24 กุมภาพันธ์ 2550 06:05 น.

ระหว่างกลาง

invisble

"Beginnings are scrary. Endings are usually sad, but it's what's in the middle that counts."
"การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่น่ากลัว  จุดจบมักจะแสนเศร้า  แต่สิ่งสำคัญคือเรื่องราวที่อยู่ระหว่างกลางของทั้งสองสิ่งนี้"

                                                              จากหนังสือ Hope Floats(1998)


จะแปลกอะไร
หากเราพบเจอความกลัว  และความโศรกเศร้า
จากเรื่องราวที่ทำให้ต้องทุกข์ใจ
เศร้าเสียบ้าง  ทุกข์เสียบ้าง  ร้องไห้เสียบ้าง
ให้เรารู้ว่าไม่ได้ถูกห่อหุ้มด้วยความหลอกลวงของตัวเอง
ยอมรับมันด้วยใจเถิดว่า
ความรู้สึกเหล่านั้นล้วนเป็นสีสันของชีวิต
ความทุกข์ทับถมเหมือนโคลนตมที่ไร้ประโยชน์
แต่มันอุดมไปด้วยคุณค่าในตัวของมันเอง
ทุกการเริ่มต้น  และทุกจุดจบ
อาจเป็นสิ่งที่เกินคาดเดา  และมันคือโคลนตม
แต่เรื่องราวและสิ่งที่น่าจดจำ
จะเกิดขึ้นท่ามกลางความน่าชัง
อันอุดมไปด้วยบทเรียนมีค่าเกินคาดเดา				
7 มกราคม 2550 11:02 น.

วิธีสลัดความเศร้า

invisble

เคยไหมคะ  แบบว่า....อยากร้องไห้ก็ไม่มีน้ำตา (หรือว่าน้ำตาหมดไปจากต่อมน้ำตาแล้วก็ไม่รู้สินะ) 
บางวันเศร้ามาก  เหงามาก  อยากมีใครสักคนมานั่งคุยเป็นเพื่อนมาอยู่ใกล้ๆ  แต่พอมีเพื่อนมานั่งคุยด้วยเรากลับรู้สึกไม่มีความสุขหนักกว่าช่วงเวลาที่เราอยู่คนเดียวเสียอีก..............
	วันนี้ฉันจะมาบอกถึงวิธีที่ฉันใช้ในการกำจัดความเสียใจ  ความเศร้าของฉัน
วิธีที่ 1  ร้องไห้ไปเลยค่ะ  ร้องไห้จนไม่ให้มันเหลือน้ำตาเลย  ร้องต่อไปจนตาบวม  ดูสิว่าจะร้องได้สักกี่วัน  แต่    คำเตือน   ควรร้องไห้ในห้องนอนนะคะ  อย่าไปร้องที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน  เดี๋ยวเขาจะสมเพชเอา

วิธีที่ 2  ไปร้านขายหนังสือเลยค่ะ  ซื้อมาเลยหนังสือปรัชญา  หรือหนังสือประเภท  ให้กำลังใจคนที่มีปัญหาในเรื่องความรักอ่ะ  (ตัวอย่างนะคะ  *อกหักใช่ไหมไม่ตายหรอก  หรือหนังสือของบริษัทใยไหมอ่ะ  ซื้อมาเลยค่ะ)  อ่านไปเลยค่ะ  อ่านทั้งวัน  อ่านแล้วคิดด้วยนะคะ  อย่าปล่อยให้ตัวเองมีเวลาว่าง  แม้แต่ในห้องน้ำคุณก็ควรเอาเข้าไปอ่านด้วยนะคะ

วิธีที่ 3  ไปดูหนังค่ะ  หรือว่าถ้าไม่อยากออกไปเจอผู้คนมากมาย  ซื้อมาดูที่บ้านเลยค่ะ  ซื้อมาให้หลากหลายอารมณ์นะคะ  โดยเฉพาะหนังที่ผู้หญิงอกหักอ่ะ  ดูไปเถอะค่ะ  อย่าไปคิดว่ากำลังเศร้าเสียใจแล้วให้ไปดูหนังประเภทนั้นนะคะ  ที่ให้ดูเนี่ยเป็นเพราะว่า  อยากให้เห็นว่า  คนอื่นเขาอาจเจอมาหนักกว่าเราอีก  อย่างเราเนี่ยจิ๊บจ๊อยค่ะ

วิธีที่ 4  งานอดิเรกค่ะ  อยากทำอะไรทำไปเลยค่ะ  เช่น  วาดรูป  หัดเล่นกีต้าร์  ไปร้านเสริมสวยแต่งสวยค่ะ  เสื้อผ้าที่เวลาเราคบกับเขา  เขามักจะห้ามไม่ให้เราใส่  ใส่ไปเลยค่ะ  ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เราอิสระที่สุด  เอาความอยากที่เราเคยอยากทำโน่นทำนี่  แต่งโน่นแต่งนี้  เอาออกมาให้หมด  

อย่าพยายามคุยเรื่องที่เรากำลังเผชิญกับใครนะคะ  จริงอยู่ที่บางคนอาจจะพูดให้กำลังใจ  แต่คนเราไม่เหมือนกันนะคะ  การพูดให้กำลังใจเนี่ย  บางคนก็แบบว่าอ้อมๆ  ให้เราคิดในความหวังดีๆ  ว่าสักวันเขาจะกลับมา  แต่บางคนก็ประมาณว่า  โอ้ยไอ้ผู้ชายเฮงซวยอย่างนี้  อย่าไปรักมันเลยมันไม่มีวันกลับมาหรอก  อะไรประมาณเนี้ย  มันจะยิ่งทำให้เราคิดหนักไปใหญ่  อยู่คนเดียวไปสักพัก  แล้วคุณก้อค่อยๆ ชินกับมันค่ะ
ทุกวันนี้ฉันก็กำลังทำอยู่ค่ะ  อยากลืมเขาแต่ลืมไม่ได้  อิอิ				
2 พฤศจิกายน 2549 11:20 น.

อยากทำอะไรทำไปเถอะ

invisble

ตอนเด็กๆ  พ่อเคยสอนฉันว่า  
จงอย่าเสียใจในสิ่งที่เราได้ทำผ่านไปแล้ว  แต่จงเสียใจในสิ่งที่เราอยากทำ หรือคิดอยากจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ
คนที่ทำผิดคือคนที่ได้ทำ  ส่วนคนที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลยคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย

ตอนนั้นฉันยังไม่เข้าใจความหมายมันหรอกนะ  ก็เพราะความเป็นเด็ก  ก็เพียงแค่ฟังแล้วก็ผ่านไป  แล้วหันไปสนใจกับสิ่งที่เด็กๆ  ควรจะทำ

แต่มาถึงวันนี้  วันที่ฉันได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร  มีประสบการณ์มากขึ้น  มีความเป็นผู้ใหญ่ทั้งความคิดและร่างกายอย่างเต็มตัว  ฉันจึงเข้าใจว่าความหมายที่พ่อฉันเคยสอนนั้นมันคืออะไร

ใช่สินะ  ความฝันของฉันมันมีหลายอย่างมาก  และฉันก็ทำมันได้หลายอย่างแล้ว  แต่บางอย่างที่ฉันยังไม่ได้ทำและมันก็สายเกินไปแล้วนั้น  มันทำให้ฉันเสียใจมาก  ส่วนสิ่งที่ฉันทำไปแล้ว  ใช่มันอาจจะผิดบ้างพลาดบ้างตามประสาของมนุษย์ธรรมดา  นั่นนะฉันไม่เสียใจเลย  เพราะอย่างไรฉันก็ได้ทำไปแล้ว  และมันก็เป็นการตัดสินใจของฉันด้วย

เช่นเดียวกัน  กับการที่ฉันตัดสินใจรักชายคนหนึ่ง  ถึงแม้วันนี้เขาอาจจะไม่เห็นคุณค่าของฉันแล้วก็ตาม  แต่ยังไงฉันก็ดีใจที่ฉันได้รักเขา  ที่ฉันได้เรียนรู้จักความรัก  การให้  การดูแลเอาใจใส่  ฉันอาจเคยแทบเป็นบ้ากับการที่เขาเงียบหายไป  แต่วันนี้ฉันรู้แล้วว่า  

ความรักที่แท้จริง  คือการได้รัก  การให้รัก  และไม่หวังอะไรตอบแทน  ฉันมีความสุขที่ยังคงรักเขาคนนั้นตลอดไป  แม้วันนี้เขาจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม  แต่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยรักคนธรรมดาอย่างฉัน  แค่นี้ก็สุขล่ะ

ความรักไม่ได้โหดร้าย  แต่คนต่างหากที่กำหนดให้ความรักเป็นไปในรูปแบบต่างๆ  หากผิดหวังอย่าโทษความรัก  จงถือว่านั่นนะคือประสบการณ์ ว่า  เกิดมาชีวิตนี้  ก็ยังมีคนให้เรารักและเขาก็เคยบอกรักเรา  ถึงแม้ไม่ยาวนาน  แต่มันก็มีความหวานอยู่ในตัว

คนที่มีคู่  รักกันให้มากๆนะคะ  ส่วนคนที่อกหัก  ก็ให้คิดว่าควรจะรักต่อไปหรือเลิกรักดี  

ส่วนฉัน  ฉันเลือกที่จะรักต่อไปด้วยหัวใจที่มั่นคง				
22 ตุลาคม 2549 09:54 น.

คำสอนพ่อ

invisble

หลายปีผ่านไป  ฉันนั่งคิดย้อนกลับไปในวันวาน  วันที่ฉันเคยมีครอบครัวที่สมบูรณ์  พร้อมหน้าพ่อและแม่  ช่วงนั้นชีวิตไม่ได้สุขสบายอะไรมากมาย  ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย  แต่ความสุขในครอบครัวนี่สิที่ฉันภูมิใจ  แต่แล้ววันหนึ่ง  หัวหน้าครอบครัวของฉันก็เกิดอุบัติเหตุตกจากหลังคาบ้าน  หมอวินิจฉัยแล้วว่า  กระดูสันหลังช่วงรอยต่อแตกร้าว  ไม่สามารถเดินได้  หากต้องการรักษาให้เดินได้  ต้องใช้เงินประมาณ  2  แสนบาทในการผ่าตัดเพื่อเอาเหล็กเข้าไปดามกระดูกไว้  ในช่วงนั้นอย่าว่าแต่เงินแสนเลย  เงินพันก็หาอย่างยากลำบาก  พ่อฉันจึงต้องนอนอยู่อย่างนั้น  ฉันและแม่จะต้องคอยเปลี่ยนเวรกันดูพ่อ  ก่อนที่ฉันจะไปทำงานในตอนเช้าฉันจะต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของท่านก่อน  และคอยดูแลเวลาพ่อขับถ่ายให้เรียบร้อย  ส่วนพักเที่ยงฉันก็ต้องรีบขับรถกลับมาดูแลท่าน  ช่วงเย็นก่อนไปเรียนฉันก็จะต้องรีบกลับมาดูแลท่านและรีบไปเรียน  ส่วนกลางคืนแม่ฉันจะเป็นคนคอยเฝ้าพ่อ  เป็นอยู่อย่างนี้จนปีที่ 4 เป็นปีสุดท้ายที่ฉันเรียนจบปริญญาตรี ภาค กศ.ปช. ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2  ช่วงนี้มันเป็นช่วงที่ฉันออกจากงานเพื่อมาเฝ้าไข้พ่อ  เราคุยกันหลายเรื่อง
ป๊าจ๋า  ป๊าต้องหายนะ  หนูขอเวลาทำงาน 2 ปี เพื่อนำเงินมารักษาป๊า แล้วจะใช้หนี้สินให้หมด
  หลังจากนั้นเราก็ไปเที่ยวกันนะ  ไปเที่ยวไหนดีนะป๊า
ไปทะเลกันดีกว่านะ  เราไปกัน 3 คนพ่อแม่ลูก   ฉันพูดด้วยรอยยิ้มเพื่อหวังให้พ่อของฉันสบายใจ
ท่านยิ้ม  แล้วเอามือลูบศีรษะฉัน  และพูดด้วยถ้อยคำที่ฟังแล้วช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน
ป๊าอยากให้ลูกจำไว้นะ  จริงอยู่ลูกเกิดมาเป็นหญิง  แต่ลูกสาวของป๊าเป็นคนที่มีความอดทน ฉลาด รู้คุณคน
ป๊าอยากให้หนูสามารถทำงานได้ทุกอย่าง หนักเอาเบาสู้  อย่าท้อกับชีวิต  ทำงานที่สุจริต  อย่าไปเบียดเบียนใคร
และที่สำคัญอย่าคิดพึ่งพาใคร  อย่าคิดว่าเกิดเป็นหญิงพอแต่งงานมีสามีไปแล้ว  เค้าจะเลี้ยงเรา  ถ้าเราเกิดไปได้กับคนที่ไม่เอาไหนขึ้นมา  เราจะลำบาก

นี่คือคำที่พ่อฉันเคยสอนไว้ 
วันเวลาผ่านมาได้อีกไม่กี่เดือนหลังจากฉันเรียนจบ  พ่อฉันอาเจียนเป็นเลือด  ขับถ่ายเป็นเลือด  ฉันต้องรีบนำท่านส่ง  รพ. ประจำจังหวัดโดยด่วน  และฉันขอร้องให้ทางคณะแพทย์ตรวจให้ละเอียดว่าท่านเป็นอะไร  ถึงได้เป็นหนักขนาดนี้  ฉันบอกกับทางคณะแพทย์ว่าฉันจะไม่ใช้สิทธิ์ในการรักษาของบัตร  30  บาท  ฉันยอมหาเงินสดมาจ่ายให้  แต่ขอเพียงตรวจเช็คให้ละเอียดเท่านั้น
ผลสรุปจากการที่พ่อฉันต้องกินยาแก้อักเสบ  และยารักษาโรคเกี่ยวกับกระดูกมานาน  ทำให้ตับทำงานหนักจนกลายเป็นมะเร็งตับไปโดยปริยาย  แถมพ่วงโรคมาอีก คือ  ลำไส้อ่อนโป่งพอง  ลำไส้ใหญ่และกระเพาะอักเสบอย่างรุนแรงจนเป็นแผลเหวอะ  เกร็ดเลือดต่ำมาก  ทางคณะแพทย์บอกต่อหน้าฉันและพ่อของฉันว่า  
ตอนนี้คนไข้อยู่ได้ก็เพียงเพราะ  เลือดกับน้ำเกลือที่ให้  เพราะตอนนี้ตับทำงานไม่ได้แล้ว  กระเพาะก็ไม่สามารถรับอาหารได้

พ่อของฉันได้ฟังดังนั้นท่านก็ขอร้องให้ฉันพากลับบ้าน  ท่านพูดเพียงว่า  
พาป๊ากลับบ้านเถอะลูก ถ้าตาย  ป๊าขอไปตายอยู่ที่บ้านของเรา ป๊าขออยู่บ้านสัก 5 วัน  นะลูกนะ ถ้ารักป๊า ทำตามที่ป๊าขอนะลูก
ฉันทำตามที่พ่อฉันต้องการ  ท่านกลับมาอยู่บ้าน  ท่านอยากกินอะไร  ฉันยอมให้ท่านกินหมดทุกอย่าง  ท่านคุยเก่ง  ท่านขอร้องให้ตัดผม  โกนหนวดเคราให้  ช่วงเวลาที่ท่านอยู่บ้านท่านเริ่มไม่มีความรู้สึกจากปลายเท้ามาเรื่อยๆ  จนถึงท้อง   และแล้วเวลาที่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะมาถึงได้รวดเร็วขนาดนั้นมันก็มาถึงจนได้ เป็นวันที่ 5 ที่พ่อฉันกลับมาอยู่บ้าน
ในคืนวันพุธที่  14  สิงหาคม  2545  เวลาประมาณ  23.10 น.  อยู่ๆ พ่อฉันหันหน้าไปทางประตูบ้าน  สุนัขก็หอนกันโหยหวน  แล้วพ่อก็พูดขึ้นมาลอยๆ ว่า  ไปก่อน  เดี๋ยวตามไป  และท่านก็หันมาบอกฉันว่า
ป๊าหิวน้ำ  ออกร้อนข้างใน  ขอน้ำกินหน่อย  ท่านพูดออกมาด้วยความยากลำบาก
แม่ฉันได้เอาน้ำให้พ่อดื่ม  แต่แล้วตาของท่านก็ค้าง  ลิ้นแข็งทื่อ  ฉันรู้ในวินาทีนั้นเองว่านี่คงเป็นนาทีสุดท้ายของพ่อ  แม่ฉันใส่เสื้อผ้าให้พ่อ  ให้พ่อกำเงินไว้  แล้วบอกว่า
พี่  พี่ห่วงลูกหรอ
พ่อฉันพยักหน้าแล้วครางออกมาจากในลำคอว่า   อืมมมมมมมมมมมมม
พี่ ไม่ต้องห่วงนะ  ฉันจะดูแลลูกของเราเอง  หนี้สินพี่ก็ไม่ต้องห่วง  ฉันกับลูกจะช่วยกันใช้
พี่รำลึกถึงพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  ไว้นะ
พ่อฉันก็พยักหน้าอีก  ฉันร้องไห้  กอดพ่อไว้  
ป๊าจ๋า  ป๊าอย่าทิ้งหนูไปนะ
พ่อฉันพยายามที่จะหันหน้ามาหาฉัน  น้ำตาไหล  
ป๊าจ๋า  ป๊าอย่าร้องไห้นะ หนูรักป๊านะ
ท่านก็ครางรับ   อือออออออออออออออออ
แม่ฉันเอามือไปปิดตาพ่อฉัน  แล้วลมหายใจก็เริ่มแผ่วลงจนสิ้นไป
ฉันนอนกอดศพพ่อจนรุ่งเช้า  
..
เมื่อก่อนตอนมีพ่ออยู่  แม้ท่านไม่สามารถช่วยอะไรได้  แต่ท่านก็ยังเป็นกำลังใจให้ฉัน  เหนื่อยจากการงานการเรียน พอมาเห็นหน้าท่าน  ฉันก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง  คิดแค่ว่าฉันต้องสู้เพื่อพ่อของฉัน  แต่ตอนนี้เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด  ก็ไม่สามารถเห็นท่านมานอนให้กำลังใจฉันได้  มีเพียงแม่คนเดียวเท่านั้น

มาถึงวันนี้ฉันมีพร้อมหมดทุกอย่างด้วยความมานะพยายาม  มีกิจการเป็นของตัวเอง  หนีสิ้นที่มีฉันใช้จนหมด แม่ฉันไม่ได้ลำบากแล้ว  แต่ทำไม ทำไมในตอนนั้น  ตอนที่พ่อฉันป่วยฉันไม่สามารถหาเงินมารักษาพ่อฉันได้  ฉันไม่สามารถทำตามความฝันของฉันได้  ฉันไม่สามารถพาพ่อของฉันไปเที่ยวทะเลด้วยกันได้  ฉันเสียใจเหลือเกิน...
.
ฉันมีวันนี้ได้ก็เพราะคำสอนของท่าน
ป๊าอยากให้ลูกจำไว้นะ  จริงอยู่ลูกเกิดมาเป็นหญิง  แต่ลูกสาวของป๊าเป็นคนที่มีความอดทน ฉลาด รู้คุณคน
ป๊าอยากให้หนูสามารถทำงานได้ทุกอย่าง หนักเอาเบาสู้  อย่าท้อกับชีวิต  ทำงานที่สุจริต  อย่าไปเบียดเบียนใคร
และที่สำคัญอย่าคิดพึ่งพาใคร  อย่าคิดว่าเกิดเป็นหญิงพอแต่งงานมีสามีไปแล้ว  เค้าจะเลี้ยงเรา  ถ้าเราเกิดไปได้กับคนที่ไม่เอาไหนขึ้นมา  เราจะลำบาก
ฉันอยากให้ท่านรับรู้เหลือเกินว่า  ป๊าจ๋า  หนูรักป๊าเหลือเกิน  ไม่ว่าชาติไหนๆ หนูขอเกิดเป็นลูกของป๊าทุกชาติไป				
21 ตุลาคม 2549 11:28 น.

ข้อความในวันหวาน

invisble

Go to bed dai law na..  The boss just called and told me that I have to work today, so have a good night na

Send me a sms when you wake up na..  So I can call you na

Im going to work now na kon-d, so go to bed dai law na.. Love you na

Would you please Stop saying that you are not gonna be with me as long as I want, stop saying like you wont live long You have to be with me. You have to.. Understand that?  I need you

My life seems so quiet and slowIt is nothing if I have to live without youJust want you to know that you mean so much to meAnd no one can change it

Im at the smoke shop naI think I will be back home around 09.00 am.(time of Thai) so you can eat first na Love you mak na

I just woke up na.. And now Im outside eating.. Miss you mak mak na.. Love you na.. Wake up law call me na

 นี่เป็นเพียงข้อความบางส่วนที่  คนที่เคยรักฉัน  เขาส่งให้ฉันทุกวัน  ในวันหวาน  แต่ในวันนี้  ไม่มีแม้แต่เสียงเรียกเข้าที่เป็นของเขาเลย  เขาหายเงียบไป  ฉันทำผิดอะไร  นั่งทบทวนดูแล้ว  ไม่เลยนะ  ฉันไม่เคยทำผิดต่อเขาเลยสักครั้ง
ฉันยังคงเหมือนเดิม  ทุ่มเทความรัก ความคิดถึง  ซื่อสัตย์ต่อเขาเสมอ  แม้รู้ว่าคงไม่มีวันได้เขาคนเดิมของฉันกลับมา  รู้ว่าอนาคตที่ฉันเคยวาดไว้  มันมลายหายสิ้นไปแล้ว  โดยที่ไม่มีคำล่ำลาจากชายคนรักสักคำ   ถ้าถามว่าเจ็บไหม  
เจ็บสิ  เจ็บมาก  ให้ฉันเจ็บป่วยทางกาย  ฉันว่ามันคงไม่เจ็บเท่าทางจิตใจหรอก
ร้องไห้ไหม
ร้องสิ  ร้องไห้ทุกวัน  ซุกตัวอยู่ในห้องกว้าง  ที่รู้สึกถึงความอ้างว้างเดียวดายเพียงลำพัง  นอนกอดผ้าเช็ดตัวของเขา  นอนกอดจูบรูปภาพที่ถ่ายคู่กัน  นอนลูบคลำหมอน  ที่นอน  ในส่วนที่เขาเคยนอน  รองเท้าที่เขาใส่  ฉันก็นำมาขัดล้างอย่างดี  รอสักวันว่า  คนดีของฉันจะกลับมาใส่มัน แม้รู้ว่าโอกาสมันมีน้อยมาก  แต่ฉันก็ยังหวัง....หวังว่าสักวัน...ความจงรักภักดีของฉันจะอยู่ในสายตาของเขา    เขาจะเห็นคุณค่าของฉันบ้างก็เท่านั้น...เท่านั้นจริงๆ........				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟinvisble
Lovings  invisble เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟinvisble
Lovings  invisble เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟinvisble
Lovings  invisble เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงinvisble