในฤดี
ให้ฉันมีชีวิตใหม่จากใจจริง
      ตอนนี้ฉันท้อแท้และหมดหวัง
เที่ยวประทังชีวีที่จมดิ่ง
ไร้ญาติมิตรไร้ที่ซึ่งจะพึ่งพิง
เมื่อทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะรักเธอ				
			 
			
				20 ตุลาคม 2548 17:26 น.
				
												
				
								แดนไกล ไลบีเรีย
		
					
				
เสียงสะล้อ  ซอซึง  ดังกึกก้อง
เหล่าสัตว์ต่าง  โห่ร้อง  ทำนองหวาน
กรีดหัวใจ  ให้ซาบซึ้ง  และชื่นบาน
สายธาร  ไหลเอื่อย  เรื่อยเรื่ยไป
ใบสน  ต้องลม  โบกสะบัด
ใบไผ่  ปลิวพัด  เอนไหว
จิ้งหรีด  กรีดร้อง  มิหมองใจ
ดนตรีแห่ง  พงไพร  ไพเราะจริง				
			 
			
				20 ตุลาคม 2548 17:20 น.
				
												
				
								แดนไกล ไลบีเรีย
		
					
				
"ร้อยเรื่องราว  เรียบเรียง  เป็นเสียงร้อง
กู่กึกก้อง  กล้าแกร่ง  แข็งขัน
แพรวพราว  เพราะพรึ้ง  ตะลึงพลัน
เจิดจ้า  ดุจจันทร์  มาเจื้อยเพลง"
     "ดอกหญ้า  พลิ้วไหว  ส่ายสะบัด
สกุณา  เหล่าสัตว์  รีบเร่ง
ต่างร้อง  พ้องประสาน  เป็นงานเพลง
บรรเลง  ให้โลกนี้  มีสุขเอย"				
			 
			
				20 ตุลาคม 2548 16:53 น.
				
												
				
								แดนไกล ไลบีเรีย
		
					
				
ท้องฟ้าที่ยังดูสวย...ก้อนเมฆที่ดูสวยงามเป็นปุยนุ่มดุจดั่งสำลี
ดูเมฆสีเทาหม่นก้อนนั้นสิ....?
เมฆก้อนที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านพระจันทร์
ดูสิ !!!   พระจันทร์ช่างสวยเหลือเกิน
ฉันอยากได้พระจันทร์นั้นมาครองเหลือเกิน
      แต่ถึงกระนั้น......
ฉันก็ยังไม่สามารถเอื้อมมือคว้าจันทร์เจ้าดวงน้อย ๆ ได้สักที
...พี่ชายของฉันนั่งอยู่ข้าง ๆ
ยิ้มเบา ๆ  อย่างเอ็นดูฉัน
อุ้มฉัน..ขึ้นเหนือไหล่
      ......แต่ฉันยังคงจ้องมองดูดวงจันทร์นั้นไว้
ตราบเท่าที่ฉันยังได้เอน....
...และพักพิงอยู่ในอ้อมอกของพี่ชายของฉัน
      บัดนี้...?
ฉันโตพอแล้ว..
แต่ฉันรู้ว่า..พี่ชายของฉันยังคงเฝ้ามองฉันอยู่
เหมือนดังที่ฉันเฝ้ามองดวงจัทร์ดวงนั้น
พี่ชายของฉันคงยิ้มให้ฉัน
เหมือนที่ฉันกำลังยิ้มให้กับดวงจันทร์
และบอกกับดวงจันทร์น้อย ๆ ว่า
"พี่ชายที่แสนดีของฉัน"
      ตอนนี้....
ฉันไม่มีพี่ชายอยู่เคียงข้าง
...ไม่มีพี่ชายที่คอยอุ้มฉัน
...ยิ้มให้ฉัน
...เล่นกับฉัน
และไม่มีคนคอยจูงมือฉัน
      ฉันยังนึกถึงภาพในอดีต
ที่ไหลผุดออกมาจากใจของฉัน
...ช่วงเวลาที่เราสองพี่น้องเดินเคียงกัน
พี่ชายจูงมือฉันไป
พร้อมกับมองท้องฟ้า....ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
และไกลเกินเอื้อม
      เวลานี้....
ฉันเชื่อว่า...พี่ชายของฉันยังคงมองดูฉันอยู่บนท้องฟ้า
ดังนั้น...ยามที่ฉันแหงนมองท้องฟ้านี้
จึงทำให้ฉันรู้สึกว่า
ฉันกับพี่ชายของฉัน...เรายังอยู่เคียงข้างกัน
..........ตลอดไป.............				
			 
			
				18 ตุลาคม 2548 03:24 น.
				
												
				
								แดนไกล ไลบีเรีย
		
					
				
      ท้องฟ้าที่ยังดูสวย...ก้อนเมฆที่ดูสวยงามเป็นปุยนุ่มดุจดั่งสำลี
ดูเมฆสีเทาหม่นก้อนนั้นสิ....?
เมฆก้อนที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านพระจันทร์
ดูสิ !!!   พระจันทร์ช่างสวยเหลือเกิน
ฉันอยากได้พระจันทร์นั้นมาครองเหลือเกิน
      แต่ถึงกระนั้น......
ฉันก็ยังไม่สามารถเอื้อมมือคว้าจันทร์เจ้าดวงน้อย ๆ ได้สักที
...พี่ชายของฉันนั่งอยู่ข้าง ๆ
ยิ้มเบา ๆ  อย่างเอ็นดูฉัน
อุ้มฉัน..ขึ้นเหนือไหล่
      ......แต่ฉันยังคงจ้องมองดูดวงจันทร์นั้นไว้
ตราบเท่าที่ฉันยังได้เอน....
...และพักพิงอยู่ในอ้อมอกของพี่ชายของฉัน
      บัดนี้...?
ฉันโตพอแล้ว..
แต่ฉันรู้ว่า..พี่ชายของฉันยังคงเฝ้ามองฉันอยู่
เหมือนดังที่ฉันเฝ้ามองดวงจัทร์ดวงนั้น
พี่ชายของฉันคงยิ้มให้ฉัน
เหมือนที่ฉันกำลังยิ้มให้กับดวงจันทร์
และบอกกับดวงจันทร์น้อย ๆ ว่า
"พี่ชายที่แสนดีของฉัน"
      ตอนนี้....
ฉันไม่มีพี่ชายอยู่เคียงข้าง
...ไม่มีพี่ชายที่คอยอุ้มฉัน
...ยิ้มให้ฉัน
...เล่นกับฉัน
และไม่มีคนคอยจูงมือฉัน
      ฉันยังนึกถึงภาพในอดีต
ที่ไหลผุดออกมาจากใจของฉัน
...ช่วงเวลาที่เราสองพี่น้องเดินเคียงกัน
พี่ชายจูงมือฉันไป
พร้อมกับมองท้องฟ้า....ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
และไกลเกินเอื้อม
      เวลานี้....
ฉันเชื่อว่า...พี่ชายของฉันยังคงมองดูฉันอยู่บนท้องฟ้า
ดังนั้น...ยามที่ฉันแหงนมองท้องฟ้านี้
จึงทำให้ฉันรู้สึกว่า
ฉันกับพี่ชายของฉัน...เรายังอยู่เคียงข้างกัน
..........ตลอดไป.............