เมื่อความรักเดินทางมาถึง มันได้มอบของล้ำค่าสองสิ่งทิ้งไว้ให้กับเรา >>นั่นคือ ปีก กับ เชือก >>คนทั่วไปไม่รู้จักประโยชน์ของ ปีก >>ได้แต่นึกกลัวว่าความรักจะติดปีกจนบินลับหายไป >>จึงตัดสินใจ หยิบเชือกขึ้นมา มัดรอบความรักเอาไว้จนแน่นหนา >> >>แล้วความรักก็หายใจไม่ออก. >>คนรัก...วางใจที่เห็นความรักถูกพันธนาการไว้เช่นนั้น >>อย่างไรความรักก็จะอยู่กับเขาวันยังค่ำ >>แต่เขาลืมคิดไปว่า ยิ่งถูกผูกมัด ความรักจะยิ่งคิดถึงอิสระ และการโบกบิน >> >>ความรักจะพยายามแกะเชือกด้วยตัวเองทุกครั้งที่คนรักเผลอ >>และทันทีที่สบโอกาส.ความรักจะติดปีกให้ตัวเอง >>และบินหายลับไปในความเวิ้งว้าง กว้างใหญ่ของท้องฟ้า >>เหลือเพียงเชือกพันธนาการไว้ให้ดูต่างหน้า ให้คนรักรู้ว่า >> --- นี่ไม่ใช่หนทางที่จะทำให้ความรักอยู่รอด >> >> >> >>บทเรียนของสองสิ่งนี้ ไม่มีใครกำหนดวิถีทางที่ควรจะเป็น >>จะเลือกหยิบ เชือก หรือ ปีก นั้น ..ขึ้นอยู่กับหัวใจ >> >>----- บางคู่ติดปีกให้กันและกันด้วยรอยยิ้ม >>และพาตัวเองขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ >>ประสบการณ์แปลกใหม่ทำให้คนสองคนหลงลืมกัน .... >>ความกว้างของท้องฟ้าทำให้มองหากันไม่เห็น >>สุดท้ายต่างบินไปอย่างที่ใจอยาก และไม่เคยกลับมาหากันอีกเลย >> >>เพราะทั้งคู่ลืม เชือก ทิ้งไว้ข้างล่าง >>ยิ่งบิน ยิ่งห่าง ฟ้ากว้าง ใจยิ่งไกล >>นั่นคือเหตุผลที่ว่า.......... >>ทำไมความรักต้องมอบ ปีกเสรี ไว้ให้ พร้อมกับ เชือกพันธนาการ >> >> ปีกเสรี มอบอิสระและช่องว่างอันเวิ้งว้างให้กับความรัก >>ในขณะที่ เชือกพันธนาการ มอบความชิดใกล้ >>ซึ่งถ้าไม่รู้จักใช้ --- จะไม่เหลือช่องว่างแม้แต่จะให้ลมหายใจเดินทางผ่าน >> >>เมื่อความรักห่างเกินพอดี หรือแนบสนิทจนอึดอัดไปทั้งใจ >>คู่รักหลายคู่จึงไปไม่รอด เพราะไม่รู้จักเว้นช่องว่างระหว่างกัน. >>จะมีเพียง คนของความรัก เท่านั้น ที่รู้จักใช้ทั้งสองสิ่งนี้อย่าง ชาญฉลาด >> >>เขาและเธอติดปีกแห่งรักให้กันและกัน >>พาตัวเองบินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยหัวใจเสรี ต่อให้ฟ้ากว้าง >>ทางไกลแค่ไหน เขาและเธอไม่มีวันจะหลงลืมกัน.. >>เพราะคนทั้งคู่ได้คล้องเชือกแห่งพันธนาการที่ข้อมือของกันและกันไว้แล้ว >> >>เมื่อเชือกเริ่มตึง.. เพราะบินไปจนสุดทาง >>อิสระเสรีจะทำให้คนทั้งคู่คิดถึงกรงของความผูกพัน >>และจะบินกลับมาหากัน ---- >>เพื่อจะออกเดินทางพร้อมกันอีกครั้งด้วย เชือกพันธนาการเส้นเดิม >>ที่อาจสั้นลงด้วยความเต็มใจของความรัก >> >>อย่าอยู่ห่าง ------ จนเขารู้สึกเคว้งคว้าง >>แต่อย่าใกล้ ------ จนเขาหายใจไม่ออก >>ให้สองมือได้เป็นอิสระ.ในขณะที่ลมหายใจยังเดินทางถึงกัน >> >>. เพราะช่องว่างที่เหมาะสมเท่านั้น >>..ที่ความรักจะงอกงามได้
21 เมษายน 2548 10:34 น. - comment id 457254
ชอบทุกคุณเขียนค่ะ ความรักมักต้องการอิสระเวลาที่ถูกรัดให้แน่เสมอ แต่ในความเป็นจริง สิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้คือ เราต้องการกอดรัดและมัดความรักไว้กับเราให้แน่นเสมอเช่นกัน
21 เมษายน 2548 11:08 น. - comment id 457290
มีความหมายลึกซึ้งดีครับ อ่านแล้วนึกถึงบทกวีของพี่แซนดี้ พี่สาวคนสนิทของกี้เลย (พึงเนตร อติแพทย์) เค้าก็เคยเขียนเรื่องปีกกับเชือกอะไรทำนองนี้แหละครับ ในหนังสือห่างหนึ่งก้าวรักเราเท่าเดิมตีพิมพ์ครั้งแรก พี่แซนดี้ให้กี้เป็นของขวัญวันเกิด เป็นการเปรียบเทียบที่มองเห็นภาพได้ ชัดเจน คุณยูนิคอร์นใช้คำได้สวยดีครับ บางที ความรักก็เหมือนไฟฟ้า มีคุณอนันต์ แต่มีโทษมหันต์ ถ้าใช้มันไม่เป็นและไม่ระวัง แวะมาให้กำลังใจครับ
21 เมษายน 2548 14:21 น. - comment id 457469
อิสระ.....ใครบ้างไม่อยากมี แวะมาเป็นกำลังใจให้ครับ