* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน คิดถึงเหลือเกิน *__~ * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ


ฉันรู้จักกับเธอก่อนงานแข่งขันกีฬาระหว่างหมู่บ้าน 
เธอไม่ใช่คนในหมู่บ้านของฉัน แต่เป็นนักศึกษาภาควิชาการเกษตรของมหาวิทยาลัยในเมือง 
ส่วนฉันยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งในหมู่บ้านที่เธอมาฝึกงาน 
ฉันได้รับเลือกให้เล่นกีฬาวอลเล่บอล รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี
พวกเราได้ไปฝึกซ้อมที่สนามกีฬาของโรงเรียนในตอนเย็นของทุกวัน 
ส่วนเธอก็ได้เล่นกีฬาตะกร้อ เพราะนักกีฬามีไม่พอ 
เธอและเพื่อน ๆ ก็เลยขอลงเล่นแทน 
เธอเป็นคนหน้าตาดีมาก มีสาว ๆ ในหมู่บ้านชอบเธอกันหลายคน 
รวมถึงสาวแก่แม่หม้ายด้วยนะ ในตอนนั้นเรายังไม่เคยคุยกันเลย 
ฉันไม่รู้จักชื่อเธอด้วยซ้ำไป อีกอย่างฉันต้องรีบกลับไปช่วยแม่ขายของที่บ้าน 
ก่อนการแข่งขัน 2 อาทิตย์ เธอและเพื่อน ๆ 
ได้มาช่วยซ้อมให้แก่ทีมวอลเล่บอลหญิง 
เธอรู้ไหมว่าฉันโกรธเธอมาก เพราะว่าเธอชอบตีบอลมาที่ฉัน 
แรงเธอเยอะมากด้วย ฉันรับทีไรเจ็บมือทุกที ฉันต้องไปให้แม่นวดแขนให้ทุกวัน
ฉันคิดว่าเธอต้องเกลียดฉันแน่ ๆ เลย   เธอถึงได้แกล้งฉันเจ็บ ๆ ทุกวัน
แรกเริ่ม เดิมที ที่พบ
ประสบ กับเธอ วันนั้น
รู้สึก เฉย เฉย ทุกวัน
ไม่หวั่น ไม่ไหว ในใจ
เคยโกรธ เธอบ้าง บางครั้ง
ที่พลั้ง ทำเจ็บ รู้ไหม
ไม่รู้ ว่าเพราะ อะไร
แต่ไม่ ค่อยกล้า ถามเธอ
* * * * * * * 
ก่อนการแข่งขัน 1 วัน เรานัดซ้อมกันตอนเช้า 
เพราะจะได้มีเวลาพักผ่อนในตอนเย็น 
ฉันไปถึงสนามกีฬาก่อนใคร 
ฉันรอเพื่อน ๆ ไม่นานนัก ฉันก็เห็นเธอเดินเข้ามาในสนาม
พร้อมดอกกุหลาบสีแดงในมือ 1 ดอก 
เธอเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับยื่นให้ 
เธอรู้ไหมว่าฉันเอื้อมมือไปรับด้วยความมึนงง 
แต่ก็ไม่กล้าถามเธอ ว่าเธอให้ฉันทำไม 
เธอก็แปลกนะยื่นดอกไม้ให้ แล้วก็ไม่พูดอะไรสักคำ 
จนกระทั่งเพื่อน ๆ ของเธอมาถึง 
เราก็เลยซ้อมเสริฟลูกไปพลาง ๆ ฉันกะว่าจะถามเธอหลังซ้อมเสร็จ 
ว่าเธอต้องการจะฝากกุหลาบไปให้ใครหรือเปล่า 
แต่ไม่ยักกะได้ถามแฮะ 
เพราะว่าพอซ้อมเสร็จเธอก็ถูกเพื่อนเธอลากไปในตัวเมือง
ส่วนฉันก็กลับบ้านพร้อมกุหลาบแดง 1 ดอกของเธอ
เออ.......... จะทิ้งไปทำไมล่ะ ของสวย ๆ งาม ๆ 
แถมยังหอมอีกด้วย 
ฉันเอาไปใส่แจกันไว้ในห้องนอน
ตอนกลางคืนสบาย..............ฝันดี............... 
กุหลาบสีแดง 1 ดอกของเธอส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทั้งคืน....
ตื่นเช้า รีบไป ฝึกซ้อม
ต้องยอม เนื่องด้วย หน้าที่
อยากเป็น นักกีฬา ที่ดี
จึงรี่ เร่งไป ก่อนใคร
พบเธอ ส่งกุ- หลาบมา
ทำหน้า งง งง สงสัย
ส่วนเธอ ไม่พูด อะไร
ยังไง กันนี่ งง งง
หลับซาบาย......... ทั้งคืน.............
* * * * * * * 
วันนี้แล้วสินะ เป็นวันแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้าน 
สำหรับวอลเล่บอลหญิงมีแค่ 5 ทีมเท่านั้น 
