11 เมษายน 2550 15:10 น.

นิธิรำพึง ภาค๑

nidhi

กระทงน้อยลอยทุกข์ได้หมดหรือ
ผู้คนถือกันว่าถ้าอธิษฐาน
กระทงทุกข์ปลิดทุกข์สุขสราญ
แรงอธิษฐานบันดาลสุขหมดทุกข์เอย
		๑ธันวาคม๒๕๔๗
	ลุธันวาคมพร้อมใจก้มบังคมกราบ
ไทยทั้งชาติสดุดีไม่มีสอง
เปี่ยมพระกรุณาธิคุณทั่วแผ่นดินทอง
ชนแซ่ซร้องถวายพระพรมหาราชา
		๑ธันวาคม๒๕๔๗
ขอพระองค์สุขเกษมเปรมปรีดิ์ตลอด
ให้ทรงปลอดจากทุกข์ที่รุมหา
ให้สมบูรณ์พูนสุขเปี่ยมพลา
พระกายาปลอดโรคอย่าโศกเทอญ
		๑ธันวาคม๒๕๔๗
	ด้วยเดชะพระบารมีที่ปกเกล้า
ผองพวกเราร่มเย็นเป็นสุขศรี
ขอคุณพระส่งเสริมพระบารมี
จงอยู่ดีมีสุขเกษมเปรมสำราญ
		๒ธันวาคม๒๕๔๗
	หกปีกว่าที่ฝ่าฟันมั่นใจนัก
ทำงานหนักให้มากพากเพียรขยัน
แก้ไขสิ่งบกพร่องแต่ละวัน
ถึงวันนั้นคงสำเร็จเสร็จอย่างใจ
		๗ธันวาคม๒๕๔๗
ตะวันร้อนแรงฉายประกายส่อง
สาดแสงทองส่องลงมาฟ้าสดใส
ข้าวตั้งท้องโอนอ่อนปลิวแกว่งไกว
น้ำเย็นใสปลาแหวกว่ายไม่หน่ายมอง
		๒๒ธันวาคม๒๕๔๗
	เย็นลมหนาวพัดมาฟ้าสลัว
ดูมืดมัวชั่วประเดี๋ยวฟ้ากลับใส
อาทิตย์ส่องแรงแสงผ่องอำไพ
มืดหมดไปใสกระจ่างสว่างแล้ว
		๒๒ธันวาคม๒๕๔๗
	สีสดสวยระรวยกลิ่นซ่อนกลิ่นป่า
ลมโชยมาเรื่อยเรื่อยที่เหนื่อยหาย
แสงแดดส่องเรืองรองต้องผิวกาย
เย็นพระพายสายลมอุ่นพูนเพิ่มสุข
		๒๒ธันวาคม๒๕๔๗
	ตั้งใจมั่นจงอย่าหวั่นหมั่นแก้ไข
จัดเตรียมใจไว้ก่อนเพื่อผ่อนผัน
ตรึกตรองนึกหาหนทางสว่างพลัน
แก้ที่ฝันร้ายร้ายให้กลายดี
		 ๒๓ธันวาคม๒๕๔๗
	สวัสดีปีใหม่ขอให้สุข
ที่เคยทุกข์แค่ไหนให้สลาย
ขอให้สุขสดชื่นทั้งใจกาย
เรื่องร้ายร้ายให้หายหดหมดสิ้นเทอญ
		 ๒๔ธันวาคม๒๕๔๗
     ขอพระองค์ทรงพระเกษมเปรมปรีดิ์ตลอด
ให้ทรงปลอดภัยพาลสำราญสม
ให้ห่างทุกข์หม่นหมองที่ตรอมตรม
เรื่องระทมขมเศร้าสูญสิ้นไป
		 ๒๔ธันวาคม๒๕๔๗
	
     ด้วยความรักความเข้าใจที่มีให้
หลอมดวงใจให้เป็นหนึ่งซึ้งทราบไหม
ถึงทุกข์อยู่ก็คลายทุกข์ค่อยหมดไป
สองดวงใจหยัดเคียงคู่สู้ฝ่าฟัน
		๒๔ธันวาคม๒๕๔๗
	วันเดือนปีที่ผ่านวานอย่าถาม
เรื่องติดตามยามนี้ยังมีหวัง
ขอให้เพียรแก้ไขเต็มกำลัง
สิ่งที่หวังตั้งใจไว้ย่อมสำเร็จ
		ธันวาคม๒๕๔๗
	แผ่นดินเลื่อนเคลื่อนคลื่นมหาสมุทร
ม้วนไม่หยุดฉุดน้ำเข้าหาฝั่ง
คลื่นยักษ์ม้วนตัวกระแทกบ้านเรือนพัง
ชีวิตฝังร่างกลบจบวิญญาณ
		 ๒๗ธันวาคม๒๕๔๗
	คลื่นยักษ์โถมกระแทกหินแตกอ้า
น้ำพัดพาบ้านเรือนเลื่อนจมหาย
คนที่อยู่นับพันพากันตาย
แตกสลายดวงจิตเศร้าเฝ้าระทม
		 ๒๗ธันวาคม๒๕๔๗
	มหาคลื่นโถมซัดดังสนั่น
อันดามันสั่นสะเทือนดินเคลื่อนไหว
สูงราวตึกสามชั้นน่าหวั่นใจ
แหลกบรรลัยคนตายเกลื่อนเหมือนฝันร้าย
คลื่นยักษ์เกิดจากดินใต้ทะเลเคลื่อน
กระจายเกลื่อนเลื่อนหินทรุดมุดไม่ไหว
แรงดันโลกใต้ทะเลผุดขึ้นไว
ชักนำให้น้ำหมุนดุนขึ้นมา
แรงดันคลื่นใต้น้ำหนุนนำส่ง
คลื่นยักษ์ตรงเข้าฝั่งดังหวั่นไหว
กลืนแผ่นดินจมมิดปิดลงไป
แล้วจึงไหลผ่านเรื่อยเอื่อยลงดิน
		๒๘ธันวาคม๒๕๔๗



	ทะเลใต้ดินถล่มคลื่นลมป่วน
คลื่นยักษ์กวนน้ำทะเลเหเข้าหา
แผ่นดินล่มจมน้ำที่หลากมา
ทะเลบ้าคร่าชีวิตให้ปลิดปลง
หกจังหวัดภาคใต้ล้มตายเกลื่อน
ยังไม่เลือนภาพสุดร้ายยากจางหาย
ชีวิตคนและทรัพย์สินถูกทำลาย
เป็นฝันร้ายคลายไม่หมดสลดใจ
		๒๘ธันวาคม๒๕๔๗
	Not only was the lost of my situation, but also the lost of my friends.				
11 เมษายน 2550 15:01 น.

นิธิรำพึง ภาค๑

nidhi

ลอยดวงเด่นบนฟ้านภากว้าง
ไม่อ้างว้างบ้างหรือพระจันทร์จ๋า
แสงเดือนผ่องส่องแสงงามจับตา
รู้ไหมว่าคนรักข้าอยู่ไหน
	 ๒๗กันยายน๒๕๔๗
	จำใจต้องบอกลาอย่าเศร้าโศก
ที่อับโชคคงไม่นานอย่าท้อถอย
หากบุญมาวาสนาที่รอคอย
ไม่ต้องสอยก็ลอยร่วงมาให้ครอง
	๒๘กันยายน๒๕๔๗
	มืดสลัวมัวหม่นบนท้องฟ้า
ทั่วนภาเกลื่อนกล่นเมฆหม่นหนาว
นกการ้องบ่นว่าจวนถึงคราว
เริ่มจะหนาวแล้วนะพระคุณเอ๋ย
		 ๓๐กันยายน๒๕๔๗
	สัญญาไว้วันนั้นยังจำมั่น
ไม่ทิ้งกันและกันนั่นใช่ไหม
แต่ขอถาม ณ วันนี้เป็นอย่างไร
เหตุไฉนลืมจำคำวันนั้น
		 ๒๘ตุลาคม๒๕๔๗
	สุดสายรุ้งมุ่งไปหาให้พบ
ก่อนจะจบสิ้นแสงชีวิตฉาย
ภารกิจติดรออยู่จะได้คลาย
จุดมุ่งหมายคือได้พบอยู่ครบคน
		๙พฤศจิกายน๒๕๔๗

