17 พฤษภาคม 2547 11:56 น.

๏๏ ภาพรักเธอสองติดตา๏๏

tiki

๏๏ ภาพรักเธอสองติดตา๏๏ 

   
             ๏......ดูสินั่น
        สองคนนั้นราวภาพฝันอันสวยใส
        ฝ่ายหญิงสวยงามคมขำวิไล
        คลุมผ้าโพกศีรษะไว้อย่างงดงาม ๚      
 

            ๏     เธอสวมเสื้อแขนยาวผ้ายืด
          คลุมทับด้วยแจ๊คเก็ตอันวาบหวาม  
           นุ่งกระโปรงผ้ายีนยาวสีคราม
          ฉันนึกจะถามนี้ลูกสาวใครหนอ..?  ๚  


             ๏หนุ่มนั้นก็คิ้วเข้มดูคมนัก
           มองดูคล้ายภาพสลักแห่งความหล่อ
           สมหนุ่มสาวไทย*อิสลามงามละออ
           มองชื่นชมสมพะนอน่าพอใจ ๚ 

   
              ๏ คุณชายหนุ่มเธอสวมเสื้อยืดไม่จืดตา
            ดำ*กรมท่ามองมาน่าสดใส
           เสื้อแจ๊คเก็ตเขียนภาษายาวีไว้
           ดูขรึมขลังดังใจเจตนา ๚           


             ๏  ฉันแอบมองทั้งสองยืนเกาะเสา
           คุยหนุงหนิงสวยเสลากลางรถไฟฟ้า
           เคลื่อนขบวนออกจากสถานีชานชาลา
            เป็นภาพงามติดตาน่าแปลกใจ ๚ 


             ๏แล้วนึกถึงเหล่าเพื่อนมุสลิมของฉัน
           เคยเล่าเรียนกันมหาวิทยาลัย..จำได้
           ล้วนเขียนอ่านภาษายาวีได้เร็วไว
           ล้วนสดใส...ชาวไทยมุสลิม... ๚ 



           เป็นเพียงภาพงามติดตาน่ารัก ว่า
   ผู้หญิงไทยมุสลิมเธอซ่อนกายในความปกปิดมิดชิดของเสื้อผ้า 
ยาวจรดข้อมือและข้อเท้า.....
 แต่ไม่อาจปิดบังใบหน้าแสนสวยแสนหวาน
  พร้อมด้วยนัยน์ตาสดใสมีชีวิตนั้นได้เลย..

           .และหนุ่มท่าทีองอาจสง่า แต่สุภาพและ
           นุ่มนวลเวลาคุยกับเพื่อนสาวนั้น ...งดงามเหลือเกิน...



               ทิกิ_tiki 
                
            เขียนไว้ ๕ บทแรกสองคืนก่อน  บท ๖ เขียนต่อเดี๋ยวนี้ในคอมพ์
            จารจบเมื่อ ๑๑:๐๐ นาฬิกา  พระจันทร์  ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

                        ๏๏ ภาพรักเธอสองติดตา๏๏ 

                        ...สงวนลิขสิทธิ				
17 พฤษภาคม 2547 00:16 น.

๏ ๏ สายใยอันเปราะบาง ๏ ๏

tiki

๏ สายลมพัดผ่าน

รักร้าวรานร้างไกล

สายลมผ่านไป

รินหัวใจในทะเล...   ๚  ...



         ๏        หากเธอคิดว่าฉันผิดก็ผิดเถิด

มันเตลิดเพริดไม่กลับรักหลับไหล

กลืนความรู้สึกทั้งหมดลงหัวใจ

แล้วเค้นกลับคืนใส่มาในกลอน.   ๚ ..




        ๏          เพราะคิดถึงจึงเหเร่มาหา

ลมดึกพาเรือทะเลมาเห่หลอน

บอกความรักความสุขความทุกข์ร้อน

ส่งความอ้อนมางอนง้อพ้อน้ำตา.   ๚ .



         ๏         ถึงวันนี้จะมีอะไรให้เหนี่ยวรั้ง

ไม่ว่ารักไม่ว่าชังที่พลั้งหา

เทียบไม่ได้ถึงวัยวันอันลับลา

จะให้ข้าฯกู่ก้องร้องถึงใคร..?.   ๚ ..



        ๏      คำที่บอกกรอกหูเมื่ออยู่ชิด

ลมเป่ามาแนบสนิทเสียจนไหว

อ่อนระทวยงวยงงลงทั้งใจ

นับแต่นี้วันไหนใจจะคืน..?   ๚ ..



        ๏      โอ้ใจเอ๋ย..เคยวอน..เคยอ้อนง้อ

เคยพะนอ...ล่อหลอก...บอกไม่ฝืน

เคยพร่ำรัก....ผลักน้ำตา ..คราหยดยืน

เรียมร้องร่ำ....สะอื้น...กลืนชลนัยน์.....   ๚ ..



      ๏           คิดถึงวันวานหวานช่างหวานนัก

ใครจะลืมความรักอันสดใส

ใครจะลืมสองตาอันห่วงใย

ใครจะลืมสายใยเคยผูกพัน.   ๚ ..



       ๏      วารวัย...ผ่านไป...ไม่กลับมา

หวนหา...ห่างเห....ทะเลฝัน

หากรัก...สอดสาย...ใจใสกัน

รักที่หล่อเลี้ยงนั้น...มันเปราะบาง




ทิกิ_tiki
จารจบเมื่อ ๒๓:๔๔ นาฬิกา
คืนพระอาทิตย์ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

    ๏ ๏ สายใยอันเปราะบาง ๏ ๏ 



สงวนลิขสิทธิ์				
16 พฤษภาคม 2547 11:55 น.

๏ เนื้อหนัง..มังสา ๚

tiki

เนื้อหนัง..มังสา  ๚ 


  
      ๏  หากสิ่งนี้คือสิ่งที่เธอต้องการ

กอบไปเลยตัดใส่จานไปปิ้งย่าง

แต่หากใจเธอต้องการไม่ละ-วาง

พึงเคียงข้าง...วางใจ...ไม่ชอกช้ำ  ๚ 



       ๏  หากต้องการเนื้อหนังมังสารัด

ในสัมผัสมัดตรึงซึ้งกระหน่ำ

ซึ่งกล่อมผ่านสานร้อยทุกถ้อยคำ

คือความนำคำหมายว่าขายใจ  ๚ 



        ๏  หากเนื้อหนังมังสามีค่ามาก

อย่าลำบากไปซื้อหามาเคียงใกล้

หรือทอดแหสุ่มแส่ทุกที่ไป

สยามสแควร์อาร์ซีเอไซร้..คงได้ดี  ๚ 



         ๏  แต่หากรักในจิตไร้ริษยา

รักภาษาวรรณศิลป์อันไหลรี่

รักในกลอนสุนทรกรรณวรรณวจี

รักตรงนี้ชิดใกล้ในหัทยา  ๚ 



          ๏  น่าเสียดาย ทุกถ้อยหมาย คล้ายขยี้

บทเรียนมี ที่บังบด...รื่นรสหล้า

คือความงามแห่งเนื้อหนังและมังสา

ซึ่งพี่ยามิอาจมอบ แค่ขอบใจ  ๚ 



            ๏  ตะเกียกตะกายไขว่คว้าหาดวงดาว

จะร้อนราวว่างเปล่า..เข้าใจไหม

รักพี่ให้เธองามงด..หมดหทัย

แต่เพียงแค่...สายใย...แห่งหัทยา  ๚ 



         ๏  เมื่อเจียรงานจารหลักก็หนักจิต

เสียใจเหลือเชื่อมิ่งมิตรจะหนีหน้า

ใจนี้ล้วนร้อยรัดพลัดน้ำตา

บนฝันปร่าทางคำอันซ้ำเติม ๚ 


ทิกิ_tiki


จารเมื่อ ๑๑:๑๐-๑๑:๑๕ นาฬิกา
พระอาทิตย์ ๑๖ พฤฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

วันที่รักหวานของเธองามจับใจ
วันที่น้ำตาข้างในมันหลั่งไหลออกมา




๏  เนื้อหนัง..มังสาสงวนลิขสิทธิ				
15 พฤษภาคม 2547 22:35 น.

๏ เพียงลมหวนรวนเร๏

tiki

เพียงลมหวนรวนเร๏      


๏      เทใจ..ให้หมดแล้ว..ในวันนี้

ยังจะมี..สิ่งไหน..ให้หลงเหลือ?

หากไม่รัก ..ใครจะใส่...ใจจุนเจือ

เธอไม่เชื่อ..ก็ช่างปะไร..ไม่ย้อนทวน   ๚ 



๏      มิได้หวัง...อะไร...ในเรื่องรัก

เธอประจักษ์....เรื่องของฉัน..มันลมหวน

มันลมเพ..ลมพัด...ชัดกระบวน

ลมเรรวน....รวนเร...มันเห่ใจ   ๚ 



๏      ปล่อยมันไป...ใจมัน...สำคัญหรือ..?

เธอจะถือ...ว่ามีค่า...สักคราไหม.?

ที่กล่อมเห่...เร่ร้อง...กู่ก้องไพร

ก็เยือกเย็น...หัวใจ...พญายมฯ   ๚ 



๏      ที่ร้อยเรียง....เรื่องราว...สาวประสาน

ใช่เบิกบาน...ล้วนแล้ว ...แต่ขื่นขม

มันไร้ค่า...หนักหนา...ในอารมณ์

ถึงได้ซม...ซานนัก....รักไม่มี   ๚ 



๏      ไม่เคยคิด...รักใด...ใช่สรณะ

สมถะ...อยู่กับงาน...ยังสุขี

ถึงมีคู่...ใจไม่อยู่...ดูดีดี

คู่ปรานี...คู่เมตตา...ค่ารักงาน   ๚ 



๏      อย่าฟังเลย...คำตัดพ้อ..หรือต่อว่า

เจรจา...วาทะ...สระสนาน

เพียงนิยาย...ความหลัง...รั้งดวงมาน

ทอดสะพาน....สื่อปลาย...สุดสายตา   ๚ 



๏      ที่อาวรณ์....งอนง้อ...ก็แค่นั้น

ถึงความฝัน....ยื่นไป...สุดไขว่คว้า

เธอลับหาย....เธอสลาย...กลายมายา

สุดผวา...เพียงเงา....อันเฉาเลือน.....   ๚ 




๏ เพียงลมหวนรวนเรสงวนลิขสิทธิ				
15 พฤษภาคม 2547 10:40 น.

๏ ทางบุญ.....คนคุ้นเคย ๚

tiki

ทางบุญ.....คนคุ้นเคย  ๚

        ๏ แสงธรรมบอกบ่งชี้.............เชิงคน

ธรรมต่างเหมือนยุบล......................พร่างแพร้ว

ดีชั่วย่อมปะปน..............................ปานอยู่.....เกยเฮย

ธรรมแต่งบุญกรรมแล้ว..................หมู่เฟ้นเฟืองตาม    ๚ 



         ๏ บุญทำมาอย่างนั้น............จึงเชย

บาปเร่งเคียงเขนย........................ห่อนช้า

บุญบาปก่อร่วมเคย.......................ทำสู่...กันนอ

เวียนว่ายกลับมาท้า......................ท่วมท้นทันทวน    ๚  ..**๑


                                 ทิกิ_tikiแม้นเคยร่วมบุญไว้ในชาติก่อน

ยามเมื่อย้อนมาประสบได้พบหา

ก็จะรักจะเอ็นดูอยู่เมตตา

บุญจึงพาคบไปในทางบุญ...


      แม้นบุญน้อยค่อยค่อยก่อพอเห็นร่าง

เคยว่าว่างทางเหงาเข้าเกื้อหนุน

สิทธิ์ชีวิตคิดไปได้เจือจุน

เมตตาคุณค้ำโลกาพาก้าวไกล


        เคยปลอบประโลมใจใครในยามทุกข์

ใจก็สุขยามเมื่อทุกข์ได้ผ่องใส

ได้น้ำมิตรปลอบโยนโอนอ่อนใจ

ที่เคยทุกข์กลับสุขได้ก็แปลกครัน


       ดี..เย็นน้ำใจ..แผ่ซ่านไป..ในเช้านี้

ให้ทุกคนยินดีมีสุขสันต์

พรใดเล่าจะเท่าวจีนั้น

ได้เสกสรรค์คำเพราะเสนาะหู


          ดี..น้ำคำนำใจให้เย็นซ่าน

ลิ้มรสหวานกานท์กลอนวอนมาสู่

สนิทสนมกลมเกลียวเจียวพธู

เพริดเตลิดเกินกอบกู้กู่เต็มกรรณ


         บุญเป็นเแปลกแหวกใจให้รู้ค่า

บุญช่วยดึงขึ้นมากระทันหัน

รอดนรกซึ่งตกขณะ.จะจาบัลย์

บุญประคองยกพลันมากั้นเกย


         เพราะทำบุญร่วมมาจึงพาใจ

ให้ชิดใกล้ผ่านพ้องพี่น้องเอ๋ย

หากมิได้เคยประสบพบกันเลย

คงเฉยเมยมิค้นหาพบหน้ากัน 


            บุญก่อนทำ บุญเมื่อทำ ล้วนค้ำส่ง

บุญหนุนตรง บุญส่งยก ไม่ตกขั้น

ระลึกบุญภายหลังยังดีพลัน

ยักยกสรรค์ส่งให้ได้พบตน


         หอบรัก หอบบุญมาหนุนค้ำ

ให้ก่อธรรม ก่อเกื้อ....เอื้อบุญผล

ให้ยิ้มใส...ยิ้มละไม...ไปทุกคน

ให้งามล้น...ใจใส....ไทยด้วยกัน


      ขอขอบคุณ บุญน้อมนำ..ทำกุศล

บันดาลดลให้พบกลอนอักษรสรรค์

เชลงพจน์เชลงบทรสประพันธ์

ให้เยือกเย็นพรสวรค์เคยร่วมบุญ      ๚  ..**๒


ทิกิ_tiki
ทางบุญ...คนคุ้นเคย  ๚  


..**๑...จารเมื่อพระเสาร์  ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
นำลงหน้านี้ เวลา ๒๒:๕๒  พระอาทิตย์ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

 ..**๒ .. เขียนตอบไว้ใน๏ชะรอยบุญหนุนเนื่อง ๚ 
จารจบเมื่อ ๑:๔๐ คืนพระเสาร์  ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
กลอน.http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_53067.php..และเติมใหม่ด้วยให้คล้องจองกัน
.จารจบเมื่อ ๑๐:๑๐ นาฬิกา พระเสาร์  ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗



 ๏ ทางบุญ...คนคุ้นเคยสงวนลิขสิทธิ				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki