31 ธันวาคม 2554 14:17 น.

นอนเพื่อพัก...

miss.honney

วินาทีโศก...โลกจะมี...กี่คนเหงา
นาทีเศร้า...เขาจะร้อง...หมองใจไหม
ชั่วโมงเหนื่อย...ใครบ้างเมื่อย...เหนื่อยท้อใจ
วันคืนใด...ใยช่างปวด...รวดร้าวรอน
หลายวันเลื่อน...เคลื่อนเป็นปี...ที่ทุกข์หนัก
สาหัสนัก...จักไหลทบ...มากลบซ้อน
ถาโถมนัก...หนักหนา...มาสัญจร
ทั้งหนาวร้อน...ย้อนนับไป...เกือบได้ปี
จะโศกเศร้า...เคล้ากันไป...เมื่อใดหยุด
ทั้งเหนื่อยรุด...ผุดนำหน้า...มาเกินหนี
เมื่อยกายใจ...ไม่อยากทน...พ้นวันนี้
พอเสียที...ที่ต้องเหนื่อย...เมื่อยทำไม
ทิ้งตัวนอน...หย่อนกายลง...ตรงผ้านุ่ม
ตวัดผ้า...เอามาคลุม...ซุ่มหลับใหล
นาทีเศร้า...เคล้าความเหนื่อย...เมื่อยใดใด
ปล่อยมันไป...หวังอาศัย...ในนิทรา				
31 ธันวาคม 2554 12:10 น.

เมื่อต้องอยู่...เดียวดาย...และไร้เธอ

miss.honney

เหมือนร่ำไห้ไม่มีใครใคร่สงสาร
เหมือนทรมานใจระทวดปวดซ้ำสอง
เหมือนถ่อแพแต่เหมือนวนบนกลางคลอง
หน้าตาหมองมองเห็นฝั่งยังไม่ไป
เหมือนอ้างว้างกลางลมหนักจักเดินผ่าน
เหมือนลมนั้นแผ่ซ่านเกินทนไหว
แต่ยังเดินฝ่าสายลมห่มกายไป
แต่จุดหมายก็มิได้รู้ทิศทาง
ลมพัดซ้ายกายก็ย้ายไปตามแรง
ถึงจะขัดขืนแข็งแรงสุดขวาง
ก็ต้องยอมโอนเอนเป็นตามทาง
หมดกำลังจึงต้องล้มก้มลงคลาน
เห็นหรือไม่คนที่ไร้ใครพึงพา
ต้องแบกหน้าเดินต่อไปไม่สงสาร
ต้องกล้ำกลืนฝืนมันไปใครทรมาน
แล้วใครกันที่ชื่นบานสราญใจ
เหมือนสิ่งหวังมันพังช่างน่าขัน
เหมือนความฝันกลับพลันมันจางหาย
เหมือนทะเลเฮซัดปราสาททราย
เมื่อต้องอยู่...อย่างเดียวดาย...เมื่อไร้เธอ				
31 ธันวาคม 2554 11:52 น.

เมื่อความรักมาทักเรา

miss.honney

เหมือนพายุ ประทุเดือด ไม่เหือดหาย
เหมือนร่างกาย คล้ายรุ่ม กลุ้มจริงหนอ
เหมือนฝุ่นปลิว พัดเข้ามา น้ำตาคลอ
เหมือนว่าท้อ ก็พลันฮึด ในอึดใจ
เมื่อความรัก ประจักษ์ มาทักทาย
มิรู้ได้ ครั้งสุดท้าย อยู่ที่ไหน
ลืมทุกสิ่ง ทิ้งตัวตน บนห้วงใจ
ตกอยู่ใน ภวังค์รัก นักเดินทาง
เหมือนเดินอยู่ รู้ว่าเดิน เพลินลืมเหนื่อย
มันไม่เมื่อย เดินเรื่อยทน จนรุ่งสาง
ไม่รู้หิว รู้ตื่นหลับ รู้จับวาง
เหมือนเคว้งคว้าง ท่ามกลาง น้ำค้างพรม
เมื่อรักมา ตามประสา คนมีสุข
จะลืมทุกข์ ปลุกแต่ใจ ให้สุขสม
ลืมกระทั่ง คำด่าก่น หรือคนชม
จำแค่เพียง เสียงสายลม ร่มฤทัย
จะหยุดได้ ก็เมื่อใจ นั้นไร้รัก
จะประจักษ์ ก็เมื่อรัก จักสลาย
จะรู้ตื่น รู้ขื่นช้ำ กระหน่ำกาย
เมื่อรักสลาย กลายเป็น เช่นลมลวง				
31 ธันวาคม 2554 11:41 น.