จึงใช้ระบบพบกันทุกทีม ชนะ 2 ใน 3 เซ็ท 
ปรากฎว่าทีมของฉันแพ้ในรอบชนะเลิศ ได้อันดับที่ 2 มาครอง
หลังจากนั้นฉันกับเพื่อน ๆ ก็ไปเชียร์กีฬาชนิดอื่น ๆ 
พอช่วงพักกลางวันฉันกับเพื่อน ๆ ก็ไปที่ร้านอาหาร 
ฉันเห็นเธอกับเพื่อน ๆ นั่งทานขนมอยู่ในร้าน 
ฉันเลือกที่นั่งที่หันหลังให้เธอ 
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเธอ แต่.......
เธอกลับสกิดแขนฉันพร้อมทั้งยื่นซองขนมมาให้ 
แล้วพูดว่ารางวัลปลอบใจที่ไม่ได้ถ้วยชนะเลิศ เพื่อน ๆ ของเธอ ฮาตรึม 
พร้อมทั้งแซวว่าน้องมีตั้งหลายคนทำไมเธอเจาะจงส่งขนมให้ฉัน 
เธอรู้ไหมว่าตอนนั้นฉันอายมาก ไม่กล้าพูดกับเธอเลย
เพื่อน ๆ ของฉันก็แซวว่าส่งสัยเธอจะชอบฉันแน่ ๆ เลย 
ไม่ได้เกลียดฉันอย่างที่ฉันเข้าใจ เพียงแต่เธออาจจะขี้อาย
ไม่กล้าแสดงออก หรือไม่เธอก็อาจจะเห็นว่าฉันยังเด็กเกินไป
ช่วงบ่าย ฉันและเพื่อน ๆ ได้ไปเชียร์ทีมตะกร้อชาย 
เป็นการตอบแทนที่พวกเธออุตสาห์มาฝึกซ้อมให้
ช่วงก่อนการแข่งขัน ฉันกับเพื่อนยืนเชียร์อยู่ขอบสนาม 
เธอมักจะมองมาทางเราบ่อย ๆ พวกเราเชียร์อย่างสนุกสนาน 
เพราะทั้งทีมของเธอ และคู่แข่งฝีมือสูสีกันมาก 
แต่สุดท้ายทีมของเธอก็แพ้ไปอย่างเฉียดฉิว 
แต่เธอก็ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส ฉันคิดว่าเธอคงจะมีน้ำใจนักกีฬาพอสมควรนะ 
และแล้วฉันก็ต้องรีบกลับบ้านไม่ได้อยู่จนถึงพิธีปิดการแข่งขัน 
ในตอนเย็นของวันนั้นมีสาวคนหนึ่ง (ฉันรู้สึกว่าเขาจะชอบเธอนะ) 
ได้เลี้ยงฉลองรองชนะเลิศสำหรับทีมตะกร้อชาย
เพื่อนของฉันก็ไปด้วย แต่ฉันไม่ได้ไปเพราะต้องช่วยแม่ขายของ 
เพื่อนฉันเล่าให้ฟังว่าเธอถามหาฉันใหญ่เลย 
ฉันก็เลยบอกเพื่อนว่า ถามหาทำไมล่ะ แน่จริงก็มาหาที่บ้านเลยสิ 
สงสัยเธอจะกลัวพี่ชายฉันมั้ง ก็เลยไม่กล้ามาหา
ฉันมีพี่ชายตั้ง 3 คน แต่ละคนตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย
และแล้ว ก็ถึง วันแข่ง
ต้องแย่ง ชิงชัย ในสอง
ทีมฉัน ได้รับ ครอบครอง
เป็นรอง แชมป์ใน ครั้งนั้น
ทีมเธอ ก็รับ ที่สอง
เราต้อง พ่ายแพ้ แข่งขัน
น้ำใจ นักกีฬา มีกัน
แบ่งปัน ความสุข  สู่ชุมชน
* * * * * * * 
เช้าวันหนึ่ง ฉันกำลังทำงานบ้านอยู่ 
ก็มีรถกระบะคนหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้าน 
และเห็นเธอกระโดดลงจากรถ
เธอเดินมาหาฉันในบ้าน เธอบอกว่าฝึกงานเสร็จแล้วนะ 
และกำลังจะกลับบ้าน มีเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านไปส่งกันหลายคน 
เธอชวนฉันให้ไปส่งเธอที่ในเมือง 
แต่ฉันไม่กล้าขออนุญาตแม่ ทั้ง ๆ ที่ใจฉันก็อยากเข้าไปในเมืองเหมือนกัน
แต่.... ถึงยังไงแม่ก็คงไม่อนุญาตอยู่ดี เธอก็เลยทำหน้าเศร้ากลับไป 
ฉันได้แต่มองตามเธอและเพื่อน ๆ ของเธอที่โบกมือลาฉันจนรถลับสายตา
หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้ข่าวคราวของเธอเป็นเวลานาน.........
จนกระทั่งวันหนึ่งฉันกลับจากไปเยี่ยมบ้าน
เพราะใกล้จะเปิดเทอม ๆ สุดท้ายของชีวิตนักเรียนมัธยมแล้ว 
เพื่อนฉันมาบอกว่าช่วงที่ฉันไม่อยู่ เธอและเพื่อน ๆ กลุ่มเดิม 
ได้มาที่หมู่บ้าน เธอได้ถามหาฉันด้วย 
เพื่อนฉันบอกว่าดูท่าทางเธอจะเสียใจที่ไม่เจอฉัน 
เธอได้ฝากที่อยู่ของเธอให้ฉัน เธอบอกเพื่อนฉันว่า
ถ้าฉันไม่ได้เกลียดเธอ ก็ให้ฉันเขียนจดหมายไปหาเธอบ้าง
ที่อยู่ของเธอฉันก็เก็บไว้เหมือนกันแหละ แต่สงสัยว่าจะเก็บไว้ดีเกินไปมั้ง
เก็บดีจนหาไม่เจอเลยไงล่ะ ^_^
หลังจากจบมัธยม 3 ฉันได้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ฯ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน 
บางครั้งตอนปิดเทอมฉันก็ทำงานพิเศษ 
พอฉันกลับบ้านเพื่อนฉันบอกว่าช่วงปิดเทอมเธอมาที่หมู่บ้านของฉัน 
เธอมักจะถามถึงฉันทุกครั้ง เพื่อนฉันบอกให้ฉันเขียนจดหมายถึงเธอ 
แต่ฉันก็ไม่ได้เขียนเพราะว่าฉันทำที่อยู่ของเธอหายไปเสียแล้ว 
เพื่อนฉันบอกว่าสงสารเธอนะ มาตั้งหลายครั้งแล้ว
แต่ไม่เคยเจอฉันเลยสักครั้งเดียว 
ดูท่าทางเธอต้องชอบฉันแน่ ๆ เลย 
เพื่อนฉันถามฉันว่าฉันคิดยังไงกับเธอ เกลียดเธอหรือเปล่า ฉันก็ตอบไม่ได้ 
ก็ฉันไม่รู้จริง ๆ นี่นา
แต่ที่แน่ ๆ ฉันน่ะไม่ได้เกลียดเธอหรอกนะ
และแล้ว ก็ถึง วันลา
เดินหน้า ไปสู่ เมืองหลวง
ไม่มี คำสัญ - ญาลวง
เพียงดวง ตาบอก ความนัย
เนื่องด้วย ยังเล็ก เด็กนัก
มิรู้จัก ความรัก เป็นไฉน
ไม่เคย คิดและ สนใจ
เก็บไว้ เพียงความ ทรงจำ
* * * * * * * 
เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนกระทั่งฉันเรียนจบปวช. 
เพื่อน ๆ ของฉันต่างก็แต่งงานกันไป มีลูกมีหลานกันเกือบหมดแล้ว 
เพราะว่าในหมู่บ้านของฉันส่วนใหญ่จะแต่งงานเร็ว 
แต่ฉันกลับไม่มีแฟนเลย อาจจะเป็นเพราะว่าฉัน
เรียนแต่โรงเรียนสตรีมาโดยตลอดหรือเปล่า 
จึงไม่ค่อยรู้จักผู้ชาย เพื่อนของฉันมักจะถามฉันว่ามีแฟนหรือยัง 
หรือว่าฉันรอเธออยู่ ฉันเองก็ตอบว่าเปล่า 
แต่ลึก ๆ ในใจนั้น ฉันยังคงคิดถึงเธอเสมอ 
ฉันก็ยังคงตอบคำถามของเพื่อนฉันไม่ได้ว่าฉันคิดยังไงกับเธอ 
อาจจะเป็นเพราะว่า ขณะนั้นฉันยังเด็กเกินไป 
ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง 
คงจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วมั้ง
ฉันก็ได้แต่หวังว่าเธอคงจะมีครอบครัวที่ดี 
มีความสุขกับครอบครัว
ถ้าเธอยังพอจำได้ว่าเคยรู้จักเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ 
หน้ากลม ๆ ตาโต ๆ ไว้ผมม้า 
สมัยที่เธอฝึกงาน ณ หมู่บ้านบนดอย
ขอให้เธอรู้ไว้ด้วยนะ ว่า
เด็กหญิงคนนั้นในตอนนี้เป็นสาวแล้วนะ 
แม้จะยังซนอยู่ก็ตาม ^_^ 
และก็ไม่ได้ไว้ผมม้าแล้วด้วย แต่
เปลี่ยนเป็นไว้ผมยาว     ยาวมากเลยหละ    
และแล้วก็กลับคืนมาเป็นผมสั้น  และไว้ผมม้า  เหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ อีกครั้ง
แต่ก็ยังคงความน่ารักใว้เหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ นะ  จริง ๆ ^^"
ถ้าเจอกันอีกครั้งหนึ่งเธอต้องจำไม่ได้แน่ ๆ ฉันมั่นใจ
ปล. 
อยากจะบอกเธอว่า  หลาย ๆ เวลาที่คิดถึงยามยังเยาว์
เธอเป็นคนหนึ่งที่ฉันคิดถึงมาก  คิดถึงมากจริง ๆ นะ  *__~
				
comments powered by Disqus
  • ดอกไม้ ใบหญ้า

    4 เมษายน 2554 12:20 น. - comment id 123233

    หนูหิ่ง..
    
    หนูหิ่งน่ารักกกและซุกซนขนาดนั้น
    
    ไม่มีใครที่จำหนูหิ่งไม่ได้หรอกนะจ๊ะ
    
    แล้วหนูิ่หิ่งคิดถึงใครอยู่..หนูหิ่งทำไมไม่บอก
    
    เขาคนนั้นละ..เก็บไว้ในใจไม่ดีนะ
    
    บ้างทีข้อความสั้นๆมันสื่อความหมายได้ดีแต่คำพูดที่ออกจากปากของหนูหิ่งกับให้คุณค่ามากกว่านะ
    
    ตอนนี้หนูหิ่งเข้าใจความรู้สึกตัวเองดีแล้วหรือ..ว่ามันคืออะไร
    
    ถ้ามั่นใจแล้วแสดงออกมาเถอะนะความรู้สึกไม่มีอะไรที่หน้ากลัวไปกว่า
    หัวใจตัวเองหรอกนะ
    
    เพราะบางทีคนๆนั้นอาจจะเฝ้ารอหนูหิ่งอยู่ก็ได้นะ
    
    หรืออาจจะรอจนน้อยใจหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้นะ
    
    เคยคิดว่าถ้าเก็บรักไว้ในใจของเราคนเดียวคือสิ่งที่ดีที่สุดไม่ต้องกลัวการพลัดพรากและความเจ็บช้ำ
    
    แต่ถึงวันหนึ่งกับรู้สึกว่าความสุขแท้จริงเป็นอย่างนี้เหรอ..
    
    ตอนนี้เลยใช้วิธีคิดใหม่ลองทำตามหัวใจตัวเองดูถ้ามันจะเจ็บก็จะเก็บมันไว้เป็นบทเรียน..
    
    ลองดูนะเป็นอย่างไรมาเล่าให้ฟังอีกนะ...จะคอยอ่านนะจ๊ะ
    
    
    
    46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif
  • หิ่งห้อยน้อยใจ

    4 เมษายน 2554 15:35 น. - comment id 123238

    สวัสดีเจ้า
    
    คุณดอกไม้ ใบหญ้า  :  หนูหิ่ง ฯ คิดถึงหลายคนมาก 
    
    บางคนบอกได้  
    
    บางคนได้บอก
    
    บางคนไม่ได้บอก
    
    บางคนบอกไม่ได้
    
    บางคนไม่รู้จะบอกยังไง
    
    บางคนไม่รู้จะบอกที่ไหน
    
    บางคนไม่รู้จะบอกทำไม
    
    บางคนไม่รู้จะบอกดีไหม
    
    ฯลฯ
    
    ส่วนพี่คนที่หนูหิ่ง ฯ เขียนถึงนี้
    
    จำได้ว่าชื่อพี่เอก  เป็นคนฝาง  จำได้แค่นี้เองค่ะ
    
    หนูหิ่ง ฯ เองก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกันว่า.... หนูหิ่ง ฯ คิดยังไงกับพี่เขา
    
    แต่....  ถ้าเจอกันอีกครั้ง  หนูหิ่ง ฯ คงจะตอบหัวใจตัวเองได้  ^^"
    
    ตอนนี้....  ก็ยังคงเป็น  คนหนึ่งในความทรงจำ.... ที่ล้ำค่า
    
    ตอนนี้....  ก็ยังคงเป็น  คนหนึ่งที่คิดถึงอยู่เสมอ
    
    ตอนนี้....  ก็ยังคงเป็น  คนหนึ่งที่ทำให้หนูหิ่ง ฯ รู้สึกสับสน  มึน และ งง
    
    
    ขอบคุณที่ตามอ่านนะคะ
    
    ว่าง ๆ จะเขียนมาให้อ่านใหม่ค่ะ
    
    
    11.gif11.gif11.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน