สมเด็จพระนเรศวรตอน ๓
พระแสงดาบคาบค่าย
โคลงสี่สุภาพ
๏ ปาก_ กูคาบดาบนี้............วาบไว
คาบ_ค่ายปีนดังใจ.....................แกร่งกล้า๚
ดาบ_ดั่งคู่หทัย.........................จ่อจด
กู_บ่เคยจักล้า...........................กอบกู้ไทยคืน ๚
กลอนสุภาพ
๏ จากประจิมบ่ายหน้าขึ้นพายัพ
รวมอุดรสามทัพกว่าสองแสน
จากนครสวรรค์เดินมาฝ่าดินแดน
พม่าแม้นหมายขวัญเข้ารันตู ๚
๏ เดือนสิบสองน้ำหลากลากทางเรือ
ปล้นสดมภ์ไม่มีเหลือน่าอดสู
มุ่งหมายตีอยุธยาท่าราชครู
แต่หารู้พระนเรศเจตน์เจนการ ๚
๏ ข้าวตกเขียวรีบเกี่ยวขึ้นอย่าเสี่ยง
อย่าให้เสบียงเป็นอื่นเชียวทหาร
เก็บเสบียงเกลี้ยงเกณฑ์ตัดเส้นธาร
เตรียมพร้อมเพื่อประจัญบาน.จะสู้ตาย ๚
โคลงสี่สุภาพ
๏ พระ_จันทร์ทรงส่องฟ้า................พอแล
แสง_สิบค่ำเย็นแข.................................ส่องหล้า
ดาบ_กัดอยู่ปากแล................................วะวับ..วาบเฮย
คาบค่าย_ปีนทัพหน้า.............................ง่าง้าวม่านฟัน...ล่มแฮ๚
กลอนสุภาพ
๏ ใต้ผืนลมห่มฟ้าดาราเดือน
ล้อมอยู่นานมิเขยื้อนเหมือนมาดหมาย
หวังให้หมดเสบียงกรังกระทั่งตาย
จะแห้งแล้งร้อนร้ายเข้าโจมตี ๚
๏ พระนเรศ ตัดสินใจ ขึ้นนำหน้า
ปีนกำแพงขึ้นไปหาอย่างเร็วรี่
เม้มพระโอษฐ์คาบแสงดาบปราบราวี
พม่ารอได้ทีเข้าจ้วงแทง ๚
๏ พระกายหล่นก็ทานทนเข้าปล้นค่าย
ให้ได้รู้ไว้ลายอย่ากำแหง
จนข้าศึกล้อมหน้าหลังพลั่งสำแดง
จึงสั่งถอยพร้อมยื้อแย่งเสบียงมา ๚
สมเด็จพระนเรศวร
ทรงคาบพระแสงดาบปีนค่ายพม่า
พ.ศ. ๒๑๒๙
๏ ในเดือน ๑๒ พ.ศ. ๒๑๒๙ พระเจ้าหงสาวดี ยกกองทัพหลวงมา
มีพระเจ้าเชียงใหม่ พระมหาอุปราชา และพระเจ้าตองอู ยกทัพมาด้วย
มีทหารทั้งหมดประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ คน เคลื่อนพลมารวมกันที่นครสวรรค์
แล้วแยกกันเข้ามาคีกรุงศรีอยุธยา พม่าตั้งค่ายล้อมกรุงไว้จนถึง
เดือน ๔ ขึ้น ๑๐ ค่ำ
ครั้นถึงยามกลางคืน
สมเด็จพระนเรศวรทรงนำทหารออกปล้นค่ายทัพหน้าของพม่า
พระองค์ทรงคาบพระแสงดาบปีนค่ายพม่าจนถูกข้าศึกแทงตกลงมา
ครั้นข้าศึกล้อมเข้ามามาก จึงได้เสด็จลงมากลับคืนพระนคร
พระแสงดาบที่สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้ในวันนั้นจึงได้ชื่อว่า
พระแสงดาบคาบค่าย มาจนทุกวันนี้
กลอนสุภาพ
๏ ความทราบพระนเรศตกค่ายนั้น
พระเจ้าหงสาวดีพลันออกโอษฐ์ว่า
*.ดั่งพิมเสนแลกกับเกลือไม่เหลือราคา
มาคราวหน้าจะจับเป็นให้เห็นดี * ๚
๏ เมื่อเหตุการณ์เป็นดังว่าพม่าหยุด
มิคิดรุดคืบต้อนระดมปรี่
เสบียงร่อยทัพใหญ่ถอยคนละที
ธ ทรงตีพม่าคราละกอง ๚
๏ ธ ประสงค์อย่างเดียวเชียวที่หมาย
จะฝ่าค่ายฟันพม่าผู้ท้าจ้อง
ถ้าตีได้หงสาวดีบุเรงนอง
พม่าต้องแพ้ราบตราบระบือ ๚
๏ แต่นานไปรบพุ่งยุ่งเดือน หก
หน้าฝนตกรบไปก็ไร้ชื่อ
พม่าจึงถอยทัพไม่รับมือ
จึงเลื่องลือพระแสงดาบคาบค่ายมา ๚
การปฏิบัติการของสมเด็จพระนเรศวรครั้งนี้ เมื่อพระเจ้าหงสาวดีทรงทราบเรื่อง ถึงกับออกพระโอษฐแก่เสนาบดีว่า พระนเรศวรออกมาทำการเป็นอย่างพลทหารดังนี้ เหมือนกับเอาพิมเสนมาแลกกับเกลือ..... พระนเรศวรนี้ทำศึกอาจหาญนัก ถ้าออกมาอีกถึงจะเสียทหารสักเท่าใดก็ตาม จะแลกเอาตัวพระนเรศวรให้จงได้ จากนั้นพระเจ้าหงสาวดีจึงให้ลักไวทำมู ซึ่งเป็นนายทหารมีฝีมือ คัดเลือกทหาร 10,000 คน ไปรักษาค่ายกองหน้าและทรงกำชับไปว่า ถ้าพระนเรศวรออกมาอีกให้คิดอ่านจับเป็นให้จงได้
ครั้นถึงวัน แรม 10 ค่ำ เดือน 4 สมเด็จพระนเรศวรทรงนำทัพไปซุ่มอยู่ที่ทุ่งลุมพลี หมายจะเข้าปล้นค่ายพระเจ้าหงสาวดีอีก ลักไวทำมูรู้ดังนั้น จึงให้ทหารทศคุมกำลังหน่วยหนึ่งรุกมารบ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกำลังเข้ารบด้วยลำพังกระบวนม้า พวกพม่ารบพลางถอยพลาง ไปจนถึงจุดที่ลักไวทำมูคุมกำลังซุ่มไว้ ข้าศึกก็กรูกันออกมาล้อมไว้ ลักไวทำมูขับม้าเข้ามาต่อสู้กับพระองค์ พระองค์ทรงแทงด้วยพระแสงทวนถูกลักไวทำมูตาย การต่อสู้ดำเนินไปกว่าชั่วโมง กองทัพไทยจึงตามไปทันตีฝ่าวงล้อมข้าศึก แก้ไขสถานการณ์ได้แล้วจึงกลับเข้าสู่พระนคร
ครั้นถึงวันแรม 4 ค่ำ เดือน 4 สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกำลังทางเรือ ยกไปตีทัพพระมหาอุปราชา ซึ่งอยู่ที่ขนอนบางตะนาวแตกพ่าย ต้องถอยทัพออกไปตั้งอยู่ที่บางกระดาน
กองทัพพม่าล้อมกรุงอยู่ได้ 5 เดือน ตั้งแต่เดือนยี่ ปีจอ จนถึงเดือนหก ปีกุน ก็ไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาได้ ไพร่พลก็เจ็บป่วยล้มตายร่อยหลอลงทุกที เห็นว่าเข้าฤดูฝนไพร่พลจะลำบากยิ่งขึ้น เสบียงอาหารก็ขาดแคลน จึงยกทัพถอยกลับไปในวันแรม 10 ค่ำ เดือน 6 โดยให้กองทัพพระมหาอุปราชาถอยกลับไปก่อน ให้กองทัพพระเจ้าตองอูเป็นกองหลัง สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกำลังทางเรือ ลงไปที่บางกระดาน หมายจะตีกองทัพพระมหาอุปราชาอีก เห็นพระมหาอุปราชากำลังถอยทัพกลับ และทรงทราบว่าพระเจ้าหงสาวดีจะถอยทัพ จึงเสด็จกลับเข้าพระนคร แลัวรีบทรงกองทัพยกไปตั้งที่วัดเดช อยู่ริมน้ำตรงภูเขาทอง เมื่อวัน ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 7 ทรงให้เอาปืนขนาดใหญ่ลงเรือสำเภาหลายลำ แล้วนำขึ้นไปยิงค่ายหลวงพระเจ้าหงสาวดี ถูกผู้คนช้างม้าลมตายเป็นอันมาก พระเจ้าหงสาวดีต้องถอยทัพหลวงไปตั้งอยู่ที่ป่าโมก สมเด็จพระนเรศวรทรงให้กำลังทางบกยกตามตีข้าศึกจนถึงทะเลมหาราชทางหนึ่ง ส่วนพระองค์กับสมเด็จพระเอกาทศรถ เสด็จโดยทางเรือ ตามตีกองทัพหลวงของพระเจ้าหงสาวดีขึ้นไปจนถึงป่าโมกอีกทางหนึ่ง แต่ข้าศึกมีกำลังมากกว่ามาก ไม่ทำให้แตกฉานไปได้ พระองค์จึงเสด็จคืนสู่พระนคร พระเจ้าหงสาวดีก็ให้เลิกทัพกลับไป
โคลงและกลอน รจนาโดย ทิกิ_tiki
เมื่อเวลา ๓:๓๕ นาฬิกา คืนวันอาทิตย์ที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
คำบรรยายร้อยแก้วที่มาจากแหล่งข้อมูลประวัติศาสตร์ไทย thaiheritage
ทางอินเตอร์เน็ต
-- www.heritage.thaigov.net --
-- www.thaiheritage.org --
-ขอบพระคุณในข้อมูลจากหน่วยราชการ
10 มิถุนายน 2551 21:04 น. - comment id 393088
สุดยอด!!!!!ขอบคุณครํบ

24 มกราคม 2548 04:17 น. - comment id 411928
ได้อ่านผ่านตามาถึงตอน ๓ ณ กลางดึก ย้อนให้นึกถึงศึกอันยิ่งใหญ่ สมเด็จพระนเรศวรผู้เกรียงไกร กอบกู้ชาติไทยพ้นทาสเป็นเอกราชมา

24 มกราคม 2548 04:24 น. - comment id 411930
^_^ เป็นข้อมูลดีมาก ชื่นชมครับ

24 มกราคม 2548 04:47 น. - comment id 411937
......ไม่ทราบจะบรรยายอย่างไรนะคะถึงความรู้สึกเมื่อได้อ่าน...ไพเราะมากค่ะ..

24 มกราคม 2548 05:03 น. - comment id 411940
ได้อ่านผ่านตามาถึงตอน ๓ ณ กลางดึก ย้อนให้นึกถึงศึกอันยิ่งใหญ่ สมเด็จพระนเรศวรผู้เกรียงไกร กอบกู้ชาติไทยพ้นทาสเป็นเอกราชมา : 10654 - ลักษมณ์ : 420306 - 24 ม.ค. 48 - 04:17 ทรงอุตสาหะ ยากลำบากอย่างไรไม่ระย่อเลย รักพระองค์ท่านเหล้อเกินค่ะ

24 มกราคม 2548 05:05 น. - comment id 411941
^_^ เป็นข้อมูลดีมาก ชื่นชมครับ : 11887 - เจ้าพานทอง : 420308 - 24 ม.ค. 48 - 04:24 ง่า..ลุกมาดูด้วยเหรอคะ

24 มกราคม 2548 05:07 น. - comment id 411943
......ไม่ทราบจะบรรยายอย่างไรนะคะถึงความรู้สึกเมื่อได้อ่าน...ไพเราะมากค่ะ.. : ...สียะตรา.. 420315 - 24 ม.ค. 48 - 04:47 ผู้หญิงเขียนคงจะนุ่มมากเกินไปมั้งคะ บทรบยังชมจันทร์อีก เคยตัวซะนะคะ แต่ก็ขอบคุณ คะ เขียนไปซึ้งไป เพิ่งแก้ไข อรรถรสเสร็จสรรพก่อนลงสักพักหนึ่งคะ คุณสิยะตราคะ

24 มกราคม 2548 05:30 น. - comment id 411947
......เคยแต่งบทเกี่ยวกับช้างทรงไว้ค่ะ คุณทิกิถึงตอนทำยุทธหัตถีเมื่อใดจะขอร่วมด้วยค่ะ...

24 มกราคม 2548 11:30 น. - comment id 412043
..........งั้นขอรอด้วยคนนะครับ.. ตอนยุทธหัตถีน่ะครับ.......

24 มกราคม 2548 11:43 น. - comment id 412052
....(*_*) ผมก็รอครับ...

24 มกราคม 2548 12:30 น. - comment id 412094
ตามมาอ่าน อิอิ ไม่ได้หายไปไหน ไปตามหาดวงใจกลับบ้านเท่านั้นเอง

24 มกราคม 2548 14:05 น. - comment id 412139
......เคยแต่งบทเกี่ยวกับช้างทรงไว้ค่ะ คุณทิกิถึงตอนทำยุทธหัตถีเมื่อใดจะขอร่วมด้วยค่ะ... : 11585 - ...สียะตรา.. 420325 - 24 ม.ค. 48 - 05:30 ขอบคุณมากค่ะ คุณสียะตรา เดี๋ยวเสร็จแล้วจะเชิญร่วมเลยนะคะ

24 มกราคม 2548 14:06 น. - comment id 412140
..........งั้นขอรอด้วยคนนะครับ.. ตอนยุทธหัตถีน่ะครับ....... : บ้านรอจันทร์ : 420424 - 24 ม.ค. 48 - 11:30 ขอบคุณค่ะ เด๊ยวสำรองที่ให้สองที่ บ้านรอจันทร์ และ จันทร์กระพ้อ อ้อ เจ้าแดงน้อย อีกคนค่ะ อิอิ

24 มกราคม 2548 14:07 น. - comment id 412142
....(*_*) ผมก็รอครับ... : 11887 - เจ้าพานทอง : 420434 - 24 ม.ค. 48 - 11:43 คนนี้พิเศษจริงๆ มาแล้วชื่นใจ

24 มกราคม 2548 14:15 น. - comment id 412146
ตามมาอ่าน อิอิ ไม่ได้หายไปไหน ไปตามหาดวงใจกลับบ้านเท่านั้นเอง : หนอนสายตายาว : 420476 - 24 ม.ค. 48 - 12:30 แล้วกลับมาหรือยังคะ หนอนฯ ตามบ่อยๆ ..ฮึ ตัดเชือกไปเลยดีมั้ย... พ่อตัวดี แม่คนดี เอาไปเลย...วันนี้ลมไม่ค่อยดี เว็บลิงค์อะไร อีกเว็บหนึ่งมันทำยุ่งป่วนไปหมด ลงข้อมูล เรื่องนี้ ที่เว็บอื่นไม่ได้ มะโห ตะหงิด ตะหงิดค่ะ คุณ หนอน ฯ ขา ไปหาชาโสมดับกลุ้มก่อน

24 มกราคม 2548 14:38 น. - comment id 412164
แวะลงชื่ออ่านค่ะ... ชอบน่ะค่ะเรื่องนี้ มีความยาวเท่าใดค่ะ..พี่ tiki.. ....

24 มกราคม 2548 14:44 น. - comment id 412167
ใจเย็นๆนะจ๊ะ tiki ไว้เจอะเจอตัวจริง จะพาไปนั่งจิบน้ำชา กับ ชอก-แลต อร่อยๆ วันนี้ อารมณ์ ดีนิดหน่อย คนคอยยั่วมะโหไม่อยู่ ทำตัวเป็นคนดี โทร.มารายงานความประพฤติอยู่ เมื่อวานตามเจอแล้วละ เช้านี้หนีไปเขาใหญ่อีกแล้ว เฮ้อ....เราก็หนีไปร้องเพลงทั้งวันนี้และพรุ่งนี้เลย อิอิ อย่ามะโหนะจ๊ะ คนดี แล้วจะชงชารอ...

24 มกราคม 2548 14:52 น. - comment id 412172
แวะลงชื่ออ่านค่ะ...
ชอบน่ะค่ะเรื่องนี้ มีความยาวเท่าใดค่ะ..พี่ tiki..
....
: 7067 - กุ้งหนามแดง
: 420546 - 24 ม.ค. 48 - 14:38
เขียนไม่ยาวมากเท่าไหร่หรอกค่ะ น้องกุ้งฯ ขา
เพราะ คนอ่านหยิบมือเดียวเรื่องประวัติศาสตร์ ดึงมาเฉพาะ ช่วงสำคัญอย่างยิ่งของประวัติศาสตร์เรา ที่เกี่ยวข้องกับความปิติโสมนัส
(เขียนไป น้ำตาไหลไปกับท่านบ่อยๆ
อยากจะทำอย่างที่ว่า
ทอดผมสยายเป็นแพ ขอพระองค์ได้โปรด
ทรงกรุณา พระราชดำเนินประทับไปบนเส้นผม
ของข้าพระพุทธเจ้า ไม่มีพระองค์ท่าน ไฉนเลย
ไทยจะได้สงบสุขมาอีก สองร้อยปี..
และ อีกสองร้อยปี หลังนี้ ต้องกราบ พ่อปุ่แม่ย่าไทยทุกผู้ผู้เสียสละชาติพลี

24 มกราคม 2548 14:54 น. - comment id 412173
ใจเย็นๆนะจ๊ะ tiki ไว้เจอะเจอตัวจริง จะพาไปนั่งจิบน้ำชา กับ ชอก-แลต อร่อยๆ วันนี้ อารมณ์
ดีนิดหน่อย คนคอยยั่วมะโหไม่อยู่ ทำตัวเป็นคนดี โทร.มารายงานความประพฤติอยู่
เมื่อวานตามเจอแล้วละ เช้านี้หนีไปเขาใหญ่
อีกแล้ว เฮ้อ....เราก็หนีไปร้องเพลงทั้งวันนี้
และพรุ่งนี้เลย อิอิ อย่ามะโหนะจ๊ะ คนดี
แล้วจะชงชารอ...
: หนอนสายตายาว
: 420549 - 24 ม.ค. 48 - 14:44
หนีเหรอ อิอิ หนีปายเลย....ชิ้ววว์
เราจะได้ไม่ต้องแบกภาระ ไง สบายตัวไหม
คุณหนอนฯ ขา เดี่ยวไปหาไรชงหม่ำจริงๆแล้วคราวนี้ หนอนฯ มาชงด้วยกันไหม อิอิ

25 มกราคม 2548 06:51 น. - comment id 412569
ถึงมาช้า แต่ก็มาตรงวันพอดี อ่านแล้วรำลึกถึงประวัติศาสตร์ และคำกล่าวที่ว่าไว้ กรุงศรีอยุทธยาไม่สิ้นคนดีครับ

25 มกราคม 2548 09:47 น. - comment id 412660
การเดินทางไกลในคราวหนึ่ง ได้ไปเยือนอยุธยา ณ วัดใหญ่ชัยมงคลทางด้านทิศตะวันออกมีศาลาประดิษฐานอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช เวลานั้น บุรุษหนึ่งยืนหลั่งน้ำตาเงียบ ในพระมหากรุณาธิคุณ

25 มกราคม 2548 09:49 น. - comment id 412661
และการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ประวัติศาสตร์หลายแห่งนั้น ทุกครั้งที่ได้กราบต้นตระกูลไทย บุรุษนั้นก็จักหลั่งน้ำตาลงทุกครั้งไป รวมไปถึง ได้กราบสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หนึ่งใสจอมทัพไทย นั้น

25 มกราคม 2548 14:37 น. - comment id 412860
ถึงมาช้า แต่ก็มาตรงวันพอดี อ่านแล้วรำลึกถึงประวัติศาสตร์ และคำกล่าวที่ว่าไว้ กรุงศรีอยุทธยาไม่สิ้นคนดีครับ : 5053 - ชัยชนะ : 420955 - 25 ม.ค. 48 - 06:51 พระหน่อกษัตริย์ เหนือกว่าคำว่าคนดี ทรงชาติพลีมหาบุรุษสุดสง่า เป็นผู้นำแต่ทัพทุกยาตรา ขยายเขตสีมา โลกาลือ ขอบคุณที่แวะค่ะ

25 มกราคม 2548 14:39 น. - comment id 412864
การเดินทางไกลในคราวหนึ่ง ได้ไปเยือนอยุธยา ณ วัดใหญ่ชัยมงคลทางด้านทิศตะวันออกมีศาลาประดิษฐานอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช เวลานั้น บุรุษหนึ่งยืนหลั่งน้ำตาเงียบ ในพระมหากรุณาธิคุณ : 4309 - ลำน้ำน่าน : 421048 - 25 ม.ค. 48 - 09:47 : และการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ประวัติศาสตร์หลายแห่งนั้น ทุกครั้งที่ได้กราบต้นตระกูลไทย บุรุษนั้นก็จักหลั่งน้ำตาลงทุกครั้งไป รวมไปถึง ได้กราบสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หนึ่งใสจอมทัพไทย นั้น : 4309 - ลำน้ำน่าน : 421049 - 25 ม.ค. 48 - 09:49 เช่นกันค่ะ ที่ไหนที่จะไปถึงท่านได้ ก็จะขอไปกราบพระบาทท่าน
