7 พฤศจิกายน 2547 23:05 น.

พำนักในขนำน้อยกลางทุ่งข้าว

nava


ค่ำจะเกลา
เพื่อคร่ำผ่านการเย้าของเช้าหวน
แผ่วรำลึกตรึกผ่านกาลอุ่นอวล
เนิบช้าว่านุ่มนวลล้วนเชื้อเชิญ

กี่หยาดซาบ
อาบเพื่ออิ่มปริ่มอยู่ดูผิวเผิน
หมายเพลงกู่-ฝากฝังยังหยอกเอิน
แท้แต่การเผชิญที่เงียบงัน

สะท้อนเงาวอมไอไฟตะเกียง
หรุบหรู่อยู่เพียง-เสียงดาลฝัน-
ลู่ลมหนาวกราวมาฝ่าคืนอัน-
เวิ้งแห่งฟ้าแสงจันทร์มิสาดทา

เสี้ยวมุมนี้ที่พักพิง
ถามหัวใจหนีความจริง-รึ! ปรารถนา
ไร้คำตอบเงียบกริบ-ชีวิตชีวา
ยังแต่ความโหยหา-เบื้องลึกใจฯ

ขนำ นี้มีแสงดาว
กล้วยไม้นิ่งหนาว-ลมไกวไหว
หอมรวงข้าว-ราวรวงโชยห้วงไกล
รอคมเคียวมือกร้านใดมาโน้มกำ.

				
6 พฤศจิกายน 2547 23:09 น.

นิ่งฟังเสียงหยดน้ำในค่ำคืน

nava


แต่ละหยด
กลั่นจากความหมดจดจนสดใส
แต่ละหยาดหลอมรวมละออง-กระไอ
บ่มอยู่ในท่วงท่าของนาที

พรมรื่นชื่นรางหลังคาหญ้า
ห้อยช้อยชายคาปลายหญ้า-สี
วับ ขับ จับเสี้ยวแสงแห่งราตรี
ซบใบนี้ พรมที่กลีบดอกนั้น

ทีละหยด ละ- หยาดวาดสั่งสม
ปรนชุ่ม ชุ่มพรมปวงดอกฝัน-
กระจิริดนิดน้อยค่อยก่อพันธุ์
โลกกว้างฤาจะกั้นการเติบตน

เช่นนั้นต่างมีวิถีวาง
แม้ดอกหญ้าริมทางที่ต่างหน
ยังหยัดงามตามทางวิถีตน
มิเคยงอกดอก, ผลของต้นใด

แม้นจักเพียงตะไคร่ในความชื้น
มิวาดหวังเป็นอื่นได้พลิ้วไหว
เพียงตัวตนนิ่งเงียบไร้ดอก-ใบ
ด่ำหยดน้ำได้พรำมิคร่ำครวญ


				
3 พฤศจิกายน 2547 11:54 น.

ระหว่างความเงียบ

nava


หนึ่ง
จันทร์เอ๋ยจันทร์นวล
แขวนเปลญวนนอนไกวฝัน
ทางดาวขีดวาด-หาดแสงจันทร์
ยิ่งดึกยิ่งเงียบงัน-กระจ่างดาว..ฯ

ใจเอ๋ยใจเจ้า
เงียบเหงาหรือเศร้าหนาว
ทางดาวโปรยดวงหว่านห้วงพราว
ใจเจ้าหว่านเรื่องราว-รูปเงาใด

ใจเอ๋ยใจข้า
ปรารถนาทุกคราไฉน
ฟ้าเอยสุดฟากฝากดาวรำไร
เกี่ยวหัวใจข้าไปซบใจเจ้าวาง

สอง

ด้วยเส้นทางความร้างวางทอด
โอบกอดตัวเองอยู่เคว้งคว้าง
คิดถึงบางใจไม่ปล่อยวาง
เงียบร้างอย่างยิ่ง  ละล้าละลัง

ครุ่นคำนึงจึงคุ้นเคย
กับการล่วงเลยเผยผ่าน-หวัง
ภาระกร่อนพละกำลัง
ท้ายกลบฝังในรอยกาลเคลื่อนผ่านไป

สิ !น้ำตา
ปริ่มเอ่อมาแต่ห้วงไหน
จากเบื้องลึกลึกของดวงใจ
กอดความเงียบไว้มิปล่อยวาง


				
12 ตุลาคม 2547 12:26 น.

ผู้โอบเอื้อ “ปีกฟ้า” แด่วิญญาณ์ได้หว่านฝัน

nava


คารวะดวงใจ
ดาลในฝันฝาก
รอยทางทุกข์ยาก
ฝากฟ้าฝ่าฝัน
บ่มทุกข์แสนหนาว
บ่มร้าวคืนวัน
กลั่นชุ่มกว่าช้ำ
ตอกย้ำกล้ำกราย
ทางมีที่ไป
ด้วยใจดวงกล้า
บางเส้นเข่นฆ่า
 บดคร่าฝั่งหมาย
โดยฝันที่ผุด 
มิอาจผุดพราย
อีกทางสักสาย
ได้เลือกดุ่มเดิน
จึงมีทางฝัน
ก่อปั้นฟันฝ่า
ด้วยใจดวงท้า 
แกร่งกล้ามิขัดเขิน
สองมือสานใจ
ก้าวไปเผชิญ
แรงฝันอันเกิน
ฉุดลด บดบัง

เป็นร่มเรือนไทยหลังใหญ่ชายคา
รมย์รื่นชื่นคราหว่านกล้ามาหวัง
ผลิหน่อระดะสรรพกำลัง
ผืนแดนสะพรั่งต้นกล้ากวีไทย

ผู้โอบเอื้อ ปีกฟ้า  แด่วิญญาณ์ได้หว่านฝัน
สายธารผูกพันเติบฝันทุกวันใหม่
กระซิบเสียงฝากนี้ ถ้อยวลีจากแดนไกล
คารวะดวงใจเจตนาศรัทธาเธอ




แด่ดวงใจที่ยิ่งใหญ่แห่ง ปีกฟ้า : โดยแรงดาลใจจากข้อเขียน/ถ้อยวลีของคุณพี่tiki
ตุลาคม๔๗				
11 ตุลาคม 2547 03:14 น.

ตรงที่ฟ้าจรดพื้น(จบ)

nava


๔
วันเหนื่อย คืนหนาว ดวงไฟจ้า
วิถีแห่งมรรคา
อย่ากลืนใจวัยกล้า- อย่าร้างจำ

แม่ร้อยเหงื่อร้าว เช้า- ค่ำ
คำข้าวทุกคำ
เคี้ยวย้ำคร่ำครวญอาวรณ์

ระเบียงนี้ดึกหนาวดาวอ่อน
อ้างว้างร้างคอน
สะท้อนห้วงเสียงนิทานพึมพำ

ครกกระเดื่องตำข้าว เท้าเคยย่ำ
แม่ฝัด  ลูกตำ
พี่ชาย,น้องชาย,น้องสาว

จวบครกร้างเป็นกระถางปลูกแสงดาว
พี่ชาย,น้องสาว
ไปฝ่าลม คมหนาวของเมืองใด



สุดสายดวงตา
ตรงที่ฟ้าจรดพื้นโอนไหว
เพลงใบข้าวแผ่วร้าวอยู่อย่างไร
ทางย้อนกลับคงร้างไร้อยู่อย่างนั้น

ตุลาคม  ๒๕๔๗

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnava
Lovings  nava เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnava
Lovings  nava เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnava
Lovings  nava เลิฟ 0 คน
  nava
ไม่มีข้อความส่งถึงnava