7 สิงหาคม 2557 00:06 น.

นิยามความเป็นเธอ

Parinya

อยู่คนเดียวเที่ยวไปใจว่างเปล่า
ถึงเคยเหงาหงอยบ้างก็จางหาย
จนเธอมาปลุกฝันปั้นนิยาย
ด้วยมากมายหลายหลากฉากระทึก
จึงนิยามความเป็นเธออย่างเผลอไผล
ด้วยหลายนัยใหม่เก่าเรารู้สึก
จากการคิดทบทวนหวนย้อนนึก
ที่ผนึกลึกลงความทรงจำ
เธอเป็นคนแสนดี คนขี้เล่น
ไม่ว่างเว้นล่อหลอกหยอกให้ขำ
เป็นคนที่ถักทอช่อดอกคำ
เป็นลำนำคิดฮอดให้กอดชม
เป็นแรงบันดาลใจ คนในฝัน
เป็นทั้งผู้รังสรรค์ฝันสวยสม
เป็นคนคอยปลอบปลุกยามทุกข์ตรม
เป็นผ้าห่มกาพย์กลอนอันอ่อนโยน
เป็นคู่ซ้อมแบดมินตัน อันเข้าขา
เป็นเงาะล่อรจนาด้วยท่าโขน
ทำใบ้แบบแลบลิ้นปลิ้นตาโปน
เป็นทโมนพาย่องเที่ยวส่องนก
ทั้งเป็นความอบอุ่นอันคุ้นยิ่ง
ให้แอบอิงอุ่นไอในอ้อมอก
ช่วยคลายหนาวคราวสั่นจนงันงก
ไออุ่นปกหัวใจด้วยไมตรี
เป็นกำลังแรงใจในวันล้า
เป็นแสงจ้าสีทองส่องวิถี
ยามงกเงิ่นเดินบนถนนกวี
เป็นความฝันแสนดีที่สวยงาม
เป็นอื่นใดย่อยปลีกอีกก็ได้
ที่ว่างไว้ตรงนี้มีคำถาม
ถ้าจะเป็นใดต่อ เติมข้อความ
....................................
.....................................
....................................
...................................
...................................
4 สิงหาคม 2557 15:34 น.

ส่งกำลังใจ

Parinya

ยังมีเยื่อสายใยไมตรีจิต
ดึงหัวใจใกล้ชิดยามมิตรห่าง
ห่วงพะวงส่งไปไม่เคยจาง
อวยพรให้พลางพลางระหว่างพะวง
หวังให้เธอพ้นผ่านช่วงงานหนัก
อุปสรรคหักยุ่ยเป็ยผุยผง
ให้เธอได้ชูคออย่างทระนง
ยืนดำรงคงที่ไม่มีซวน
ฝากห่วงใยข้นเข้มไปเต็มที่
เจือหวังดีปลอบปลุกแทรกทุกส่วน
ให้การก้าวไปข้างหน้าที่ท้าทวน
มิมีใดก่อกวนชวนละวาง
อุปสรรคชีวีมีกระแส
ชวนให้แพหัวใจไหลลงล่าง
การต่อสู้คู่ควรเดินสวนทาง
ไปท่ามกลางคลื่นเห่ทะเลชีวิต
ยามพัวพันงานใดในสนาม
นั่นคล้ายกับสงครามที่ตามติด
อย่าห่วงหลังตั้งใจไปพิชิต
สำเร็จกิจมิตรข้างหลัง...ก็ยังรอ
3 สิงหาคม 2557 20:26 น.

คนขี้เล่น

Parinya

ฉันรู้จักเธอดี "คนขี้เล่น"
ไม่วายเว้นเล่นสนุกทุกวันวี่
ฉันเชื่อมาเสมอเธอแสนดี
แต่ชอบอำทำทีตีหน้าตาย
อย่าเลยอย่ามายั่วให้หัวปั่น
เรื่องจะยั่วหัวฉันนั้นอย่าหมาย
ฉันมีมุมซุ่มแอบอย่างแยบคาย
เพทุบายตื้นไปไม่ได้กิน
กลอนรัก(คน)กลกลอนอำนำเสนอ
เพราะว่าเธอรู้ทันฉันใจหิน
ที่สำคัญฉันฟังมาจนชาชิน
พูดอีกสักร้อยลิ้นก็ชินชา
หรือเป็นเพราะเป้าหมายมิใช่ฉัน
เล่นเย้าหยอกหลอกปั่น(หัว)ใครกันหนา
หรือเพราะเธอนั้นเห็นฉันเป็นปลา
ตายน้ำตื้นขึ้นมา  หรือว่าไร ?
หมายสวรรค์ฉันผ่านยานอวกาศ
หากมิเป็นวิทยาศาสตร์ อาจเหลวไหล
เพราะรู้ว่าสวรรค์นั้นแสนไกล
ฝันพาไปไม่ถึง...หากพึ่งพา
นั่งอ่านไป  ไยหัว ตัวสับสน
กลอนรักคน คนรักใคร ใจปุจฉา
เขียนให้งง คงเล่นกล ค้นปัญญา
"แอบเห็นตา ขี้เล่น เต้นระยิบ"
      
2 สิงหาคม 2557 21:16 น.

