25 ตุลาคม 2545 16:49 น.

กาลครั้งหนึ่ง....ยังมีเธอ (ตอนที่ 5)

Tawan

เธอเริ่มมีความหวังว่าคนในรถนั้นจะเป็นต้นกล้า รถหยุดนิ่งเมื่อมาถึงหน้าเสาธง เสียงเครื่องยนต์ดับไปแต่ไฟหน้ารถยังเปิดสว่างเพื่อส่องทางให้คนในรถได้ใช้ประโยชน์  คนๆหนึ่งก้าวลงมาจากรถ ทอแสงพยายามเพ่งมองอีกครั้ง แต่ก็พบว่าคนที่ลงจากรถด้านข้างคนขับน่าจะเป็นผู้หญิง ร่างนั้นค่อยๆเดินตรงมาทางที่ทอแสงนั่งอยู่ในขณะที่รถยังคงเปิดไฟสว่างไว้และคนที่เป็นคนขับยังคงนั่งอยู่ข้างใน 

ทอแสงพยายามจะลุกขึ้นเพื่อหาทางหลบเพราะเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้บุกรุกและไม่สมควรที่จะเจอกับใครก็ตามที่ไม่ใช่ต้นกล้า ในขณะที่ร่างนั้นกำลังเดินตรงมาที่ห้องเรียนรวม ทอแสงเองก็กำลังพยุงตัวเพื่อยืนขึ้น สมองที่เริ่มชานั้นไม่สั่งการ และเธอล้มลงกับพื้นในทันทีที่ร่างนั้นมาถึงตัว

แสงไฟนีออนสว่างบาดตา ทอแสงค่อยๆลืมตาขึ้นสู้แสงไฟ ขณะนี้เธอกลับมาอยู่ในโลกแห่งแสงสว่างอีกครั้ง ทอแสงมองเห็นเพดานไม้ที่ตรงกลางมีหลอดไฟนีออนเปิดจ้าอยู่  ทอแสงค่อยๆมองไปรอบๆเพื่อสำรวจว่าเธออยู่ที่ไหน และพบว่าเธอกำลังนอนบนเตียงและมีผ้าห่มผืนหนาห่มตัวอย่างมิดชิดภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมขนาดไม่กว้างนัก ทั้งห้องมีเพียงเตียงไม้ที่วางชิดไว้มุมหนึ่งของห้อง ตู้เสื้อผ้าใบย่อมที่ทำจากไม้ไผ่อยู่มุมปลายเตียง ตรงข้ามเตียงนอนมีโต๊ะและเก้าอี้ไม้ไผ่ บนโต๊ะวางของจิปาถะ ไม่ว่าจะเป็นสีหลายชนิด กระดาษวาดรูปและโคมไฟเล็กๆ  

ทอแสงค่อยๆพยุงตัวเพื่อนั่ง เธอเพิ่งรู้สึกถึงอาการของตัวเอง ศรีษะของเธอปวดและชาราวกับถูกแช่แข็งไว้เมื่อชั่วโมงก่อน ประตูห้องห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว เธอแน่ใจว่าใครก็ตามที่พาเธอมาที่นี่ต้องอยู่นอกห้อง ทอแสงจึงพยายามพยุงตัวเองขึ้นยืน และค่อยๆก้าวเท้าไปที่ประตูอย่างยากลำบาก ประตูห้องค่อยๆเปิดออกสู่ระเบียงภายนอก ลมหนาวปะทะร่างของเธออีกครั้ง 

ร่างๆหนึ่งยืนหันหลังให้ท่ามกลางแสงสลัวของแสงจันทร์และแสงไฟจากภายใน ทอแสงรู้ได้ทันทีว่าคือ ต้นกล้า  ร่างนั้นค่อยๆหันมาตามเสียงเปิดประตู ทันทีที่เขาหันหน้ามา ทอแสงจ้องมองเขาเหมือนไม่อยากเชื่อสายตาว่าในที่สุดเธอก็ได้มายืนตรงหน้าคนที่เธอรอคอยมาตลอดนับแต่วันที่เขาจากมา

กล้า ทอแสงพูดได้เท่านั้น น้ำตาอุ่นๆก็รื้นขอบตา

แสง  ต้นกล้ามองทอแสงอย่างชั่งใจ เขาไม่รู้ว่าควรพูดกับเธออย่างไร เขาควรถามเธอดีไหมว่าเธอมาที่นี่ และหมดสติอยู่กับพื้นห้องเรียนรวมได้อย่างไร 