	สุดแดนนี้ที่เคยหวังจะมาพบ
กว่าดินกลบร่างฝังยังสุสาน
เพื่อสืบทอดเจตนปณิธาน
และสืบสานความใฝ่ฝันอันดีนั้น
		๑๑พฤศจิกายน๒๕๔๗
	อย่าสิ้นหวังตั้งจิตให้มุ่งมั่น
รู้ให้ทันปัญหาที่มาขวาง
ตั้งสติตรองนึกหาหนทาง
หัดปล่อยวางอย่างสุขุมหายกลุ้มพลัน
		๑๗พฤศจิกายน๒๕๔๗
	สุดปัญญาจัดหาคืนให้ได้
สุดสิ้นใจไขว่คว้าหาชื่อเสียง
สุดหนทางเดินไปให้ใกล้เคียง
สุดจะเถียงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
๑๗พฤศจิกายน๒๕๔๗
	ผลประโยชน์อะไรนักชักให้ฆ่า
กรรมบังตาพาไปทำให้หลง
อวิชชามากไปจิตต่ำลง
เมื่อใดปลงลงได้ถ้าไม่รู้จักพอ
	๒๒พฤศจิกายน๒๕๔๗
สุดสายรุ้งตรงไหนไม่เคยพบ
จุดบรรจบที่ไหนใคร่ขอถาม
บ่อกำเนิดอยู่ที่น้ำตัดแสงตาม
แล้วสร้างความสดใสบนท้องฟ้า				
10 เมษายน 2550 03:55 น.

นิธิรำพึง ภาค๑

nidhi

ลมเรื่อยเรื่อยเฉื่อยฉิวต้องผิวเนื้อ
จากทางเหนือพัดผ่านม่านไหวไหว
บ่งบอกว่าหน้าหนาวนี้ยังไกล
เธออยู่ไหนเวลานี้พี่อยากรู้
		๘ธันวาคม๒๕๔๗
	สู้ต่อไปด้วยใจมั่นอย่าหวั่นไหว
หมั่นฝึกใจให้ตรงฝ่าพงหนาม
สู้อุปสรรคขจัดสิ้นด้วยพยายาม
อย่าเกรงขามพยายามต่ออย่ารออะไร
		๑๓ธันวาคม๒๕๔๗
	เรื่องที่หวังตั้งใจไว้อย่าไปเลิก
ถึงชื่อเกริกสูญสลายละลายหลอม
จิตตั้งมั่นเลิกหวั่นไหวใจอย่ายอม
จงเตรียมพร้อมไว้ต่อสู้กู้ฐานะ
		๑๓ธันวาคม๒๕๔๗
	
จวนจะสิ้นปีเก่าเฝ้ารอใหม่
จัดเตรียมใจอย่าไปรอข้อที่ฝัน
เก็บบันทึกข้อผิดพลาดแต่ละวัน
แล้วจงหมั่นตรองตรึกนึกแก้ไข
		๑๓ธันวาคม๒๕๔๗
	จากวันนั้นถึงวันนี้หกปีกว่า
ก่อนจะมาถึงจุดที่หักเห
ผ่านงานหนักทุกวันอย่างทุ่มเท
เพื่อจะเหหนทางสร้างชีวิต
ทุกทุกวันตื่นแต่เช้าออกจากบ้าน
เริ่มทำงานสานที่ก่อขอแก้ไข
ทุกวันนี้ปรี่ล้นกำลังใจ
ค่อยทำไปปัญหาร้ายคงกลายดี
		๑๔ธันวาคม๒๕๔๗

	แม้นมืดหนาวราวถูกขังอยู่ใต้โลก
อย่าไปโศกเศร้าอยู่สู้แก้ไข
ลบอดีตมัวหม่นขว้างทิ้งไป
เพียรตั้งใจหยัดสู้กู้ฐานะ
		๑๔ธันวาคม๒๕๔๗
	แสงแดดอุ่นส่องทั่วสลัวหาย
ลมพัดคลายหายกลุ้มที่รุมสุม
แสงแดดส่องวาววับจับทุกมุม
สลัวคลุมก็หายคลายจากมืด
		๑๖ธันวาคม๒๕๔๗
	แสงทองสาดส่องลงมาฟ้าสวยสด
ช่างงามงดจับตานภาสวย
สายลมอุ่นพัดมาพาระรวย
ดอกไม้สวยร่วมด้วยช่วยส่งกลิ่น
		๑๗ธันวาคม๒๕๔๗
	 ปีสองพันห้าร้อยสี่สิบแปด
ให้จงแวดด้วยสุขทุกข์อย่าเห็น
ให้รื่นรมย์มีสติอย่างควรเป็น
โรคขุกเข็ญมอดมลายอย่ากรายใกล้
		๑๗ธันวาคม๒๕๔๗
	สวัสดีปีระกาให้สร่างโศก
สมบูรณ์โชคโรคไม่มีดีอย่างหวัง
ใจเปี่ยมสุขชีพสดใสไม่ผุพัง
ทุกสิ่งหวังดีดีจงสำเร็จ
		 ๒๐ธันวาคม๒๕๔๗
	ให้มีสุขสวัสดีมั่งมีโชค
ที่เคยโศกโรครุมเร้าเศร้าทุกข์หมอง
ให้ปราศโศกสิ้นโรคร้ายอย่างใจปอง
ที่เคยหมองให้คลายหมดปรากฏนาน
		๒๐ธันวาคม๒๕๔๗
	
เย็นลมหนาวพัดโบกโบยโชยมาแล้ว
ยังยินแว่วแผ่วแผ่วแจ้วแจ้วเสียง
สกุณาผกผินบินเคียงเรียง
ขอเธอเคียงอยู่ใกล้ใจคงสุข
		๒๑ธันวาคม๒๕๔๗
	ถึงจนยากลำบากสักเพียงไหน
ถ้าหากใจยังมั่นหมั่นขยัน
พากเพียรสู้ทนไปคงสักวัน
ตั้งใจนั้นฝันบรรเจิดเกิดขึ้นจริง
		๒๒ ธันวาคม๒๕๔๗				
10 เมษายน 2550 03:49 น.

นิธิรำพึงภาค๑

nidhi

ถึงวันนี้ชีพที่เหลือนั้นเพื่อลูก
แม้จะถูกหยามเหยียดทำเดียดฉันท์
อดทนสู้ต่อไปไม่นานวัน
ความสุขสันต์วันที่เหลือคงดีขึ้น
		๙สิงหาคม๒๕๔๗
	ในเวลาอับโชคอย่าโศกศัลย์
ตราบตะวันยังอยู่โลกสดใส
ชีพต้องอยู่อดทนสู้ต่อไป
ท้าโลกให้ได้รู้ยังสู้ต่อ
		๑๗สิงหาคม๒๕๔๗
	In God we trust
In such this time
To find myself
To help the family.
	 August17, 2004
           เมื่อรู้สึกอับจนอย่าก่นว่า
เที่ยวโทษด่าโชคชะตาฟ้าราศี
หมั่นอดทนไปจนกว่าจะได้ดี
กู้ศักดิ์ศรีคืนกลับประดับสกุล
		๑๗สิงหาคม๒๕๔๗
	ถึงวันนี้ที่หวังยังไม่เสร็จ
เกือบจะเจ็ดปีแล้วแน่วแน่สรรค์
ที่แก้ไขใกล้จะดีขึ้นทุกวัน
ที่ใฝ่ฝันจะแก้ไขใกล้เสร็จแล้ว
	๑๘สิงหาคม๒๕๔๗
	จากวันนั้นถึงวันนี้หลายปีแล้ว
แต่ยังแน่วแน่ใจต้องแก้ไข
หวังพรุ่งนี้มะรืนนี้ดีอย่างใจ
ที่แก้ไขไปแล้วช่างน้อยนัก
	 ๑๘สิงหาคม๒๕๔๗
	
สิ่งที่หวังตั้งใจในวันนี้
หมั่นทำดีคิดดีละที่ชั่ว
หากนอนหลับพับไปไม่ต้องกลัว
ทำดีทั่วกลัวอะไรใครติฉิน
	๒๔สิงหาคม๒๕๔๗
	ความวุ่นวายสายวันนี้มากมียิ่ง
เกือบทุกสิ่งล้วนต้นตอก่อปัญหา
ความยุ่งยากค่อยสะสมตามติดมา
ถึงเวลารับความจริงในวันนี้
	๓๑สิงหาคม๒๕๔๗
	สุดสายป่านคือว่าวน้อยที่ลอยลิบ
กว่าห้าสิบไล่ตามหวังยังตามหา
ชีวิตเศร้าเคล้าสุขทุกข์นานา
ต้องฟันฝ่าอีกเท่าไรใครรู้บ้าง
	๑๕กันยายน๒๕๔๗
	ต่อไปนี้ที่ยังเหลือนั้นเพื่อลูก
เรื่องผิดถูกหรือไม่ไว้ทีหลัง
ก่อนเคยคิดติดเอาไว้ยังไม่ทำ
เดี๋ยวนี้จำเป็นต้องเร่งเซ็งซะแล้ว
	๑๕กันยายน๒๕๔๗
	
คือความหวังที่ตั้งไว้ไม่แปรเปลี่ยน
คือความเพียรประพฤติชอบเพื่อตอบสนอง
คือการเลี่ยงประพฤติผิดทำนอง
คือยุคทองส่องสว่างกระจ่างแล้ว
	๒๓กันยายน๒๕๔๗
	แสงแดดส่องเรืองรองอย่างทองอาบ
จิตกำซาบปลาบปลื้มลืมทุกข์ขม
ที่ผ่านมาทุกข์หนักมักระทม
เมื่อใดสมเกือบจะล่มจมอยู่แล้ว
	 ๒๔กันยายน๒๕๔๗				
10 เมษายน 2550 03:45 น.

นิธิรำพึงภาค๑

nidhi

ที่เคลือบแคลงแสร้งรักยังหนักจิต
ที่ดวงจิตเศร้าหมองข้องใจไหม
ที่ยังรักนั้นรักอยู่หรืออย่างไร
เป็นไฉนไยไม่แจ้งแกล้งให้รอ
		๑๘มีนาคม๒๕๔๗
	ละอองฝนโปรยปรายเกือบสายแล้ว
ยินนกแจ้วแว่วเสียงสำเนียงหวาน
นกตัวนั้นมันยืนเกาะสายไฟนาน
ชวนสงสารวานไปบอกให้มันรู้
		๒๐มีนาคม๒๕๔๗
จากวันนั้นถึงวันนี้ยังดีอยู่
เพราะใจสู้ไม่ท้อไม่รอฝัน
สู้อย่างนี้สู้ทุกทีสู้ทุกวัน
สู้ไม่หวั่นกลั้นใจสู้สู่จุดหมาย
		๒๖มีนาคม๒๕๔๗
	ก่อนฟ้ารุ่งเรืองรองที่หมองมืด
ก่อนความมืดจางหายเพราะพ่ายแสง
ก่อนชีพรุ่งเรืองรองก้องสำแดง
ก่อนสิ้นแสงปฐพีทำดีไว้
		๓๐มีนาคม๒๕๔๗
	จากก้อนดินเป็นสินทรัพย์นับไม่ถ้วน
ลำบากล้วนจวนจะดับอยู่หลายหน
บางครั้งทุกข์บางครั้งเศร้าเคล้าปะปน
ชื่อว่าคนปนกันอยู่รู้รู้กัน
		๒๑เมษายน๒๕๔๗	
เช้าวันนี้มีเมฆครึ้มลอยล่องทั่ว
ดูมืดมัวชั่วประเดี๋ยวแล้วก็หาย
แสงแดดส่องเรืองรองต้องผิวกาย
ความมืดหายไปหมดสดใสพลัน
		๒๒เมษายน๒๕๔๗
ไม้ในเมืองวันนี้ยังมีบ้าง
แต่ก็บางไปหมดเพราะหดหาย
ที่เหลืออยู่สู้ต่อเพื่อหยั่งกาย
ไม่สลายฝังกายหล่นปนเป็นดิน
		๒๒เมษายน๒๕๔๗
	เมฆขาวใสสว่างกระจ่างแล้ว
พระสงฆ์แจวเรือกลับคล้อยลับหลัง
นกกาบินร่อนร้องก้องเสียงดัง
นกเอี้ยงยังเริงร่าเกาะหลังทุย
		๒๓เมษายน๒๕๔๗
	ในโลกจริงวันนี้แม้มีเพื่อน
แต่ดูเหมือนอยู่คนเดียวเลยเชียวหนา
เพื่อนที่เคยใกล้ชิดเกื้อหนุนมา
ไม่นำพาอีกแล้วน้องแก้วเอ๋ย
		 เมษายน๒๕๔๗
	จากเมืองไทยไปอยู่เมืองญี่ปุ่น
พ่อคุณยุ่นเป็นยังไงขอไต่ถาม
อยู่ทางนี้ยังอยู่สุขเกือบทุกยาม
เพียงแต่อ้างว้างบ้างบางเวลา
		 ๒๕๔๗
	ถึงวันนี้ยังมีที่ไม่ดีบ้าง
แต่ก็ห่างไกลจากทุกข์ที่เคยหลอน
ถ้ายังอดทนอยู่ได้ไม่อาทร
ที่ทุกข์ร้อนก่อนวันนี้ย่อมคลี่คลาย
	๒๒กรกฎาคม๒๕๔๗
	
      หยาดฝนหล่นปนน้ำตาเวลาเศร้า
นั้นคลุกเคล้าความรู้สึกลึกลึกขม
แต่เมื่อฝนปนน้ำตาสร่างซาจม
ความขื่นขมระทมเศร้าเบาลงไป
		๕สิงหาคม๒๕๔๗				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnidhi
Lovings  nidhi เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnidhi
Lovings  nidhi เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnidhi
Lovings  nidhi เลิฟ 0 คน
  nidhi
ไม่มีข้อความส่งถึงnidhi