หัวผักกาดยักษ์

Parinya

         ตุณตาผิดคาด        ต้นหัวผักกาด
ปลูกไว้ใกล้บ้าน
        ในช่วงเวลา          ไม่ช้าไม่นาน
ทั้งใบทั้งก้าน                โตวันโตคืน
         เป็นผักกาดยักษ์   ใครเห็นใครทัก
ทำหน้าตาตื่น
        คุณตาดึงฉุด         มันสุดขัดขืน
กี่ครั้งยังยืน                   ต้นอยู่บนดิน
        มันไม่ขยับ            ก็ต้องบังคับ
คุณตาอยากกิน
       ยายถอนไม่หลุด    เหมือนฉุดแท่งหิน
เมื่อหลานได้ยิน            รีบมาช่วยดึง
       หลานไปตามหมา    หมาตามแมวมา
หนูอีกตัวหนึ่ง
      ต่างรวมพลัง            ฉุดรั้งขังขึง
ฮุยเล ! ดึง ดึง                ฮุยเล! ฮุยเล!
      ต้นผักกาดยักษ์         ขยับขยัก
หลุดมา ฮาเฮ
      คุณยายยินดี             ไม่มีรวนเร
คุณตาโมเม                   เชิญอยู่ร่วมงาน
       หัวผักกาดยักษ์       กลับกลายเป็นผัก
บนโต๊ะอาหาร
      อร่อยเอร็ด             เสร็จรับประทาน
ก่อนกลับไปบ้าน           อิ่มท้องทุกคน
10 สิงหาคม 2557 07:09 น.

หัวใจใส่กลอน กลบท สะบัดสะบิ้ง

Parinya

ดั้นด้นมาที่นี่กระวีกระวาด
เพือโอกาสหัวใจอาจใฝ่อาจฝัน
มิใช่เพื่อถูกบีบจนตีบจนตัน
เพราะมิรับสัมพันธ์พิลั่นพิลึก
ไม่อาจยอมรับรักพิพักพิพ่วน
โดยกระบวนรู้จักกระอักกระอึก
เห็นเพียงชื่อหรืออกระทกระทึก
ความรู้สึกของใครปานไฟปานฟืน
จะสร้างรักควรยื่นคำชื่นคำชม
แทนการใช้อารมณ์มาข่มมาขืน
จะคบใครจริงจังให้ยั่งให้ยืน
มิควรฝืนจนมิตรระอิดระอา
บรรยากาศการพบควรอบควรอุ่น
ความเมตตาการุญมีคุณมีค่า
การหมายปองครองคู่ใช่ปูใช่ปลา
อันซื้อหาที่ชอบมาครอบมาครอง
เขียนกลอนรักจงใจให้ไหวให้หวาน
ให้ผู้อ่านเอมอิ่มชวนยิ้มชวนย่อง
มิได้แถมแก้มอิ่มให้ลิ้มให้ลอง
แค่ร้อยกรองสะกิดต้องจิตต้องใจ
รักเถิดรักบทกวีที่สร้างที่สรรค์
แต่อย่าฝันละเมอจนเผลอจนไผล
แม้กลอนจะอบอุ่นละมุนละไม
แต่มิใช่หัวใจละไมละมุน
....................................
กลบทสะบัดสะบิ้ง มีข้อบัญญัติ
เพิ่มจากกลอนทั่วไปคือ
1)กำหนดให้ช่วงหลังของกลอนแต่ละวรรคมี 4 คำ
2)ใน 4 คำนั้น ให้คำที่ 1 กับ 3 ซ้ำกัน และ
                      ให้คำที่ 2 กับ 4 เป็นสัมผัสอักษร
3)ให้คำท้ายของช่วงกลาง สัมผัสสระกับคำที่ 2 ของ
    ช่วงหลัง ในแต่ละวรรคของกลอน
 อ้างอิง ใน กลบทศิริวิบุลกิตติ์ และ จารึกวัดพระเชตุพนฯ
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟParinya
Lovings  Parinya เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟParinya
Lovings  Parinya เลิฟ 0 คน
  Parinya
ไม่มีข้อความส่งถึงParinya