เมื่อปลายหนามแหลมขนาดจิ๋วสะกิดที่ผิวหนังเราบริเวณหน้าแข้ง ที่ตรงนั้นเราจึงรู้สึกว่าเจ็บ เราจึงรู้สึกว่ามีผิวหนังของเราที่ห่อหุ้มเราไว้ ใช่แล้วเรามักละเลย หรือมองข้ามสิ่งละอันพันละน้อยไป ทั้งที่อยู่ด้วยกันมานานเท่าอายุของเราเอง เราคงมัวแต่สนใจใบหน้ามากกว่า ผิวหนังตรงหน้าแข้งจึงเป็นส่วนที่พ้นจากความสนใจ จนไปถึงความใส่ใจ มิตรภาพก็เช่นกัน บ่อยครั้งที่เราได้รับเมล็ดพันธุ์แสนสวยและบอบบางจากใครอื่นอยู่บ่อยครั้ง แล้วหลังจากนั้นเราก็หลงลืมจะรดน้ำ พรวนดินให้ต้นมิตรภาพได้แตกกิ่งใบใหญ่โตเป็นไม้มิตรภาพยืนต้น เพราะจะมีเรื่องราวมากมายคล้ายวัชพืชเข้ามางอกงามเบียดบังพื้นที่ความทรงจำส่วนหนึ่งของเราตลอดเวลา .เราจึงจดจำอะไรไม่ไดมาก ถ้าไม่ใช่เรื่องที่จำเป็น สำคัญ มีประโยชน์ต่อตัวเรา ไม่ใช่ความผิดที่เราจะละเลย แต่ผิดที่คู่กรณีของเราก็เช่นกัน เมื่อมีโอกาสได้พบปะ ทักทายกันแล้ว ความหมายคงไม่ได้หยุดอยู่ที่ข้อมูลชั้นต้นทางกายภาพ มิฉะนั้นการพบกันอย่างตั้งใจของเราที่แตกต่างจากการที่มีเพื่อนสนิทในวัยเด็กมานัดพบเรา - - - เพียงเพื่อสรุปปิดการขายประกัน หรือ ชักชวนเข้าสู่สมาชิกการขายตรง จากวันเวลาแสนสวยวันหนึ่งในชีวิต ที่ได้มีโอกาสเปิดเวทีเล็กๆใจกลางกรุงเทพ เขตพระนคร วันที่เราได้เปิดให้สีมาเต้นระบำกัน ( งานแสดงภาพเขียน การเต้นระบำของสี ที่ร้านหนังสือเดินทาง) เป็นความเคอะเขินเปิ่นทึ่ม ที่ได้ริเชิญ พี่วิรัตน์ นักเขียนตัวจริงมาชมงานขนาดเล็กๆและแสนธรรมดา แต่ก็ได้รับเกียรติจากพี่อย่างน่าระทึกใจ เมื่อมีนักเขียนตัวจริงอื่นๆ มาสมทบด้วย แล้วจากการเต้นระบำของสีครั้งนั้น ค่อยเป็นจิ๊กซออีกตัวหนึ่งที่ค่อยต่อเติมความฝันที่ก่อตัวในใจมาเนิ่นนาน รู้ว่าการเขียนหนังสือนั้นไม่ง่ายนัก ไม่ง่ายไปกว่าการอ่านหนังสือเป็นไหนๆ ทำไมยังจะดุ่มเดินมาทางนี้ . ไฉนความมั่นคงทางวิชาชีพที่มีอยู่จึงไม่อาจทัดทานตัวเองได้ ไฉนความเป็นแม่ที่พร่ำหวง เพียรขอร้องอย่างหนักหน่วงไม่อาจเหนี่ยวรั้งไว้ได้ ขณะนี้ กลายเป็นคนที่เขียนหนังสือคนหนึ่ง ที่กำลังฝึกซ้อมขบวนความคิดที่ยังไม่ค่อยเป็นขบวนนักให้ได้เป็นแถวเป็นแนวกับเขาบ้าง ทุกวันหลังจากได้ลาออกจากราชการ ได้แต่ทำการสวนสนามตัวอักษรบนลานกว้างสนามกระดาษ เผื่อว่าขบวนพาเหรดตัวอักษรที่อุตส่าห์ฝึกฝนจะได้ไปสวนสนามในความประทับใจของคนรักหนังสือ ของคนหลงถ้อยคำ เช่นเดียวกับการที่เรานั้นเคยเป็นหนอนหนังสือ - - - แล้วฝันจะผลิยอดความคิดผ่านตัวอักษรให้หนอนหนังสือได้ลิ้มรสบ้าง จึงเป็นหมายเหตุวรรคตอนหนึ่งที่คงจะแรงพอจะสั่นกระเพื่อมผิวหน้าของบ่อน้ำแห่งการลืมเลือนได้กระฉอกไหวว่า ครั้งหนึ่ง. ยังมีความเอ็นดูที่พี่วิรัตน์ได้มอบให้ กำลังจะแปรรูปออกมาเป็นการสวนสนามของตัวอักษร คล้อยหลังผ่านการเต้นระบำของสีเมื่อหลายปีก่อน
17 มกราคม 2548 09:22 น. - comment id 82126
มาดูความไหวกระเพื่อมแห่งอักษร โลกอักษรยังเปิดกว้างมากมายนักนะคะ เราคงจะช่วยกัน ซึมซับความรักในอักษร ไว้ต่อเนื่องกันไป... ยินดีที่ได้มาอ่านอีกครั้ง
17 มกราคม 2548 12:59 น. - comment id 82142
คงกังวานเช่นกังสดาล ณ ชายคาโบสถ์เก่าๆแถวชนบท ไม่ใช่สัญญาณคมชัด 2 วัตต์อย่างใครเขาที่มีโอกาสมากกว่าในวันวัย แต่ชอบใจที่จะมีการแลกเปลี่ยนอย่างเข้มข้นในความหมาย แต่เบาบางในการปะทะ ปีกแห่งผีเสื้อเผยอนิด อาจมีพายุโหม แล้วปีกแห่งพญาอินทรีย์ขยับไหว อาจทำให้ซูนามิเกิดขึ้นตามทฤษฎีutterfly effect จะกระเพื่อมไหวไปเรื่อยๆเปื่อยๆ เหมือนรำระบำชาวเกาะ เสียงเพราะเสนาะจับใจ สายน้ำหลั่งไหล ๆ กระเทาะหาดทรายคนตายเป็นเบือ..เอ๊ย...ดังครืนๆ (กระเพื่อมไหวไปนิด) แหะ แหะ