20 พฤศจิกายน 2548 00:44 น.

เสี้ยวแสงในยามรัตติกาล..

Melodies of Life

ณ  ต้นลำพูแห่งหนึ่ง ในยามค่ำคืนที่มืดมิดสนิทแสงนั้น จะมีก็เพียงแต่แสงจันทร์ และแสงดาวเท่านั้นที่โดดเด่น แต่สำหรับตัวผมแล้วก็นับเป็นแค่เพียงจุดเล็กๆจุดหนึ่ง ซึ่งก็สามารถเปล่งแสงสีเขียวระยิบระยับ และสร้างความสวยงามได้ในยามราตรี บ้านของผมอยู่ใต้ต้นลำพู ซึ่งที่ที่ผมอาศัยอยู่นั้นนับว่าเป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์และน่าอยู่มากทีเดียว ผมกับเพื่อนๆมีความสุขมากที่ได้เปล่งแสงอยู่รอบบ้านร่วมกันในยามราตรี 
         พวกเราล้วนมีความเชื่อกันว่า ในอดีตพวกเราเป็นสะเก็ดของดวงดาวที่ตกลงมาจากฟากฟ้าและถ้าเราได้สร้างความดีหรือทำประโยชน์ให้แก่ธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาสิ้นอายุไขแสงพวกเราก็จะค่อยๆดับลง และจิตวิญญาณของแสงเรานั้นก็จะกลับไปอยู่ร่วมกันเป็นดวงดาวบนฟากฟ้าดั่งเดิม
         
ผมจึงมักจะย้ำถามกับเพื่อนๆเสมอว่า 
" ตั้งแต่พวกเราเกิดมาน่ะ เราทำความดีอะไรไปบ้างแล้ว"
         
เพื่อนผม ตอบว่า 
" ตอนเรายังเด็กๆ จำได้ไหม ระยะที่เป็นตัวหนอนอยู่ พวกเราชอบกินหอยตัวเล็กๆ ซึ่งหอยตัวเล็กๆนั้น เป็นพาหะที่นำเชื้อโรคมาสู่มนุษย์ได้มากมาย เช่น โรคพยาธิใบไม้ลำไส้  โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ"
       
     ..ผมและเพื่อนๆยิ้มแย้มอย่างมีความสุข เมื่อได้รับรู้ถึงการทำความดีในวัยเยาว์ ถึงแม้เราจะไม่เคยรู้ถึงความดีนี้มาก่อน แต่เมื่อเราได้รับรู้แล้ว มันก็ทำให้เรามีความรู้สึกสบายใจ สุขใจ และภูมิใจกับมัน.. 

        ต่อมาเพื่อนอีกตัวหนึ่งเสริมต่อ ว่า " และพอเราได้โตขึ้น พอจะเปล่งแสงได้ เคยมีมนุษย์มาจับเรารวมๆกันในขวดใส ทำให้เกิดแสงสว่างเป็นเหมือนโคมไฟไร้ราคา ที่สามารถใช้ส่องทางในป่า และอ่านหนังสือในที่มืดๆได้ ถึงแม้ในช่วงเวลานั้นพวกเราจะเหงาและเคว้งคว้าง หรืออึดอัด อยู่ในขวดใสใบเล็กๆนั้นก็ตาม แต่พวกเราก็ภูมิใจ ว่าถึงแม้เราจะเป็นจุดเล็กๆในยามค่ำคืน แต่เราก็สามารถทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นได้"

        พอฟังจบแล้ว ผมก็เข้าใจได้ว่าการทำความดีนั้นไม่มีผลเสียทั้งผู้ให้และผู้รับมีแต่ความสุข ความสบาย ทั้งทางกายและจิตใจพวกเราถึงอยากที่จะทำความดีกัน

ผมจึงพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นสุข ว่า
 "พวกเราควรภูมิใจให้มาก ที่ได้เกิดเป็นหิ่งห้อย ถึงแม้ว่าตัวของเราจะเล็ก เวลาของเราจะน้อย แต่..เมื่อเทียบกับความดีและสิ่งที่เราทำไปนั้นนับว่าคุ้มค่ามาก และเชื่อว่าอีกไม่นานหรอก พวกเราก็จะได้กลับไปเป็นดวงดาวตามที่พวกเราฝันเอาไว้" 


    ...ในขณะนั้น  สายตาของทุกตัว..จับจ้องเพียงสิ่งเดียว นั่นคือ   ดวงดาว ...

     ส่วนในใจลึกๆของผมแล้ว มีความรู้สึกและคิดเสมอมา ว่า..(ความเชื่อนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม จะได้กลับไปเป็นดวงดาวอย่างเดิมจริงหรือเปล่า ผมไม่มั่นใจและก็ไม่คิดจะสนใจกับมันเลย  เพราะผมถือว่าอดีตคือความฝัน ปัจจุบันคือความจริง และในความเป็นจริงคือ ผมและเพื่อนได้ทำประโยชน์ให้แก่มนุษย์และธรรมชาติเอาไว้มากมาย ถ้าเกิดผมขอพรได้สักข้อ  ผมอยากจะขอให้ได้เป็นมนุษย์ มากกว่าที่จะกลับไปเป็นดวงดาวเสียอีก  เพราะผมเชื่อว่าการที่ได้เป็นมนุษย์นั้น ผมคงจะมีคุณค่า มีเวลา และสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมและธรรมชาติได้มากกว่าดวงดาวอย่างแน่นอน

........และในตอนนี้ ถ้าหากผมพูดคุยกับมนุษย์ได้ ผมอยากจะถามเพียงหนึ่งคำถามว่า .. 
"ในช่วงเวลานี้ที่คุณเป็นมนุษย์อยู่ คุณได้รับรู้ถึงความสุขของการทำความดี   บ้างแล้วหรือยัง.. "



            ~~~  " เวลา หิ่งห้อยสั้น    ยังตั้งมั่นหมั่นทำดี
                     เวลา คนมากมี     ใยห่างหนีความดีไป " ~~~				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟMelodies of Life
Lovings  Melodies of Life เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟMelodies of Life
Lovings  Melodies of Life เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟMelodies of Life
Lovings  Melodies of Life เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงMelodies of Life