กล้าเป็นกล้าจริงๆด้วย ทอแสงละล่ำละลักพูด น้ำตาไหลลงข้างแก้ม เธอรีบปาดน้ำตาโดยเร็วเพราะไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ต้นกล้าเห็น แต่เธอกลั้นความดีใจไว้ไม่ได้ ณ นาทีนี้ เธอได้ยืนอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนเดียวที่เธอรัก ผู้ชายที่เธอคิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว

แสงไม่สบาย เข้าไปนอนพักเถอะ ข้างนอกอากาศเย็นมาก ต้นกล้ารีบตัดบท เขาเป็นห่วงทอแสงมากกว่าความอยากรู้และความสงสัยที่อยู่ในใจ

ไม่เป็นไรกล้าแสงไม่เป็นไรแสง ทอแสงยิ้มทั้งน้ำตา เธอดีใจมากที่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ความฝัน

เข้าไปนอนก่อนเถอะ ต้นกล้าขัดขึ้น น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นเหมือนเช่นทุกครั้งที่ทอแสงดื้อกับเขา

แต่แสงอยากคุยกับกล้าแสงแสงคิดถึงกล้า ทอแสงยังคงจ้องมองหน้าต้นกล้านิ่ง เขาจ้องมองทอแสงเช่นกัน  ก่อนจะสั่งเสียงเข้มขึ้น

ขอร้องนะแสง  ไปนอนก่อน  แววตาของเขาบ่งบอกถึงความห่วงใยอย่างยากที่คนฟังจะดื้อดึงได้ต่อไป

ทอแสงนิ่งไป เธอรู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งสั่งเธอแบบนี้เมื่อวาน ต้นกล้ามักจะใช้คำพูดที่เป็นคำสั่งกับเธอเพราะเขารู้ว่าทอแสงเป็นคนดื้อและเชื่อมั่นในความรู้สึกตัวเองจนบางครั้งก็ไม่ยอมฟังคำทัดทานของใครซึ่งทำให้เขาเป็นห่วงทอแสงมาก ต้นกล้าจะคอยดูเธออยู่ห่างๆตลอดเวลา หากว่ามีเรื่องอะไรที่ดูเหมือนว่าเธอจะตัดสินใจหรือเชื่อมั่นในสิ่งที่ผิด เขาจะเป็นคนเตือนและปรามเสมอ และทอแสงก็จะเชื่อและทำตามคำแนะนำของต้นกล้า เธอรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยที่มีเขาคอยเอาใจใส่ ถึงต้นกล้าจะไม่ค่อยแสดงออก แต่ทอแสงก็รับรู้และรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ 

เธอรู้สึกว่าต้นกล้ายังเหมือนเดิม เขายังเป็นคนเดิม เป็นต้นกล้าที่ทอแสงรู้จักดวงตาสีน้ำตาลเข้มยังคงฉายแววของความมุ่มมั่นไม่ต่างจาก 3 ปีก่อน ผิวของเขาดูคล้ำแดดไปเล็กน้อย แต่ดูไม่ต่างไปจากเดิมสักเท่าไร 

ทอแสงค่อยๆเดินกลับไปที่ห้องโดยมีต้นกล้าเดินตามมาข้างหลัง เธอหันมามองเขาอีกครั้งก่อนเปิดประตูห้อง เขาพยักหน้าให้เป็นการสั่งให้ทอแสงรีบเข้าไปในห้อง เธอยอมทำตามแต่โดยดี เพราะถึงอย่างไรเสีย ในวันรุ่งขึ้น ต้นกล้าก็จะยังอยู่ที่นี่ และเธอต้องได้พบเขาอย่างแน่นอน ทอแสงหลับไปอย่างมีความสุขที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา และได้แต่หวังว่าความรู้สึกนี้จะอยู่กับเธอตลอดไป

แสงแดดยามเช้าส่องลอดเขามาทางตามช่องหน้าต่าง ทอแสงค่อยๆลืมตาขึ้น และพบว่าอาการเธอดีขึ้นมากจากเมื่อคืนวาน สิ่งแรกที่เธอนึกถึงคือ ต้นกล้า ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เธออยากพบเขามากที่สุด ทอแสงตัดสินใจออกจากห้องและหวังว่าต้นกล้าจะยังยืนอยู่ที่ระเบียงเหมือนเดิม แต่ที่นั่นกลับว่างเปล่า ด้านข้างของห้องมีบันไดลงไปข้างล่างซึ่งติดกับห้องเล็กๆที่เหมือนกันอีกห้อง ทอแสงเดาว่านี่คือห้องพักครูซึ่งอยู่ด้านหลังอาคารเรียน  

ทั่วบริเวณนั้นเงียบสงบ อากาศยามเช้ายังคงเย็นยะเยือกและมีหมอกจางๆปกคลุมทั่วบริเวณ สักครู่ ประตูของห้องข้างๆเปิดออก ผู้ชายคนหนึ่งก้าวออกมายืนตรงระเบียงซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันมาเห็นทอแสงยืนมองอยู่ เขารีบเดินกลับไปในห้องทันที อีกไม่ถึงอึดใจ ต้นกล้าก็เดินออกมาและตรงมาหาทอแสงพร้อมผู้ชายคนนั้น 

แสง นี่ครูวันชาติ เป็นครูที่นี่ ต้นกล้ารีบแนะนำ 

สวัสดีครับ เรียกผมว่าชาติเฉยๆก็ได้ครับคุณทอแสง วันชาติกล่าวทักทายพร้อมยิ้มกว้างให้

ทอแสงกล่าวสวัสดีตอบ พลางนึกสงสัยว่าทำไมเขาถึงรู้ชื่อของเธอทั้งที่ต้นกล้ายังไม่ได้แนะนำ วันชาติเป็นผู้ชายหน้าตาคมเข้ม มีเคราจางๆ และดูอารมณ์ดี

แสงเดี๋ยวไปล้างหน้าแต่งตัวแล้วค่อยไปทานข้าวเช้ากัน ต้นกล้าพูดขึ้น 
พลางเดินนำทอแสงไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านหลังห้อง

อีก 15 นาทีต่อมา ทอแสงกลับออกมาจากห้องด้วยหน้าตาที่สดชื่นขึ้นมาก ต้นกล้าและวันชาติพาทอแสงไปที่โรงอาหารซึ่งที่นั่นมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งรออยู่พร้อมอาหารที่วางเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย 

นี่ครูมนสิการ ลูกครูใหญ่ที่นี่ แล้วนี่ทอแสง เพื่อนผม ต้นกล้าแนะนำ

เรียกม่อนดีกว่าค่ะ ครู มนสิการรีบบอกต้นกล้า และหันมายิ้มให้ทอแสงแทนคำทักทาย ทอแสงยิ้มตอบ และคิดว่าอาจจะเป็นครูคนนี้ที่เธอเห็นเดินมาที่ห้องเรียนรวมเมื่อคืนนี้

วันนี้ม่อนทำข้าวต้มหมูมาค่ะ มีนมสดกับขนมปังเนยสดด้วยนะคะ มนสิการพูดพลางจัดแจ้งเทนมสดใส่แก้วส่งให้ต้นกล้าเป็นคนแรก ต้นกล้ารับมา และส่งให้ทอแสงก่อน

ทานเยอะๆนะคะ คุณแสง มนสิการยิ้มให้ พลางส่งถาดเครื่องปรุงข้าวต้มให้

อาหารเช้ามื้อนั้นดำเนินไปด้วยบทสนทนาของมนสิการ เธอเป็นคนคุยเก่งและยิ้มแย้ม ทอแสงสังเกตุว่ามนสิการดูจะเอาใจใส่ต้นกล้ามากเป็นพิเศษโดยมีวันชาติคอยดักคอ

คุณแสงมาที่นี่คนเดียวเหรอคะ จังหวะหนึ่ง มนสิการหันมาถามทอแสง

ค่ะ แต่เดี๋ยวเพื่อนๆจะตามมา คงมาถึงพรุ่งนี้ค่ะ ทอแสงตอบไปโดยหวังว่าต้นกล้าจะได้รับรู้ด้วย เพราะตั้งแต่เจอกัน ทอแสงแทบไม่มีโอกาสคุยกับต้นกล้าตามลำพังเลย  ต้นกล้าชะงักที่ได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา

เหรอค่ะ งั้นเอางี้ดีไหมค่ะ คุณแสงกับเพื่อนๆไปพักที่บ้านม่อน อยู่ที่นี่ไม่สะดวกหรอกค่ะ นะคะ มนสิการรีบเสนอ น้ำเสียงกระตือรือร้นจนวันชาติรีบกระแอมเสียงดังขึ้นมา

เออคือ ทอแสงอ้ำอึ้ง เธอไม่รู้ว่าควรรับความช่วยเหลือนี้ดีหรือไม่ เพราะใจจริงแล้วเธอก็อยากอยู่ใกล้ๆต้นกล้ามากกว่าไปอยู่โรงแรมในเมือง

ไม่เป็นไรหรอกครับ ครูม่อน รบกวนเปล่าๆ ต้นกล้าขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ม่อนอยู่กับพ่อสองคนเอง ไม่รบกวนอะไรจริงๆค่ะ มนสิการรีบปฏิเสธ เธอดูจริงใจในสิ่งที่พูดมากกว่าจะมีอะไรแอบแฝง

รอถามเพื่อนๆแสงก่อนดีกว่าค่ะ ทอแสงสรุป รู้สึกน้อยใจที่ต้นกล้าปฏิเสธข้อเสนอของมนสิการ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่อยากให้เธอและเพื่อนๆอยู่ใกล้ๆ หรืออาจจะไม่อยากให้มาที่นี่เลยก็เป็นได้

งั้นคุณแสงไปค้างบ้านม่อนคืนนี้ รอให้เพื่อนคุณแสงมาก่อน ค่อยว่ากันอีกที ดีไหมค่ะ มนสิการตัดบทเพราะรู้สึกถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้น

หลังอาหารเช้า มนสิการชวนให้ทอแสงไปที่บ้านพร้อมเธอ, ต้นกล้าและวันชาติ เพราะครูใหญ่นัดประชุมเรื่องโครงการต่างๆของโรงเรียนที่บ้าน บ้านของมนสิการอยู่ห่างจากโรงเรียนแค่ 3 กิโลเมตร ระหว่างทางทอแสงนั่งเงียบ เธอรู้สึกว่าต้นกล้าไม่ยินดีที่เพื่อนๆจะมาหาเขา นั่นคือสิ่งที่ทุกคนกลัว และทอแสงไม่อยากให้เพื่อนต้องรู้สึกเช่นเดียวกับเธอ 

ทันทีที่มาถึงบ้าน ครูใหญ่รีบออกมาทักทาย  เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ดูใจดีมาก

เดี๋ยวม่อนพาไปเก็บของที่ห้องนะคะ แล้วค่อยลงมาข้างล่างกัน พูดจบมนสิการก็เดินนำทอแสงขึ้นชั้นสองไป

หลังจากลงมาข้างล่าง ทอแสงเห็นทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านนอก การประชุมดำเนินไปด้วยปัญหาทั่วไปที่พบในโรงเรียนในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตามด้วยปัญหาของโครงการอาหารกลางวันที่เริ่มมีค่าใช้จ่ายเกินกว่าทุกเดือน และโครงการของต้นกล้าที่จะทำเล้าไก่ เพื่อเลี้ยงไก่ไข่โดยมีผลพลอยได้เป็นไข่ไก่ที่จะนำไปใช้ในโครงการอาหารกลางวัน

ผมคิดว่าโครงการเลี้ยงไก่ของครูกล้าคงต้องพักไว้ก่อน เพราะตอนนี้เราไม่มีทุนพอ ครูใหญ่สรุปปัญหาด้วยเสียงที่แสดงความเสียดายอยู่ไม่น้อย

ทุกคนนิ่งเงียบไป เพราะนับแต่ต้นกล้าเสนอโครงการนี้ขึ้นมา ทุกคนต่างเห็นด้วยในประโยชน์มากมายที่จะได้รับ และต่างมีความหวังว่าโครงการจะสำเร็จลงด้วยดี ทอแสงที่นั่งฟังมาตลอดรู้สึกเห็นใจต้นกล้า ดูเขาจะผิดหวังมากกับโครงการที่จะต้องพักไว้อย่างไม่มีกำหนด

ไม่ค่ะ เรามีทุน ทอแสงโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ทุกคนหันมามองทอแสงด้วยความแปลกใจ

กล้า..คือว่าที่เรามาที่นี่ นอกจากเราอยากเจอกล้าแล้ว เรายังเอาเงินมาให้ด้วย ทอแสงรีบอธิบาย เธอคิดว่าต้นกล้าต้องดีใจมากที่ได้ยินอย่างนี้

เรากับเพื่อนๆรู้ว่ากล้าอยากได้ทุน พวกเราก็เลยช่วยกันหาทุนให้. ทอแสงยังคงเล่าต่อไป

พอเถอะแสง. ต้นกล้าขัดขึ้นเสียงดัง น้ำเสียงเจือด้วยความโกรธ

เราจะไม่เอาเงินของแสงมาใช้ในโครงการนี้หรอก พูดจบ ต้นกล้าก็ลุกจากที่ประชุมไป ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองตามไปอย่างไม่เข้าใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟTawan
Lovings  Tawan เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟTawan
Lovings  Tawan เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟTawan
Lovings  Tawan เลิฟ 0 คน
  Tawan
ไม่มีข้อความส่งถึงTawan