ขอเล่า

miss.honney

ขอเล่าชื่อ ลือนาม เผื่อถามไถ่
เผื่อสงสัย ว่านี้ใคร ผู้ใดหนา
มาแต่งคำ ทำนอง คล้องวาจา
เป็นภาษา ให้อ่าน ในด้านกลอน
แต่งไม่เก่ง เพราะไม่เคร่ง เก่งภาษา
มีแค่เพียง วาจา ภาษาสอน
ที่ได้เรียน เพียรมา ภาษากลอน
อาจจะผิด แผลงคำสอน อ่อนใจจัง
อ่านรู้เรื่อง ประเทืองใจ ใคร่สุขจิต
หากพิมพ์ผิด ขออภัย ไว้คราวหลัง
จะหัดเพิ่ม เติมแต่ง แข็งกำลัง
แต่งอีกครั้ง จึงน่าฟัง นั่งสำราญ 
นามแปลกจิต miss.honney นี้คือชื่อ
แฝงไว้คือ ความหมาย คล้ายความหวาน
แต่เนื้อกลอน คงต้องเกลา ไปอีกนาน
กว่าจะหวาน จนสะท้าน ไปถึงใจ
ฝากผู้เก่ง ผู้เคร่งชาญ ในด้านนี้
ผิดถูกดี หรือมี ที่แก้ไข
หวังอยากเห็น กลอนฉันเป็น ที่ประทับใจ
ของผู้ได้ พบเห็น เด่นสะดุดตา


ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ไม่เก่ง แต่ชอบกลอนค่ะ มันอ่านแล้วสนุกดี
ชอบภาษาที่นำมาร้อยเรียงเป็นกลอนค่ะ
ได้อ่านของหลายๆคนในนี้แล้วเพลินจริงๆ อยากเก่งอย่างนั้นบ้าง
ชอบหลายคนเลยค่ะ ยังฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค๊า				
30 ธันวาคม 2554 19:13 น.

ปีใหม่แล้ว

miss.honney

หมดปีเก่า เราก็เริ่ม ประเดิมใหม่
ในปีใส ปีงูใหญ่ ใจฮึกเฮิม
คงไม่ชง จนต้องงง ตรงปีเดิม
จะไปเสริม ดวงดีดี ราศีงาม
ไปสวดมนต์ ข้ามพ.ศ. รอฤกษ์หล้า
เพื่อเบิกฟ้า แก้ราศี ยันตีสาม
อาจเปลี่ยนผัน เสริมเติม เพิ่มในนาม
ดูฤกษ์ยาม ถามหาชื่อ ถือฤกษ์ดวง
เอาชื่อไหน ใจก็คิด ติดชื่อหรู
ยอดพธู ชูแดน หรือแมนทรวง
ชื่อไหนไหน ใครว่าแหล่ม แจ่มตามดวง
ยอมให้ล้วง จ่ายสตางค์ แก้ลางไป
แล้วได้ชื่อ ราคาแพง แจงไปโข
เขียนตัวโต ชื่อไฮโซ พิศมัย
ไอย์สุริยา รัศมี สตรีไทย
โอ้วเรียกไง ให้มันสั้น จะทันความ
ขออีกชื่อ หมอดูว่า เข้าท่าแล้ว
จะเปลี่ยนแนว กลัวว่ามัน จะขัดขาม
ชื่อนี้หล่ะ จะยิ่งชัด จรัสนาม
บ้านฉันขาย แค่มะขาม อายชื่อจัง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmiss.honney
Lovings  miss.honney เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmiss.honney
Lovings  miss.honney เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmiss.honney
Lovings  miss.honney เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงmiss.honney