แม้ปีเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลับแล้ว
ยังมีแววความหวังบ้างไหมหนอ
เมื่อคราครั้งสองเรายังเคล้าคลอ
แนบพนอทอดใจให้แก่กัน
รอยรื่นรมย์สมใจที่ได้ผ่าน
สุดวาบหวานดังห้วงสรวงสวรรค์
แต่เป็นเพราะอุปสรรคหนักอนันต์
สายสัมพันธ์เลือนสลายกับสายลม
เที่ยวร่อนเร่เซซ้ำตามกรรมซัด
กายวิบัติกลั้นสะอื้นแสนขื่นขม
ไม่อาจเงยหน้ารับกับสังคม
สู้ทนก้มทอดตารื้นกับผืนดิน
เธอเป็นเช่นรุ้งรวงทาบห้วงหาว
ดังแสงดาวประดับจิตเป็นนิจสิน
ดังสายลมวสันต์อันรวยริน
ดังมวลกลิ่นพรรณผกามาเลียโลม
แม้แสนรักหนักหน่วงสุดทรวงเสียว
แต่ห่อเหี่ยวเพราะกายามาเสียโฉม
ทั้งความรักความหวังมาพังโครม
คงประโลมปลอบใจไปวันวัน.
6 ตุลาคม 2546 21:41 น. - comment id 172685
เรื้อเวทีไปนาน ขอประทานอภัย

6 ตุลาคม 2546 23:32 น. - comment id 172747
แม้ปีเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลับแล้ว แต่พี่แก้วไม่จากพรากไปไหน แม้ปีเดือนเลือนลับไม่ดับไป เหมือนดั่งฉันนั้นคงไว้ในใจเธอ ***แต่งได้ดีมากเลยค่ะ***

6 ตุลาคม 2546 23:36 น. - comment id 172751
:) แม้รูปลักษณ์อัปยศหมดรูปสวย แต่ร่ำรวยไมตรีที่มองเห็น เพียงกายามิใช่ในประเด็น สิ่งที่เร้นคือหัวใจ..หมายงดงาม

7 ตุลาคม 2546 00:39 น. - comment id 172759
ขอบพระคุณ 1.ท่านผู้หญิงไร้เงา มิตรเก่าผู้แสนดี 2.ท่านอัลมิตรา มหามิตรตลอดกาล

7 ตุลาคม 2546 10:39 น. - comment id 172814
: )

7 ตุลาคม 2546 19:45 น. - comment id 172922
อย่าท้อแท้หมดอาลัยในชีวิต ยังมีมิตรมากมายคลายโศกศัลย์ ...ความจริงใจ...นั้นมีไว้ให้แก่กัน ใช่รูปพรรณภายนอกสิ่งหลอกลวง....ฯ ดีใจที่คุณ..พรระวี...กลับมาอีกครั้งค่ะ...ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะคะ...ทุกอย่างสำคัญ..ที่ใจค่ะ..หาใช่ร่างกายไม่....ขอให้มีพลังใจต่อไปนะคะ....
